“ประพันธ์” ชี้ “อุกฤษ-นิติราษฎร์” รับใช้ “แม้ว” ผนึกกำลังปูทางแก้ รธน.

“ประพันธ์” ชี้ “อุกฤษ-คณะนิติราษฎร์” ทำงานรับใช้ “ทักษิณ” ชัดเจน เชื่อใช้แผนสร้างกระแสสังคมให้คล้อยตาม เพื่อปูทางสู่การแก้รัฐธรรมนูญ ด้าน “ส.ว.ตวง” ซัดนิติราษฎร์สร้างภาพเป็นนักกฎหมายหัวใหม่ ความจริงวิธีคิดก็เป็นแบบนักปฏิวัติ พร้อมแนะ “ยิ่งลักษณ์” ทบทวนตัวเอง ควบคุมบริวารไม่ได้จะบริหารบ้านเมืองให้ปรองดองได้อย่างไร

 คลิกที่นี่ เพื่อฟังรายการ “คนเคาะข่าว” 

วันที่ 20 ก.ย. เมื่อเวลา 20.30 น. นายประพันธ์ คูณมี อดีตสมาชิกสภานิติบัญญัติแห่งชาติ และนายตวง อันทะไชย ส.ว.สรรหา ร่วมพูดคุยในรายการ “คนเคาะข่าว”

นายประพันธ์กล่าวว่า แถลงการณ์ของคณะนิติราษฎร์ ดูเจตนารมณ์แล้วไม่ใช่เพื่อราษฎร แต่หลักๆ ต้องการล้มล้างกระบวนการยุติธรรม ล้มล้างกระบวนการตรวจสอบยุคพ.ต.ท.ทักษิณ ผลพวงรัฐประหาร 19 กันยายน และรัฐธรรมนูญ 2550 ตนยังไม่เห็นมีประชาชนคนไหนตกเป็นเหยื่อของรัฐประหารเลย นอกจากมีราษฎรคนเดียวที่ชื่อ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร ทีนี้คณะนิติราษฎร์มาเสนอให้ยกเลิกรัฐธรรมนูญ ยกเลิกประกาศ คปค. (คณะปฏิรูปการปกครองในระบบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์เป็นประมุข) ประกาศให้การปฏิวัติเป็นโมฆะ คำวินิจฉัยของศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมืองเป็นไม่มีผล สรุปมันก็ไม่ได้มีผลดีต่อราษฎร ยกเว้น พ.ต.ท.ทักษิณคนเดียว

มีรัฐธรรมนูญไหนบ้างที่ไม่ได้มาจากปฏิวัติ แล้วจะเอาหลักอะไรเป็นที่ตั้ง เอาหลักของนายวรเจตน์ (ภาคีรัตน์) หรือ ทั้งๆ ที่ไม่เคยเห็นนายวรเจตน์ทำอะไรให้บ้านเมืองเลย บรรพบุรุษวางรากฐานมาก็จะมารื้อทั้งหมด แล้วบอกไม่นิรโทษอันนี้มันยิ่งกว่านิรโทษอีก

ถ้าเป็นนักกฎหมายที่ดีต้องคิดว่ามีผลกระทบราษฎรตรงไหน แม้ประทั่งเยียวยาพวกเผาบ้านเผาเมือง ควรเยียวยาผู้เสียหาย ไม่ใช่เยียวยาคนกระทำผิด ถ้าจะเอาหลักต้องเอาหลักยุติธรรมของบ้านเมือง แต่คนพวกนี้ไม่เคยคิดให้ดำเนินการตามกฎหมายอย่างตรงไปตรงมา กลับต้องการรื้อกฎหมายเพื่อช่วยคนผิด

นายตวงกล่าวว่า ข้อเรียกร้องของคณะนิติราษฎร์ขัดกับตัวเอง เช่น เรียกร้องให้ปฏิรูปการเมือง ให้เป็นการเมืองสมัยใหม่ แต่กลับเรียกร้องให้ใช้รัฐธรรมนูญปี 2475 ต้องถามก่อนว่ามันคืออะไร คนกลุ่มนี้เรียกตัวเองว่าเป็นนักกฎหมายหัวใหม่ เอาเข้าจริงวิธีคิดก็เป็นแบบนักปฏิวัติ

ถ้าเราคิดย้อนหลังไปเรื่อยๆอย่างนี้สังคมมันอยู่ไม่ได้หรอก ถ้าขึ้นมามีอำนาจก็แก้กฎหมายแก้ความผิด ถามว่าแล้วยุติธรรมต่อประชาชนหรือเปล่า หากจะคิดสามารถทำได้ แต่ต้องกลับไปสู่ความเป็นจริง หากอ้างว่าทำเพื่อการปรองดอง อย่าลืมว่าเพื่อไทยเป็นรัฐบาลตอนนี้ แล้วคนเป็นนายกฯจะบริหารบ้านเมืองอย่างไร ถ้าไม่สามารถควบคุมคนของพรรค หรือเครือข่ายตัวเองได้ ควบคุมไม่ได้ก็ไม่สามารถทำเรื่องปรองดองได้

นายกฯ ต้องไปทบทวนว่าบริวารของท่าน ที่ออกมามันเกินไปกว่าสิ่งที่ท่านเป็นรัฐบาลอยู่ ถ้าท่านจะบริหารบ้านเมืองด้วยความตั้งใจ อยากให้บ้านเมืองหลุดพ้นจากความขัดแย้ง ก็ต้องควบคุมคนของท่าน ตนก็ถามไปว่าจะปรองดองกับใคร มันต้องคิดหลักใญ่เพื่อส่วนรวม อย่าแค่แก้ปัญหาให้คนๆเดียว

นายประพันธ์กล่าวว่า ต้องยอมรับว่ากระบวนการของ พ.ต.ท.ทักษิณมีเป้าหมายทางการเมืองชัดเจน เขาไม่ทำการเมืองแบบไร้เป้าหมาย อาจทำเพื่อประโยชน์ส่วนตัว กับเพื่อล้างคดีที่ติดตัว โดยใช้อำนาจรัฐและกฎหมายมาเป็นเครื่องมือ

เขาต้องการกระชับอำนาจให้เข้มแข็งที่สุด เพื่อไม่ให้โดนขับไล่อีก สิ่งสำคัญคือต้องการสลัดความผิดที่ติดตัวให้พ้น การตั้งคณะกรรม​การอิสระว่าด้วยหลักนิติธรรม​แห่งชาติ (คอ.นธ.)​ มี ดร.อุกฤษ เป็นประธาน ก็มีเป้าหมาย ดร.อุกฤษก็คือสำนักงานที่ปรึกษากฎหมายของ พ.ต.ท.ทักษิณ ดร.อุกฤษทั้งนั้นที่ให้คำแนะนำ พ.ต.ท.ทักษิณในการต่อสู้คดี

ขณะเดียวกัน ในมหาวิทยาลัยก็มีคณะนิติราษฎร์ ที่คอยปกป้อง พ.ต.ท.ทักษิณ จะบอกว่าเป็นนักวิชาการที่ทำประโยชน์เพื่อทักษิณ การกระทำ แนวคิด เป็นประโยชน์เพื่อทักษิณเท่านั้น แต่ไม่เคยพูดเลยว่าทักษิณโกง แล้วจะปกป้องผลประโยชน์ชาติได้อย่างไร ขอความกรุณารัฐบาล น.ส.ยิ่งลักษณ์รีบประกาศตามคณะนิติราษฎร์เลย จะได้ตายยกหมู่เร็วๆ

นายตวงกล่าวเสริมว่า การตั้ง คอ.นธ. เพื่อควบคุมอำนาจบริหาร ตุลาการ นิติบัญญัติ ถ้าครม.มีมติออกมา ถือว่าเป็นคณะกรรมการที่ไม่ชอบด้วยกฎหมาย มติ ครม.ก็ขัดต่อรัฐธรรมนูญ มติ ครม.มีศักดิ์ต่ำกว่า พ.ร.บ. พ.ร.บ.มีศักดิ์ต่ำกว่ารัฐธรรมนูญ แปลว่ามติ ครม.ให้อำนาจคณะกรรมการเหนือกว่า 3 อำนาจไม่ได้ อำนาจสูงสุดก็ 3 อันนี้ ไม่มีใครมากำหนดควบคุมได้ การให้อำนาจเหนือ 3 อันนี้ก็เท่ากับปฏิวัติเงียบ ผลตามมาคือคำสั่งที่ตั้งไม่ชอบด้วยกฎหมาย คณะกรรมการนี้ก็ไม่สามารถทำอะไรได้ ถูกฟ้องร้องแน่ พอตนพูดไป รุ่งขึ้น หน้าที่คณะกรรมการชุดนี้ก็เปลี่ยนไป ซึ่งดูที่แถลงออกมาใหม่หน้าที่ก็ไปซ้ำกับคณะกรรมการปฏิรูปกฎหมาย 2553  ซึ่งใหญ่กว่าคอ.นธ.ที่ตั้งมานี้ แล้วจะตั้งขึ้นมาเพื่ออะไร

นายประพันธ์กล่าวว่า ดร.อุกฤษกับคณะนิติราษฎร์มีจุดยืนเดียวกัน และจุดยืนเดียวกับนปช.ด้วย ชัดเจนว่ารับใช้ใคร ตนมองว่าต่อไปกลุ่มพวกนี้จะสร้างกระแสสังคมให้คล้อยตาม เพื่อปูพื้นไปสู่การตั้งสภาร่างรัฐธรรมนูญ และจะนำแนวคิดเหล่านี้ไปใส่ในรัฐธรรมนูญ ตนเดาได้เลยว่าดร.อุกฤษนี่แหละที่จะเป็นประธานสภาร่างรัฐธรรมนูญ และเมื่อเรื่องแก้รัฐธรรมนูญเข้าสู่สภา ตราบใดที่พวกนี้อยู่ก็สามารถทำได้ เพราะมีเสียงจำนวนมาก ตอนนี้ก็คงล็อบบี้วุฒิสภากันให้วุ่นเพื่อรวบรวมเสียงเพิ่มเติม