“สุริยะใส” เชื่อ ส.ส.ร.3 แค่นิติกรรมอำพราง ข้อเสนอนิติราษฎร์ ปลายทางคือ ฟอกผิด “นช.แม้ว” ไม่ได้มีจุดมุ่งหมายเพื่อปฏิรูปการเมืองแต่อย่างใด บอกที่อ้างว่าหาเสียงกับประชาชนเอาไว้ แล้วคืนพาสปอร์ตทักษิณทำไม เพราะไม่ได้หาเสียงเรื่องนี้
นายสุริยะใส กตะศิลา ผู้ประสานงานกลุ่มกรีน กล่าวว่า ตนเห็นว่ามติพรรคเพื่อไทย และวิปรัฐบาล ที่เสนอให้มีการแก้ไขรัฐธรรมนูญ มาตรา 291 เปิดทางให้มีการจัดตั้ง ส.ส.ร.3 เพื่อแก้ไขรัฐธรรมนูญทั้งฉบับ เป็นเพียงนิติกรรมอำพราง เพื่อสร้างความชอบธรรมให้กับข้อเสนอของคณะนิติราษฎร์ ซึ่งเป็นข้อเสนอที่พรรคเพื่อไทยและ นปช.เห็นพ้องต้องกัน เพราะปลายทางคือ นิรโทษกรรม พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร
แม้แต่ร่างแก้ไขรัฐธรรมนูญ คปพร.ฉบับ นพ.เหวง โตจิราการ ก็ไม่ได้มีสาระที่จะให้ความสำคัญต่อการปฏิรูปการเมืองแต่อย่างใด ส่วนใหญ่เป็นเรื่องเอื้อประโยชน์ พ.ต.ท.ทักษิณ และบางมาตรายังกระทบกับพระราชอำนาจและบทบาทขององคมนตรีอีกด้วย และถ้า ส.ส.ร.3 ทั้งสัดส่วนของผู้เชี่ยวชาญ นักวิชาการ และสัดส่วนจากภาคประชาชนถูกแทรกแซงครอบงำจากรัฐบาล ก็ยิ่งเชื่อได้ว่าเวที ส.ส.ร.3 ก็เป็นแค่เครื่องมือในการสร้างความชอบธรรมเท่านั้น
นายสุริยะใสกล่าวว่า การจะแก้รัฐธรรมนูญต้องมีปลายทางเพื่อการปฏิรูปการเมืองที่ชัดเจน ไม่ใช่เพื่อนริโทษกรรมหรือเอื้อประโยชน์คนคนเดียว หรือคนกลุ่มเดียว ถ้า ส.ส.ร.3 เป็นแค่เวทีฟอกคนผิด เชื่อว่าสุดท้ายแล้ว ส.ส.ร.3 ก็จะขาดความน่าเชื่อถือ ประชาชนก็จะต่อต้านไม่เข้าร่วม จนเกิดวิกฤตรัฐธรรมนูญขึ้นมาอีกครั้ง
“สังคมต้องจับตาการประชุมสภาสมัยนิติบัญญัติ เพราะพรรคเพื่อไทยกำลังเดินแผน 2 ทางในการนิรโทษกรรมคุณทักษิณ ด้วยการเตรียมผลักดันร่าง พ.ร.บ.ปรองดองแห่งชาติ และการแก้ไขรัฐธรรมนูญเพื่อรองรับข้อเสนอคณะนิติราษฎร์ ถ้าไม่ได้ทางใดก็ทางหนึ่งไม่ได้มีเป้าหมายเพื่อการปฏิรูปการเมืองอย่างแท้จริง”
ส่วนที่รัฐบาลบอกว่าต้องแก้รัฐธรรมนูญเพราะเป็นเรื่องสัญญากับประชาชนไว้ ก็มีหลายเรื่องที่รัฐบาลสัญญาแล้วไม่ทำ เช่น กองทุนน้ำมัน ค่าแรง 300 บาท เงินเดือนปริญญาตรี 15,000 บาท ความชัดเจนเรื่องกองทุนหมู่บ้าน ฯล ซึ่งเป็นเรื่องปากท้องประชาชนก็ยังไม่ได้ข้อยุติที่ชัดเจน ซ้ำร้ายบางเรื่องที่ไม่เคยหาเสียงกับประชาชนก็ยังลักไก่ทำ เช่น คืนพาสปอร์ตให้ พ.ต.ท.ทักษิณ