“ประเกียรติ” ชี้ การที่ศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของนักการเมือง ใช้ระบบไต่สวน ต่างกับศาลยุติธรรมทั่วไป ทำให้เกิดความไม่ยุติธรรม หนุนควรมีแค่ระบบใดระบบหนึ่งเท่านั้น เชื่อเกิดปรองดองยาก หากแก้รัฐธรรมนูญประเทศลุกเป็นไฟ เนื่องจากคณะรัฐประหารจะถูกเล่นงาน ไม่มีทางสงบ ด้าน “สุวัตร” ค้านทันที ลั่นศาลใช้ระบบไต่สวนมีข้อดี ส่วนคำพิพากษา “ทักษิณ” ยุติธรรมสุดแล้ว แนะมาติดคุกแค่ 7 วัน ทุกอย่างจบ
วันที่ 13 ธ.ค.เมื่อเวลา 20.30 น.นายประเกียรติ นาสิมมา ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคเพื่อไทย และ นายสุวัตร อภัยภักดิ์ ทนายความพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย ร่วมพูดคุยในรายการ “คนเคาะข่าว”
นายประเกียรติ กล่าวว่า ประชาชนอาจไม่เข้าใจกระบวนการยุติธรรม อย่างเรามีศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง ประชาชนเข้าใจว่า ศาลการเมือง ใครเป็นนักการเมือง ต้องขังคุกแยก ความจริงถ้าเราอธิบายให้หมด ว่า ศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมืองว่าด้วยบุคคลที่ทุจริต ตั้งขึ้นก็เพื่อตัดสินได้เร็วขึ้น ไม่มีอุทธรณ์ ฎีกา เราก็วิพากษ์วิจารณ์ว่า ลักษณะแบบนี้มันไม่ให้ความยุติธรรม เท่ากับลิดรอนสิทธิ ศาลลักษณะนี้ไม่ควรมี แต่มันมีแล้วในรัฐธรรมนูญ จะวิพากษ์วิจารณ์อย่างไร ก็ไม่มีประโยชน์ นอกจากจะแก้ไขรัฐธรรมนูญ ถ้าพูดไม่หมดประชาชนไม่เข้าใจ
บ้านเรากำลังจะสร้างเรือนจำนักการเมือง ไม่รู้ว่าจะรวมถึงคดีทุจริต หรือคดีปล้นฆ่าอย่างอื่นหรือไม่ อันนี้แยกตามลักษณะความผิด หรือจำแนกตามบุคคล บอกว่า แผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง มันครอบคลุมถึงความผิดเยอะแยะ ประเทศเราพูดกันไม่เข้าใจ กฎหมายต้องมีการตีความ ทำไมต้องตีความในเมื่อเราเขียนหลักการของประเทศ
นายประเกียรติ กล่าวต่อว่า ใครก็ตามที่บอกว่าไม่ได้รับความยุติธรรม คนก็มองว่าจริง อย่างคดีเปรียบเทียบของ พ.ต.ท.ทักษิณ ก็มีหลายคดีที่มีลักษณะเดียวกัน แต่ไม่ได้อยู่ที่ศาลฎีกาแผนกคดีอาญาฯ และศาลยกฟ้อง ฉะนั้น เมื่อเขาพูดแล้วยกตัวอย่าง ก็ทำให้น้ำหนักตกไปที่เขา ถ้าจะวิจารณ์ลักษณะนี้พูดกันไม่จบ ถ้าเราไม่ชอบแบบนี้เราก็แก้กฎหมายเท่านั้นเอง
แต่ใจตนอยากให้มีศาลแค่ศาลเดียว คือ ศาลยุติธรรม ส่วนจะแยกเป็นศาลพิเศษอย่างไรก็ว่าไป แต่ประธานศาลฎีกาต้องมีคนเดียว
นายประเกียรติ กล่าวอีกว่า ใครก็ตามบอกว่ากระบวนการยุติธรรมไม่เป็นธรรม ตนเห็นด้วยอย่างยิ่ง เพราะเดิมกระบวนการยุติธรรม กฎหมายให้ดำเนินการระบบเดียว คือ ระบบกล่าวหา แต่บัดนี้มีระบบไต่สวน การที่ผู้พิพากษาใช้เจ้าหน้าที่ไปหาข้อมูล ตรงนี้ก็ขัดแย้งระบบเดิมที่มีอยู่ พูดถูกเลยว่าไม่เป็นธรรม เพราะคุณมองระบบไหน มองว่าสองระบบนี้ขัดแย้งกันก็ไม่เป็นธรรมแล้ว
ไม่ได้บอกว่าควรมีแค่ระบบกล่าวหาอย่างเดียว ตนมองว่า บ้านเรามีสองระบบ ทั้งสองระบบอำนวยความยุติธรรมให้สังคม แต่คนอยู่ในระบบหนึ่งอาจเสียเปรียบอีกระบบหนึ่ง หรือระบบหนึ่งได้เปรียบเสียเปรียบกัน ฉะนั้นโยนความคิดลงไปว่ามันไม่เป็นธรรม ก็เพราะมีสองระบบ มีคนหนึ่งบอกว่าชอบพายเรือ อีกคนชอบขับรถ น้ำกับถนนก็คนละอันแล้ว มันไม่ขัดแย้งได้อย่างไร มองแค่นี้ก็ขัดแย้งแล้ว
ไม่ใช่ว่าตนไม่ชอบอย่างใดอย่างหนึ่ง แต่ประเทศไม่ควรมี 2 ระบบ ในรัฐธรรมนูญก็ระบุว่าประเทศจะแบ่งแยกไม่ได้ แต่การปกครองเรามีสองระบอบ ทั้งท้องที่และท้องถิ่นซ้อนกันอยู่ กระบวนการยุติธรรม ก็มีทั้งไต่สวน และกล่าวหาอยู่ในระบอบศาล ถ้าเอาระดับล่างหน่อยไม่เป็นไร ซึ่งพูดเมื่อไหร่ก็ถูกต้องว่าไม่เป็นธรรม
ประเทศไทยเลือกสองระบบพร้อมๆ กัน จะให้คนไทยปรองดองได้อย่างไร ในเมื่อพื้นฐานของสังคมสร้างแต่ความแตกแยก
นายประเกียรติ ยังกล่าวว่า ที่ตนบอกว่ารัฐบาลนี้ถูกสั่งการจากคนข้างนอก ตนกำลังสะท้อนความรู้สึกของคนส่วนหนึ่งให้รัฐบาลได้รับฟัง ถ้ารับฟังแล้วเห็นว่ามันใช่ก็ไปแก้ แต่ถ้ารับฟังแล้วเห็นว่าไม่มีปัญหาก็ทำต่อไป
ส่วนการที่พรรคเพื่อไทย ยกสโลแกนทักษิณคิด เพื่อไทยทำมาชู เพราะ พ.ต.ท.ทักษิณ ทำคุณูปการให้กับประเทศค่อนข้างมาก แต่ก็ยังอยู่ในระบอบประชานิยม ประชาชนก็ตั้งความหวังว่าหาก พ.ต.ท.ทักษิณ กลับมาได้ ชาวบ้านก็จะได้รับอานิสงส์จากหลายๆ สิ่ง แต่ตัวเขาเองไม่สามารถเผชิญปัญหาอย่างตรงๆ ได้ มันก็เป็นการยากที่จะตัดสินว่าอะไรคืออะไร จะแก้อย่างไร แม้กระทั่งคนที่นำปัญหาไปชี้แจงกับ พ.ต.ท.ทักษิณ ชี้แจงถูกหรือไม่ ฉะนั้น คนตัดสินที่ไม่ได้มองอยู่กับปัญหาโดยตรงมันยากที่จะแก้ไข มันก็เป็นดาบสองคมกับรัฐบาลนี้เหมือนกัน ถ้าแก้ปัญหาตามที่บอกไม่ได้อะไรจะเกิดขึ้นบ้าง
การนิรโทษกรรมให้ พ.ต.ท.ทักษิณ ประชาชนชอบ แต่คำว่านิรโทษกรรมแล้วมาเป็น ส.ส. หรือ นายกฯ มันต้องนิรโทษกรรม อภัยโทษเฉยๆ ไม่พอ รัฐบาลมีเสียงข้างมากทำได้ แต่เนื่องจากเรามีส่วนร่วมของประชาชน กฎหมายสำคัญควรถามประชาชน แต่ถ้าไม่ถามตนไม่สามารถคาดเดาได้ว่าอะไรจะเกิดขึ้น
ตนชอบที่ นายคำนูณ สิทธิสมาน พูด ว่าเงื่อนไขปฏิวัติ พอปฏิวัติแล้วไม่ได้ทำตรงนี้เลย แล้วจะนิรโทษกรรมกันได้อย่างไร 100 ปีต่อไปนี้ ถ้าระบอบการปกครองของเรายังแตกเป็นอย่างนี้ กระบวนการยุติธรรม แตกเป็น 2 อย่าง การอำนวยความยุติธรรม ไม่มีทางเป็นไปไม่ได้เลย
นายประเกียรติ กล่าวต่อว่า ความจริงไม่จำเป็นต้องพูดถึง พ.ต.ท.ทักษิณ เลย เกี่ยวกับเรื่องปรองดอง จะเอาระบบอะไรมาทำปรองดองในประเทศนี้ ทำไม่ได้ทั้งนั้น ทำได้อยู่อย่างเดียวคือ มีอำนาจเบ็ดเสร็จ อย่างที่เขาพูดกันให้ปิดประเทศสัก 3 ปี ดีหรือไม่ เท่านั้นที่จะทำได้ แต่ถ้าจะมารอคอยเรื่องการแก้รัฐธรรมนูญ ประเทศลุกเป็นไฟ ตนรู้ว่า รัฐธรรมนูญปี 50 ผูกมัดเชื่อมโยงอะไรไว้ โดยเฉพาะอย่างยิ่งรัฐธรรมนูญชั่วคราวปี 49 มีเงื่อนไขอะไรในนั้น บรรจุในปี 50 หมด ถ้ามีการแก้เกิดขึ้น คนที่ก่อการปฏิวัติทั้งหลายโดนหมด แล้วมันจะสงบสุขได้อย่างไร การแก้ไขความขัดแย้งของประเทศนี้ไม่ยาก แต่ก็ไม่ใช่เรื่องที่ทำได้ง่าย
ด้าน นายสุวัตร กล่าวว่า ศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง ต่างกับศาลยุติธรรมทั่วไป เพราะใช้ระบบไต่สวน ระบบเดียวกับศาลปกครอง เพื่อให้ศาลมีโอกาสนำข้อเท็จจริงอื่นๆ เข้าสู่สำนวนได้ด้วย เหตุที่มีศาลเดียวเพราะ คตส.เป็นคณะกรรมการ ไม่ใช่พนักงานสอบสวนคนเดียวเหมือนคดีอาญาอื่นๆ เป็นคณะทำงานไต่สวน หาพยานหลักฐาน พอมาถึงอัยการจะฟ้องหรือไม่ฟ้องก็ได้อีก เป็นสิทธิของอัยการ องค์คณะผู้พิพากษา ปกติมี 3 ท่าน ศาลนี้ก็มีถึง 9 ท่าน จึงมีเพียงศาลเดียวเพราะขั้นตอนถูกกลั่นกรองมาเยอะ
แบบไต่สวนก็ดีไปอย่าง เช่น คดี ผบ.โจทก์เป็นชาวบ้านซื้อรถวิ่งไม่ได้ตามคำโฆษณา โจทก์ไม่มีทางพิสูจน์ได้เรื่องเทคโนโลยีเกี่ยวกับรถ แต่ตนขอฟันธงว่า ศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง ในคดีของ พ.ต.ท.ทักษิณ เป็นไปตามกฎหมาย เป็นธรรมแล้ว และเห็นว่า ทุกอย่างอยู่ที่ตัวผู้พิพากษา ถ้าไม่เห็นแก่สินบนยุติธรรมทั้งนั้น สรุปได้เลยขึ้นอยู่ที่ตุลาการ ไม่เกี่ยวกับระบบ
นายสุวัตร กล่าวทิ้งท้ายว่า การที่ พ.ต.ท.ทักษิณ จะกลับมาโดยไม่ติดคุก และได้ 4 หมื่นล้านคืน ไม่มีทางทำได้เลย บนหลักของความปรองดอง เพราะเป็นการทำลายหลักนิติรัฐ พ.ต.ท.ทักษิณ ต้องยอมเสียสละยอมติดคุก เข้ามายอมรับโทษ ซึ่งตอนนี้น้องสาวตัวเองก็เป็นรัฐบาล กรมราชทัณฑ์ ก็ล้างคุกรอแล้ว ติดไม่กี่วัน ก็ดำเนินการขอพระราชทานอภัยโทษ หากพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทรงพระราชทานอภัยโทษให้ พันธมิตรฯจะค้านได้อย่างไร แต่ พ.ต.ท.ทักษิณ อีโก้สูง ไม่ยอมอยู่ภายใต้กฎหมาย กลับมาติดคุกแค่ 7 วัน ทุกอย่างจบ ส่วนเงิน 4 หมื่นล้าน ไม่ต้องกังวล เพราะที่โกงไปได้มากกว่านี้มากมาย เงินแค่นี้เด็กๆ