xs
xsm
sm
md
lg

“สุวัตร” เตรียมยื่น ป.ป.ช.ฟัน ครม. ชี้ช่วยให้ พ.ร.ฎ.อภัยโทษไม่ถึง “ในหลวง” ได้

เผยแพร่:   โดย: MGR Online


“สุวัตร” เผยเตรียมยื่นฟ้อง ครม.ทั้งชุดต่อ ป.ป.ช. เพื่อให้ตั้งคณะกรรมการสอบ พ.ร.ฎ.อภัยโทษขัดหลักกฎหมาย ชี้เมื่อ พ.ร.ฎ.อภัยโทษถึงองคมนตรี ก็จะส่งจดหมายตามไปทันทีว่าเรื่องนี้ยังไม่จบ “ในหลวง” ก็จะไม่ถูกกดดันให้ลงพระปรมาภิไธย “ปานเทพ” ระบุยังไม่ต้องตกใจว่าทำอะไรไม่ทันแล้ว ปกติกฎหมายนี้จะไม่ออกล่วงหน้านาน ด้าน “สุริยะใส” เชื่อสู้ “ทักษิณ” สุดท้ายไม่พ้นงานมวลชน เพราะเล่นตามกฎกติกากับคนคนนี้ไม่มีทางชนะ

 คลิกที่นี่ เพื่อฟังรายการ “คนเคาะข่าว”  

วันที่ 16 พ.ย. นายสุวัตร อภัยภักดิ์ ทนายความพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย นายปานเทพ พัวพงษ์พันธ์ โฆษกพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย และนายสุริยะใส กตะศิลา ผู้ประสานงานกลุ่มกรีน ได้ร่วมแสดงทัศนะต่อกรณี พ.ร.ฎ.อภัยโทษ ในรายการ “คนเคาะข่าว” ออกอากาศทางสถานีโทรทัศน์ผ่านดาวเทียม ASTV

นายสุวัตรกล่าวว่า การที่ ครม.ผ่าน พ.ร.ฎ.อภัยโทษ ถือว่าทำเพื่อคนคนเดียว หลักการออกกฎหมายต้องมีดังนี้ 1.กฎหมายต้องประกาศใช้ทั่วไป ทั่วประเทศ อย่างเช่นคนที่เข้าข่ายอายุเกิน 60 ปี มีโทษจำคุกไม่เกิน 3 ปี คนเหล่านี้ก็จะได้ถอนฎีกา ได้รับอานิสงส์ไปด้วย ควรให้ประชาชนทั่วไปได้รู้ แต่นี่กลับปิดเงียบ เจตนาจะปิดบัง ถ้าของดีทำไมต้องปิดบัง

2.เป็นกฎหมายที่ใช้เสมอไป แต่นี่ออกเพื่อ พ.ต.ท.ทักษิณอย่างเดียว อย่างเช่นการระบุอายุเกิน 60 ปี จำคุกไม่เกิน 3 ปี แล้วตัดคดีคอร์รัปชั่นออกเพื่อให้ได้รับอภัยโทษด้วย

3.การออกกฎหมายฉบับนี้เป็นการทำลายกระบวนการยุติธรรมทั้งหมด เพราะพ.ต.ท.ทักษิณไม่ยอมรับคำตัดสินศาล หนีความผิด แล้วต่อมาออก พ.ร.ฎ.อภัยโทษ เป็นการทำลายรากเหง้ากฎหมายทั้งสิ้นทั้งปวง ทำลายนิติรัฐ เศรษฐีไม่ต้องติดคุก ตาสีตาสาติดคุกเต็มไปหมด

พ.ร.ฎ.อภัยโทษนี้ผิดหมดทั้งหลักกฎหมาย หลักคุณธรรมศีลธรรม และสาเหตุที่ น.ส.ยิ่งลักษณ์ไม่อยู่ในที่ประชุม ก็เพราะมีคนเตือนไว้แล้วว่าอาจถูกฟ้อง นายยงยุทธก็ไม่อยู่ ปล่อยให้ ร.ต.อ.เฉลิมเป็นหน่วยกล้าตาย แต่อย่างไรก็ไม่รอดต้องฟ้องครม.ทั้งชุด

“ผมจะยื่นฟ้องไปที่ ป.ป.ช.ให้ดำเนินคดี ครม.ทั้งชุด ในฐานะเป็นเจ้าพนักงานปฏิบัติหรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ ครม.ชุดนี้ทำการโดยทุจริต ออกกฎหมายให้ทักษิณ เข้าองค์ประกอบเลย แอบงุบงิบทำ ไม่เปิดเผย จึงเป็นการร่วมกันออกกฎหมายที่ขัดต่อหลักกฎหมาย ครม.ทั้งชุดต้องถูกร้องไปที่ ป.ป.ช. หลังจากนั้น ป.ป.ช.ก็ต้องตั้งคณะกรรมการขึ้นมาสอบ

แล้วจะมีผลคือ ถ้าพ.ร.ฎ.อภัยโทษนี้ไปถึงองคมนตรี เพื่อขึ้นทูลเกล้าฯ ตนก็จะส่งจดหมายตามไป ว่าเรื่องนี้ยังไม่จบ ยังมีการตั้งคณะกรรมการสอบสวนกันอยู่ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ก็จะไม่ถูกกดดันให้ลงพระปรมาภิไธย” นายสุวัตร กล่าว

นายสุวัตรกล่าวอีกว่า กรณีนี้ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว จะทรงลงพระปรมาภิไธยหรือไม่ลง พระองค์ก็จะมีแต่เสีย หากไม่ลงเสื้อแดงก็ด่า นักโทษที่รออยู่ก็โกรธ หากลงพระประมาภิไธย ซึ่งก็เป็น พ.ร.ฎ.อภัยโทษที่ขัดหลักกฎหมาย ขัดจารีตประเพณี ซึ่งท่านไม่เคยขัดต่อหลักกฎหมายเลย

เราต้องทำเรื่องแจ้งไปที่องคมนตรี เพื่อบังคมกราบทูลฯ ว่า กำลังสอบว่ากฎหมายชอบหรือไม่ชอบ กำลังตั้งกรรมการสอบกันอยู่ ก็จะทำให้พระองค์ท่านมีทางเลือก กฎหมายนี้ถ้าผ่านชาวบ้านตีกันแน่ พันธมิตรฯ และองค์กรอื่นๆ ไม่ยอมแน่นอน

ที่ผ่านมารัฐบาลวางแผนเตรียมการเพื่อประสงค์ให้เกิดความวุ่นวายในบ้านเมือง วางแผนมานาน แต่มาทำเรื่องนี้ตอนนี้เพราะคิดว่าพันธมิตรฯ ไม่มีน้ำยา เห็นว่าน้ำท่วมอยู่ถ้าพันธมิตรฯ ออกมาก็โดนด่า ตนบอกได้เลยว่าน้ำท่วมครั้งนี้ เป็นการจงใจทำให้น้ำท่วม แล้วให้ ร.ต.อ.เฉลิมมาทำเรื่องนี้ มันสอดรับกันทั้งหมดเลย เรื่องนี้ตนไม่ยอม จะไม่ให้ตีกินง่ายๆ

นายปานเทพกล่าวว่า ไม่ว่าจะมีพระราชวินิจฉัยอย่างไร มีสภาพแรงกดดันอย่างแน่นอน ถ้าตัดสินพระราชหฤทัยเป็นคุณต่อ พ.ต.ท.ทักษิณ เขาก็จะได้รับชัยชนะ แต่ถ้าไม่เป็นไปตามที่รัฐบาลต้องการก็จะเกิดแรงกระเพื่อมจากฝ่ายที่รัก พ.ต.ท.ทักษิณ ตรงนี้สุ่มเสี่ยงและอันตรายอย่างยิ่ง

ต้องไม่ลืม พ.ร.ฎ.อภัยโทษนี้ ไม่ได้ทำเงียบๆ อย่างที่ ร.ต.อ.เฉลิมอ้าง เพราะมีการเคลื่อนขบวนถวายฎีกา เป็นสถานภาพทางการเมืองที่รู้อยู่แล้วว่าจะเสนออย่างไร คาดเดาได้หมด ดังนั้น การที่จะบอกว่าเป็นความลับ ต้องรอพระราชอำนาจวินิจฉัยก่อน เป็นข้ออ้าง เพราะสังคมรู้อยู่แล้ว เรื่องนี้ล่อแหลมมากต่อการเผชิญหน้า

“สถานการณ์แบบนี้ผู้ที่มีสติปัญญา และมีจริยธรรมมีคุณธรรม ต้องไม่เดินหมากนี้ให้ทรงใช้พระราชอำนาจ สามารถเรียกได้ว่าบังคับให้เดิน หรือจะเรียกว่าอำมหิตก็ได้” นายปานเทพกล่าว

กรณีนี้เป็นการทำให้หลักนิติรัฐถูกทำลาย อันตรายมากต่อกระบวนการยุติธรรมไทยในอนาคต ต่อไปนักการเมืองทำอะไรไม่มีวันผิด เป็นสังคมที่อันตราย สังคมเกิดมิคสัญญีจากประชาชนทั้ง 2 ฝ่าย ไปโดยปริยาย

นายปานเทพยังกล่าวอีกว่า สถานการณ์ที่รัฐบาลสั่นคลอน ทหารภาพลักษณ์ดีขึ้น สิ่งที่รัฐบาลต้องทำคือดึงต่างชาติเข้ามา การเลือกยูเอ็นเข้ามาเพื่อให้เห็นว่าหากใครมาโค่นล้มจะไม่เป็นสากล และทำให้ต้องเร่งอภัยโทษพ.ต.ท.ทักษิณให้เร็วขึ้น เพราะดีกว่าปล่อยให้ภาพลักษณ์เลวร้ายกว่านี้

เลยเกิดแนวคิดที่ พล.อ.สนธิ บุญยรัตกลิน เตรียมเสนอญัติติคณะกรรมการด้านปรองดองแห่งชาติ เพื่อรวบรวมคนหลายๆกลุ่มมาอยู่บนโต๊ะเดียวกัน เพื่อทำให้รู้สึกว่าพวกเขาจัดการกันเองได้ ไม่ต้องมีระบบอื่นเข้ามา เป็นหลักคิดที่ไม่มั่นใจในเสถียรภาพรัฐบาล และรู้สึกว่ากำลังจะสูญเสียอำนาจไป แบบนี้ทำให้ทุกฝ่ายต่างระแวงซึ่งกันและกันไปโดยปริยาย ซึ่งเมื่อพันธมิตรฯถอนตัวออกมา ทำให้ฝ่ายที่เหลือเผชิญหน้ากัน แล้วต่างก็ต้องหาแนวร่วมถึงจะอยู่รอด มันจึงไม่แปลกที่พันธมิตรฯยืนบนภู จะมีเสียงเรียกร้องให้ออกมาทำอะไร แม้ว่าฝ่ายรัฐบาลเองก็ต้องยื่นมือมาปรองดองหรืออาาจถึงขั้นปฏิรูปก็ได้

ส่วน พ.ร.ฎ.อภัยโทษ อย่าเพิ่งตกใจว่าจะทำอะไรไม่ทันแล้ว เพราะที่ผ่านมา พ.ร.ฎ.อภัยโทษ ไม่ได้ออกล่วงหน้านานๆ ที่ผ่านๆ มามักออกวันที่ 10 ธ.ค. แล้ววันรุ่งขึ้นบังคับใช้ทันที

ด้าน นายสุริยะใสกล่าวว่า ถ้าออก พ.ร.ฎ.อภัยโทษ มันง่ายอย่างนี้ คงไม่ยากที่จะนิรโทษกรรมให้ทั้งเครือข่ายทักษิณ พวกนี้คงไม่จบแค่นี้แน่นอน ตนคิดว่าหมากนี้เป็นเกมเร็ว แล้วจะจบเร็ว พ.ต.ท.ทักษิณคงมองแล้วว่าเหตุการณ์น้ำท่วมนี้ทำคนตาย 500 กว่าคน ยากที่ น.ส.ยิ่งลักษณ์จะกลับมาชนะเลือกตั้งอีกรอบ ก็เลยตัดสินใจเล่นเกมเร็ว และปลายทางคงไม่ต้องการแค่นี้

เรื่องการกกดดันพระราชอำนาจ อยากถามปลัดกระทรวงยุติธรรม นายกิตติพงษ์ กิตยารักษ์ เพราะก่อนร่าง พ.ร.ฎ.อภัยโทษจะเข้า ครม. จะต้องมีชงเรื่องขึ้นมาก่อน ปลัดกระทรวงยุติธรรมจะปัดความรับผิดชอบไม่ได้ นักข่าวควรถามปลัดยุติธรรม ซึ่งเป็นข้าราชการในพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวฯ ปกติการพระราชทานอภัยโทษ เป็นประเพณี เป็นพระราชกุศล แต่วันนี้ถูกบิดเบือนให้เป็นการเมือง ในฐานะประธานคณะกรรมการพิจารณาการพระราชทานอภัยโทษต้องตอบให้ได้

อีกคนที่ต้องถาม คือ นายธงทอง จันทรางศุ ก่อนจะมาเป็นโฆษก ศปภ. พล.ต.อ.ประชาเคยแต่งตั้งให้เป็น 1 ใน 11 คณะกรรมการกลั่นกรองฎีกาแดง มันโยงกันอยู่

นายสุริยะใสกล่าวต่อว่า ตนคิดว่างานของพวกเราสุดท้ายหนีไม่พ้นงานมวลชน สู้กับ พ.ต.ท.ทักษิณตามกฎกติกายากเหลือเกิน เขาพลิกแพลงเก่งมาก




กำลังโหลดความคิดเห็น