xs
xsm
sm
md
lg

จวกส.ส.ร.3แค่ลูกไม้ตบตา เตือนขืนแก้ม.309ช่วย"แม้ว"ไฟลุกรอบ2

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

ASTVผู้จัดการรายวัน-ปมแก้รัฐธรรมนูญเพิ่มอุณหภูมิการเมือง รัฐบาลยันเดินหน้าแก้ไขแน่ อ้างเป็นนโยบายรัฐบาลที่แถลงไว้ โดยใช้วิธีให้ ส.ส.ร.เป็นผู้ยกร่าง ขณะที่ฝ่ายค้านให้ประกาศมาให้ชัด จะแก้ตรงไหนบ้าง จวกการตั้ง ส.ส.ร. แค่ลูกไม้ ตบตา "ประสงค์"ลั่นจะแก้รัฐธรรมนูญฉบับประชาชนต้องทำประชามติก่อน เชื่อรัฐบาลตั้งเป้าแก้ ม.309 เพื่อลบล้างความผิดให้"แม้ว" เตือนบ้านเมืองจะลุกเป็นไฟรอบสอง

นายสมศักดิ์ เกียรติสุรนนท์ ประธานรัฐสภา กล่าวถึงการแก้ไขรัฐธรรมนูญว่าพรรคเพื่อไทยยังไม่มีมติว่าจะส่งเรื่องมาตอนนี้ แค่มีมติว่าเห็นด้วยในหลักการที่จะต้องมีการแก้ไข ส่วนจะเป็นช่วงเวลาไหน หลังปีใหม่ค่อยมาพิจารณากันอีกครั้ง

"ที่จริงเรื่องนี้มีความชัดเจนตอนแถลงนโยบายว่า เป็นนโยบายอยู่แล้ว เป็นภาระหน้าที่ที่รัฐบาลจะต้องแก้ไขรัฐธรรมนูญอยู่แล้ว"

เมื่อถามว่าเมื่อเป็นหน้าที่ที่จะต้องทำอยู่แล้ว ควรจะมีความชัดเจนด้วยหรือไม่ว่าจะแก้ประเด็นไหน และมีเหตุผลอย่างไร นายสมศักดิ์ กล่าวว่า ทางพรรคกำลังศึกษากันอยู่ แต่เท่าที่ทราบน่าจะมีการแก้ มาตรา 291 เพื่อให้มีการเลือกตั้ง ส.ส.ร.ก่อน แล้วให้ ส.ส.ร.ในฐานะตัวแทนประชาชน เข้ามาพิจารณาว่าเห็นควรจะแก้ไขตรงไหน อย่างไร

ส่วนที่ฝ่ายค้านเป็นห่วงว่า ส.ส.ร. อาจจะถูกครองงำโดยรัฐบาล หรืออาจะมีการร่างกฎเกณฑ์ ที่เป็นการล็อกสเปก ส.ส.ร. นายสมศักดิ์ กล่าวว่า ยังไม่มีอะไรเกิดขึ้นอย่างนั้นเลย วิตกไปเองหรือเปล่า เจตนาของพรรคเพื่อไทยเขาต้องการให้การแก้ไขรัฐธรรมนูญเป็นเรื่องของประชาชน เพื่อให้ตรงไปตรงมา และเชื่อว่า การแก้ไขโดยตัวแทนของประชาชนน่าจะได้รัฐธรรมนูญที่เป็นประชาธิปไตยมากที่สุด

**ต้องคิดว่าไม่มีตัวตน"ทักษิณ"

เมื่อถามว่า ที่ผ่านมาดูเหมือนว่าพรรคเพื่อไทย มีธงในบางเรื่อง เช่นการแก้ไขมาตรา 309 นายสมศักดิ์ กล่าวว่า มาตรา 309 ถ้าต้องขยายความ แล้วมาตรา 309 คืออะไร แต่ความหมายเท่าที่ตนทราบ มาตรา 309 ถ้าแปลไทยเป็นไทย ก็หมายถึงคณะปฏิวัติ และเครือข่ายทำอะไรก็ไม่ผิด ถึงผิดก็ถือว่าไม่ผิด ทั้งอดีต ปัจจุบัน และอนาคต กรณีอย่างนี้ก็ต้องถามประชาชนว่ามาตรา 309 ควรจะแก้ไขหรือไม่ ก็ต้องให้ตัวแทนประชาชนเป็นผู้ตัดสิน

เมื่อถามว่าผลจากการแก้ไขตรงจุดนี้มันจะทำให้พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร ได้ประโยชน์ในเรื่องคดีที่มีการพิพากษาไปแล้วหรือไม่ นายสมศักดิ์ กล่าวว่า อย่าเพิ่งเอ่ยถึงพ.ต.ท.ทักษิณ เลย คิดเสียว่าตอนนี้ท่านทักษิณไม่มีตัวตน แล้วมาแก้ไขโดยยึดหลักของประชาธิปไตยดีกว่า

**แก้แน่เพราะเป็นรธน.เผด็จการ

ร.ต.อ.เฉลิม อยู่บำรุง รองนายกรัฐมนตรี กล่าวถึงเรื่องนี้ว่า พรรคได้มีการแถลงนโยบายว่า จะให้มีการแก้ไขรัฐธรรมนูญภายใน 1 ปี แลในช่วงหาเสียง ตนเป็นคนปราศรัยไว้เอง ไปเวทีไหนก็พูดเสมอว่า รัฐธรรมนูญเผด็จการ ต้องมีการแก้ไข และไม่กลัวว่า จะเกิดปัญหาซ้ำรอยเหมือนในสมัยรัฐบาลนายสมัคร สุนทรเวช และนายสมชาย วงศ์สวัสดิ์ เพราะการแก้ไขต้องมีการเปิดเผย อยู่ที่เนื้อหาสาระ หากเปิดเผยและเข้าใจกันก็ไม่มีปัญหา เมื่อถามว่าการแก้ไขกติกาสูงสุดของประเทศ จะส่งผลกระทบต่อกฎหมายอื่นๆ ตามมา โดยเฉพาะ มาตรา 309 ที่มีคนสงสัยว่า จะเป็นการลบล้างผลพวงจากการรัฐประหารหรือไม่ ร.ต.อ.เฉลิม กล่าวว่า ปกฏิเสธไม่ได้หรอกว่า พรรคเพื่อไทย จะไม่แก้ มันต้องแก้ แต่ต้องแก้ มาตรา 291 เพื่อให้มีส.ส.ร. ซึ่งก็จะมาจากการเลือกตั้งโดยตรง ถ้าใครฝักใฝ่เผด็จการ ก็ไม่ควรเลือกเข้ามา เมื่อมี ส.ส.ร. แล้ว เขาก็ยกร่างรัฐธรรมนูญ ก็ไปทำประชามติกัน หากประชาชนเห็นด้วย เรื่องก็จะกลับเข้ามายังรัฐสภา ส่วนที่มีความกังวลว่าจะมีการครอบงำส.ส.ร.โดยฝ่ายบริหารนั้น ตนก็ไม่รู้ว่าจะไปครอบงำได้อย่างไร เพราะส.ส.ร. มาจากการเลือกตั้ง ถ้าไม่ยอมรับการมาจากการเลือกตั้งก็ไม่ใช่ประชาธิปไตยแล้ว และการร่างรัฐธรรมนูญก็เพื่อคนทั้งประเทศไม่ใช่เพื่อคน คนเดียว

เมื่อถามว่าหากเดินหน้าแก้รัฐธรรมนูญแล้วจะทำให้รัฐบาลอายุสั้นลงหรือไม่ ร.ต.อ.เฉลิม กล่าวว่า หากรัฐบาลไม่ทุจริต ก็อยู่ครบเทอม ต่ออีก 4 ปี แต่ถ้าทุจริต ก็อยู่ไม่ได้

** "ปู"โยนแก้รัฐธรรมนูญให้สภา

น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี กล่าวถึงกรณีที่พรรคเพื่อไทยจะผลักดันการแก้ไขรัฐธรรมนูญ 2550 ว่า สำหรับรัฐบาลนั้น คงเน้นเรื่องการแก้ไขปัญหาความเดือดร้อนของประชาชน และการฟื้นฟูเยียวยาผู้ประสบอุทกภัยหลังน้ำลดเป็นหลัก เรื่องการแก้ไขรัฐธรรมนูญ ขอให้เป็นเรื่องของรัฐสภา

เมื่อถามว่าควรจะชะลอเรื่องการแก้ไขรัฐธรรมนูญออกไปก่อนหรือไม่ น.ส.ยิ่งลักษณ์ กล่าวว่า ในส่วนของรัฐบาลยังไม่ได้ดำเนินการอะไร

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า หลังจากนั้น น.ส.ยิ่งลักษณ์ ก็ปฏิเสธที่จะตอบคำถามเกี่ยวกับการแก้ไขรัฐธรรมนูญ และเดินแหวกวงล้อมผู้สื่อข่าวออกไปทันที

**บอกมาให้ชัดจะแก้มาตราไหน

นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ ส.ส. ระบบบัญชีรายชื่อ พรรคประชาธิปัตย์ ในฐานะประธานวิปฝ่ายค้าน กล่าวว่า ถ้ารัฐบาลยืนยันว่า การแก้ไขรัฐธรรมนูญต้องทำ เพราะเป็นนโยบายของรัฐบาล ดังนั้นรัฐบาลต้องประกาศให้ชัดเจนว่า รัฐธรรมนูญปัจจุบัน มีปัญหาในมาตราใดบ้าง ประเด็นใดบ้าง และถ้ามีการแก้ไข จะมีการเปลี่ยนในเรื่องใดบ้าง ประเด็นใดบ้าง
ส่วนที่จะแก้ไข มาตรา 309 ที่บัญญัติว่า บรรดาการใดๆที่ได้รับรองไว้ในรัฐธรรมนูญเเห่งราชอาณาจักรไทย (ฉบับชั่วคราว) พุทธศักราช 2549 ว่าเป็นการชอบด้วยกฎหมายเเละรัฐธรรมนูญ รวมทั้งการกระทำที่เกี่ยวเนื่องกับกรณีดังกล่าว ไม่ว่าก่อนหรือหลังวันประกาศใช้รัฐธรรมนูญนี้ ให้ถือว่าการนั้น เเละการกระทำนั้นชอบด้วยรัฐธรรมนูญนี้ นายจุรินทร์ กล่าวว่า รัฐบาลอาจจะนำจุดนี้มากล่าวอ้างในการลบล้างคดี เพื่อนำไปสู่ประโยชน์ของคนๆ เดียว เหมือนกับที่หลายๆ ฝ่ายเป็นห่วงกันอยู่ และจุดนี้จะนำมาซึ่งความขัดแย้ง ตนจึงขอย้ำให้ทางรัฐบาลระบุให้ชัดเจนว่าจุดนี้จะเอาอย่างไร

เมื่อผู้สื่อข่าวถามว่า ถ้าจะมีการแก้ไขมาตรา 309 จะมีผลลบล้างคำพากษาของศาลหรือไม่ นายจุรินทร์ กล่าวว่า ไม่สามารถตอบได้ ไม่มีใครตอบได้ แต่เชื่อว่าจะมีผลในการลบล้างคดี เพราะที่ผ่านมาก็มีความพยายามที่จะดำเนินการเรื่องนี้อยู่ แต่กระแสสังคมต่อต้านและไม่เห็นด้วย เพราะฉะนั้นก็เลยไม่สามารถประกาศออกมาให้ชัดเจน

ผู้สื่อข่าวถามว่า ประเด็นนี้ฝ่ายนิติบัญญัติ กำลังไปทำลายอำนาจของตุลาการหรือไม่ นายจุรินทร์ กล่าวว่า ตนคิดว่าเป็นความพยายามของฝ่ายบริหาร แต่ฝ่ายบริหารไม่กล้าพอที่จะประกาศให้ชัด เพราะฉะนั้น ตนขอให้ฝ่ายบริหารประกาศให้ชัดก่อน ส่วนกรณีที่กลุ่มนั้น กลุ่มนี้ ภาคส่วนนั้น ภาคส่วนนี้ ก็เป็นความเห็นของแต่ละภาคส่วนไป แต่ถ้ารัฐบาลบอกว่าเรื่องนี้คือนโยบาย รัฐบาลก็ต้องกล้าบอกว่า ทิศทางจริงๆของรัฐบาล คืออะไร ไม่ใช่เพียงแค่บอกว่าจะตั้ง ส.ส.ร. ตนคิดว่าไม่พอ

** อย่าเอาคำว่าส.ส.ร. มาตบตา

นายจุรินทร์ ได้กล่าวถึงจุดยืนของพรรคประชาธิปัตย์ ในเรื่องนี้ว่า ไม่เห็นด้วย เพราะเป็นการแก้รัฐธรรมนูญเพื่อประโยชน์ของคนๆ เดียว ไม่ใช่เพื่อประโยชน์ส่วนรวมอย่างแท้จริง เราประกาศชัดเจนออยู่แล้ว ในอนาคตคงต้องดูรายละเอียดเพิ่มเติมว่า คำว่า ส.ส.ร. มีที่มาที่ไปอย่างไร และท้ายที่สุดจะอยู่ภายใต้การครอบงำของรัฐบาลหรือไม่ ต้องดูรายละเอียดทั้งหมด ไม่ใช่ว่าจะดูแค่ ส.ส.ร. แล้วเห็นด้วยเลย คงไม่ใช่ ตนถึงเรียกร้องว่ารัฐบาลต้องประกาศให้ชัดเจนถ้าจะแก้ แต่ถ้าไม่แก้ ก็จบกันไป

ผู้สื่อข่าวถามต่อว่ารัฐบาลจะสับขาหลอก เหมือนที่เคยพูดในเรื่องแก้ไขพ.ร.ฎ.อภัยโทษ หรือไม่ นายจุรินทร์ กล่าวว่า ไม่ทราบ แต่เชื่อว่าการแก้ไขรัฐธรรมนูญ เป็นกระบวนการหนึ่งที่จะนำไปสู่เป้าหมายสูงสุด ที่มีความพยายามที่จะแก้ปัญหาให้กับคนๆ เดียว เหมือนกับที่พวกเราพูดกัน และสังคมก็จับตาอยู่

ส่วนกรณีที่สมาชิกพรรคเพื่อไทย บอกว่าคนที่จะออกมาคัดค้าน ก็เป็นเจ้าเก่า เจ้าประจำ ที่อย่างไรก็ออกมาคัดค้านอยู่แล้ว นายจุรินทร์ กล่าวว่า เขาจะพูดอย่างไรก็ได้ แต่สำคัญที่สุดสังคมต้องไม่หลงประเด็น ต้องรู้เท่าทันว่ารัฐบาลกำลังคิดที่จะทำอะไรอยู่ เป็นประโยชน์ต่อส่วนรวมจริงหรือไม่ หรือเป็นเพียงกล่าวอ้าง โดยใช้คำว่าประชาธิปไตย

**หนูไม่รู้ - เป็นเรื่องของสภา ไม่ได้

ดังนั้นนายกรัฐมนตรี จะต้องประกาศให้ชัด จะมาบอกว่าไม่ทราบเรื่องนี้ ปล่อยให้เป็นหน้าที่ของสภาไม่ได้ เพราะว่าเมื่อประกาศว่าเป็นเรื่องของรัฐบาล นายกรัฐมนตรีคือเบอร์ 1 ที่จะต้องรับผิดชอบ และจะต้องกล้าพอที่จะประกาศว่า จุดยืนคืออะไร จะแก้เรื่องอะไร และจะมีวิธีการอย่างไร เรื่องนี้เป็นเรื่องใหญ่ และเป็นกติกาของประเทศ

** ไม่เอาด้วยหากมีนิรโทษ

นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวถึงกรณีที่วิปรัฐบาลมีมติที่จะเสนอแก้รัฐธรรมนูญ ให้เสร็จภายในสมัยประชุมนี้ว่า ก็ต้องดูรายละเอียดว่าร่างที่เสนอจะเป็นอย่างไร ถ้าการแก้ไขช่วยปรับระบบให้ดีขึ้น ก็ไม่มีปัญหา แต่ไม่เห็นด้วยหากเกี่ยวกับการนิรโทษ และสร้างความขัดแย้ง

**ภท.ให้รอผลสรุปคอป.ก่อน

นายศุภชัย ใจสมุทร ส.ส.บัญชีรายชื่อ และโฆษกพรรคภูมิใจไทย กล่าวว่าพรรคยังไม่ได้หารือในเรื่องนี้ แต่สิ่งที่เคยพูดกันในพรรค มีความเห็นว่า สถานการณ์ช่วงนี้ ยังไม่เหมาะสมที่จะเร่งแก้ไขรัฐธรรมนูญ เพราะตอนที่ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกฯ เคยปราศรัยหาเสียงที่สนามกีฬาราชมังคลากีฬาสถาน ก่อนเลือกตั้ง พูดไว้ชัดเกี่ยวกับเรื่องความปรองดอง และการแก้ไขปัญหาความขัดแย้ง รวมถึงการแก้ไขรัฐธรรมนูญ ว่า จะมอบเรื่องดังกล่าวให้คณะกรรมการตรวจสอบข้อเท็จจริง เพื่อความปรองดองแห่งชาติ (คอป.) เป็นผู้ตัดสินดังนั้นควรจะรอฟังผลจากทาง คอป.ก่อน

" ปัญหาในบ้านเมืองที่มีอยู่แล้วก็จะเกิดขึ้นอีก ผมคิดว่าพรรคเพื่อไทย ถือว่าเป็นพรรคการเมืองที่ถือเป็นผู้ขัดแย้ง อยู่ๆ จะเสนอร่างแก้ไขรัฐธรรมนูญ ที่อาจก่อให้เกิดผลกระทบของความไม่เห็นด้วยของประชาชน และผมเห็นว่า ไม่ควรให้เกิดบรรยากาศแบบนี้ วันนี้สภาผู้แทนราษฎร มีการตั้งคณะกรรมาธิการวิสามัญพิจารณาศึกษาแนวทางปรองดองแห่งชาติ สภาผู้แทนราษฎร เพื่อหาแนวทางสร้างความปรองดองให้เกิดขึ้นกับคนในชาติ ซึ่งตั้งมาจากทุกพรรคการเมือง และรัฐบาลก็ตั้งคนของรัฐบาลมาร่วมอยู่ด้วยดังนั้นควรจะรอให้ตกผลึกก่อน" นายศุภชัย กล่าว

** ส.ส.ร.3 แค่นิติกรรมอำพราง

นายสุริยะใส กตะศิลา ผู้ประสานงานกลุ่มกรีน กล่าวว่า การแก้ไขรัฐธรรมนูญ มาตรา 291 เปิดทางให้มีการจัดตั้ง ส.ส.ร.3 เพื่อแก้ไขรัฐธรรมนูญทั้งฉบับนั้น เป็นเพียงนิติกรรมอำพราง เพื่อสร้างความชอบธรรมให้กับข้อเสนอของคณะนิติราษฎร์ ซึ่งเป็นข้อเสนอที่พรรคเพื่อไทยและ นปช. เห็นพ้องต้องกัน เพราะปลายทางคือนิรโทษกรรมให้กับพ.ต.ท.ทักษิณ

โดยเฉพาะถ้า ส.ส.ร.3 ทั้งสัดส่วนของผู้เชี่ยวชาญ นักวิชาการ และสัดส่วนจากภาคประชาชน ถูกแทรกแซงครอบงำจากรัฐบาล ก็ยิ่งเชื่อได้ว่า เวที ส.ส.ร.3 ก็เป็นแค่เครื่องมือในการสร้างความชอบธรรมเท่านั้น

นายสุริยะใสกล่าวว่า การจะแก้รัฐธรรมนูญต้องมีปลายทางเพื่อการปฏิรูปการเมืองที่ชัดเจน ไม่ใช่เพื่อนริโทษกรรมหรือเอื้อประโยชน์คนๆ เดียว หรือคนกลุ่มเดียว ถ้า ส.ส.ร .3 เป็นแค่เวทีฟอกคนผิด เชื่อว่าสุดท้ายแล้ว ก็จะเกิดวิกฤติรัฐธรรมนูญขึ้นมาอีกครั้ง

ส่วนที่รัฐบาลอ้างว่าต้องแก้รัฐธรรมนูญ เพราะเป็นเรื่องสัญญากับประชาชนไว้ ก็มีหลายเรื่องที่รัฐบาลสัญญาแล้วไม่ทำ เช่น กองทุนน้ำมัน ค่าแรง 300 บาท เงินเดือนปริญญาตรี 15,000 บาท ความชัดเจนเรื่องกองทุนหมู่บ้าน ฯล ซึ่งเป็นเรื่องปากท้องประชาชน ก็ยังไม่ได้ข้อยุติที่ชัดเจน ซ้ำร้ายบางเรื่องที่ไม่เคยหาเสียงกับประชาชน ก็ยังลักไก่ทำ เช่น คืนพาสปอร์ตให้พ.ต.ท.ทักษิณ

** จะแก้รธน.ต้องทำประชามติก่อน

น.ต.ประสงค์ สุ่นสิริ อดีตประธานกรรมาธิการยกร่างรัฐธรรมนูญปี 2550 กล่าวถึงการแก้ไขรัฐธรรมนูญตามแนวทางที่วิปรัฐบาลเสนอว่า รัฐธรรมนูญปี50 เปิดช่องให้สามารถแก้ไขเพิ่มเติมได้ ในมาตรา 291 ไม่ว่าจะเป็นการล่ารายชื่อประชาชาชน จำนวน 50,000 คน หรือกระบวนการสภาก็ตาม ซึ่งสิ่งเหล่าเปิดกว้างไว้ไม่ได้ปิดกั้นแต่อย่างใด

แต่ประการสำคัญคือ หากจะแก้ไขจะแก้ไขในมาตราใด เพราะรัฐธรรมนูญปี 50 เป็นรัฐธรรมนูญที่ผ่านกระบวนการประชาชน มีการลงประชามติจากประชาชนจำนวน 14-15 ล้านคน ดังนั้น ผู้ที่จะแก้ไขรัฐธรรมนูญฉบับนี้จะต้องถามประชามติของประชาชนเสียก่อน ต้องแจ้งให้ประชาชนทราบว่าจะแก้ไขในมาตราใด เรื่องอะไร และควรชี้ให้ชัดว่าแก้ไขเพื่ออะไร รวมทั้งผู้ที่จะแก้ไขรัฐธรรมนูญต้องรู้ว่า รัฐธรรมนูญปี 50 เป็นรัฐธรรมนูญที่มาจากเสียงส่วนใหญ่ของประชาชน จะทำอะไรต้องถามความคิดเห็นจากประชาชนเสมอ อย่าใช้เสียงข้างมากในสภา ไม่อย่างนั้นจะเกิดปัญหาขึ้นอีกแน่

**แก้เพื่อ"แม้ว"บ้านเมืองลุกเป็นไฟ

สำหรับเรื่องที่จะมีการแก้ไขกันนั้น ตนคาดการณ์ว่าน่าจะเป็นเรื่องที่เกี่ยวข้องกับนักการเมืองเท่านั้น อาทิ มาตรา 237 ที่เกี่ยวข้องกับยุบพรรคการเมือง เนื่องจากบรรดานักการเมืองที่ยังถูกเว้นวรรคทางการเมือง 5 ปี ไม่พอใจมาตรานี้อย่างมาก และอยากให้มีการยกเลิกกันไป รวมไปถึงข้อที่สำคัญที่สุด คือมาตรา 309 ซึ่งนักการเมืองปัจจุบัน กลุ่มคนบางกลุ่มที่เสียประโยชน์ และผู้ที่ถูกเว้นวรรคทางการเมือง 5 ปี จริงจังที่จะแก้ไขเป็นอย่างมาก โดยเฉพาะคนๆ เดียวที่ยังเร่ร่อนอยู่

"ถ้าพวกคุณจะแก้ไขรัฐธรรมนูญ ก็ต้องถามประชามติจากประชาชนว่าเขาเห็นด้วยกับคุณหรือไม่ แต่ถ้าจะแก้ไขเพื่อตัวเอง ให้พรรคพวกตัวเองพ้นผิด ตัดสินใจทำโดยไม่มีเหตุผล ผมคิดว่าปัญหาจะเกิดขึ้นในสังคม และความขัดแย้งในบ้านเมืองจะกลับมารุนแรงอีกครั้งแน่" น.ต.ประสงค์ กล่าว
กำลังโหลดความคิดเห็น