รองโฆษก ปชป.จี้ “ทักษิณ” สั่ง “อัมสเตอร์ดัม-นิติราษฎร์” หยุดการเคลื่อนไหวสร้างความปั่นป่วน ซ้ำเติมประเทศ ท่ามกลางวิกฤตรุนแรงจากอุทกภัย เตือนรัฐบาลปล่อยทนายทักษิณเคลื่อนไหวจะถูกตั้งคำถามถึงทัศนคติต่อสถาบัน ตำหนิ “สุนัย จุลพงศธร” ใช้กลไกสภาฯ รับใช้ “เครือข่ายทักษิณ” อย่างน่ารังเกียจ “เฉลิม” ป้องทนายหัวแดง อ้างไม่ได้มาป่วน โวคดี 13 ศพใกล้จบแล้ว ปัดดึงคดีเพราะกลัวชนกองทัพ
นายอรรถพร พลบุตร ส.ส.เพชรบุรี รองโฆษกพรรคประชาธิปัตย์ แถลงเรียกร้องให้ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร ระงับการเคลื่อนไหวของเครือข่ายคนเสื้อแดง โดยเฉพาะอย่างยิ่งการเคลื่อนไหวของนายโรเบิร์ต อัมสเตอร์ดัม ทนายความส่วนตัว และคณะนิติราษฎร์ เพราะในขณะนี้ประเทศไทยต้องการความเป็นเอกภาพเพื่อร่วมแก้ไขภาวะวิกฤตจากอุทกภัยมากกว่าความขัดแย้งเพื่อประโยชน์ส่วนตัว
“วันนี้รัฐบาลของ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ก็แทบจะหมดสภาพสำหรับการแก้ไขวิกฤตน้ำท่วมอยู่แล้วและสถานการณ์ของประเทศจะยิ่งวิกฤตหนักขึ้นจากภาวะข้าวยากหมากแพงที่จะเกิดตามมาจนกลายเป็นภาวะทุพขภิกภัย จึงเป็นหน้าที่ของคนทุกฝ่าย ไม่ว่าจะเป็นรัฐบาลหรือฝ่ายค้าน และทุกสีเสื้อที่จะร่วมกันแก้ไขสถานการณ์และช่วยเหลือเยียวยาผู้ประสบภัยโดยไม่เลือกข้าง ไม่เช่นนั้นประเทศไทยจะพบกับวิกฤตการณ์ที่ร้ายแรงอย่างยิ่งในระยะ 2-3 เดือนจากนี้ เครือข่ายของระบบทักษิณจึงควรหันมาผนึกกำลังแก้ไขวิกฤตนี้มากกว่าจะตอกย้ำความแตกแยกให้รุนแรงขึ้น” นายอรรถพรกล่าว
รองโฆษกพรรคประชาธิปัตย์ยังกล่าวอีกว่า โรเบิร์ต อัมสเตอร์ดัม ทนายความของ พ.ต.ท.ทักษิณ ถูกข้อกล่าวหากระทำผิดกฎหมายไทย โดยถูกกล่าวโทษต่อเจ้าหน้าที่ตำรวจเมื่อวันที่ 19 ก.พ. 2554 ใน 2 ข้อหา คือ กระทำความผิดในข้อหาหมิ่นพระบรมเดชานุภาพ ตามมาตรา 112 ของประมวลกฎหมายอาญา และถูกแจ้งข้อหาดูหมิ่นศาลสถิตยุติธรรม ตามมาตรา 198 ตามประมวลกฎหมายอาญา แต่กลับเคลื่อนไหวในประเทศไทยเหมือนเป็นแขกผู้ทรงเกียรติของรัฐบาล กรณีนี้รัฐบาล น.ส.ยิ่งลักษณ์จึงสุ่มเสี่ยงที่ถูกตั้งคำถามถึงทัศนคติที่มีต่อสถาบันเบื้องสูงและระบบยุติธรรม
นายอรรถพรยังกล่าวตำหนิ นายสุนัย จุลพงศธร ประธานคณะกรรมาธิการการต่างประเทศ สภาผู้แทนราษฎร ที่ได้เชิญนายโรเบิร์ต อัมสเตอร์ดัม เข้าชี้แจงกรณีปัญหาสิทธิมนุษยชนในประเทศไทย โดยนายอรรถพรกล่าวว่า นายสุนัยใช้กลไกของสภาผู้แทนราษฎรเพื่อรับใช้ พ.ต.ท.ทักษิณอย่างน่ารังเกียจ และนี่คือเหตุผลที่นายสุนัยได้รับความไว้วางใจให้เป็นประธาน กมธ.ต่างประเทศโดยข้ามหัว ส.ส.ที่มีความเหมาะสมและอาวุโสในพรรคเพื่อไทยเป็นจำนวนมาก
“สิ่งที่นายสุนัยในฐานะประธานกรรมาธิการการต่างประเทศควรทำ คือ การเร่งประสานความร่วมมือต่างๆ จากนานาประเทศเพื่อแก้ไขปัญหาน้ำท่วมในประเทศไทย ไม่ใช่เอาคณะกรรมาธิการมาเป็นเครื่องมือให้ผู้ถูกกล่าวหาในข้อหาหมิ่นเบื้องสูงมาสร้างความแตกแยกในคนในชาติ” นายอรรถพรกล่าว
ด้าน ร.ต.อ.เฉลิม อยู่บำรุง รองนายกรัฐมนตรี กล่าวถึงกรณีที่มีการเรียกร้องให้เร่งพิสูจน์คดี 13 ศพว่า ตนมากำกับดูแลงานด้านนี้ด้วยตัวเอง งานจะต้องละเอียด ชัดเจน ไม่กลั่นแกล้ง ตรงไปตรงมา รับรองว่าอีกไม่นาน ญาติของผู้เสียชีวิตทั้ง 13 ศพจะเห็นผลงานของรัฐบาลชุดนี้ โดยได้วางกรอบให้ตำรวจได้ทำงานแล้ว
ผู้สื่อข่าวถามว่า เหตุที่รัฐบาลไม่เร่งดำเนินคดีเพราะกลัวชนกับผู้นำกองทัพ ร.ต.อ.เฉลิมกล่าวปฏิเสธว่าไม่ใช่ เพราะเจ้าหน้าที่มีข้อยกเว้นของกฎหมาย ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 62, 70 จึงฝากบอกเจ้าหน้าที่ทุกภาคส่วนสบายใจได้ เพราะใครที่สั่งการต้องรับผิดชอบ
เมื่อถามว่า มีการมองว่าการมาของนายโรเบิร์ต อัมสเตอร์ดัม ทนายความส่วนตัว พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร ไม่ได้มาเพื่อพิสูจน์คดี แต่มาเพื่อปั่นป่วน ร.ต.อ.เฉลิมกล่าวว่า ไม่ใช่เรื่องการเมือง เพราะนายโรเบิร์ต อัมสเตอร์ดัม เป็นทนายความ ใครจ้างมาก็ต้องทำ จะเป็นเรื่องการเมืองได้อย่างไร