ประธานวิปฝ่ายค้านจ่อชงญัตติด่วนบึ้มสุไหงโก-ลก ถามกระทู้สดล้างบางข้าราชการ รถไฟฟ้า 20 บาทตลอดสาย ชาวนาน้ำท่วมแห้วจำนำข้าว ซัดแก๊งนิติราษฎร์รวมหัวรัฐหนุนคดีหลังรัฐประหารโมฆะล้างผิดคนคนเดียว อาศัยประชาธิปไตยบังหน้า เชื่อกลับลำอภัยโทษแค่เบี่ยงกระแส สับรัฐอย่าสร้างเงื่อนไขปฏิวัติเพิ่ม
วันนี้ (20 ก.ย.) ที่รัฐสภา นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ ประธานวิปฝ่ายค้าน แถลงภายหลังการประชุมวิปฝ่ายค้านว่า ในการประชุมสัปดาห์นี้ ฝ่ายค้านจะเสนอญัตติด่วนกรณีเกิดเหตุระเบิดที่อ.สุไหงโก-ลก จ.นราธิวาส ซึ่งกระทบต่อการท่องเที่ยวจนเสียหายยับเยิน เนื่องจาก 2 ปีที่ผ่านมา การท่องเที่ยวกำลังเดินไปได้ด้วยดี นอกจากนี้จะมีการตั้งกระทู้ถามสดกรณีการย้ายล้างบางข้าราชการ และกรณีการหาเสียงโครงการรถไฟฟ้า 20 บาทตลอดสาย ที่ระบุว่าจะทำทันที แต่ขณะนี้มีแนวโน้มว่าจะต้องรอให้เสร็จทั้ง 10 สาย ซึ่งใช้เวลาอีก 10-20 ปี จะถามว่า สามารถทำได้จริงหรือไม่ ขณะเดียวกันจะตั้งกระทู้ถามสดกรณีน้ำท่วมทำให้ชาวนาได้รับกระทบเรื่องการจำนำข้าว เพราะมีเงื่อนไขการกดราคาหลายรูปแบบ
นายจุรินทร์กล่าวถึงกรณีที่คณะนิติราษฎร์ และวิปรัฐบาล สนับสนุนให้คำวินิจฉัยของศาลรัฐธรรมนูญ และศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง ที่เกิดขึ้นหลังรัฐประหารวันที่ 19 ก.ย. 2549 เป็นโมฆะนั้น วิปฝ่ายค้านเห็นว่า เป็นความพยายามล้างผิด ทำให้คนที่ได้ผลประโยชน์คือคนคนเดียว เกรงว่าจะนำไปสู่ความแตกแยก เชื่อว่าขบวนการช่วยคนคนเดียวจะไม่หยุดเพียงแค่นี้ โดยจะเอาเรื่องประชาธิปไตยมาเป็นข้ออ้างเพื่อประโยชน์ของคนคนเดียว เช่น การแก้รัฐธรรมนูญ การขออภัยโทษ
ส่วนกรณีที่รัฐบาลกลับลำเรื่องการอภัยโทษนั้น นายจุรินทร์กล่าวว่า วิปฝ่ายค้านไม่เชื่อ เห็นว่า เป็นการทำเพียงเพื่อลดกระแส เพราะขณะนี้ รมว.ยุติธรรมได้ตั้งคณะทำงานขึ้นมาเพื่อพิจารณาความเห็นเรื่องการอภัยโทษ เพื่อให้ รมว.ยุติธรรมทำความเห็นต่อไป ซึ่งต้องจับตามองเป็นพิเศษว่า การทำความเห็นดังกล่าวจะใช้มาตรฐานเดียวเหมือนที่เคยปฏิบัติมาหรือไม่ คือ บุคคลที่ไม่ได้เข้ามารับโทษ และคดียาเสพติด คดีทุจริตคอร์รัปชัน จะไม่ได้รับการอภัยโทษ ส่วนที่พรรคเพื่อไทยระบุว่าหากไม่มีการแก้รัฐธรรมนูญอาจเกิดการปฏิวัติขึ้นอีกนั้น วิปฝ่ายค้านเห็นว่า อาจเป็นตรงข้าม เพราะการแก้ไขรัฐธรรมนูญไม่ใช่หลักประกันว่า จะป้องกันไม่ให้เกิดการปฏิวัติอีก แต่สิ่งสำคัญคือ รัฐบาลต้องไม่สร้างเงื่อนไขให้เกิดการปฏิวัติ เช่น การทำเพื่อประโยชน์ของคนคนเดียว