“ยุทธศักดิ์” โยน “ประชา” ตอบ พ.ร.ฎ.อภัยโทษเอื้อ “ทักษิณ” หรือไม่ ป้อง “ปู” เล่นแง่โดดประชุมอ้างทหารไม่กล้าบินกลางคืนหวั่นเกิดอันตราย เผยเตรียมของบ รบ.ซ่อมยุทโธปกรณ์ เชื่อนายกฯ เข้าใจความจำเป็นของกองทัพ ระบุยังมั่นใจป้อง “นิคมฯ ลาดกระบัง-บางชัน” ได้
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ที่กระทรวงกลาโหม พล.อ.ยุทธศักดิ์ ศศิประภา รมว.กลาโหม กล่าวถึงกรณีที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) เสนอการพิจารณา พ.ร.ฎ.อภัยโทษ เพื่อเอื้อประโยชน์แก่ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ว่า ต้องถาม พล.ต.อ.ประชา พรหมนอก รมว.ยุติธรรมว่า เรื่องที่ท่านเสนอมีรายละเอียดอย่างไร มีความมุ่งหมายอย่างไร เพราะท่านเสนอ ตนไม่รู้จะตอบอย่างไร ตนไม่มีสิทธ์ตอบในเรื่องกระทรวงยุติธรรม เมื่อถามว่า หลายส่วนมองว่า การออก พ.ร.ฎ.นิรโทษกรรมเป็นการกดดันพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว พล.อ.ยุทธศักดิ์กล่าวว่า ให้ไปถามรมว.ยุติธรรม เพราะตนไม่ได้เป็นเจ้าของเรื่อง ไม่ใช่เรื่องของกระทรวงกลาโหม
พล.อ.ยุทธศักดิ์ยังกล่าวถึงกรณีที่นายกรัฐมนตรี ค้างคืนที่ จ.สิงห์บุรี โดยอ้างว่าเฮลิคอปเตอร์ MI-17 ของกองทัพบกบินกลางคืนไม่ได้ เพื่อที่จะได้ไม่ต้องประชุม ครม.ว่าไม่จริง ตามที่ตนเข้าใจ คิดว่านายกรัฐมนตรีคงไม่ทราบว่า MI-17 บินกลางคืนไม่ได้ แต่ถ้าใช้ความสามารถในการมองเห็น เขาก็กล้าบิน ซึ่งขณะนั้นนักบินทำการบินวีไอพี และต้องลงที่ลานเอนกประสงค์ของกองพลทหารม้าที่ 2 รักษาพระองค์ (พล.ม.2 รอ.) ซึ่งมีตึกสูงๆ มีแสงสว่างไม่เพียงพอ เขากลัวอันตรายจะเกิดขึ้น เพราะไม่มีเรดาร์ตรวจอากาศ ซึ่งตนก็ไม่ทราบว่า ตอนที่ซื้อ MI-17 ไม่มีเรดาร์ แต่อาจ เพราะแพงเกินไปก็ได้ เหมือนกับแบล็คฮอล์กลำที่ตกก็ไม่มีเรดาร์
“เมื่อผมเข้าเป็นรัฐมนตรี บอกเลยว่าซื้อแบล็กฮอว์กต้องมีเรดาร์ด้วย ซึ่งสองลำที่ซื้อไปจะเข้าประจำการติดเรดาร์และ เป็นระบบดิจิตอลด้วย ซึ่งรัฐบาลจะให้งบประมาณในการจัดซื้อแบบครบ มีการติดเรดาร์ ติดเครื่องมือพิเศษทุกอย่าง เพื่อให้เป็นเนวิเกเตอร์ และให้นักบินง่ายต่อการบิน เช่น เบลล์ 212 และ เบลล์ 412 ทุกลำมีเรดาร์หมด การที่ไม่มีเรดาร์อันตรายเพราะไม่ทราบว่าภูเขาที่อยู่ข้างหน้าสูงขนาดไหน และมีเมฆมากหรือไม่ พื้นที่ข้างหน้ามีลักษณะภูมิประเทศเป็นอย่างไร อย่างไรก็ตาม ยังไม่ได้ถามนายกฯ ว่าใครเป็นคนแจ้งการเลื่อนกลับเป็นวันรุ่งขึ้น แต่นักบินคงรายงานให้นายกฯ ทราบว่า ถ้าภารกิจของนายกฯยังไม่เสร็จ หรือยังติดภารกิจ การจะขับให้วีไอพีนั่งอันตรายมาก เขาจึงขอไม่บินตอนกลางคืน ส่วนที่ทำให้มองว่ากองทัพซื้อยุทโธปกรณ์ไม่ดีมาใช้นั้น ยืนยันว่า กองทัพซื้อของดีมาใช้ MI- 17 เป็นของดีหลายประเทศใช้กันอยู่เพียงแต่เรดาร์เป็นออปชันประกอบ ซึ่งต้องซื้อมาใส่เพิ่ม”รมว.กลาโหม กล่าว
ผู้สื่อข่าวรายงานอีกว่า พล.อ.ยุทธศักดิ์ ศศิประภา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ยังได้ให้สัมภาษณ์ภายหลังเป็นประธานรับมอบเรือบริจาคเพื่อช่วยเหลือผู้ประสบภัยจากหอการค้าไทยจำนวน 200 ลำจากหอการค้าไทย-จีนถึงกรณีที่ประชาชนย่านดอนเมืองพยายามรื้อบิ๊กแบ็ก ว่า ขณะนี้ทหารกับตำรวจได้ประสานงานกับประชาชนในพื้นที่เรียบร้อยแล้วว่า จะทำบิ๊กแบ็กสูงในระดับหนึ่งเหมือนกับฝายน้ำล้น เพื่อให้น้ำล้นไปอยู่อีกฝั่งหนึ่งได้ แต่จะให้สูงในปริมาณที่ไม่ทำให้เกิดปัญหาต่อพื้นที่กรุงเทพส่วนล่าง ส่วนกรณีที่จะมีชาวบ้านรื้อบิ๊กแบ็กที่แยก คปอ. เขตดอนเมืองนั้น ทางทหารกับตำรวจคงต้องเจรจาพูดกับประชาชนเพื่อให้เห็นประโยชน์ของทั้งสอง ฝ่ายว่า ประชาชนที่ถูกน้ำท่วมแล้วจะลดลงได้อย่างไร เพื่อหาจุดสมดุล ส่วน สถานการณ์ที่นิคมอุตสาหกรรมบางชัน และนิคมฯ ลาดกระบัง ขณะนี้การสูบน้ำออก และน้ำที่ไหลเข้ามีความสมดุลกันพอดี ถ้ายังดำเนินการอย่างนี้จะสามารถรักษา 2 นิคมนี้ไว้ได้ คิดง่า ยังยันได้อยู่
“ส่วนการฟื้นฟู ทางกระทรวงกลาโหมและกองทัพกำลังคิดกัน โดยให้สำนักนโยบายและแผนกระทรวงกลาโหมร่างแผนการฟื้นฟูที่กำลังจะเกิดขึ้นในเร็วๆ นี้ในต้นเดือนหน้าว่า เราจะฟื้นฟูและสนับสนุนการปฏิบัติงานของศูนย์ปฏิบัติช่วยเหลือผู้ประสบอุทกภัย (ศปภ.) อย่างไร วันนี้ได้เรียกผู้แทนเหล่าทัพมาวางแผนว่า ต้นสัปดาห์หน้าจะเรียกประชุมผบ.เหล่าทัพ และให้แต่ละเหล่าทัพแสดงความต้องมาว่าต้องการอะไร และต้องเตรียมอะไร รวมถึงมองภาพการฟื้นฟูตามภารกิจที่เรารับผิดชอบในฐานะที่ รมว.กลาโหมเป็นประธานคณะกรรมการสนับสนุนและป้องกันภัยพิบัติว่าจะต้องทำอย่างไร ต่อไป และต้องเสนอรัฐบาลฟื้นฟูถนน การขุดลอกคลอง ซึ่งทหารพร้อมสนับสนุน โดยใช้ทหารช่างและหน่วยบัญชาการทหารพัฒนา (นทพ.) สนับสนุนรัฐบาลอย่างรวดเร็ว มีคุณภาพ และราคาถูก กองทัพจะแสดงให้เห็นว่า เรามีเครื่องมือสามารถสนับสนุนกระทรวงคมนามคมทำงานให้ได้ ถ้าต้องการดำเนินการเร่งด่วน มีคุณภาพ และไม่ใช้งบประมาณมาก สามารถขอการสนับสนุนกองทัพไทยหรือกระทรวงกลาโหม เพื่อจะได้มอบงานแต่ละเหล่าทัพไปดำเนินการ” รมว.กลาโหมกล่าว
ทั้งนี้ ในส่วนแผนการฟื้นฟูสนามบินดอนเมือง ตนได้บอกสำนักนโยบายและแผนประสานกับกองทัพอากาศ เพื่อเตรียมงบประมาณฟื้นฟู และให้นำมาเสนอในที่ประชุมสัปดาห์หน้า โดยตนจะนัดประชุมในวันที่ 23 พ.ย.นี้ เวลา 09.30 น. เพื่อประเมินความสูญเสียของกองทัพ และเตรียมการฟื้นฟู เพื่อมอบงานให้แต่ละเหล่าทัพดำเนินการ โดยจะเป็นแผนที่เราจะเสนอต่อนายกฯ ให้รับทราบว่า กองทัพมีแผนเตรียมการฟื้นฟูเรียบร้อยว่า การบูรณะหน่วยของตนเองจะใช้งบประมาณอย่างไร บูรณะอะไร คิดว่านายกฯ เข้าใจความจำเป็นของกองทัพ โดยกองทัพอากาศจะต้องร่วมมือกับกระทรวงคมนาคมเพื่อบูรณะฟื้นฟูกลับคืนร่วม กัน โดยได้รับแจ้งว่านางฮิลลารี คลินตัน รมว.ต่างประเทศสหรัฐอเมริกาจะเดินทางมาพบนายกฯคืนนี้ โดยนายกฯ โทร.หาตนพร้อมบอกว่า สหรัฐฯพร้อมสนับสนุนการฟื้นฟูให้สนามบินดอนเมืองกลับสู่สภาพเดิม ส่วนรายละเอียดยังไม่ทราบ อย่างไรก็ตามผู้ช่วยทูตทหารสหรัฐฯประจำประเทศไทยได้ประสานแล้วว่า กระทรวงคมนาคมและกระทรวงกลาโหมมีความต้องการในการสนับสนุนการดำเนินการอย่างไร
พล.อ.ยุทธศักดิ์กล่าวว่า ส่วนกรณีที่รัฐบาลมีการตัดงบประมาณกองทัพ คิดว่าคณะกรรมาธิการงบประมาณคงมีความเข้าใจว่า กองทัพถูกตัดงบประมาณไป 10% ซึ่งปัญหาการซ่อมบำรุง ยุทโธปกรณ์ต่างจากที่เสนอไปยามปกติ เพราะขณะนี้อยู่ในภัยพิบัติ ความไม่เพียงพอ ต้องกระเบียดกระเสียน แต่คิดว่าในอนาคตคงไม่โดนตัดไปมากกว่านี้ ขณะเดียวกันถ้ากรุณาควรจะเพิ่มเรื่องการซ่อมบำรุง ยานพาหนะ ในระหว่างที่ใช้ช่วยเหลือผู้ประสบภัย เพราะมีความจำเป็นจริงๆ คิดว่า ผบ.เหล่าทัพและปลัดกระทรวงกลาโหมจะเข้าไปชี้แจงงบประมาณต่อกรรมาธิการงบประมาณถึงความจำเป็น และงบประมาณที่เหลืออยู่