xs
xsm
sm
md
lg

กฤษฎีกาเคยขวางรัฐบาลแล้ว ไม่เห็นด้วยออกกม.ช่วยทักษิณ

เผยแพร่:   โดย: MGR Online


ไม่ทำผิดกฎหมาย...ทำเพื่อคนๆเดียว

คำแก้ตัวที่คนในรัฐบาลโดยเฉพาะ “เป็ดเหลิม”ร.ต.อ.เฉลิม อยู่บำรุง รองนายกรัฐมนตรีผู้ทำหน้าที่รับผิดชอบเรื่องการออกพระราชกฤษฎีกาขอพระราชทานอภัยโทษของรัฐบาล นำมาโกหกปลิ้นปล้อนกับสังคม

หลังจากที่ความลับแตกถูกจับได้ว่า มีความพยายามช่วยเหลือ ทักษิณ ชินวัตร หัวหน้ารัฐบาลตัวจริง ที่หลบหนีคดีอาญาอยู่ต่างแดน ได้รับการอภัยโทษโดยไม่ต้องติดคุกและเป็นคดีความผิดฐานทุจริตได้กลับประเทศไทย

ด้วยการที่คณะรัฐมนตรีเห็นชอบพระราชกกฤษฎีกา (พ.ร.ฎ.) พระราชทานอภัยโทษพ.ศ.2554 เนื่องในวโรกาศวันมหามงคล 5 ธันวาคม 2554 ที่เอื้อประโยชน์ให้ทักษิณ ชินวัตร ผู้หลบหนีคดีตามหมายจับของศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมืองที่ตัดสินจำคุกสองปีทักษิณ ในคดีทุจริตที่ดินรัชดาฯ

ด้วยการตัดคุณลักษณะข้อยกเว้นบุคคลที่จะได้รับการอภัยโทษที่เดิม พระราชกฤษฎีกา (พ.ร.ฎ.) พระราชทานอภัยโทษพ.ศ.2553 สมัยรัฐบาลอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ ที่มีการระบุว่าให้ยกเว้นความผิดในคดียาเสพติดและทุจริตออกไป รวมถึงมีกระแสข่าวว่ามีการระบุไว้ด้วยว่าผู้จะได้รับการอภัยโทษไม่ต้องอยู่ในที่คุมขัง แต่ต้องมีอายุเกิน 60 ปีและโทษจำคุกไม่เกิน 3 ปี

จนถึงขณะนี้หลังความลับถูกเปิดเผย รัฐบาลก็ยังไม่ยอมชี้แจงข้อเท็จจริงถึงรายละเอียดของกฎหมายฉบับนี้ด้วยการอ้างว่า

เป็นความลับ -ยังไม่ได้ข้อยุติ

ต้องรอให้กระทรวงยุติธรรมและคณะกรรมการกฤษฏีกาส่งเรื่องกลับมายังรัฐบาลอีกครั้งก่อนนำขึ้นทูลเกล้าฯ

การไม่แจงทุกข้อสงสัยและทำให้ทุกอย่างหายคลุมเคลือทั้งที่เป็นหลักของการบริหารประเทศแบบธรรมาภิบาล คือทุกการใช้อำนาจของรัฐบาล ต้องโปร่งใส ตรวจสอบได้ ยิ่งเมื่อรัฐบาลท่องสูตรแก้ตัวไปแบบซื้อเวลาไปเรื่อยๆ ว่า

ไม่ทำผิดกฎหมาย.... ไม่ได้ทำเพื่อคนๆเดียว

แต่พฤติกรรมมันขัดแย้งกัน สิ่งนี้ก็ยิ่งทำให้สังคมยิ่งเห็นว่าเรื่องนี้ต้องมีความผิดปกติอย่างแน่นอน เพราะกระบวนการเสนอออกพ.ร.ฎ.ฉบับนี้มีความไม่ชอบมาพากลหลายอย่างที่ถูกสังคมจับ ได้ไล่ทัน

การไม่ยอมทำความจริงให้ปรากฏของคนในรัฐบาล จึงย่อมไม่ใช่สิ่งที่ถูกต้อง ไล่ตั้งแต่ “เป็ดเหลิม” ซึ่งนอกจากดูแลเรื่องการอภัยโทษแล้วยังทำหน้าที่ประธานการประชุมคณะรัฐมนตรีเมื่อ 15 พ.ย.ที่ผ่านมา รวมถึงคนที่เกี่ยวข้องอย่างพล.ต.อ.ประชา พรหมนอก รมว.ยุติธรรมและพ.ต.อ.สุชาติ วงศ์อนันต์ชัย อธิบดีกรมราชทัณฑ์ ที่ทักษิณส่งมารับตำแหน่งเพื่อทำภารกิจนี้โดยเฉพาะ ต่างปิดปากเงียบ

ในช่วงนี้ก็ต้องดูไปว่า ตอนจบของเรื่องนี้จะเป็นอย่างไร จะทำให้กระแสต่อต้านจากหลายฝ่ายมีมากน้อยขนาดไหนกับการทนไม่ได้ที่รัฐบาลออกกฎหมายโดยไม่ชอบเพื่อต้องการช่วยคนๆเดียวอย่างทักษิณ ชินวัตร แต่สิ่งนี้กำลังขยายผลเป็นเรื่องใหญ่ที่จะทำให้เป็นเชื้อไฟที่กำลังทำให้ประชาชนเกิดความขัดแย้งทางความคิดกันขึ้นแล้ว

ระหว่างฝ่ายสนับสนุนคือพวกเสื้อแดง-คนเลือกพรรคเพื่อไทยกับฝ่ายประชาชนหลายภาคส่วน ที่จะไม่ยอมให้ความไม่ถูกต้องครั้งนี้เกิดขึ้นได้ เพราะหากรัฐบาลกระทำสิ่งนี้สำเร็จ

มันคือชัยชนะของทักษิณ แต่คือความพ่ายแพ้พลังทางศีลธรรม ความพ่ายแพ้และสิ้นความศักดิ์สิทธิ์ของกระบวนการยุติธรรมไทย และความพ่ายแพ้ของประเทศไทย

เนื่องจากนับจากนี้ไป หากใครคิดจะทำชั่ว โกงกินปล้นชาติโกงแผ่นดิน ก็จะทำกันไปแล้วหากถูกจับได้ ก็ใช้อำนาจเงินอำนาจการเมืองมาซื้อความถูกต้องด้วยการทำลายหลักกฎหมายและความถูกต้องของประเทศ

ความเสื่อมของรัฐบาลที่กำลังมาถึงในตอนนี้โดยเฉพาะตัว ยิ่งลักษณ์ ชินวัตรที่สมรู้ร่วมคิดกับทักษิณ ด้วยการวางแผนทำลายหลัก นิติรัฐ-นิติธรรม ที่ยิ่งลักษณ์อ้างมาตลอดว่าจะทำงานการเมืองแบบยึดหลักนิติรัฐ-นิติธรรม แต่ลับหลังทำลายกฎเกณฑ์บ้านเมืองอย่างหน้าด้านเพื่อช่วยให้ทักษิณรอดพ้นความผิดกลับมาประเทศไทย

เมื่อรัฐบาลชั่ว ผู้นำไร้ยางอาย กระทำการเยี่ยงนี้ ถ้าเรื่องนี้สำเร็จ สงสัยที่พูดกันว่า คุกมีไว้ขังหมา ก็ท่าจะจริง

กระบวนการหลังจากนี้ มีข่าวว่ารัฐบาลกำลังเร่งรีบอย่างหนัก เพื่อให้ทุกอย่างทัน “เส้นตาย”ก่อน 5 ธันวาคม 2554 แม้ “เป็ดเหลิม”จะอ้างว่า ยังเหลือขั้นตอนอีกมากเช่นต้องส่งให้กระทรวงยุติธรรมที่มีกรรมการกลั่นกรองเรื่องนี้พิจารณาอีกครั้งก่อน แล้วก็ต้องส่งให้คณะกรรมการกฤษฎีกาตรวจสอบร่างพระราชกฤษฏีกาดังกล่าวว่ามีข้อคิดเห็นอย่างไร เห็นด้วยหรือไม่

จากนั้นถึงค่อยเอากลับมาเข้าที่ประชุมครม.เพื่อส่งเรื่องไปตามขั้นตอนของการขอพระราชทานอภัยโทษก็คือครม.ต้องส่งเรื่องผ่านสำนักราชเลขาธิการและจากนั้นก่อนนำเรื่องขึ้นทูลเกล้าฯก็ต้องให้คณะองคมนตรีพิจารณาตรวจสอบก่อน ซึ่งเรื่องที่มีความสำคัญเช่นนี้ ก็คาดว่าอาจมีการเรียกประชุมองคมนตรีทั้งหมดเพื่อถามความเห็นในข้อกฎหมายจากองคมนตรีหลายคนเสียก่อน

กระนั้นกระบวนการของคนหลายกลุ่มที่มีการแสดงความเห็นในเชิงข้อกฎหมายและข้อเท็จจริง นอกจากเรียกร้องให้รัฐบาลชี้แจงเรื่องนี้ให้กระจ่างมากกว่านี้โดยเฉพาะควรมีการเปิดเผยร่างพระราชกฤษฎีกาดังกล่าวต่อสังคมทั้งหมด

อีกส่วนหนึ่งก็เห็นว่า สามารถยับยั้งและตรวจสอบเรื่องนี้เป็นกรณีเร่งด่วน ผ่านช่องทางกฎหมาย

เช่น ข้อคิดเห็นที่ว่าการที่รัฐบาลจะเสนอร่างพระราชกฤษฎีกาดังกล่าวโดยให้รวมถึงผู้กระทำความผิดในคดียาเสพติดและคอรัปชั่นด้วย ถือว่าขัดกับกฏหมายอภัยโทษอย่างชัดเจน ประชาชนสามารถยื่นเรื่องต่อศาลปกครองให้วินิจฉัยได้ตามมาตรา 3 กับมาตรา 11 (2) ของ พ.ร.บ.จัดตั้งศาลปกครองและวิธีพิจารณาคดี 2542 เพื่อให้ศาลปกครองสูงสุงวินิจฉัยให้ยกเลิกได้

หรือการจะล่าชื่อประชาชนและล่าชื่อสมาชิกรัฐสภาเพื่อยื่นถอดถอนรัฐมนตรีทั้งคณะที่ร่วมประชุมเห็นชอบพระราชกกฤษฎีกา (พ.ร.ฎ.) พระราชทานอภัยโทษพ.ศ.2554 อันอาจจะเป็นการยับยั้งให้รัฐบาลหยุดความคิดนี้ก่อนจะสำเร็จ

รวมถึงการเคลื่อนไหวขององค์กรภาคประชาชน หลายกลุ่มที่กำลังรอดูท่าทีในเรื่องนี้อยู่อย่างกลุ่มพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย ซึ่งก็มีประชาชนจำนวนมากประกาศแล้วว่าพร้อมจะออกมาเป็นแนวร่วมด้วยเพราะทนเห็นรัฐบาลชั่วกระทำการล่วงละเมิดพระราชอำนาจไม่ไหวแล้ว

การเคลื่อนไหวของภาคประชาชนที่ จะเกิดขึ้น จึงเป็นอีกหนึ่งความตื่นตัวของคนไทยที่อาจจะเป็นความหวังเล็กๆให้กับคนที่รักความถูกต้องได้ร่วมกันเป็นพลังที่จะต่อต้านความชั่วของนักการเมืองในรัฐบาลชุดนี้

ขณะ ที่ฝ่ายผู้เกี่ยวข้องกับกระบวนการดังกล่าว อย่างคณะกรรมการกฤษฏีกา หรือคณะองคมนตรี ก็อยู่ที่ตัวกรรมการกฤษฏีกาและองคมนตรีแต่ละท่านว่าจะมีความคิดเห็นอย่างไร เมื่อมีการส่งเรื่องนี้ไปให้พิจารณา

ความเห็นของกรรมการกฤษฏีกาแม้อาจจะไม่ผูกพันกับฝายบริหาร แต่หากกฤษฏีกามีความเห็นไม่เห็นด้วยกับร่างพ.ร.ฎ.ดังกล่าวของรัฐบาลแล้วบอก เรื่องนี้ให้สังคมรับทราบอีกทั้งทำความเห็นไปถึงรัฐบาลเป็นลายลักษณ์อักษร ก่อนที่รัฐบาลจะกระทำสิ่งนี้ ก็เป็นการทำให้รัฐบาลหมดความชอบธรรมที่จะออกกฎชั่วนี้ได้

อย่างไรก็ดี ก่อนหน้านี้มีข่าวว่าคนในรัฐบาลถามความเห็นคนในกฤษฎีกาบางคนด้วยวาจา 2 ครั้งโดยมีการเอาร่างพ.ร.ฎ.ดังกล่าวไปให้ดูว่าเห็นอย่างไร ซึ่งคนในกฤษฎีกาที่มีคนในรัฐบาลไปถามความเห็น ก็ให้ทัศนะในข้อกฎหมายมาว่า

หลังตรวจดูร่างที่รัฐบาลจะเสนอแล้ว ไม่เห็นด้วยกับคุณสมบัติของผู้จะได้รับการอภัยโทษ แต่จะนำไปปรึกษาหารือกันในที่ประชุมกรรมการกฤษฏีกา แล้วก็มีข่าวว่ามีการปรับปรุงแก้ไขรายละเอียดกัน

จนสุดท้ายออกมาเป็นร่างพ.ร.ฎ.ลับที่ยังถูกปกปิดจนถึงทุกวันนี้
กำลังโหลดความคิดเห็น