รายงานการเมือง
โดย เสือกระดาษ
ในขณะที่ผู้คนยังพุ่งเป้ารอคอยว่าหลังน้ำลดจะมีการเปลี่ยนแปลงทางการเมืองเกิดขึ้นหรือไม่
อย่างน้อยสุด คิดกันว่าน่าจะมีการปรับคณะรัฐมนตรีเกิดขึ้น เป็นจุดที่ต้องบอกว่ามองแบบตื้นๆ และประเมินคนอย่าง ทักษิณ ชินวัตร แบบชั้นเดียวเชิงเดียวเกินไป
เพราะมือชั้น ทักษิณ อยู่ในประเภทอย่างหนา “สิ้นชาติ ไม่ยอมสิ้นผลประโยชน์” ที่สำคัญ คือ “เสียชาติได้ แต่ไม่ยอมเสียหน้า”
ดังนั้นอย่าได้หวังว่าการปรับ ครม.จะเกิดขึ้นหลังน้ำลด เพราะถ้าปรับ ครม.แต่ไก่โห่ก็เท่ากับยอมรับว่า ที่ผ่านมาทำงานล้มเหลวไม่เป็นท่า ซึ่งเรื่องนี้ “ทักษิณ”ไม่มีทางยอมให้ภาพนี้เกิดขึ้น
ขณะเดียวกัน “นิวไทยแลนด์” ก็ยังเป็นประเด็นหลักที่ต้องขับเคลื่อนเพื่อสะสมทุนทรัพย์จากภาษีประชาชนให้ได้มากที่สุด
ด้วยหลักคิดนี้จึงนำมาสู่แนวคิดตั้งคณะกรรมการสองชุดภายใต้ชื่อโก้หรูดูดีว่า “คณะกรรมการยุทธศาสตร์เพื่อการฟื้นฟูและสร้างอนาคตประเทศ และคณะกรรมการยุทธศาสตร์เพื่อวางระบบการบริหารจัดการทรัพยากรน้ำ”
ชุดแรกมี วีรพงษ์ รามางกูร เป็นประธาน ส่วนชุดที่สอง ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร รับหน้าเสื่อเป็นประธานเอง ลากเอา สุเมธ ตันติเวชกุล มาการันตีด้วย
ต้องบอกว่า การตั้งคณะกรรมการสองชุดนี้ โดยเฉพาะชุดของ วีรพงษ์นั้น ความจริงมีความหมายมากกว่าแค่เป็นคณะกรรมการ ที่มีระเบียบสำนักนายกรัฐมนตรีรองรับเท่านั้น
เพราะนี่คือการเปลี่ยน ครม.ยกชุดแบบไม่เป็นทางการ แต่จะมีผลในทางปฏิบัติ โดยนายกรัฐมนตรีตัวจริงต่อจากนี้ไปจะถูกส่งไม้ต่อให้ วีรพงษ์ รับหน้าที่ชี้แจงทุกเรื่องทุกประเด็น ที่จะเป็นวาระแห่งชาติในการฟื้นฟูประเทศ
เพราะพี่ชายนักโทษของ ปูแดง เล็งเห็นแล้วว่า น้องสาวคงไปไม่รอดจึงต้องรีบส่งตัวช่วยอย่างวีรพงษ์มาขัดตาทัพ
ส่วน ครม.ยิ่งลักษณ์ จะกลายเป็นแค่มือไม้ของคณะกรรมการชุดนี้เท่านั้น โดยมี ยิ่งลักษณ์ ทำหน้าที่เป็น ปลัดประเทศ คอยลงนาม แสตมป์ตามข้อเสนอของ กยอ. เพื่อให้ทุกอย่างเป็นไปอย่างถูกต้องตามกฎหมายที่ยังมีคนชื่อยิ่งลักษณ์ได้ชื่อว่าเป็นนายกรัฐมนตรีเท่านั้น
กล่าวเช่นนี้มิได้เกินเลยไปจากความเป็นจริง เพราะมีบทพิสูจน์ความกร่างจากคนชื่อ โกร่ง ที่พูดดังๆ ให้สาธารณะได้ยินว่า
“เบื้องต้นน่าจะออกกฎหมายเพื่อให้อำนาจกรรมการชุดนี้จะได้ทำงานได้รวดเร็วและมีอำนาจเต็มที่ และต้องออกกฎหมายอีกฉบับเพื่อใช้งบประมาณ แต่จุดนี้ขอดูรายละเอียดก่อน เพราะขณะนี้ร่าง พ.ร.บ.งบประมาณ 2555 ยังไม่ผ่านสภา และคงต้องใช้เงินคงคลังตาม พ.ร.บ.เงินคงคลัง พ.ศ. 2498 ที่ให้อำนาจรัฐบาลใช้เงินตรงนี้ได้เพราะประเทศประสบภัยพิบัติและอาจตราเป็น พ.ร.ก.ต่อไป”
แค่ประโยคนี้ประโยคเดียวก็เห็นแล้วว่า วีรพงษ์วางแผนไกลแค่ไหนและต้องถือว่าเขาได้ยึดอำนาจเบ็ดเสร็จจากมือ ยิ่งลักษณ์ มาเป็นที่เรียบร้อยแล้ว
เป็นการยึดอำนาจ ที่ ยิ่งลักษณ์ เต็มใจที่สุด เพราะคงจะทำให้ปูนิ่มคันหูอย่างยิ่งหากจะต้องคอยตอบคำถามนักข่าวในเรื่องยากๆ ว่าด้วยวิชาบริหารบ้านเมืองที่เธอสอบตกตลอดเกือบสี่เดือนที่ผ่านมา
เมื่อมีคนกระเหี้ยนกระหือรือมารับหน้าเสื่อแทน แต่ตำแหน่งยังอยู่กับเธอ มีหรือจะไม่เอา
การยึดอำนาจเงียบคราวนี้ ต้องบอกว่าเป็นแผนยิงนัดเดียวได้นกสองตัว คือ โละ ครม.ยกชุดแบบไม่เป็นทางการดึงอำนาจมาไว้กับคนที่ทักษิณเชื่อมือ
ส่วนนกอีกตัวคือการผลักดัน นิวไทยแลนด์ ที่แป้กไปเพราะคนนำเสนอขาดศิลปะ แถมระดับหัว อย่าง ปูแดง ก็มิอาจสร้างความเชื่อมั่นต่อสังคมได้ เงิน 9 แสนล้านที่หวังสวาปามรุมทึ้งเลยหลุดลอยไป ต้องกลับมาตั้งหลักใหม่
และตอนนี้ก็ตั้งตัวเตรียมเป็นเศรษฐีเรียบร้อยแล้ว โดยอาศัยความล้มละลายและภาวะล่มสลายของชาติมาเป็นข้ออ้าง
หากพิจารณารายละเอียดในคำพูดของวีรพงษ์จะเห็นได้ว่า คนไทยยังไม่มีโอกาสเห็นแผนฟื้นฟูประเทศใด ๆ ทั้งสิ้นนอกจากการพูดกว้างๆ แค่ว่าจะมีการร่างพิมพ์เขียว 1 ปีพลิกฟื้นประเทศใน 5 ปี
ยังไม่ทันเริ่มจรดปากการ่างพิมพ์เขียวเลย แต่วีรพงษ์เรียกค่าน้ำหมึกมาตุนไว้ก่อนโดยจะไปควักกระปุกจากเงินคงคลังประเทศ!
พอจะเห็นภาพชัดเจนหรือไม่ว่า เป้าหมายที่แท้จริงในการตั้งคณะกรรมการชุดนี้ขึ้นมาคืออะไร ไม่ใช่ฟื้นฟูประเทศ แต่ ตั้งขึ้นมาเพื่อใช้เงินประเทศให้หมดหน้าตัก
ความพยายามในการใช้เงินคงคลังของรัฐบาลไพร่มีมาอย่างต่อเนื่อง แต่ถูกโต้แย้งจากธนาคารแห่งประเทศไทยและการต่อต้านอย่างรุนแรงจากสังคมทำให้ไม่กล้าสวนกระแส
มาวันนี้พิมพ์เขียวฟื้นฟูประเทศของ วีรพงษ์ เป็นอย่างไรไม่มีใครรู้ แต่ที่แน่ๆ แผนการใช้เงินมุ่งที่จะเปิดประตูคลังหลวงเหมือนกับที่ ธีระชัย ภูวนารถนรานุบาล รมว.คลัง พยายามทำแต่ติดว่าประตูนี้ใส่ล็อคปิดกุญแจแน่นหนา
วีรพงษ์ ที่เพิ่งมาดูสดใหม่หลอกตาประชาชนว่าต้องการช่วยชาติยามวิกฤต จึงเดินดุ่มมาพร้อมกุญแจที่เรียกว่าฟื้นฟูประเทศ แถมเดินไกลถึงขั้นระบุวิธีคิดชัดเจนใช้เงินคงคลังก่อนโดยอ้างเหตุภัยพิบัติแล้วออกพระราชกำหนดมารองรับอีกทีในภายหลัง
เชื่อได้เลยว่า ข้อเสนอที่จะตามมาจะไม่แตกต่างจากที่ ทักษิณ เคยส่ง พิชัย นริพทะพันธ์ รมว.พลังงาน ออกมาโยนหินถามทางไว้ก่อนหน้านี้ลองเทียบเคียงกันดูก็ได้
วีรพงษ์ บอกว่า ปีแรกจะเห็นพิมพ์เขียวและพลิกฟื้นได้ใน 5 ปี ส่วน นิวไทยแลนด์ ที่ พิชัย เป็นกระบอกเสียงพูดแทนทักษิณ ระบุไว้ว่า จะมีการฟื้นฟูประเทศใช้งบประมาณ 1 แสนล้านบาทภายใน 1 ปี
คงพอจะเดาออกว่า 1 ปีแรกภายใต้แผนฟื้นฟูของวีรพงษ์ ก็คงจะใช้เงิน 1 แสนล้านบาทเหมือนกัน
จากนั้นแผนระยะยาว พิชัยบอกไว้ว่าจะต้องพลิกวิกฤตเป็นโอกาสวางแผนประเทศใหม่ใช้เงินอีก 8 แสนล้านบาทภายใต้โครงการนิวไทยแลนด์
แผน 5 ปีของวีรพงษ์ที่บอกว่าน้ำจะไม่ท่วมชั่วกัลปาวสานนั้นใช้ชื่อว่าเป็นการสร้างอนาคตประเทศใหม่ ความหมายต่างอะไรกับการวางแผนประเทศใหม่ เพียงแต่เปลี่ยนคำกันคนจำได้ว่า
กำลังจะมีการย้อมแมวโครงการนิวไทยแลนด์มาขายฝันครั้งใหม่ โดยใช้ยี่ห้อวีรพงษ์มาพรางตาสังคมไทย
ขณะที่ ยิ่งลักษณ์ ออกมาอ้อมแอ้มยอมรับว่าจะมีการจ้างที่ปรึกษาจากต่างประเทศมาให้คำปรึกษาเกี่ยวกับการบริหารน้ำไม่ให้ท่วมชั่วกัลปาวสาน
สอดคล้องกับข้อความผ่านทวิตเตอร์ของทักษิณ ล่าสุดที่บอกว่า ก่อนการรัฐประหารมีโครงการเมกะโปรเจกต์ให้ต่างประเทศมาลงทุนแล้วผ่อนด้วยสินค้าเกษตร
ขณะที่พิชัยพูดชัดว่า มีโมเดลจากหลายประเทศมารอท่าอยู่แล้ว ทั้ง จีน อเมริกา เนเธอร์แลนด์ ฯลฯ
ในการประชุม ครม.วันที่ 2 พ.ย.ขณะที่หลายพื้นที่ยังจมมิดหัวประชาชน กรุงเทพฯ กำลังวิกฤต ยิ่งลักษณ์เปิดหัวในที่ประชุมอธิบายนิวไทยแลนด์ว่า จะมีการตั้งกรรมการสู้น้ำ ในวันนี้คือ กยน. นั่นเอง ส่วนชุดฟื้นฟูและปรับปรุงประเทศถูกบรรจุในแพ็กเกจใหม่มี วีรพงษ์ เป็นประธาน
ในการประชุม ครม.คราวนั้นกำหนดเงินที่จะใช้เรียบร้อยคือ ระยะสั้นใช้เงิน 130,000 ล้านบาท โดย 50,000 ล้านบาท มาจากการขาดดุลงบประมาณประจำปี 2555 เพิ่มเติม และอีก 80,000 ล้านบาท มาจากที่แต่ละกระทรวงตัดงบประมาณลง 10%
นอกจากนี้ยังไปไกลถึงขั้นก้าวล่วงไปถึงการบริหารเงินของธนาคารชาติที่ ธีระชัย จ้องตาเป็นมันมาโดยตลอด มีเป้าหมายหาเงิน 600,000-800,000 ล้านบาท อาจใช้วิธีการออกพันธบัตรและให้ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) เป็นผู้ซื้อด้วยการแก้ไขข้อกฎหมายให้ ธปท. นำเงินคงคลังมาซื้อพันธบัตรในประเทศได้
คงพอจะต่อจิ๊กซอว์ได้แล้วว่า วีรพงษ์ ก็คือ เซลส์คนใหม่ของโครงการนิวไทยแลนด์นั่นแหละ
จะเป็นอื่นไปได้ยังไง ในเมื่อทุกอย่างเหมือนกันเปี๊ยบ เหมือนกระทั่งวิธีคิดที่จะใช้เงินคงคลังและการแก้กฎหมาย ซึ่งก็คือกฎเหล็กของธนาคารแห่งประเทศไทยที่มีไว้เพื่อรักษาเสถียรภาพทางการเงินการคลังของประเทศนั่นแหละ
บ้านเมืองของเราหายนะไปกับน้ำยังฟื้นฟูได้ แต่ประเทศชาติที่กำลังจะถูกมนุษย์กลุ่มหนึ่งทำให้วิบัติมีใครคิดจะยับยั้งบ้าง
อย่าหลงกลนักการเมืองขี้ฉ้อที่กำลังอาศัยภาพ วีรพงษ์ และ สุเมธ ตันติเวชกุล มาตบทรัพย์ ขุดกรุสมบัติเจ้าคุณปู่ไปล้างผลาญ
ทำบาปจนคนจมน้ำค่อนประเทศไม่หนำใจ ยังคิดจะปล้นประเทศซ้ำอีก
เรื่องลึกลับซับซ้อนเช่นนี้ มีแต่คนโลภไม่รู้จักพอเท่านั้น ที่คิดได้ หรือ “ยิ่งลักษณ์” จะเถียง