นายกฯ เผยที่ประชุม ครม.นัดพิเศษอนุมัติงบฯ 2 หมื่นล้าน เยียวยาหลังน้ำท่วม อีก 2 หมื่นรอผ่านสภาเดือน ก.พ. พร้อมกำชับใช้งบฯอย่างโปร่งใส ตั้ง 2 ด้านสกัดโกง สั่ง ครม.ประกบผู้ตรวจ ประสานผู้ว่าฯ
วันนี้ (12 ธ.ค.) น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี เปิดเผยภายหลังการประชุมคณะรัฐมนตรีนัดพิเศษว่า ที่นัดหารือกันวันนี้สืบเนื่องจากงบประมาณผ่านคณะรัฐมนตรีไปแล้วจำนวนเงินทั้งสิ้นกว่า 6 หมื่นล้านบาท ซึ่งจะอยู่ในงบประมาณ 1.2 แสนล้านบาท ที่เราตั้งไว้สำหรับการฟื้นฟูฯ แต่ขณะนี้เราต้องใช้งบประมาณไปพลางก่อน เพื่อให้เกิดการจัดสรรการใช้งบประมาณตามความจำเป็นเร่งด่วน ระหว่างที่รองบประมาณที่จะได้รับการอนุมัติจากรัฐสภาในช่วงเดือนกุมภาพันธ์ จึงนัดหารือกัน เพื่อซักซ้อม และหารือถึงความซ้ำซ้อนต่างๆ และเพื่อให้เกิดการใช้ประมาณนั้นอย่างเต็มที่ ที่สำคัญการพิจารณาการฟื้นฟูครั้งนี้อย่างแรกเราให้ความสำคัญการเร่งเยียวยาให้แก่พี่น้องประชาชน โดยเฉพาะเงิน 5,000 บาท รวมถึงการเยียวยาพื้นที่เกษตรกรรมที่เสียหายต่างๆ เหล่านี้จะเป็นเรื่องเร่งด่วนที่เหลือจะเป็นงบประมาณที่จะเน้นการดูแลฟื้นฟูโครงสร้างพื้นฐานที่มีการชำรุดและขาดการใช้งาน เราจะซ่อมแซมให้กลับสู่สภาพเดิม นอกจากนี้จะมีส่วนอื่นที่มาดูในการส่งเสริม ที่จะเน้นการกระตุ้นเศรษฐกิจการแก้ปัญหา และบรรเทาความเดือดร้อนของพี่น้องประชาชน
เมื่อถามว่ามีการตัดงบประมาณอะไรออกไปหรือไม่ น.ส.ยิ่งลักษณ์กล่าวว่า หลักการไม่ได้ตัด แต่ต้องมีการบริหารจัดการเรื่องการใช้งบประมาณอย่างเร่งด่วน ก้อนแรกที่จัดสรรงบประมาณเลย คือ วงเงินกว่า 2 หมื่นล้านบาท หลังจากนั้นอีกส่วน หนึ่งจะทยอยให้เบิกจ่ายหลังจากงบประมาณผ่าน ยังมีอีกส่วนที่อยากให้ดูคือก้อนสุดท้ายของ 2 หมื่นล้านบาทนั้น ดูให้แน่ใจไม่ให้เกิดความซ้ำซ้อนในหน่วยงาน เพราะก่อนที่จะมีการตั้งคณะกรรมการฟื้นฟู เยียวยาหลังน้ำท่วมจะมีการของบฯจาก 2 ส่วน คือ งบฯ จากกระทรวง และงบจากผู้ว่าฯ ซึ่งต้องมาบริหารจัดการซึ่งบางส่วนสามารถเป็นงบท้องถิ่น บางส่วนจะเป็นงบฯ ที่จะเอาไปใช้งบปกติของกระทรวงได้ ดังนั้นจึงต้องพิจารณาให้แน่ใจว่าการใช้เงินทุกบาททุกสตางค์เป็นไปอย่างตรงวัตถุประสงค์ ที่สำคัญจะมีกระบวนการต่างๆ ที่จะดูแลให้ถึงมือประชาชนโดยเร็ว
เมื่อถามว่ามีโครงการซ้ำซ้อนกันจำนวนมากหรือไม่ น.ส.ยิ่งลักษณ์กล่าวว่า ไม่มาก รายละเอียดจะให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องนำไปหารือ ที่สำคัญเราได้ตั้งคณะกรรมการยุทธศาสตร์เพื่อวางระบบการบริหารจัดการทรัพยากรน้ำ (กยน.) แล้ว ดังนั้นในส่วนโครงสร้างพื้นฐานที่เป็นตัวรวมใหญ่ๆ อาจจะต้องมาประสานกับกยน.เพื่อให้แน่ใจว่าเส้นทางต่างๆ ที่เราทำไม่ได้บล็อก เช่น เส้นทางต่างๆ ที่เราพิจารณาว่าขวางทางน้ำหรือไม่ ซึ่งอันนี้จะอยู่ในส่วนของ 2 หมื่นล้านบาทส่วนหลังที่ต้องมีการประสานงานบูรณาการทุกส่วนเพื่อให้เกิดความแน่ใจ ไม่ซ้ำซ้อน และไม่เป็นอุปสรรคของการบริหารจัดการน้ำอย่างถาวร
เมื่อถามว่าจะทำอย่างไรให้เกิดความโปร่งใสในการใช้งบประมาณ น.ส.ยิ่งลักษณ์กล่าวว่า ครม.เห็นชอบ ให้เน้นย้ำผู้ว่าราชการจังหวัดต้องดูแลความโปร่งใสของการใช้งบประมาณอย่างเต็มที่ ครม.มีกลไก 2 ส่วน คือ 1.ให้ครม.แต่ละคนรับผิดชอบรายจังหวัด จะไปทำงานร่วมกับผู้ว่าราชการจังหวัดเพื่อให้แน่ใจว่าการใช้งบประมาณเป็นไปอย่างโปร่งใส ไปถึงมือประชาชน และ 2.ภายใต้ปลัดสำนักนายกรัฐมนตรีเราจะตั้งคณะผู้ตรวจของทุกกระทรวงลงไปตรวจงานซ้ำอีกเสริมกับ ครม.
เมื่อถามว่าหลักเกณฑ์ในการอนุมัติงบประมาณ น.ส.ยิ่งลักษณ์กล่าวว่า มองความเดือดร้อนประชาชนเป็นหลัก โดยเฉพาะเร่งการเยียวยา 5,000 บาท ใช้งบตามความจำเป็นเร่งด่วนหรือการที่จะทำอย่างไรให้ฟื้นฟูกลับสู่สภาพเดิม ใช้งบประมาณกระตุ้นเศรษฐกิจเน้นกลไกการจ้างงานในชุมชนให้มากขึ้น และการทำงานให้มีกลไกการทำงานและตรวจสอบอย่างครบถ้วน
เมื่อถามว่า เดือนมกราคมเหมาะกับการปรับคณะรัฐมนตรีหรือไม่ น.ส.ยิ่งลักษณ์หันมายิ้มพร้อมกับกล่าวว่า “เอาไว้ก่อนค่ะ”