“ประพันธ์” แจง “สุพจน์” มีความสัมพันธ์กับนักการเมืองมายาวนานหลายสมัย เป็นมือขวาคนสำคัญของ “ศรีสุข” ซึ่งรู้กันดีว่าเขมือบผลประโยชน์สนามบินสุวรรณภูมิในสมัย “แม้ว” จำนวนมหาศาล แนะต้องดูที่มาของเงินทั้งหมดอย่าเจาะจงแค่เรื่องรถไฟฟ้า ด้าน “สุวัตร” ชี้หากถูกตัดสินว่าจงใจปกปิดทรัพย์สินและหนี้สิน มีโทษทางอาญา ต้องติดคุก
วันที่ 29 พ.ย. นายประพันธ์ คูณมี อดีตสมาชิกสภานิติบัญญัติแห่งชาติ และนายสุวัตร อภัยภักดิ์ ทนายความพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย ได้ร่วมรายการ “คนเคาะข่าว” พูดคุยในประเด็น “คมนาคมพันล้าน”
นายประพันธ์กล่าวว่า ถึงวันนี้พอที่จะฟังได้โดยปราศจากข้อสงสัยแล้วว่าเป็นเงินที่ได้มาโดยสุจริต บทความของนายปานเทพ ก็แสดงให้เห็นแล้วว่าเป็นเงินมาตั้งแต่สมัยปี 2552 เกี่ยวข้องเมกะโปรเจกต์ในกรมทางหลวง เป็นบ่อเงินบ่อทอง กับ รฟม. และปลัดคมนาคมมักได้เป็นประธานบอร์ด รฟม. ถ้าดูจากข้อเท็จจริงแล้วเชื่อมโยงกับบริษัทรับเหมาก่อสร้างยักษ์ใหญ่ ซึ่งได้รับประมูลสร้างรถไฟฟ้าสายสีม่วง ส่วนสายสีน้ำเงินยกเลิกไป
แต่เรื่องเงินที่ได้มากับสาเหตุการปล้นเป็นคนละกรณีกัน ตนได้ข้อมูลมาจากผู้รู้ที่น่าเชื่อถือได้คนหนึ่ง บอกว่านายสุพจน์เป็นคนอยุธยา และเหตุที่เงินขณะถูกปล้นวางไว้เป็นกระเป๋าระเกะระกะในบ้าน นั่นก็เพราะว่าเพิ่งถูกขนหนีน้ำมาจากอยุธยา ในระหว่างขนส่งคนใกล้ชิดคงรู้เลยฉวยโอกาสปฏิบัติการ
เลยโยงไปถึงสาเหตุว่าทำไมไม่ยอมให้น้ำท่วมสุพรรณบุรี อันนี้เป็นข้อเท็จจริงไม่ใช่เรื่องขำ แสดงว่าข้าราชการ นักการเมือง เก็บเงินที่โกงมาไว้ที่บ้าน ฝากธนาคารไม่ได้เพราะมันเป็นจำนวนมหาศาล และการที่ห้ามน้ำท่วมสุพรรณฯ ก็ไม่ได้กลัวว่าน้ำจะท่วมที่นา แต่กลัวท่วมเงินที่เก็บไว้มากกว่า
นายประพันธ์กล่าวต่อว่า ดูที่มาของนายสุพจน์ใกล้ชิดนักการเมืองหลายสมัย ตั้งแต่นายบรรหารเป็นนายกฯ ก็เป็นวิศวะกรมทางหลวง ตัดถนนสุพรรณบุรี-ตลิ่งชัน ผลงานเข้าตาผู้ใหญ่ มาสมัยนายสมัครก็ได้เป็นอธิบดีกรมทางหลวง และได้เป็นปลัดคมนาคมในยุคนายโสภณ ซารัมย์
โดยก่อนที่จะเป็นอธิบดีกรมทางหลวง นายสุพจน์เป็นมือขวาคนสำคัญของนายศรีสุข จันทรางศุ นายศรีสุขเป็นอธิบดีกรมทางหลวง ต่อมาเป็นปลัดคมนาคม และมาเป็นประธานบอร์ดท่าอากาศยานฯ และได้เป็นประธานคณะกรรมการปรับปรุงแบบรายละเอียดอาคารผู้โดยสารท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ ช่วยบริษัท อิตัลไทย ตอนที่เป็นประธานไม่ได้เอาอธิบดีกรมทางหลวงมาเป็นเลขาฯ แต่เอานายสุพจน์ ทรัพย์ล้อม ซึ่งเป็นรักษาการวิศวกรโยธา 9 มาเป็นเลขานุการ และกรรมการ แสดงว่าเส้นทางของนายสุพจน์เขารับใช้ฝ่ายการเมือง และรับใช้นายศรีสุขมาตั้งแต่ต้น และนายศรีสุขช่วยผลักดันให้เขาได้เป็นอธิบดีกรมทางหลวง และปลัดคมนาคม เกี่ยวข้องกับนักการเมือง นักธุรกิจการเมืองมาโดยตลอด เงินที่มีนี่ต้องติดตาม เขาไม่ได้มีส่วนแค่เรื่องรถไฟฟ้าเท่านั้น เพราะท่าอากาศยานเป็นเมกะโปรเจกต์ใหญ่ที่สุด
แม้ยุคนายสุเทพก็เกี่ยวข้องในการทำโลคัลโรด ฉะนั้นงานใหญ่ๆ จนกระทั่งรถไฟฟ้าต่างๆก็เกี่ยวข้องหมด ซึ่งจากการตรวจสอบของ คตส.-ป.ป.ช. ยุคนายศรีสุขเป็นประธานบอร์ดท่าอากาศยาน ยุคนั้นนายทักษิณเป็นนายกฯ มีเรื่องราวการทุจริตคอร์รัปชันมากที่สุด หลายหมื่น แสนล้าน
วันนี้เรื่องปล้นอาจเป็นสาเหตุหนึ่งที่อธิบดีคนหนึ่งถูกโกงเลยมาเอาเงินคืน หรือการเมืองปัจจุบันที่ต้องการเปลี่ยนปลัด เลยเล่นงานแถมได้เงินด้วย อีกทั้งยังได้ส่งเกมการเมืองไปยังรัฐบาลในอดีตด้วย ตนให้น้ำหนักกับสองกรณีนี้
แต่เรื่องฝ่ายการเมืองในอดีตส่งคนมาปล้นเพราะปลัดเบี้ยว ตนไม่เชื่อ เพราะนักธุรกิจไม่มีใครจ่ายเงินผ่านปลัด เขาจ่ายตรงกับฝ่ายการเมืองเลย หรือประเด็นปลัดเบี้ยวพ่อค้า พ่อค้าเลยส่งคนมาปล้น ตนคิดว่าพ่อค้าไม่กล้าเล่นบทโจร เขามีวิธีอย่างอื่นจัดการ
นายประพันธ์กล่าวต่อว่า ที่ ร.ต.อ.เฉลิมพูดให้เกี่ยวโยงสีเขียว อาจต้องการให้เห็นว่าเงินมาจากรถไฟฟ้า ทั้งๆ ที่เพิ่งมีประมูลแค่สายสีม่วง พยายามพูดเรื่องนี้โยงไปภูมิใจไทย ขยายประเด็นเล่นงานฝ่ายตรงข้าม เรื่องรถไฟฟ้าสายสีเขียวไม่มี ถ้ามีก็แค่สีม่วง หรือสีเขียวอาจจะคนที่เป็นอดีตสีเขียว เป็นผู้มีอิทธิพล อาจเกี่ยวที่ว่าคนที่ใช้มาปล้นไปใช้บริการคนกลุ่มนี้ ซึ่งอาจเป็นฝ่ายการเมืองปัจจุบัน หรืออธิบดีท่านหนึ่ง ซึ่งคนที่มาปล้นก็คล้ายๆลูกน้องคนมีสี เรื่องนี้น่าจะเป็นประเด็นนี้มากกว่า
ด้าน นายสุวัตรกล่าวว่า ดูประวัติย้อนหลังทั้งเงินเดือน เบี้ยประชุม โดยไม่หักค่าใช้จ่าย ตลอดอายุการรับราชการของนายสุพจน์ ไม่มีทางที่จะมีเงินมากขนาดนี้ได้ นายสุพจน์จะติดคุกก็เพราะว่าล่าสุด ปปง. (คณะกรรมการป้องกันการฟอกเงิน) และ ป.ป.ช.(คณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ) ก็เข้าไปแล้ว จากการตรวจสอบเงินที่ได้มา มีความผิด 2 ประการในกฎหมาย ป.ป.ช. 1.จงใจยื่นบัญชีแสดงรายการทรัพย์สินและหนี้สิน และเอกสารประกอบข้อความอันเป็นเท็จ ถ้าไม่เคยชี้แจงเงินก้อนนี้มาก่อนเลย จะโดนข้อนี้ หรือ 2.จงใจปกปิดทรัพย์สินและหนี้สิน อันนี้มีโทษทางอาญา ติดคุก
โจรพวกนี้ใครสักคนมาหาตน จะช่วยว่าความให้ฟรี ขอเสนอให้กันโจรเป็นพยานเลย ส่วนโก้ วีระศักดิ์ หัวหน้าแก๊ง ที่หนีไป ไม่ต้องตามล่า แค่ไปหาว่าเอาเงินไว้ที่ไหน ตอนนี้ได้มา 18 ล้านแล้ว ได้อีกส่วนก็จะเป็น 118 ล้าน ส่วนนี้ก็จะได้ตกเป็นของแผ่นดิน
นายสุวัตรกล่าวอีกว่า ส่วนกรณีการพ้นสมาชิกภาพ ส.ส.ของนายจตุพร ส่งเรื่องไปศาลรัฐธรรมนูญ ก็ไม่รอด มันชัดเจนไม่ต้องตีความมาก แต่ไม่ขอชื่นชม กกต. เพราะปล่อยเรื่องให้ยืดยาวมาถึงขนาดนี้