xs
xsm
sm
md
lg

“เหลิม” เชื่อ อ.แดง ไม่คิดฆ่าตัวตายเพื่อ “แม้ว” คนเดียว

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

 ร.ต.อ.เฉลิม อยู่บำรุง
รองนายกฯ เฉลิม ร่ายยาวดีเอสไอ จ้องปล่อยแก๊งแดงคดีหมิ่นสถาบัน ตามอำเภอใจไม่ได้ เชื่อ อาจารย์แดง ไม่คิดฆ่าตัวตายทำเพื่อ “แม้ว” คนเดียว ชี้ข้อเสนอนิติราษฎร์ทำยาก เพราะมีคนชอบเสพอำนาจจากเผด็จการ พร้อมเปิดทาง “สนธิ” ขอสำนวน สตช.รื้อคดีลอบสังหารใหม่ โหน คอป.ไฟเขียว เยียวยาแดงเผาเมือง พล่ามไม่ใช่คดีก่อการร้าย


วันนี้ (21 ก.ย.) ร.ต.อ.เฉลิม อยู่บำรุง รองนายกรัฐมนตรี กล่าวถึงกรณีที่กรมสอบสวนคดีพิเศษส่งสัญญาณจะปล่อยผู้ต้องหาคดีหมิ่นพระบรมราชนุภาพ ว่า อาจจะเข้าใจผิดในเรื่องนี้ ดีเอสไอจะปล่อยใครไม่ได้ ถ้าหากการสอบสวนเห็นว่าที่กล่าวหาไว้ไม่ผิดต้องทำสำนวนสั่งไม่ฟ้องแล้วเมื่อทำสำนวนสั่งไม่ฟ้องแล้ว ต้องดูว่าอัยการเห็นด้วยหรือไม่ หรือผู้ต้องหาที่เป็นจำเลยแล้วถูกควบคุมในศาลต้องขอประกันตัว หากคดียังไม่แล้วเสร็จ ดีเอสไออาจจะช่วยประเด็นที่ว่าหากเคยคัดค้านการประกันตัวไว้ แล้วบอกว่าขณะนี้คดีคลี่คลายแล้ว เห็นควรไม่คัดค้านการประกันตัว ก็ทำได้แค่นั้น ทำมากกว่านั้นไม่ได้

เมื่อถามว่า หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ ระบุว่า สนับสนุนนิติรัฐ ไม่สนับสนุนนิติราษฎร์ และมองว่า ข้อเสนอเป็นการทำเพื่อคนๆ เดียว ร.ต.อ.เฉลิม กล่าวว่า อาจารย์ระดับดอกเตอร์ทางวิชาการเป็นรองศาสตราจารย์ และเป็นอาจารย์คณะนิติศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ เป็นมหาวิทยาลัยที่มีชื่อเสียง ได้รับความเชื่อถือ ถ้าอาจารย์เขาจะมาทำเพื่อใครคนเดียว ตนว่าอาจารย์ไม่คิดฆ่าตัวตาย แต่อาจารย์เหล่านี้เป็นคนสมัยใหม่ ถึงไม่ใช่นักการเมือง แต่เข้าใจโครงสร้าง และสังคมระบอบประชาธิปไตย อาจารย์เขารู้ที่มาทั้งหมด มันเกิดการจากรัฐประหาร อำนาจเผด็จการ ผลพวงคือ เกิดผลกระทบจึงเป็นที่มาของความร้าวฉาน แตกแยก ที่อาจารย์เขาไม่เห็นด้วยอำนาจที่มาจากเผด็จการก็ ก็ถูกต้องทั่วโลกก็เห็นอย่างนี้ แต่อาจารย์บอกว่าถ้าใครมีคดีความก็ดำเนินคดีต่อตามช่องทางหลักกฎหมาย ตนไม่เห็นว่าทำเพื่อคนๆ เดียวเลย

เมื่อถามว่า ฝ่ายค้านพยายามย้ำว่า ทำเพื่อคนๆ เดียวตลอดเวลา ร.ต.อ.เฉลิม กล่าวว่า ตอนเป็นรัฐบาลก็พูดอย่างนี้ เมื่อถามว่า มีความเป็นไปได้หรือไม่ที่จะเห็นอาจารย์จากกลุ่มนิติราษฎร์มาอยู่ใน คณะกรรมการอิสระว่าด้วยหลักนิติธรรมแห่งชาติ (คอ.นธ.) ร.ต.อ.เฉลิม กล่าวว่า ตรงนี้ไม่ทราบ อยู่ที่ นายอุกฤษ มงคลนาวิน ประธาน คอ.นธ.เป็นผู้แต่งตั้ง แต่ตนคิดว่าอะไรก็ตามถ้าเขาทำเพื่อความถูกต้องชอบธรรม และเป้าหมายต้องการให้เกิดความเป็นธรรมในสังคม ควรลองดูก่อน ขณะนี้ยังไม่ได้ทำอะไรเลย ก็วิพากษ์วิจารณ์ค่อนข้างรุนแรง ก็เลยทำให้คนไม่กล้าคิดทำในสิ่งที่ดี

“ผมถึงบอกว่า ข้อเสนอของอาจารย์ตนเห็นด้วยในหลักการ ถ้าทำได้เป็นเรื่องดี แต่จะทำยากเพราะมีคนส่วนหนึ่งถวิลหาอำนาจเผด็จการ และชอบเสพอำนาจจากพวกเผด็จการมันถึงมีปัญหา” ร.ต.อ.เฉลิม กล่าว

ร.ต.อ.เฉลิม ให้สัมภาษณ์ถึงกรณีกล้องซีซีทีวีที่มีคนพูดถึงคดี นายสนธิ ลิ้มทองกุล แกนนำกลุ่มพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาชน ที่ถูกยิง และพยายามขอกล้องซีซีทีวีจากพรรคประชาธิปัตย์ จะกระทบรูปคดีหรือไม่ ว่า ตนไม่ทราบ และไม่กล้าวิจารณ์ เพราะสำนวนสอบสวนเป็นทางลับทางราชการ และที่สอบสวนกันไว้เป็นอย่างไร ตนก็ไม่ทราบ และจะไปขอดูก็ไม่ได้ จะหาว่าไปแทรกแซงก็ให้เป็นไปตามธรรมชาติ

เมื่อถามว่า สำนักงานตำรวจแห่งชาติ (สตช.) หรือคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) ควรไปตรวจสอบหรือไม่ ร.ต.อ.เฉลิม กล่าวว่า สำนวนนี้รู้สึกว่า สตช.เป็นผู้รับผิดชอบสำนวนคดี แต่ถ้า นายสนธิ ร้องมาที่ตน ตนจะรับเรื่องดูให้ แต่ถ้าไม่ร้องก็ไม่กล้า

เมื่อถามว่า หน่วยงานไหนที่ต้องเข้าไปตรวจสอบการทุจริตจัดซื้อกล้องของ กทม.หรือไม่ ร.ต.อ.เฉลิม กล่าวว่า ต้องถาม นายยงยุทธ วิชัยดิษฐ รองนายกรัฐมนตรีและรมว.มหาดไทย ที่ดูแลรับผิดชอบ กทม.

รองนายกรัฐมนตรี ให้สัมภาษณ์ถึงกรณีที่ผู้ได้รับความเดือดร้อนจากเหตุการณ์การชุมนุมทางการเมืองที่ผ่านมาเกรงว่า รัฐบาลจะไม่ดูแล ว่า รัฐบาลได้รับรายงานจาก นายคณิต ณ นคร ประธานคณะกรรมการอิสระตรวจสอบค้าหาความจริงเพื่อการปรองดองแห่งชาติ (คอป.) และตั้ง นายยงยุทธ วิชัยดิษฐ รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีมหาดไทย เป็นประธานคณะกรรมการประสานและติดตามผลการดำเนินงาน เพื่อให้ดูภาพรวมทั้งความเป็นกรรมการเยียวยา ผู้ได้รับผลกระทบทุกเหตุการณ์ ทั้งเหตุการณ์กรือเซะ ตากใบ มัสยิด หลัง 19 ก.ย.ทั้งหมดเป็นภาพรวม ในส่วนคดีที่ตนดูแลก็มีการส่งชันสูตร 13 ศพไปแล้ว หลังจากนี้ ศาลจะไต่สวน จะรู้ว่าคนตายชื่ออะไร มาจากไหน ตายเพราะอาวุธอะไร ใครเป็นคนทำให้ตาย รายละเอียดจะออกมา วันนั้นตนให้ข้อมูลผิด ศาลที่มีอำนาจไต่ส่วนสำนวนชันสูตรพลิกศพจะมีศาลอาญากรุงเทพใต้ กับศาลอาญารัชดา ไม่ใช่ศาลแขวง ตอนนี้เริ่มชัดแล้ว

เมื่อถามว่า คนเสื้อแดงถูกคุมขังมีจำนวนเท่าไหร่ และที่ต้องได้รับการเยียวยาที่ตั้งข้อหาก่อการร้ายหรือรุนแรงเกินจริง ร.ต.อ.เฉลิม กล่าวว่า ข้อเสนอ นายคณิต หมายความว่ารัฐบาลควรหามาตรการคดีชุมนุมเกินกี่คน ที่เป็นการชุมนุมทางการเมือง ไม่ได้ก่อให้เกิดความวุ่นวาย รัฐบาลควรพิจารณาเป็นรายๆ ถาม นายยงยุทธ ดีกว่า

เมื่อถามว่า สามารถปรับข้อกล่าวหาจากคดีก่อการร้าย หรือ กบฏ ได้หรือไม่เพราะผู้ค้าไม่ได้รับจากการจ่ายประกัน ร.ต.อ.เฉลิม กล่าวว่า ไม่ใช่กบฏ ไปตั้งก่อการร้ายตรงนี้เป็นข้อยกเว้น

“กฎหมายมาตรา 135/1 แก้ไขเพิ่มเติมสมัย พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี เรื่องการก่อการร้าย วรรคสุดท้าย ถ้าเป็นการชุมนุมเรียกร้องประชาธิปไตย ชุมนุมทางการเมืองไม่ถือเป็นการก่อการร้าย แต่รัฐบาลที่ผ่านมาไม่ได้ดู” ร.ต.อ.เฉลิม กล่าว

เมื่อถามว่า รัฐบาลนี้จะนำไปสู่การแก้ไขที่ถูกต้องหรือไม่เพราะปลดล็อกเรื่องดังกล่าวด้วย ร.ต.อ.เฉลิม กล่าวว่า ข้อเสนอนายคณิต 7 ข้อถือว่าดี และเรื่องนี้ไม่ได้มอบหมายให้ตนดูแล เดี๋ยวนายยงยุทธดุเอา เมื่อถามว่าการที่ยังมีคนคัดค้านยังจะดำเนินการได้หรือไม่ ร.ต.อ.เฉลิม กล่าวว่า ใครออกมาคัดค้านเรื่องนี้เสียแต้ม เสียคะแนน แต่คัดค้านแล้วสนุกได้แสดงความเห็นแล้วดีใจ คนทั่วไปไม่เอาด้วยแล้ว

“อาจารย์คณิต ใครตั้งไว้ ก็รัฐบาลชุดที่แล้ว ท่านเป็นคนตั้งคณะกรรมการขึ้นมาเพื่อเสาะแสวงหาความจริง หาทางออก หาข้อเสนอแนะ และข้อยุติ วันนี้คณะกรรมการที่ท่านตั้งไว้โดยท่านนายกฯอภิสิทธิ์ ได้เสนอแนวทาง 7 ข้อ ไม่รับฟังจะทำอย่างไร อันนี้สังคมตัดสินได้ หรือที่ท่านตั้งตอนนั้น เป็นการตั้งหลอกๆ หรือสนุกๆ ถึงวันนี้ไม่ยอมรับข้อเสนอสังคมตัดสินได้” ร.ต.อ.เฉลิม กล่าว

ร.ต.อ.เฉลิม กล่าวถึงกรณีที่จะให้นายดาบให้ขึ้นเป็นนายร้อย ว่า เรียบร้อยแล้ว มีงบประมาณเพียงพอ สมัยก่อนคนรับผิดชอบสำนักงานตำรวจแห่งชาติ (สตช.) อาจจะเก่งกว่าตน แต่ไม่เข้าใจเท่าตน นายดาบอายุ 53 เมื่อเข้าอบรมแล้วปรับยศ ร้อยตำรวจตรี โท เอก อายุ 59 ปี และครบ 60 ไม่ต้องเพิ่มเงินเดือนอะไรเลย เพราะเงินเดือนถึงแล้ว แต่ถ้าอายุ 52 ปี จะมีปัญหา ปีสุดท้ายต้องหาตำแหน่งสารวัตร จึงต้องเอาอายุ 53 ปี ทางสตช.บอกว่าอบรมไม่ไหว ตนจึงบอกว่าเขาขึ้นหน่วยไหนเอาหน่วยนั้น กองบังคับการฝึกมีทุกกองบัญชาการ หรือ ตนจะกำหนดหลักสูตรสั้นๆ ให้ว่าควรอบรมอย่างไรเพราะเขามีความชำนาญ พวกนี้เขาไม่ได้เป็นพนักงานสอบสวน เขาไปเป็นสายตรวจ จราจร มันง่ายๆ ที่สำคัญสุด หัดให้เขาทำเคารพท่ากระบี่ให้เป็นเท่านั้น เรื่องนี้เข้าคณะกรรมการข้าราชการตำรวจ (ก.ตร.) แล้ว และวันที่ 28 ก.ย.จะนำเข้าที่ประชุม ก.ตร.อีกครั้ง เรื่องนี้จบไปแล้ว ส่วนจะมีจำนวนเท่าใดนั้น กำลังเช็คยอด และจะไม่ให้มีการพิจารณา เพราะจะเป็นที่มาของการคอร์รัปชัน ตนจะกำหนดกฎเกณฑ์ภายใต้กรอบที่มีอยู่ หากใครจะถูกตั้งคณะกรรมการสอบสวนโดยมีคดีก็ช่วยไม่ได้ นอกจากนั้น ได้หมด ส่วนการโยกย้ายแต่งตั้งคาดว่าไม่เกินกลางเดือนหน้าจะแล้วเสร็จหมด ส่วนตำแหน่ง ผบ.ตร.เป็นหน้าที่นายกฯ ถามนอกเรื่องเดี๋ยวนายกฯดุเอา
กำลังโหลดความคิดเห็น