โฆษกพันธมิตรฯ เตือน หากรัฐบาลตระบัดสัตย์ออก พ.ร.ฎ.อภัยโทษเอื้อ “ทักษิณ” อยู่ไม่ได้แน่ แนะประชาชนเกาะติดการออก พ.ร.ฎ. หากนอกทางที่ “ประชา” ประกาศไว้ ยกระดับขับไล่ทันที ไม่หวั่นปะทะม็อบเชียร์รัฐบาล เหตุเป็นหน้าที่ของฝ่ายบริหารต้องดูแล แต่หากรู้เห็นเป็นใจพังแน่ “ยิ่งลักษณ์” จะไร้แผ่นดินอยู่ตามรอยพี่ชาย แกนนำฯ เตรียมแถลงข่าวย้ำท่าที บ่าย 2 นี้
นายปานเทพ พัวพงษ์พันธ์ โฆษกพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย เปิดเผยว่า หลังจากที่ พล.ต.อ.ประชา พรหมนอก รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม ออกมาแถลงยืนยันว่าจะยังคงใช้ร่าง พ.ร.ฎ.พระราชทานอภัยโทษ ตามฉบับ พ.ศ. 2553 ที่รัฐบาลพรรคประชาธิปัตย์ได้ทำไว้ ซึ่งถือว่าเป็นร่างที่เคยมีพระบรมราชโองการโปรดเกล้าฯ มาแล้ว จึงเห็นว่าเป็นเรื่องของพระราชอำนาจโดยตรง ในส่วนของการเคลื่อนไหวคัดค้านสิ่งที่รัฐบาลจะถวายคำแนะนำอย่างไม่ถูกต้องก็จะไม่เกิดขึ้นในเงื่อนไขนี้ เมื่อเป็นเช่นนั้นแล้วเราจึงเห็นว่ายังไม่มีความจำเป็นที่จะไปหน้าสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาตามที่นัดหมายไว้เดิม
“แม้จะยังไม่มีความชัดเจน แต่ก็ต้องถือว่าเป็นสัญญาณแรกที่รัฐบาลประกาศอย่างชัดเจนว่า จะไม่มีร่างกฎหมายที่เอื้อประโยชน์ให้กับคุณทักษิณ ชินวัตร หลังจากนี้เราก็ต้องเฝ้าระวังว่าสิ่งที่จะเกิดตามมาเป็นไปตามที่คุณประชาได้พูดไว้หรือไม่ ทั้งในขั้นตอนการประชุมคณะรัฐมนตรี หรือการยื่นกฎหมายอื่นให้กฤษฎีกาฯ พิจารณาต่อไป เราจะติดตามอย่างใกล้ชิด”
นายปานเทพกล่าวว่า อย่างไรก็ตาม เมื่อเห็นว่ามีประชาชนได้ทยอยเดินทางเข้าร่วมการชุมนุมแล้ว หลายคนมาจากต่างจังหวัด จึงได้ปรับเปลี่ยนรูปแบบมาจัดกิจกรรมย่อยเพื่อพบปะสังสรรค์ที่เวทีกลางแจ้ง บ้านเจ้าพระยาแทน โดยถือโอกาสนี้ทำความเข้าใจและอธิบายให้ชัดเจนว่ายุทธวิธีของพันธมิตรฯ เป็นอย่างไรต่อไปในอนาคต บวกกับสภาพการเมืองในปัจจุบัน สลับกับการปราศรัยของแกนนำ และการแสดงดนตรีต่างๆ
ทั้งนี้ ขอย้ำว่าการที่พันธมิตรฯประกาศชุมุนม หรือยุติการชุมนุม เป็นไปตามสัจวาจาที่เราเคยให้ไว้ เกี่ยวกับเงื่อนไขที่ทำให้พันธมิตรฯออกมาชุมนุม 2 ข้อ คือ มีกระบวนการจาบจ้วงทำลายสถาบันพระมหากษัตริย์ และมีกระบวนการที่จะนิรโทษกรรมให้กับ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี เมื่อรัฐบาลถอยกลับตัว เราก็ถือว่าหมดเงื่อนไขในเรื่องนี้
ผู้สื่อข่าวถามว่า หากผลสุดท้ายไม่เป็นไปตามที่ พล.ต.อ.ประชาได้ประกาศไว้ พันธมิตรฯ จะมีการเคลื่อนไหวอย่างไรหรือไม่ นายปานเทพกล่าวว่า เชื่อว่าจะทำให้เงื่อนไขร้ายแรงขึ้น เพราะหากสิ่งที่ พล.ต.อ.ประชาพูดไว้แล้วไม่เป็นความจริง อย่างกรณีมีการยื่นต่อสำนักงานกฤษฎีกาฯ ไม่ตรงกับที่แถลงไว้ เชื่อว่าประชาชนจะรู้ได้เอง เพราะว่าความลับไม่มีในโลก รัฐบาลอาจจะเก็บความลับได้ในที่ประชุมคณะรัฐมนตรี แต่เมื่อส่งต่อไปยังหน่วยงานอื่น ความลับก็จะหมดไปทันที สุดท้ายทุกคนจะรู้และความชอบธรรมของรัฐบาลจะลดลงอย่างมาก
“การตระบัดสัตย์ การให้ข้อมูลเป็นเท็จ และการดำเนินการที่ทำให้ประชาชนหลงเข้าใจผิดในเรื่องของข้อมูลที่เกี่ยวข้องกับพระราชอำนาจ หรือมีการถวายคำแนะนำที่ไม่ถูกต้อง จะทำให้รัฐบาลหมดความชอบธรรม และทำให้สถานภาพการชุมนุมมีความชอบธรรมมากขึ้น อาจถึงขั้นการยกระดับขับไล่รัฐบาลได้ในอนาคต” โฆษกพันธมิตรฯ กล่าว
ผู้สื่อข่าวถามว่า มีความเป็นห่วงการเคลื่อนไหวของมวลชนกลุ่มอื่นที่สนับสนุนรัฐบาล และอาจส่งผลให้เกิดการเผชิญหน้าระหว่างมวลชนด้วยกันหรือไม่ นายปานเทพกล่าวว่า ก็เป็นการออกแบบของทางรัฐบาล หากรัฐบาลตัดสินใจทำในสิ่งที่พันธมิตรฯประกาศเงื่อนไขไว้แล้ว ทั้งการอภัยโทษหรือนิรโทษกรรมให้ พ.ต.ท.ทักษิณ ถือเป็นหมากบังคับที่พันธมิตรฯ ต้องออกมาชุมนุม สำหรับกลุ่มอื่นที่จะออกมาชุมนุมหรือไม่นั้น ถือเป็นเรื่องที่รัฐบาลต้องตัดสินใจ หากรัฐบาลส่งเสริมให้มีการเผชิญหน้ากัน ก็เท่ากับว่ารัฐบาลตั้งใจที่จะทำให้เกิดความรุนแรงเกิดขึ้น
“หากมีการเผชิญหน้าเกิดเหตุความรุนแรงขึ้น โดยที่รัฐบาลรู้เห็นเป็นใจด้วย หรือจากมวลชนที่จัดตั้งโดยรัฐบาล รัฐบาลก็ต้องรับผิดชอบกับผลลัพธ์ที่เกิดขึ้นแต่เพียงผู้เดียว แน่นอนว่าหากเกิดขึ้นจริง รัฐบาลก็อยู่ไม่ได้ทุกรัฐบาล อย่าว่าแต่คุณทักษิณไม่มีแผ่นดินจะอยู่เลย คุณยิ่งลักษณ์ ชินวัตรก็จะตกอยู่ในสภาพเดียวกันด้วย คิดว่าไม่คุ้ม ดังนั้นรัฐบาลต้องทบทวนเรื่องนี้ให้ดี” นายปานเทพกล่าวในที่สุด
ทั้งนี้ พันธมิตรฯ จะแถลงข่าวอย่างเป็นทางการอีกครั้งวันนี้ (21 พ.ย.) เวลา 14.00 น. ที่บ้านพระอาทิตย์