โฆษกรัฐบาล โอ่นิติราษฎร์มุมมองประชาธิปไตยที่แท้จริง ควรค่าแก่การเผยแพร่ ชี้เห็นตรงแก้รัฐธรรมนูญ ค้านรัฐประหาร ซัดประชาธิปัตย์มองแง่ร้าย แนะเสนอหลักวิชาการสู้ อ้างแก้ปัญหาประเทศต้องดูที่รากเหง้ารัฐประหารปี 49 ไล่ทหารอย่ายุ่งการเมือง หนุนน้ำท่วม โอ่ “ยิ่งลักษณ์” ควง “ประยุทธ์” ดูอุทกภัยบ่อยจะทำสัมพันธ์ดีขึ้น
วันนี้ (21 ก.ย.) ที่ทำเนียบรัฐบาล นางฐิติมา ฉายแสง โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวถึงข้อเสนอของคณะนิติราษฎร์ ว่า ข้อเสนอดังกล่าวถือว่าเป็นงานวิชาการที่มีมุมมองที่เป็นประชาธิปไตยที่แท้จริง ข้อเสนอทั้งหมดเป็นมุ่งสู่การวางรากฐานของการเป็นประชาธิปไตยให้กับบ้านเมือง คือ การไม่ยอมรับการทำปฏิวัติรัฐประหาร ซึ่งงานทางวิชาการชิ้นนี้ควรจะได้รับการเผยแพร่ให้คนได้รู้และเข้าใจ โดยควรจะมีการแลกเปลี่ยนความคิดของคนในสังคมอย่างกว้างขวางต่อไป ซึ่งมุมมองของคณะนิติราษฎร์ที่ตรงกับรัฐบาลนี้ คือ เราคัดค้านการทำรัฐประหาร และเสนอให้มีการแก้ไขรัฐธรรมนูญเพราะรัฐธรรมนูญปี 2550 มีที่มาจากการทำรัฐ ประหาร ดังนั้นจึงไม่เป็นประชาธิปไตยที่แท้จริง
นางฐิติมา กล่าวด้วยว่า การวางรากฐานประชาธิปไตยนั้น พรรคการเมืองต้องเข้มแข็งและต้องยืนหยัดคัดค้านการทำรัฐประหาร ซึ่งพรรคเพื่อไทยได้คัดค้านมาตั้งแต่ต้น เราเป็นพรรคการเมืองที่คณะรัฐประหารพยายามโค่นล้ม ยุบพรรคด้วยแผนบันได 4 ขั้น การที่คณะนิติราษฎร์ออกมาคัดค้านการทำรัฐประหาร จึงเป็นแนวคิดเดียวกับรัฐบาลชุดนี้ แต่การที่พรรคประชาธิปัตย์ได้ออกมาวิจารณ์คณะนิติราษฎร์ในหลายเรื่อง โดยเฉพาะที่บอกว่าคณะนิติราษฎร์อาจทำเพื่อคนใดคนหนึ่ง กลุ่มใดกลุ่มหนึ่งหรือมีผลประโยชน์แอบแฝงและพรรคประชาธิปัตย์ยังบอกว่าข้อเสนอดังกล่าวเป็นการทำลายหลักนิติรัฐของชาติ รวมทั้งจะเป็นการเพิ่มปมความขัดแย้งให้มากขึ้น ซึ่งเป็นการกล่าวหาที่เกินเลยไป มองไปในทางร้ายและทำลายงานทางวิชาการ
“รัฐบาลขอเสนอให้พรรคประชาธิปัตย์น่าจะเสนอบทความทางวิชาการที่จะโต้แย้งข้อเสนอของคณะนิติราษฎร์เพื่อ ให้ประชาชนได้รับทราบจุดยืนของพรรคประชาธิปัตย์ ว่า มีความคิดเห็นต่อการทำรัฐประหารอย่างไร อาจจะเป็นหัวข้อที่ว่ารัฐประหารปี 2549 ในมุมมองของประชาธิปัตย์ หรือหัวข้อข้อโต้แย้งทางวิชาการของคณะนิติราษฎร์ ถ้าหากประชาธิปัตย์แสดงจุดยืนที่ชัดเจนก็จะเป็นประโยชน์ต่อประชาธิปไตยมากขึ้น อย่างไรก็ตาม ข้อเสนอของคณะนิติราษฎร์ยังได้สอดคล้องกับข้อเสนอของ คอป.ฉบับที่ 1 ที่เคยเสนอ ต่อรัฐบาลประชาธิปัตย์ในข้อที่ 1-3 คือ การทำรัฐประหารมีรากเหง้า การให้พรรคการเมืองแสดงจุดยืนที่ชัดเจนและรัฐบาลควรส่งเสริมให้มีการจัดเวที แลกเปลี่ยน ดังนั้น ประชาธิปัตย์ควรแสดงความชัดเจนต่อการรัฐประหาร” นางฐิติมา กล่าว
ผู้สื่อข่าวถามว่า การที่คณะนิติราษฎร์ และรัฐบาลคัดค้านการทำปฏิวัติ เพราะเห็นว่าในอนาคตจะมี การปฏิวัติเกิดขึ้นอีกใช่หรือไม่ นางฐิติมา กล่าวว่า กระแสข่าวปฏิวัติก็มีอยู่เรื่อยๆ แต่ถึงไม่มีก็มีการปฏิวัติเงียบกันอยู่ ดังนั้น การแก้ปัญหาเพื่อให้ประเทศไทยเดินไปข้างหน้าก็ต้องกลับไปดูที่รากเหง้าที่เกิดจากการทำรัฐประหารปี 2549 มิฉะนั้นจะเกิดสมานฉันท์ไม่ได้และต้อง ให้ความเป็นธรรมกับทุกฝ่าย
ต่อข้อถามว่า ทหารควรจะต้องทำอย่างไร นางฐิติมา ตอบว่า ทหารก็ต้องทำหน้าที่ของท่านตามหลักในการปกป้องประเทศและสร้างความมั่นคง ซึ่งขณะนี้ทหารก็มีบทบาทสำคัญในการช่วยเหลือผู้ประสบภัยน้ำท่วม จึงอยากให้ทหารทำหน้าที่ตรงนั้น ส่วนเรื่องการเมืองคิดว่าทหารไม่น่าจะมายุ่งเกี่ยวอีก โดยเอาการเมืองนำการทหาร เมื่อถามว่า ความสัมพันธ์ระหว่างรัฐบาลนี้กับทหารเป็นอย่างไร นางฐิติมา กล่าวว่า บังเอิญรัฐบาลนี้เพิ่งจะมารับหน้าที่จึงกำลังสร้างความสัมพันธ์ แต่ถ้าทุกคนรู้หน้าที่ของตนเอง ไม่มาล้ำหน้ากันก็คงไม่มีปัญหาอะไร ตอนนี้ก็คงต้องยกย่องซึ่งกันและกัน ต่างฝ่ายต่างทำหน้าที่ของตัวเองไป ต่อข้อถามว่า ตอนนี้ความสัมพันธ์กับทหารดีขึ้นหรือเลวลง นางฐิติมา ตอบว่า ดีขึ้นจากที่ไปช่วยกันแก้ปัญหาน้ำท่วม นายกฯได้เจอกับผบ.ทบ.โดยมีเป้าหมายทำเพื่อประชาชนความสัมพันธ์ก็น่าจะดีขึ้น