“ปึ้ง” นำทีม กต.ถกพื้นที่เขมรตู่ฮุบแผ่นดินไทย ฟันธงเอ็มโอยู 44 มีประโยชน์เตรียมชงเข้า ครม.18 ต.ค.นี้ แย้มยึดกลไกเจรจาเดิม “สุรพงษ์” นั่ง ปธ.เทคนิค เพื่อยกร่างความตกลงเกี่ยวกับการสำรวจขุดเจาะทรัพยากรธรรมชาติเอง ยันเน้นโปร่งใสและรักษาผลประโยชน์ของประเทศเป็นสำคัญ
วันที่ 3 ต.ค. นายธานี ทองภักดี อธิบดีกรมสารนิเทศ กระทรวงการต่างประเทศ เปิดเผยว่า กระทรวงการต่างประเทศได้จัดประชุมภายใน โดยมีนายสุรพงษ์ โตวิจักษณ์ชัยกุล รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ เป็นประธาน หารือถึงการดำเนินการเกี่ยวกับบันทึกความเข้าใจระหว่างรัฐบาลไทยกับกัมพูชา ว่าด้วยพื้นที่ที่ไทยและกัมพูชาต่างอ้างสิทธิในไหล่ทวีปทับซ้อนกัน พ.ศ. 2544 ที่แต่เดิมมติคณะรัฐมนตรี ในรัฐบาลของนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ ได้ประกาศยกเลิกไว้ เมื่อวันที่ 10 พ.ย.52
อย่างไรก็ดี เรื่องนี้ผลที่ประชุมของกระทรวงการต่างประเทศมีความเห็นว่า ในหลักการเอ็มโอยู ปี 2544 มีประโยชน์อยู่ หากผ่านความเห็นชอบจาก ครม.แล้ว จะต้องนำเสนอกรอบการเจรจาต่อรัฐบาล ตามมาตรา 190 ต่อไป ทั้งนี้พร้อมนำแนวคิดเสนอต่อที่ประชุม ครม.ในวันที่ 18 ต.ค.นี้ เพื่อให้พิจารณาถึงแนวทางการดำเนินการต่อไป
“ในส่วนของแนวทางการเจรจาระหว่างไทยกับกัมพูชา มีประโยชน์ในอ่าวไทย คงต้องยึดถือตามกรอบการทำงานของเอ็มโอยูปี 2544 ตามที่นายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศได้เคยแถลงไว้ก่อนหน้านี้ และตามที่ได้หารือไว้กับทางการกัมพูชาระหว่างที่ได้เยือนกัมพูชา เมื่อกลางเดือน พ.ย.ที่ผ่านมา โดยเน้นในเรื่องความโปร่งใสและรักษาผลประโยชน์ของประเทศเป็นสำคัญ” นายธานีกล่าว
ผู้สื่อข่าวรายงานอีกว่า การการเจรจาเอ็มโอยู ปี 44 ยังยึดกลไกการเจรจาเดิม ตามที่มติ ครม. ได้มีคำสั่งแต่งตั้งนายสุรพงษ์ดำรงตำแหน่งประธานคณะกรรมการร่วมด้านเทคนิคระหว่างไทย-กัมพูชา และแต่งตั้งนายพรชัย ด่านวิวัฒน์ รองอธิบดีกรมอาเซียน เป็นที่ปรึกษาทางกฎหมาย และมีนายวศิน ธีรเวชญาณ ทำหน้าที่เป็นหัวหน้าคณะอนุกรรมการของคณะกรรมการร่วมด้านเทคนิคระหว่างไทย-กัมพูชา เป็นผู้นำทีมทำหน้าที่เจรจา เพื่อยกร่างความตกลงเกี่ยวกับการสำรวจขุดเจาะทรัพยากรธรรมชาติ (น้ำมันและก๊าซ) ในเขตพื้นที่พัฒนาร่วม และยกร่างความตกลงเกี่ยวกับการปักปันเส้นเขตทะเล
โดย นายธานีกล่าวยืนยันว่า หลังจากที่การเจรจาภายใต้กรอบเอ็มโอยู ปี 44 ได้หยุดชะงักไปเมื่อ 2-3 ปีที่ผ่านมา ทางคณะอนุกรรมการฯ ก็ยังไม่ได้มีการเจรจาใดๆ กันอีก
