“ปานเทพ” ชี้รัฐบาลเดินหน้าเร่งคดีทุกฝ่าย หวังกดดันให้ยอมปรองดองรับนิรโทษกรรม เพื่อ “ทักษิณ” ได้อานิสงส์ ลั่นแต่พันธมิตรฯ จะไม่ยอมแน่ ขอรักษาหลักนิติรัฐจนถึงที่สุด ด้าน “พิชาย” คาดเว็บหมิ่นฯ ระบาดหนัก อาจเป็นแผนการเสื้อแดงบางฝ่ายใช้เป็นเครื่องต่อรองให้ยอมนิรโทษกรรมก็เป็นได้ เชื่อ “แม้ว” หวั่นบ้านเลขที่ 111 แย่งบทบาททางการเมือง หลังถูกปลดล็อก จึงต้องรีบชนะให้ได้ก่อน พ.ค.
วันที่ 2 ธ.ค. นายปานเทพ พัวพงษ์พันธ์ โฆษกพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย และ รศ.ดร.พิชาย รัตนดิลก ณ ภูเก็ต รองคณบดีคณะพัฒนาสังคมและสิ่งแวดล้อม สถาบันบัณฑิตพัฒนบริหารศาสตร์ (นิด้า) ได้ร่วมพูดคุยในรายการ “คนเคาะข่าว” ออกอากาศทางสถานีโทรทัศน์ผ่านดาวเทียม ASTV
โดย นายปานเทพกล่าวว่า ในทางปฏิบัติ พ.ต.ท.ทักษิณก็เดินทางไปโน่นมานี่ตลอดอยู่แล้ว โดยไม่ต้องอาศัยพาสปอร์ตแดง แต่ทำไมต้องมาทำเรื่องนี่ อย่างที่ น.ต.ประสงค์บอก คงทำเพื่อโยนหินถามทาง และต้องเข้าใจว่านายสุรพงษ์ โตวิจักษณ์ชัยกุล หลายเดือนที่ผ่านมาไม่มีผลงานด้านการต่างประเทศเลย คงกลัวตกเป็นเป้าในการปรับออกจาก ครม. จึงพยายามพูดว่าจะทำโดยเร็วที่สุด เพื่อเชลียร์เจ้านายให้เก็บตัวเองไว้ อีกทั้งหากไม่รีบสร้างผลงานก่อน พ.ค. ซึ่งบ้านเลขที่ 111 หลายคนจะกลับสู่แวดวงการเมือง แล้วคนพวกนี้อาจไม่มีโอกาสได้เป็นรัฐมนตรีอีกเลย
นายปานเทพกล่าวอีกว่า ปัจจุบันมี 4 ทางเลือก ขอหยิบยกกรณีแรกที่ ส.ว.คำนูณเสนอมา ว่าจะทำให้สังคมสงบได้ในอนาคต 1.ฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งชนะเบ็ดเสร็จเด็ดขาด และฝ่ายชนะนั้นยอมสูญเสียอำนาจของตัวเองอย่างใหญ่หลวง ทั้งอำนาจและผลประโยชน์ ประเทศสงบ และเรื่องที่ยากมาก คือ ฝ่ายที่ชนะมักไม่ยอมสูญเสีย มักยึดต่อทำให้ประเทศไม่สงบ 2.ฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งชนะเบ็ดเสร็จเด็ดขาดแล้วก็ยึดอำนาจเป็นของตัวเอง สยบกดฝ่ายตรงกันข้ามจนกระทั่งหมอบคาบราบดิน หลายคนเชื่อว่าถ้าทำได้มีโอกาสเกิดความสงบ แต่ก็เสี่ยงที่จะนองเลือดสูง 3.ทุกฝ่ายประเมินแล้วไม่มีใครชนะเบ็ดเสร็จเด็ดขาด ก็ใช้วิธีจับมือกัน และแบ่งอาณาเขต แบ่งความต้องการของแต่ละฝ่าย ถ้าเป็นแบบนี้จะเกิดการแตกแยกในระดับมวลชนของทั้งสองฝ่าย 4.เกิดการจับมือกันและยอมรับ เดินหน้าไปสู่การปฏิรูปในอนาคต โดยทุกฝ่ายยอมสูญเสียอำนาจ ซึ่งอย่างนี้ยากสุด
ตอนนี้ พ.ต.ท.ทักษิณมีไพ่ทั้ง 4 ใบนี้ แต่คนที่มีอำนาจไม่มีทางปฏิรูปให้ตัวเองเสียอำนาจ ไม่ว่าจะทางที่ 1 หรือ 4 ก็เหลือแค่คิดอยากจะชนะเบ็ดเสร็จเด็ดขาดแล้วกดฝ่ายตรงข้าม แก้ไขรัฐธรรมนูญ ไม่ให้ใครตรวจสอบได้ แต่ก็แรงต้านสูง อีกแบบคือ ปรองดองแบ่งปันอำนาจ เรื่องเก่าลืมๆ กันไป และมีสํญญาณบางอย่างที่รัฐบาลจะทำอย่างนี้
การเร่งคดีความนายอภิสิทธิ์ นายสุเทพ และกดดันไปที่ทหารด้วย เพื่อให้ยอมเข้าสู่กระบวนการนิรโทษกรรม รวมถึงพันธมิตรฯ หลังจากนี้ก็อาจมีคำพิพากษาแปลกๆ หรือเร่งคดีความบางอย่าง เพื่อให้ทุกฝ่ายเข้าสู่การปรองดอง ตรงกับทางเลือกที่ 2 คือ รวบรวมอำนาจเบ็ดเสร็จเด็ดขาดโดยอาศัยความปรองดองเป็นเครื่องมือ คิดว่าคงชักจูงประชาธิปัตย์ไม่ยาก เพราะการประกันตัวเสื้อแดงก่อนนี้ก็แสดงได้ว่าไม่อยากเผชิญหน้า แต่พันธมิตรฯ ไม่ยอมแน่ จะรักษาหลักนิติรัฐต่อไป
รศ.ดร.พิชายกล่าวว่า ช่วงนี้สถานการณ์อ่อนไหวมากคือการหมิ่นพระบรมเดชานุภาพ ที่มีมากเป็นพิเศษอย่างที่ไม่เคยเป็นมาก่อน มันกระทบความรู้สึกต่อคนที่จงรักภักดีมาก ความรู้สึกอย่างนี้ได้แพร่กระจาย สร้างความโกรธเคือง ขุ่นแค้นมากขึ้น และจะพาไปสู่ความรุนแรงได้ถ้าไม่สามารถบล็อกพวกเว็บหมิ่นฯได้
ตอนนี้ พ.ต.ท.ทักษิณถือไพ่เหนือคนอื่นเพราะสามารถกุมอำนาจรัฐได้เกือบทุกฝ่าย ร.ต.อ.เฉลิมเร่งคดี ชี้นำกระบวนการยุติธรม กดดันทหาร กดดันเจ้าหน้าที่รัฐ กรณีลูกเรือจีน 13 คน ก็เป็นการเดินเกมทำลายความน่าเชื่อถือของกลุ่มทหาร และพ.ต.ท.ทักษิณยังมีไพ่มวลชน พร้อมที่จะออกมากดดัน เรียกร้องสิ่งที่เขาต้องการ เส้นทางแรกผ่านสภาโดยตรง มี ร.ต.อ.เฉลิมเป็นแกนนำ เส้นทางที่สอง อาจมาประกบกัน ให้แกนนำแดงล่ารายชื่อเสนอกฎหมายนิรโทษกรรมเข้ามาอีกแรงหนึ่ง สามผ่านกรรมาธิการปรองดอง ซึ่งอันนี้มีสัญญาณค่อนขางชัดเจน
สามทางที่ พ.ต.ท.ทักษิณเล่น และอาจเอาต่างประเทศมากดดันด้วย อีกทั้งเว็บไซต์หมิ่นฯ อันนี้ก็อาจเป็นแรงกดดันอีกอัน ว่าถ้าอยากให้ยุติเรื่องนี้ ก็ต้องนิรโทษกรรม เสื้อแดงบางฝ่ายอาจเอามาผสมโรงเข้า ซึ่งอาจไม่เกี่ยวกับ พ.ต.ท.ทักษิณ เรียกว่า 4 ประสาน ที่จะดำเนินการไปจุดที่ปรองดอง
ส่วนการเร่งเร้าออกพาสปอร์ต พ.ร.บ.นิรโทษกรรม และ พ.ร.บ.กลาโหม การแตกหักก็จะเร็วขึ้น มีเงื่อนไขให้แตกหักหรือไม่ ก็มองว่า พ.ต.ท.ทักษิณอยากให้ชนะก่อน พ.ค. ก็เพราะว่าบ้านเลขที่ 111 คน จะออกมาแล้ว คนเหล่านี้ก็เดินเข้าสู่เส้นทางการเมือง หลายคนมีความเชี่ยวชาญ มีบทบาท การกุมอำนาจทางการเมืองแบบตอนนี้คงไม่ง่าย ถ้าไม่เบ็ดเสร็จเด็ดขาด เสี่ยงที่ พ.ต.ท.ทักษิณจะถูกบทบาทจะลดลง แต่ถ้าทำเสร็จก่อนและได้มาอยู่ในเมืองไทย จะควบคุมสิ่งต่างๆ ได้ง่ายขึ้น แต่การที่เขายิ่งเร่งก็ยิ่งเสี่ยง และจะยิ่งแพ้