xs
xsm
sm
md
lg

"มาร์ก"ชี้ตั้ง คอ.นธ. ทับซ้อน แฉรบ.ปูมุ่งแก้แค้นช่วยนายใหญ่

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

ASTVผู้จัดการรายวัน- “นายกฯเงา”ห่วงตั้ง คกก.นิติธรรมฯ ชี้งานทับซ้อน คกก.ปฏิรูปกฎหมาย จี้ รบ.ต้องแจงจุดประสงค์ให้ชัด “เฉลิม” ยันตั้ง คอ.นธ.ไม่เกี่ยวนิรโทษ “แม้ว” สภาฯเดือด ปชป.ซัดรัฐบาล ตั้งกก.ชุดนี้มุ่งแต่แก้แค้น ช่วยนายใหญ่ “ถวิล” พ้อ โกยย้ายไม่เป็นธรรม หวั่นคนบางกลุ่มเข้ามาอยู่ สมช. สร้างความแตกแยก

วานนี้ (14 ก.ย.) ที่รัฐสภา นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวถึงกรณีที่คณะรัฐมนตรี (ครม.) มีมติแต่งตั้งคณะกรรมการอิสระว่าด้วยหลักนิติธรรมแห่งชาติ (คอ.นธ.) ที่มีนายอุกฤษ มงคลนาวิน เป็นประธาน ว่า ในที่ประชุม ครม.เงาของพรรคประชาธิปัตย์ก็ได้แสงความเป็นหว่งในเรื่องนี้ โดยเห็นว่า มองเห็นความจำเป็นของการตั้งคณะกรรมการชุดนี้ขึ้น เพราะในแง่ของการปฏิรูปกฏหมายกับการปฏิรูปกระบวนการยุติธรรม (นายคณิต ณ นคร) มีองค์กรตามรัฐธรรมนูญที่มีกฏหมายรองรับที่จะทำหน้าที่นี้อยู่แล้ว การตั้ง คอ.นธ.ทำให้เกิดความซ้ำซ้อนและโดยเฉพาะที่เป็นการตั้งด้วยนระเบียบของสำนักนายกรัฐมนตรีจึงต้องอธิบายให้ชัดเจนว่า สภาพปัญหาที่จำเป็นต้องตั้งคณะกรรมการรชุดนี้คืออะไร เพราะมีกลไกทางกฏหมายอยู่แล้วในการทำหน้าที่

กรณีนายอุกฤษออกมากล่าวว่า คณะกรรมการชุดนี้เข้ามาทำงานไม่ซ้ำซ้อนดับคณะกรรมการปฏิรูปกฏหมายที่มีนายคณิต ณ นคร เป็นประธาน โดยการปฏิรูปกฏหมายและกระบวนการยุติธรรมจะครอบคลุมตามเจตนารมร์ของรัฐธรรมนูญอยู่แล้ว จึงต้องอธิบายให้ชัดว่า คณะกรรมการชุดนี้จะทำอะไร

กรณีคณะกรรมการนี้มาเพื่อตั้งธงในการแก้ไขรัฐธรรมนูญที่รัฐบาลกำลังดำเนินการได้หรือไม่ นายอภิสิทธิ์ กล่าวว่า ตนไม่ทราบเพราะอำนาจหน้าที่ที่เขียนไว้ก็ยังคลุมเครือ ยืนยันว่ารัฐธรรมนูญ รัฐบาลนี้ก็ออกมายอมรับว่า ขึ้นอยู่กับสมาชิกสภาร่างรัฐธรรมนูญ (ส.ส.ร.) ที่จะผลักดันขึ้นมา ขณะนี้มีแต่ความไม่ชัดเจน รัฐบาลต้องออกมาชี้แจงเพราะระเบียบที่ออกมาเป็นมติของ ครม.ต้องอธิบายให้ชัดว่า งานของชุดนี้ไม่ซ้ำซ้อนกับชุดอื่นอย่างไร และจุดประสงค์ที่แท้จริงคืออะไร

สำหรับการใช้อำนาจในการออกระเบียบจะขัดต่อกฏหมายและรัฐธรรมนูญหรือไม่ นายอภิสิทธิ์ ตอบว่า คงไม่ขัดเพราะเป็นอำนาจในแง่การบริหารราชการแผ่นดิน เพียงแต่จะสร้างความสับสนและต้องดูว่าองค์กรที่มีกฏหมายยอมรับที่เขาทำหน้าที่อยู่

กรณีที่อำนาจของคณะกรรมการชุดนี้ ที่ระบุไว้ว่าสามารถเรียกเอกสารจากฝ่ายตุลาการ หรือศาล ขัดต่อรัฐธรรมนูญหรือไม่ นายอภิสิทธิ์ ตอบว่า ขึ้นอยู่กับความเหมาะสมและความร่วมมือมากกว่า ตนไม่คิดว่าจะมีผลบังคับในแง่ที่จะเข้าไปก้าวก่ายถึงคนที่มีความเป็นอิสระ เพราะตามเจตนารมณ์ของรัฐธรรมนูญ ถ้าเป็นฝ่ายอื่น เขาจะมีอิสระหมด

ส่วนที่นายตวง อันทะไชย ส.ว.สรรหา ออกมาระบุว่า การตั้งคณะกรรมการชุดนี้เป็นการปฏิวัติเงียบ นายอภิสิทธิ์ กล่าวว่าต้องดูการทำงานของคณะกรรมการ ถ้าเป็นการศึกษาเพื่อเสนอความคิด ก็ยังไม่มีผล ส่วนความคิดหากรัฐบาลนำเอาไปใช้ก็ต้องผ่านขั้นตอนการใช้อำนาจในทางอื่น เวลานี้ตนมองว่า ยังไม่มีความจำเป็นและรัฐบาลเองก็อธิบายไม่ชัดเจน และในภาวะที่รัฐบาลทำหลายเรื่อง ที่หลายคนห่วงว่าจะกระทบต่อหลักนิติรัฐหรือนิติธรรมจึงขอให้อธิบายให้ชัดว่า สิ่งที่คาดหวังจากกรรมการชุดนี้คืออะไร และไม่ซ้ำซ้อนกับกลไกที่มีอยู่แล้วตามกฏหมายและรัฐธรรมนูญ

**"เฉลิม"ยันคอ.นธ.ไม่เกี่ยวนิรโทษฯแม้ว
 

วันเดียวกันการประชุมสภาผูแทนราษฎร ช่วงเปิดให้สมาชิกหารือ นายวัชระ เพชรทอง ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคประชาธิปัตย์(ปชป.) อ้างว่าได้รับร้องเรียนจากประชาชน ถึงการทำงานของรัฐบาล น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ที่ไม่สนใจแก้ปัญหาน้ำท่วม ของแพง แต่จะเดินทางไปเยือนกัมพูชา จากนั้นบรรยากาศตึงเครียดขึ้นเมื่อนายวัชระ หยิบภาพกลุ่มเสื้อแดงที่บุกเข้ารัฐสภาในปี 2553 และถือปืนเอ็ม 16 ที่แย่งมาจากทหาร ก่อนอธิบายว่าคนที่มีพฤติกรรมดังกล่าวได้รับการแต่งตั้งเป็นข้าราชการการเมืองในรัฐบาล น.ส.ยิ่งลักษณ์ มีผลงานแบบนี้ใช่หรือไม่ถึงได้รับการแต่งตั้ง จะตั้งกรรมการสอบหรือไม่ และการตั้งนายอุกฤษ ประธานคอ.นธ. เป็นการละเมิดหลักอำนาจอธิปไตยศาลหรือไม่ ทำให้ ส.ส.เพื่อไทยประท้วงทันที โดยนายพิเชษฐ์ เชื้อเมืองพาน ส.ส.เชียงราย เพื่อไทย ระบุนายวัชระ แสดงภาพที่ไม่ได้ขออนุญาตประธาน

ขณะที่นายธวัชชัย อนามพงษ์ ส.ส.จันทบุรี พรรค ปชป. เสริมว่า น.ส.ยิ่งลักษณ์ มาแก้ไข เพื่อแก้แค้นอย่างเดียว แต่งตั้งข้าราชการเพื่อสนองการเมือง ร.ต.อ.เฉลิม อยู่บำรุง รองนายกฯ และพ.อ.อภิวันท์ วิริยะชัย ส.ส.เพื่อไทย ยังพยายามผลักดันให้รื้อคดี พ.ต.ท.ทักษิณ รัฐบาลจะช่วยเหลือ พ.ต.ท.ทักษิณอย่างเดียวเลยหรือ รัฐบาลทำงานแบบเดินเป๋ไปเป๋มา เหมือนแม่ปูกับลูกปู ไม่อยากให้สื่อตั้งฉายารัฐบาลว่า รัฐบาลปูนิ่ม ทำอะไรไม่เป็น

ทางด้าน ร.ต.อ.เฉลิม ชี้แจงทันทีว่า คณะกรรมการที่ตั้งขึ้นมาจะปฏิรูปอย่างไรต้องขออนุมัติต่อรัฐสภา คณะกรรมการไม่สามารถกำหนดอย่างหนึ่งอย่างใดได้ ไม่เห็นด้วยกับระบบศาลคู่ และควรมีศาลเดี่ยวแล้วมีแผนกอยู่ในนั้น แต่จู่ๆ ไปรื้อศาลไม่ได้ เพราะศาลต้องปฏิบัติตามกฎหมาย คนออกกฎหมายคือรัฐสภา เราเห็นว่ามีกฎหมายจำนวนมาก ลองมาปฏิรูปดู ยืนยันว่าไม่มีนัยยะอะไรเลย

"หลายฝ่ายแสดงความคิดเห็นโดยขาดความเข้าใจข้อกฎหมาย การฟื้นคดีไม่เกี่ยวกับรัฐบาล แต่เป็นเรื่องกฎหมายอาญาที่ให้สิทธินายกฯ ผมหรือ พ.อ.อภิวันท์ จะไปรื้อคดีได้อย่างไร ทั้งที่ผมอยากทำเหมือนกันแต่ทำไม่ได้" ร.ต.อ.เฉลิมกล่าว

**รบ.ตั้ง"คอ.นธ."เพื่อลดขัดแย้ง
 

นายอนุสรณ์ เอี่ยมสะอาด รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ให้สัมภาษณ์กรณีที่นายสาธิต ปิตุเตชะ รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรีเงาจากพรรคปชป.ตั้งข้อสังเกตถึง การที่ครม.แต่งตั้งนายอุกฤษ อาจขัดต่อรัฐธรรมนูญมาตรา 173 นั้น ว่า ความตั้งใจของครม.ที่ตั้งคอ.นธ.ขึ้นมาก็เพื่อลดความขัดแย้ง ความเหลื่อมล้ำในมาตรฐานต่างๆ ของสังคม และต้องการสร้างความเป็นธรรมให้กับประชาชนทุกภาคส่วนอย่างเท่าเทียมกัน ถือเป็นส่วนหนึ่งของกระบวนการสร้างความปรองดองของรัฐบาลชุดนี้ แต่ถ้าทางพรรคประชาธิปัตย์เห็นว่าขัดต่อรัฐธรรมนูญ ก็สามารถยื่นตีความได้ว่าขัดต่อกฎหมายสูงสุดหรือไม่

“ที่ผ่านมาไม่เคยมีคณะกรรมการที่มีรูปแบบนี้มาก่อน เราไม่ได้มองว่า คอป.ไม่ดี แต่ถ้ามีชุดนี้มาเพิ่ม ก็จะช่วยเติมเต็ม และสามารถกำหนดกรอบให้ตอบโจทย์ที่ต่างกันได้ เป็นการมองแนวทางแก้ปัญหาแบบนอกกรอบ ของกระทรวงยุติธรรม ที่เป็นการใช้ช่องทางและรูปแบบใหม่ๆ ซึ่งผมเห็นว่าพรรคประชาธิปัตย์อาจจะถนัดแต่การทำงานแบบปลัดประเทศ จึงไม่คุ้นชินกับวิธีการเช่นนี้ แต่รับรองว่าประเทศชาติได้ประโยชน์แน่นอน” นายอนุสรณ์ กล่าว

**"โกวิท"ติดภารกิจเลื่อนตอบกระทู้
 

ส่วนวาระพิจารณากระทู้ถามสดเรื่อง การแต่งตั้งโยกย้ายข้าราชการอย่างไม่เป็นธรรม ของนายอลงกรณ์ พลบุตร ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคประชาธิปัตย์ ถาม พล.ต.อ.โกวิท วัฒนะ รองนายกรัฐมนตรี โดยประธานได้แจ้งว่า พล.ต.อ.โกวิท ทำหนังสือด่วนแจ้งมาว่าติดภารกิจเข้าร่วมพระราชพิธีพระศพ สมเด็จพระเจ้าภคินีเธอ เจ้าฟ้าเพชรรัตนราชสุดา สิริโสภาพัณณวดี จึงขอเลื่อนกระทู้นี้ออกไปเป็นสัปดาห์หน้า

ขณะที่นายอลงกรณ์ กล่าวว่า กระทู้นี้ถือเป็นเรื่องที่มีเงื่อนไขเรื่องเวลา ดังนั้นหากรัฐมนตรี ที่ต้องมาตอบกระทู้หากต้องเข้าเวรเข้าเฝ้าฯก็ขอให้สภาแจ้งมาทางพรรคฝ่ายค้านด้วย เพื่อให้การทำงานของฝ่ายนิติบัญญัติและฝ่ายบริหารเป็นประโยชน์กับประเทศมากที่สุด เพื่อจะได้ทราบระยะเวลาที่จะถามเรื่องนั้น ๆ และขณะนี้มีกรณีของนายถวิล เปลี่ยนศรี ที่ถูกย้ายจากเลขาสมช.หากเลื่อนกระทู้นี้ออกไป เกรงว่าในการประชุม ครม.วันอังคารที่ 20 ก.ย.ก็อาจจะมีการแต่งตั้งใครเข้าไปเป็นเลขา สมช.แล้ว จึงขอให้ชะลอการแต่งตั้งบุคคลเข้าเป็นเลขาสมช.ออกไปก่อนเพราะได้ทำลายขวัญข้าราชการอย่างมากและในประวัติศาสตร์ก็ ไม่เคยมีที่ข้าราชการที่ตอบโตมาจากหน่วยงานแล้วต้องถูกย้ายออกไป

อย่างไรก็ตาม ประธานได้สั่งให้เลขาธิการสภาผู้แทนราษฎรในการประสานกับเลขาธิการคณะรัฐมนตรี กำหนดงานของรัฐมนตรี ที่ติดภารกิจเข้าร่วมพระราชพิธีพระศพ เพื่อส่งให้วิปทั้งสองฝ่ายประกอบการพิจารณากระทู้ถามสดต่อไป

**ถวิล พ้อหวั่นคนบางกลุ่มทำ สมช.แตก
 

วันเดียวกัน มีการเสวนา เรื่องธรรมาภิบาลในการแต่งตั้งโยกย้าย โดยคณะอนุกรรมาธิการเสริมสร้างธรรมาภิบาลในภาครัฐ ในคณะกรรมาธิการตรวจสอบเรื่องการทุจริตและเสริมสร้างธรรมาภิบาล วุฒิสภา โดย นายถวิล เปลี่ยนศรี ที่ปรึกษานายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ตลอดเวลาที่อยู่ที่สมช.ได้มองเป็นความไม่เป็นธรรมในการแต่งตั้งโยกย้ายมาตลอดชีวิตข้าราชการ สมช.ตั้งมา 50 ปี ขณะที่หน่วยงานด้านความมั่นคงก่อตั้งมายาวนานกว่าร้อยปี ตลอดเวลามีผู้บริหารมาจากฝ่ายทหารหลายคนอาทิ พล.อ.อ.สิทธิ เศวตศิลา น.ต.ประสงค์ สุ่นศิริ ที่เข้ามาอยู่ในสมช.ในช่วงต้น ไม่เว้นแม้แต่ยุคต่อมาที่มีพลเอกจรัล กุลลวนิชย์ จะเห็นได้ว่าท่านเหล่านี้ไม่ได้ทำให้เกิดความรู้สึกว่ามีการแทรกแซงในองค์กร ทั้งนี้อาจเป็นเพราะมิติด้านความมั่นคงเป็นมิติที่เกี่ยวข้องกับฝ่ายทหาร แต่ในยุคปัจจุบันมิติด้านความมั่นคงได้เปลี่ยนไป เริ่มมีการแทรกแซงเกิดขึ้น โดยตนได้เห็นภาพคนที่แทรกเข้ามาในองค์กรแล้วไม่ได้ทำประโยชน์เป็นชิ้นเป็นอันแต่ทำให้เกิดการแตกความสามัคคีเกิดขึ้น เหล่านี้อาจเป็นเพราะคนบางกลุ่มบางพวกที่ไม่อาจมุ่งหมายในการเติบโตตามสายงานได้

ข้าราชการสมช.เป็นพลเรือนแตกต่างจากคนเหล่านี้เพราะไม่สามารถย้อนกลับไปอยู่กับกองทัพได้กลายเป็นความน้อยเนื้อต่ำใจของฝ่ายพลเรือน ตนไม่ทราบว่าสิ่งที่เกิดขึ้นกับตนเป็นหนึ่งในกระบวนการเหล่านี้เหรือไม่ แต่มั่นใจว่าถึงแม้จะไม่มีการปรับย้ายตำแหน่งที่กระทบมาจากสำนักงานตำรวจแห่งชาติ (สตช.) ตนก็เชื่อว่าตนจะยังเป็นส่วนหนึ่งที่ต้องถูกแต่งโยกย้าย เพราะฝ่ายการเมืองพูดมาตลอดว่าเป็นเรื่องของความโกธรแค้นแบ่งฝักแบ่งฝ่าย ถ้าระบบโยกย้ายในสมช.ยังเป็นอย่างนี้จะทำใหการทำงานของสมช.ที่จะทำงานให้เกิดประโยชน์กับงานความมั่นคงไม่เพราะสิ่งที่เกิดขึ้นกระทบกับกำลังใจของคนทำงาน

นายถวิล กล่าวว่า ตนแทบไม่อยากเชื่อว่าเกิดขึ้น ตนถูกสั่งสอนมาตลอดให้ทำงานอย่างมืออาชีพ โดยต้องรักษาความเป็นมืออาชีพนั้นไว้ ตั้งแต่รัฐบาลนี้เข้ามาตนพยายามทำงานอยู่ในขอบเขต โดยพยายามหาเวลาเข้าไปรายงานตัวกับนายกรัฐมนตรี ต่อมาได้รับทราบจากพล.ต.อ.โกวิท เชิญให้ไปพบโดยท่านได้แจ้งว่าได้รับผิดชอบงานด้านความมั่นคงตนจึงเข้าไปรายงานตัว

“ผมพยายามอยู่ในกรอบการทำงาน ไม่ได้ตั้งแทนจะมาฟ้องก.พ.ค. ผมไม่เคยคิดเลยว่าจะต้องมาร้องขอความเป็นธรม ผมพยายามทำอย่างนี้มาตลอดแต่ท่านฝ่ายการเมืองก็ยกเอาเรื่องที่ผมอยู่ในศอฉ. ซึ่งศอฉ.มีมาตั้งแต่รัฐบาลพ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรีโดยเป็นเครื่องมือในการแก้ไขปัญหาในการมีพ.ร.ก.ฉุกเฉิน กฎหมายเขียนไว้ว่าเลขาฯสมช.ต้องไปเป็นกรรมการศฉฉ. เมื่อกฎหมายมีผมก็ต้องไป ผมไม่มีอคติต่อสีใดสีหนึ่ง แต่ดูว่าอะไรเป็นอันตรายต่อบ้านเมืองอะไรต้องไปดำเนินงาน ประเด็นของผมคือมันไม่เป็นไปตามระบบคุณธรรมท่านนายกฯพูดตลอดว่าผมไม่มีความผิด แล้วทำไมมาโยกย้ายผม ท่านบอกว่าผมมีความถนัดเรื่องความมั่นคงซึ่งงานนั้นเลขาฯสมช.ทำได้ดีอยู่แล้ว ผมไม่ได้สู้เพื่อกลับไปอยู่ตำแหน่งเดิมแต่สู้เพื่อศักดิ์ศรีและความถูกต้อง ถ้าถูกรังแกพอทนได้แต่ถ้ารังแกด้วยระบบราชการถือว่าทำร้ายประเทศชาติ ผมจะได้รับการคุ้มครองหรือไม่ขึ้นอยู่กับกพค. ผมเชื่อในกฎแห่งกรรมผมมีอายุราชการเหลือแค่ 3 ปี ผมคิดว่าจะได้เห็นผลของกฎแห่งกรรมนั้น“ นายถวิล กล่าว
กำลังโหลดความคิดเห็น