xs
xsm
sm
md
lg

“อภิสิทธิ์” ไม่หนักใจแจงคดีสมรภูมิคอกวัว ยันขอคืนพื้นที่ตามหลักสากล

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ อดีตนายกรัฐมนตรีไปให้ปากคำกับเจ้าหน้าที่ตำรวจกรณีการสลายการชุมนุมคนเสื้อแดงเมื่อปี 2553
“มาร์ค” เผย เตรียมเอกสารแจงคดีสมรภูมิคอกวัวแล้ว รอ ตร.สอบประเด็นไหนบ้าง ชี้ “เทือก” แจงรับผิดคนเดียวแค่พูดตามโครงสร้าง ยันแนวปฏิบัติการชัดขอคืนพื้นที่จราจร ย้ำปฏิบัติตามหลักสากลจากเบาไปหาหนัก ยันไม่หนักใจชี้แจง จี้ “เฉลิม” เลิกจ้อชี้นำ


วันนี้ (9 ธ.ค.) ที่โรงแรมดิ เอมเมอรัลด์ ถ.รัชดาฯ นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ ในฐานะอดีตนายกฯ ให้สัมภาษณ์ภายหลังเป็นองค์ปาฐกในหัวข้อ “Keynote Speaker at the 6th Communications Policy Research South” ถึงกรณีที่ที่จะเข้าชี้แจงกับเจ้าหน้าที่ตำรวจนครบาลเกี่ยวกับเหตุการณ์กระชับพื้นที่บริเวณแยกคอกวัว เมื่อวันที่ 10 เม.ย.2553 ว่า ตนได้เตรียมเอกสารที่เกี่ยวข้องซึ่งจะได้ชี้แจงการดำเนินการในภาพรวม ตั้งแต่ตัวเหตุการณ์จนนำมาสู่การประกาศใช้ พ.ร.ก.ฉุกเฉิน และเหตุการณ์เมื่อวันที่ 10 เม.ย.ว่า ความมุ่งหมายในการขอพื้นที่การจราจรคืน และการดำเนินการเป็นอย่างไร นอกจากนั้น ก็ขึ้นอยู่กับพนักงานสอบสวน ว่า จะสอบถามในประเด็นใดบ้าง ซึ่งโครงสร้างการทำงานในช่วงที่มีการประกาศใช้ พ.ร.ก.ฉุกเฉิน นายสุเทพ เทือกสุบรรณ อดีตรองนายกฯ เองก็ได้อธิบายไปแล้วส่วนหนึ่ง ว่า ตนในฐานะผู้ลงนามและออกข้อกำหนด จากนั้นเมื่อแต่งตั้ง ศอฉ.แล้วก็มีโครงสร้าง มีตัวกรรมการ มี ผอ.มีหัวหน้าผู้รับผิดชอบ ผู้กำกับการปฏิบัติการ ซึ่งขณะนั้นคือ นายสุเทพ โดยการปฏิบัติและเรื่องของยุทธการนายสุเทพ เป็นผู้ลงนามในคำสั่ง และตนจะรับทราบรายงานในเรื่องของเหตุการณ์และดูภาพรวมของการแก้ไขปัญหา

“การที่คุณสุเทพ ให้ข้อมูลว่าเป็นผู้รับผิดชอบคนเดียว เป็นการพูดตามโครงสร้าง ที่สำคัญคือ คุณสุเทพ ได้ชี้แจงถึงการปฏิบัติการและแนวคิดว่าชัดเจน เป็นการขอคืนพื้นที่จราจร โดยทุกคำสั่งที่ลงนามคุณสุเทพ ก็เล่าให้ผมฟังย้ำว่า เจ้าหน้าที่ของรัฐต้องปฏิบัติกับประชาชนอย่างไร ต้องมองว่าเป็นประชาชนคนไทย ไม่ใช่ศัตรูและปฏิบัติตามหลักสากล การปฏิบัติทั้งหลายก็อิงกับคำวินิจฉัยของศาลในเรื่อง ความไม่ชอบด้วยกฎหมายของการชุมนุม และหลักการในการปฏิบัติเพื่อเข้าไปแก้ไขปัญหา” นายอภิสิทธิ์ กล่าว

ผู้สื่อข่าวถามว่า คิดอย่างไรที่คำพูดของนายสุเทพ เป็นการปกป้องนายอภิสิทธิ์ อดีตนายกฯ กล่าวว่า นายสุเทพ พยายามที่จะแสดงออกถึงความรับผิดชอบในส่วนของการทำงานของตัวเอง และทุกคนก็รู้จักนายสุเทพ ดีว่าเป็นคนพร้อมที่จะรับผิดชอบ ซึ่งตนก็ขอบคุณถ้ามองว่าเป็นเรื่องปกป้อง ถ้าที่สุดแล้ว ทุกอย่างต้องเป็นไปตามความจริง ซึ่งตนมั่นใจว่า สิ่งที่นายสุเทพ พร้อมรับผิดชอบนั้น ได้ใช้ความระมัดระวังโดยยึดหลักสากลชัดเจน ทั้งนี้ ยังไม่รู้ว่า การสอบสวนของพนักงานจะไปยุติที่ตรงไหน แต่การทำงานของรัฐบาลในขณะนั้น ต้องอยู่กับคำพิพากษาของศาล เมื่อมีการชุมนุมที่ไม่ชอบด้วยกฏหมายและศาลก็บอกว่า เป็นอำนาจหน้าที่ในการรักษาความสงบเรียบร้อยของบ้านเมือง ก็ได้ให้เจ้าหน้าที่ปฏิบัติตามหลักสากล มีกฎการใช้กำลัง มีหลักการว่า ต้องใช้มาตรการจากเบาไปหาหนัก ซึ่งรายละเอียดทั้งหมด นายสุเทพ ได้ชี้แจงไปแล้ว

“ผมไม่หนักใจกับการชี้แจงในวันนี้เพราะผมมั่นใจว่าในที่สุดแล้ว ข้อเท็จจริงจะเป็นที่เข้าใจและเป็นที่ยอมรับในสังคมนี้ ผมไปให้ปากคำก็คงต้องดูว่าพนักงานสอบสวนอยากรู้อะไร คงไปพูดตามใจชอบไม่ได้ ซึ่งที่พนักงานสอบสวนอ้างมา ระบุว่า มีพยานอ้างอิงว่าเหตุการณ์เกิดขึ้นเป็นผลปฏิบัติจากเจ้าหน้าที่ตามคำสั่งการของนายสุเทพ ซึ่งผมยืนยันว่า ไม่ใช่แน่นอน กับสิ่งที่เกิดขึ้น” นายอภิสิทธิ์ กล่าว

นายอภิสิทธิ์ ยังฝากไปถึง ร.ต.อ.เฉลิม อยู่บำรุง ที่ให้สัมภาษณ์เรื่องนี้มาโดยตลอดว่า ร.ต.อ.เฉลิม ไม่ควรให้สัมภาษณ์ในเรื่องนี้ เพราะไม่ทราบว่า เกี่ยวข้องอย่างไร อีกทั้งเนื้อหาที่พูดก็ไม่อยู่ในกรอบของการสอบสวน ดีที่สุดควรจะอยู่เฉยๆ ให้เจ้าหน้าที่ได้ทำหน้าที่จะดีกว่า ไม่จำเป็นต้องให้สัมภาษณ์เพราะจะทำให้เจ้าหน้าที่รู้สึกว่าถูกกดดัน หรือชี้นำได้
กำลังโหลดความคิดเห็น