การประชุมสภาผู้แทนราษฎร เพื่อพิจารณาร่างพระราชบัญญัติ (พ.ร.บ.) งบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ 2555 ในวาระ 2 เป็นวันที่ สอง โดยมีการพิจารณาในมาตรา 4 ในส่วนของงบกลาง ในความควบคุมของกระทรวงการคลัง และสำนักงบประมาณ จำนวน 422,211,127,400 บาท ซึ่งมีผู้สงวนคำแปรญัตติในส่วนของค่าใช้จ่ายในการเยียวยา ฟื้นฟู ป้องกันความเสียหายจากอุทกภัยอย่างบูรณาการ 1.2 แสนล้านบาท เงินชดเชยค่างานสิ่งก่อสร้าง 2 พันล้านบาท และเงินสำรองจ่ายเพื่อกรณีฉุกเฉินหรือกรณีจำเป็น 6.6 หมื่นล้านบาท ซึ่งเห็นควรให้ตัดลดงบประมาณลง เนื่องจากเป็นการตั้งงบประมาณไว้สูงมาก เกรงว่าจะเกิดข้อครหาในเรื่องของความไม่โปร่งใส เพราะไม่สามารถตรวจสอบในรายละเอียดของการใช้งบประมาณได้หมด
** อัดงบกลางตั้งสูง-ขาดรายละเอียด
นางอัญชลี วานิช เทพบุตร ส.ส.ภูเก็ต พรรคประชาธิปัตย์ อภิปรายว่า ตนขอปรับลดงบประมาณส่วนดังกล่าวลง 5 เปอร์เซ็นต์ เนื่องจากตั้งไว้สูงเกินไป และขาดรายละเอียดว่าจะนำไปใช้ในเรื่องใดบ้าง
ทั้งนี้ จากการทำหน้าที่ของ กมธ.วิสามัญฯ ที่ได้ขอรายละเอียดโครงการที่อยู่ในส่วนงบประมาณฟื้นฟูฯ 1.2 แสนล้านบาทนั้น พบว่าได้มาเพียงโครงการที่ผ่านมติ ครม.จำนวน 2 ยอด แบ่งเป็นยอดแรก 2 หมื่นล้านบาท และ 9.5 พันล้านบาทเท่านั้น ซึ่งจะมีงานเพียง 2-3 ประเภท และครอบคลุมเพียง 12 กระทรวง เท่านั้น
ส่วนโครงการที่ปรากฏรายละเอียด เช่น กระทรวงศึกษาธิการ ได้เสนอตัวเลขจำนวน 2 หมื่นล้านบาท เพื่อซ่อมแซมสถานศึกษาที่ได้รับผลกระทบจากน้ำท่วม แต่ตนเข้าใจว่า ทางสถานศึกษาที่ได้รับผลกระทบน่าจะได้เสนอของบประมาณส่วนดังกล่าวมาแล้ว เข้าสู่การพิจารณาของครม. ตั้งแต่เดือน ต.ค. 54 หลังจากที่วิกฤตน้ำท่วมเริ่มคลี่คลาย แต่ทำไม ครม.ถึงไม่บรรจุลงในงบประมาณปกติ ควรปรับลดในส่วนของค่าใช้จ่ายในการเยียวยาฟื้นฟูน้ำท่วมจำนวน 1.2 แสนล้านบาท เพราะกังวลเรื่องความใช้งบประมาณที่ไม่โปร่งใส เนื่องจากเงินส่วนดังกล่าว นายกฯ มีอำนาจในการใช้อย่างเบ็ดเสร็จ อีกทั้งการตั้งงบกลางไว้จำนวนสูง ไม่นิยมทำ เพราะจะเกิดข้อครหาในความโปร่งใส
**จวก"ปู"เบี้ยวสภา-ทำงานไม่เป็น
นายบุญยอด สุขถิ่นไทย ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคประชาธิปัตย์ ได้อภิปรายพาดพิงถึงน.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ว่าไม่ได้เข้าร่วมประชุมสภาฯ ทั้งที่อยู่ระหว่างการพิจารณาร่างกฎหมายที่สำคัญ
นอกจากนั้นแล้วนายกฯในฐานะเป็นผู้นำรัฐบาลต้องรับผิดชอบ และมาชี้แจงต่อที่ประชุม เพราะงบประมาณในส่วน มาตรา 4 นั้นเกี่ยวข้องกับนายกฯโดยตรง หากเป็นเช่นนี้ ตนขอยกคำพูดที่พรรคเพื่อไทยเคยพูดไว้ในสภาว่า นายกฯ และรัฐมนตรี เป็นเด็ก ทำงานไม่เป็น หาเงินไม่เป็น ดีแต่กู้ ซึ่งทำให้นายเกียรติอุดม เมนะสวัสดิ์ ส.ส.อุดรธานี พรรคเพื่อไทย ลุกประท้วง และขอให้ถอนคำพูด ทำให้นายสมศักดิ์ ซึ่งทำหน้าที่ประธานในที่ประชุมขอให้ถอนคำพูด เพราะเป็นการพูดเสียดสี
นายบุญยอด ชี้แจงอีกว่า ตนไม่ได้เสียดสี เพราะได้อ้างอิงคำพูดของ นายสุรพงษ์ โตวิจักษณ์ชัยกุล รมว.การต่างประเทศ ที่พูดสมัยเป็นฝ่ายค้านว่า นายอภิสิทธิ์ ทำงานไม่เป็น แต่นายสมศักดิ์ ระบุว่า ขอให้ถอน อย่าได้แย้ง ทำให้นายบุญยอด กล่าวว่า ตนถอนเพื่อให้ประชาชนเห็นว่า ประธานสภาฯ ทำงานสองมาตรฐาน
ด้าน นพ.สุกิจ อัตโถปกรณ์ ส.ส.ตรัง พรรคประชาธิปัตย์ อภิปรายโดยพาดพิงไปถึงน.ส.ยิ่งลักษณ์ ที่อ้างว่าไม่สามารถลงเยี่ยมประชาชนในพื้นที่ภาคใต้ ที่ประสบปัญหาอุทกภัยได้ เพราะติดประชุมสภาฯ ซึ่งอยู่ระหว่างพิจารณา ร่าง พ.ร.บ.งบประมาณปี 2555 ซึ่งตนขอถามว่านายกฯไปติดงบประมาณฯ อยู่ที่ไหน โดยการประชุมเรื่องดังกล่าว มีมา 2 วันแล้ว ก็ไม่เห็นนายกฯ เข้ามาร่วมทั้ง 2 วัน
ทำให้ นายสมศักดิ์ กล่าวขึ้นว่า “อย่าแขวะนายกฯ ขอให้อภิปรายในประเด็นงบประมาณดีกว่า นายกฯ ท่านได้อยู่ตลอด และอยู่ทั้งวัน จากนั้น นพ.สุกิจ อภิปรายต่อว่า ตนไม่ได้แขวะนายกฯ อย่างไรก็ตาม ประเด็นที่นายกฯ ไม่ลงพื้นที่ภาคใต้นั้น ไม่อยากให้กลายเป็นประเด็นว่า ใครเลือกพวกเราก็จะได้รับการดูแลก่อน ซึ่งตนฐานะคนภาคใต้ น้อยใจ ที่นายกฯ บอกว่าลงพื้นที่ไม่ได้ เพราะติดประชุมสภาฯ ซึ่งตนทำหน้าที่ในสภาฯ สงสัยว่านายกฯ ติดประชุมงบฯ ที่ไหน เพราะในสภาฯนี้ ไม่เห็นนายกฯ มาชี้แจง หรือตอบข้อข้องใจของสมาชิกแม้แต่น้อย
** ยันงบกลางไม่ใช่งบแจกส.ส.
จากนั้นนายวิทยา บุรณศิริ ส.ส.อยุธยา พรรคเพื่อไทย ในฐานะ กมธ.วิสามัญฯ ชี้แจงว่า เรื่องการใช้จ่ายงบกลาง ถือเป็นส่วนหนึ่งที่รัฐบาลเอามาเป็นเครื่องมือในการขับเคลื่อน 3 ด้านคือ ด้านโครงสร้างพื้นฐาน ด้านเศรษฐกิจ และด้านการฟื้นฟูคุณภาพชีวิต และปีนี้ก็มาเกิดอุทกภัย งบกลางจึงต้องถูกใช้ระหว่างที่เราพิจารณางบฯ ปี 55 ซึ่งรัฐบาลส่งรายละเอีดยมา 3.6 หมื่นล้านบาท ที่ใช้ไปพลางก่อน ที่เหลือก็มีกรอบของการพิจารณา
นอกจากนี้ งบกลางเองครม.ได้อนุมัติจ่ายเงินให้ครม.ชุดที่ผ่านมาที่ทำเรื่องค้างไว้ เช่น การของบดินโคลนถล่มที่ได้พิจารณาเมื่อปี 53 จำนวน 984.454 ล้านบาท เราก็มาจ่ายให้ในสมัยรัฐบาลนี้ ซึ่งก็เป็นงบมาจากงบกลางนี้เหมือนกัน และยังมีอีกหลายรายการในลักษณะแบบนี้ ทำให้บางครั้งมันทำอะไรไม่ได้อย่างที่ใจคิด ยังมีไทยเข้มแข็งที่ครม. ต้องยืนยันอีก งบแตกต่างกันในเรื่องของเหตุผล ถ้าเงินมีรายละเอียดชัดเจนทุกเรื่อง ถือว่าเป็นงบกลางไม่ได้ เพราะสำนักงบประมาณคงไม่พิจารณามาอยู่ในงบกลาง แต่คงให้ไปจัดอยู่ในกระทรวง ทบวง กรมต่างๆ ซึ่งงบกลางเราเอาไว้ใช้ในกรณีฉุกเฉิน หรือเกิดปัญหาเศรษฐกิจแล้ว เอาตัวนี้ไว้ใช้จ่าย
ขณะที่นายยุทธพงศ์ จรัสเสถียร ส.ส.มหาสารคาม กรรมาธิการเสียงข้างมาก จากพรรคเพื่อไทย ได้ชี้แจงว่าในส่วนของงบกลาง ที่เป็นค่าใช้จ่ายในการเยียวยา ฟื้นฟูความเสียหายจากอุกภัย 1.2 แสนล้านบาท โดยนายกฯ ได้กำชับให้หน่วยที่เกี่ยวข้องพิจารณาอย่างรอบคอบและโปร่งใส ส่วนที่มีข่าวว่าจะมีการนำเงิน 1.2 แสนล้านบาท จะเอามาแจกให้กับ ส.ส.นั้น ก็ไม่เป็นความจริง เพราะเรื่องนี้ไม่มี ส.ส.ฝ่ายค้าน และรัฐบาลไปเกี่ยวข้องแต่จะนำไปฟื้นฟูจริงๆ
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ก่อนจะมีการลงมติในมาตรา 4 นายวิทยา แก้วภารดัย ส.ส.นครศรีธรรมราช พรรคประชาธิปัตย์ ซักถามคณะกรรมาธิการฯว่า งบกลางในส่วนที่เบิกจ่ายไปแล้วแต่ละหน่วยงานมีการแจกแจงรายละเอียดมาหรือยัง มิเช่นนั้นถ้ายังไม่มีรายละเอียดแล้วสภามีมติออกไปจะเหมือนเป็นการตีเช็กเปล่า แต่ก็ไม่ได้รับการชี้แจงจากคณะกรรมาธิการฯ และได้มีการลงมติผ่านมาตราดังกล่าวไป
** ตั้งงบใต้ให้ กอ.รมน.ถลุง
ส่วนการพิจารณามาตรา 5 ในส่วนสำนักนายกรัฐมนตรี นายเจะอามิง โตะตาหยง ส.ส.นราธิวาส พรรคประชาธิปัตย์ เสนอให้ตัดงบประมาณใน 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ ว่า มีการจัดงบลงไปจำนวนมากให้กับ กอ.รมน. ตนขอ เรียกร้องให้นายกฯ มานั่งรับฟังปัญหาและชี้แจงว่าโครงการหลักการ และเหตุผลที่ของบอย่างไร ที่สำคัญนโยบายวันนี้ กับแนวทางแก้ปัญหาภาคใต้ ไม่มีทิศทางและกรอบความคิดแนวทางแก้ปัญหาเลย แล้วยังมีหน้ามาของบสภา เพื่อไปถลุงกัน ซึ่งกรรมาธิการควรซักถามรายละเอียด สำนักงบเริ่มต้นทำผิดพ.ร.บ.งบในภาคใต้ หากงบไม่ผ่านคณะกรรมการ ศอบต. ซึ่งที่ผ่านมาทางคณะกรรมการเคยมาขอพบนายกฯ แต่ก็ได้รับการปฏิเสธไม่ให้พบ แสดงว่าไม่ได้ใส่ใจแก้ปัญหาชายแดนภาคใต้ มีอคติในระดับนโยบาย
นายเทพไท เสนพงศ์ ส.ส.นครศรีธรรมราช พรรคประชาธิปัตย์ เสนอตัดงบประชาสัมพันธ์ร้อยละ 10 เพราะ ตั้งแต่รัฐบาลชุดนี้เข้ามามีการปรับผังรายการเพื่อเอื้อประโยชน์ให้รัฐบาลฝ่ายเดียว โดยไม่เปิดโอกาสให้ฝ่ายเห็นต่างแม้แต่น้อย เช่น เจาะข่าวร้อน ล้วงข่าวลึก ที่ต่อต้านการล้มเจ้า มีการพยายามไม่ให้ออกอากาศ และจะมีรายการแปลกๆ มาแทน
**รัฐบาลอยากอภิปรายต่ออีก 2 วัน
นายอุดมเดช รัตนเสถียร ส.ส.นนทบุรี พรรคเพื่อไทย ในฐานะประธานคณะกรรมการประสานงานพรรคร่วมรัฐบาล (วิปฯรัฐบาล) กล่าวถึงภาพรวมการอภิปรายร่าง พ.ร.บ.งบประมาณฯว่า การประชุมที่ผ่านมาสมาชิกให้ความสนใจ และใช้สิทธิ์ในการอภิปรายในส่วนของมาตรา 3-4 มาก ทำให้การพิจารณาอาจยังดูไม่คืบหน้า แต่เชื่อว่าหลังจากพ้นในส่วนนี้ และเข้าสู่การพิจารณารายกระทรวงแล้ว จะใช้เวลาน้อยลง
ทั้งนี้ก่อนการประชุมเริ่มขึ้นได้มีการหารือกับคณะกรรมการประสานงานพรรคร่วมฝ่ายค้าน (วิปฯฝ่ายค้าน) และกำหนดวันประชุม 3 วัน คือวันที่4-6 ม.ค. ตั้งแต่ เวลา9.30-24.00 น. ซึ่งรวมเวลากว่า 43 ชั่วโมง ดังนั้นจึงคิดว่าช่วงเวลาที่กำหนดไว้น่าจะเพียงพอต่อการพิจารณา
นายอุดมเดช กล่าวว่า อย่างไรก็ตามหากมีใช้เวลาเกินกว่าที่จะกำหนดไว้ ก็จะหารือกับสมาชิกเพื่อขยายเวลาออกไปในวันที่7-8 ม.ค. เพื่อพิจารณาต่อให้แล้วเสร็จ ก่อนที่วุฒิสภาจะพิจารณาในลำดับต่อไป
** อัดงบกลางตั้งสูง-ขาดรายละเอียด
นางอัญชลี วานิช เทพบุตร ส.ส.ภูเก็ต พรรคประชาธิปัตย์ อภิปรายว่า ตนขอปรับลดงบประมาณส่วนดังกล่าวลง 5 เปอร์เซ็นต์ เนื่องจากตั้งไว้สูงเกินไป และขาดรายละเอียดว่าจะนำไปใช้ในเรื่องใดบ้าง
ทั้งนี้ จากการทำหน้าที่ของ กมธ.วิสามัญฯ ที่ได้ขอรายละเอียดโครงการที่อยู่ในส่วนงบประมาณฟื้นฟูฯ 1.2 แสนล้านบาทนั้น พบว่าได้มาเพียงโครงการที่ผ่านมติ ครม.จำนวน 2 ยอด แบ่งเป็นยอดแรก 2 หมื่นล้านบาท และ 9.5 พันล้านบาทเท่านั้น ซึ่งจะมีงานเพียง 2-3 ประเภท และครอบคลุมเพียง 12 กระทรวง เท่านั้น
ส่วนโครงการที่ปรากฏรายละเอียด เช่น กระทรวงศึกษาธิการ ได้เสนอตัวเลขจำนวน 2 หมื่นล้านบาท เพื่อซ่อมแซมสถานศึกษาที่ได้รับผลกระทบจากน้ำท่วม แต่ตนเข้าใจว่า ทางสถานศึกษาที่ได้รับผลกระทบน่าจะได้เสนอของบประมาณส่วนดังกล่าวมาแล้ว เข้าสู่การพิจารณาของครม. ตั้งแต่เดือน ต.ค. 54 หลังจากที่วิกฤตน้ำท่วมเริ่มคลี่คลาย แต่ทำไม ครม.ถึงไม่บรรจุลงในงบประมาณปกติ ควรปรับลดในส่วนของค่าใช้จ่ายในการเยียวยาฟื้นฟูน้ำท่วมจำนวน 1.2 แสนล้านบาท เพราะกังวลเรื่องความใช้งบประมาณที่ไม่โปร่งใส เนื่องจากเงินส่วนดังกล่าว นายกฯ มีอำนาจในการใช้อย่างเบ็ดเสร็จ อีกทั้งการตั้งงบกลางไว้จำนวนสูง ไม่นิยมทำ เพราะจะเกิดข้อครหาในความโปร่งใส
**จวก"ปู"เบี้ยวสภา-ทำงานไม่เป็น
นายบุญยอด สุขถิ่นไทย ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคประชาธิปัตย์ ได้อภิปรายพาดพิงถึงน.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ว่าไม่ได้เข้าร่วมประชุมสภาฯ ทั้งที่อยู่ระหว่างการพิจารณาร่างกฎหมายที่สำคัญ
นอกจากนั้นแล้วนายกฯในฐานะเป็นผู้นำรัฐบาลต้องรับผิดชอบ และมาชี้แจงต่อที่ประชุม เพราะงบประมาณในส่วน มาตรา 4 นั้นเกี่ยวข้องกับนายกฯโดยตรง หากเป็นเช่นนี้ ตนขอยกคำพูดที่พรรคเพื่อไทยเคยพูดไว้ในสภาว่า นายกฯ และรัฐมนตรี เป็นเด็ก ทำงานไม่เป็น หาเงินไม่เป็น ดีแต่กู้ ซึ่งทำให้นายเกียรติอุดม เมนะสวัสดิ์ ส.ส.อุดรธานี พรรคเพื่อไทย ลุกประท้วง และขอให้ถอนคำพูด ทำให้นายสมศักดิ์ ซึ่งทำหน้าที่ประธานในที่ประชุมขอให้ถอนคำพูด เพราะเป็นการพูดเสียดสี
นายบุญยอด ชี้แจงอีกว่า ตนไม่ได้เสียดสี เพราะได้อ้างอิงคำพูดของ นายสุรพงษ์ โตวิจักษณ์ชัยกุล รมว.การต่างประเทศ ที่พูดสมัยเป็นฝ่ายค้านว่า นายอภิสิทธิ์ ทำงานไม่เป็น แต่นายสมศักดิ์ ระบุว่า ขอให้ถอน อย่าได้แย้ง ทำให้นายบุญยอด กล่าวว่า ตนถอนเพื่อให้ประชาชนเห็นว่า ประธานสภาฯ ทำงานสองมาตรฐาน
ด้าน นพ.สุกิจ อัตโถปกรณ์ ส.ส.ตรัง พรรคประชาธิปัตย์ อภิปรายโดยพาดพิงไปถึงน.ส.ยิ่งลักษณ์ ที่อ้างว่าไม่สามารถลงเยี่ยมประชาชนในพื้นที่ภาคใต้ ที่ประสบปัญหาอุทกภัยได้ เพราะติดประชุมสภาฯ ซึ่งอยู่ระหว่างพิจารณา ร่าง พ.ร.บ.งบประมาณปี 2555 ซึ่งตนขอถามว่านายกฯไปติดงบประมาณฯ อยู่ที่ไหน โดยการประชุมเรื่องดังกล่าว มีมา 2 วันแล้ว ก็ไม่เห็นนายกฯ เข้ามาร่วมทั้ง 2 วัน
ทำให้ นายสมศักดิ์ กล่าวขึ้นว่า “อย่าแขวะนายกฯ ขอให้อภิปรายในประเด็นงบประมาณดีกว่า นายกฯ ท่านได้อยู่ตลอด และอยู่ทั้งวัน จากนั้น นพ.สุกิจ อภิปรายต่อว่า ตนไม่ได้แขวะนายกฯ อย่างไรก็ตาม ประเด็นที่นายกฯ ไม่ลงพื้นที่ภาคใต้นั้น ไม่อยากให้กลายเป็นประเด็นว่า ใครเลือกพวกเราก็จะได้รับการดูแลก่อน ซึ่งตนฐานะคนภาคใต้ น้อยใจ ที่นายกฯ บอกว่าลงพื้นที่ไม่ได้ เพราะติดประชุมสภาฯ ซึ่งตนทำหน้าที่ในสภาฯ สงสัยว่านายกฯ ติดประชุมงบฯ ที่ไหน เพราะในสภาฯนี้ ไม่เห็นนายกฯ มาชี้แจง หรือตอบข้อข้องใจของสมาชิกแม้แต่น้อย
** ยันงบกลางไม่ใช่งบแจกส.ส.
จากนั้นนายวิทยา บุรณศิริ ส.ส.อยุธยา พรรคเพื่อไทย ในฐานะ กมธ.วิสามัญฯ ชี้แจงว่า เรื่องการใช้จ่ายงบกลาง ถือเป็นส่วนหนึ่งที่รัฐบาลเอามาเป็นเครื่องมือในการขับเคลื่อน 3 ด้านคือ ด้านโครงสร้างพื้นฐาน ด้านเศรษฐกิจ และด้านการฟื้นฟูคุณภาพชีวิต และปีนี้ก็มาเกิดอุทกภัย งบกลางจึงต้องถูกใช้ระหว่างที่เราพิจารณางบฯ ปี 55 ซึ่งรัฐบาลส่งรายละเอีดยมา 3.6 หมื่นล้านบาท ที่ใช้ไปพลางก่อน ที่เหลือก็มีกรอบของการพิจารณา
นอกจากนี้ งบกลางเองครม.ได้อนุมัติจ่ายเงินให้ครม.ชุดที่ผ่านมาที่ทำเรื่องค้างไว้ เช่น การของบดินโคลนถล่มที่ได้พิจารณาเมื่อปี 53 จำนวน 984.454 ล้านบาท เราก็มาจ่ายให้ในสมัยรัฐบาลนี้ ซึ่งก็เป็นงบมาจากงบกลางนี้เหมือนกัน และยังมีอีกหลายรายการในลักษณะแบบนี้ ทำให้บางครั้งมันทำอะไรไม่ได้อย่างที่ใจคิด ยังมีไทยเข้มแข็งที่ครม. ต้องยืนยันอีก งบแตกต่างกันในเรื่องของเหตุผล ถ้าเงินมีรายละเอียดชัดเจนทุกเรื่อง ถือว่าเป็นงบกลางไม่ได้ เพราะสำนักงบประมาณคงไม่พิจารณามาอยู่ในงบกลาง แต่คงให้ไปจัดอยู่ในกระทรวง ทบวง กรมต่างๆ ซึ่งงบกลางเราเอาไว้ใช้ในกรณีฉุกเฉิน หรือเกิดปัญหาเศรษฐกิจแล้ว เอาตัวนี้ไว้ใช้จ่าย
ขณะที่นายยุทธพงศ์ จรัสเสถียร ส.ส.มหาสารคาม กรรมาธิการเสียงข้างมาก จากพรรคเพื่อไทย ได้ชี้แจงว่าในส่วนของงบกลาง ที่เป็นค่าใช้จ่ายในการเยียวยา ฟื้นฟูความเสียหายจากอุกภัย 1.2 แสนล้านบาท โดยนายกฯ ได้กำชับให้หน่วยที่เกี่ยวข้องพิจารณาอย่างรอบคอบและโปร่งใส ส่วนที่มีข่าวว่าจะมีการนำเงิน 1.2 แสนล้านบาท จะเอามาแจกให้กับ ส.ส.นั้น ก็ไม่เป็นความจริง เพราะเรื่องนี้ไม่มี ส.ส.ฝ่ายค้าน และรัฐบาลไปเกี่ยวข้องแต่จะนำไปฟื้นฟูจริงๆ
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ก่อนจะมีการลงมติในมาตรา 4 นายวิทยา แก้วภารดัย ส.ส.นครศรีธรรมราช พรรคประชาธิปัตย์ ซักถามคณะกรรมาธิการฯว่า งบกลางในส่วนที่เบิกจ่ายไปแล้วแต่ละหน่วยงานมีการแจกแจงรายละเอียดมาหรือยัง มิเช่นนั้นถ้ายังไม่มีรายละเอียดแล้วสภามีมติออกไปจะเหมือนเป็นการตีเช็กเปล่า แต่ก็ไม่ได้รับการชี้แจงจากคณะกรรมาธิการฯ และได้มีการลงมติผ่านมาตราดังกล่าวไป
** ตั้งงบใต้ให้ กอ.รมน.ถลุง
ส่วนการพิจารณามาตรา 5 ในส่วนสำนักนายกรัฐมนตรี นายเจะอามิง โตะตาหยง ส.ส.นราธิวาส พรรคประชาธิปัตย์ เสนอให้ตัดงบประมาณใน 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ ว่า มีการจัดงบลงไปจำนวนมากให้กับ กอ.รมน. ตนขอ เรียกร้องให้นายกฯ มานั่งรับฟังปัญหาและชี้แจงว่าโครงการหลักการ และเหตุผลที่ของบอย่างไร ที่สำคัญนโยบายวันนี้ กับแนวทางแก้ปัญหาภาคใต้ ไม่มีทิศทางและกรอบความคิดแนวทางแก้ปัญหาเลย แล้วยังมีหน้ามาของบสภา เพื่อไปถลุงกัน ซึ่งกรรมาธิการควรซักถามรายละเอียด สำนักงบเริ่มต้นทำผิดพ.ร.บ.งบในภาคใต้ หากงบไม่ผ่านคณะกรรมการ ศอบต. ซึ่งที่ผ่านมาทางคณะกรรมการเคยมาขอพบนายกฯ แต่ก็ได้รับการปฏิเสธไม่ให้พบ แสดงว่าไม่ได้ใส่ใจแก้ปัญหาชายแดนภาคใต้ มีอคติในระดับนโยบาย
นายเทพไท เสนพงศ์ ส.ส.นครศรีธรรมราช พรรคประชาธิปัตย์ เสนอตัดงบประชาสัมพันธ์ร้อยละ 10 เพราะ ตั้งแต่รัฐบาลชุดนี้เข้ามามีการปรับผังรายการเพื่อเอื้อประโยชน์ให้รัฐบาลฝ่ายเดียว โดยไม่เปิดโอกาสให้ฝ่ายเห็นต่างแม้แต่น้อย เช่น เจาะข่าวร้อน ล้วงข่าวลึก ที่ต่อต้านการล้มเจ้า มีการพยายามไม่ให้ออกอากาศ และจะมีรายการแปลกๆ มาแทน
**รัฐบาลอยากอภิปรายต่ออีก 2 วัน
นายอุดมเดช รัตนเสถียร ส.ส.นนทบุรี พรรคเพื่อไทย ในฐานะประธานคณะกรรมการประสานงานพรรคร่วมรัฐบาล (วิปฯรัฐบาล) กล่าวถึงภาพรวมการอภิปรายร่าง พ.ร.บ.งบประมาณฯว่า การประชุมที่ผ่านมาสมาชิกให้ความสนใจ และใช้สิทธิ์ในการอภิปรายในส่วนของมาตรา 3-4 มาก ทำให้การพิจารณาอาจยังดูไม่คืบหน้า แต่เชื่อว่าหลังจากพ้นในส่วนนี้ และเข้าสู่การพิจารณารายกระทรวงแล้ว จะใช้เวลาน้อยลง
ทั้งนี้ก่อนการประชุมเริ่มขึ้นได้มีการหารือกับคณะกรรมการประสานงานพรรคร่วมฝ่ายค้าน (วิปฯฝ่ายค้าน) และกำหนดวันประชุม 3 วัน คือวันที่4-6 ม.ค. ตั้งแต่ เวลา9.30-24.00 น. ซึ่งรวมเวลากว่า 43 ชั่วโมง ดังนั้นจึงคิดว่าช่วงเวลาที่กำหนดไว้น่าจะเพียงพอต่อการพิจารณา
นายอุดมเดช กล่าวว่า อย่างไรก็ตามหากมีใช้เวลาเกินกว่าที่จะกำหนดไว้ ก็จะหารือกับสมาชิกเพื่อขยายเวลาออกไปในวันที่7-8 ม.ค. เพื่อพิจารณาต่อให้แล้วเสร็จ ก่อนที่วุฒิสภาจะพิจารณาในลำดับต่อไป