xs
xsm
sm
md
lg

“ชวนนท์” ปัด “เทือก” ถกลับ “ซก อาน” ท้าเปิดแผล MOU 44

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

ชวนนท์ อินทรโกมาลย์สุต
“ชวนนท์” ออกโรงท้าชน “ปึ้ง” คุ้ยประชุมลับ “สุเทพ-ซกอาน” รับเจอกัน 2 ครั้งแบบไม่เป็นทางการ พร้อมแจงเหตุส่งอดีตรองนายกฯเจรจาสร้างสัมพันธ์ ก่อนการประชุมเป็นหมันเพราะเหตุการณ์การเมือง ยันไม่มีวาระซ่อนเร้น บี้เดินหน้าสอบให้เต็มที่ ส่วนตัวรุกสอบเหตุ “นช.แม้ว” รีบสั่งให้เซ็น MOU 44 เหมือนกัน ขู่แฉผลประโยชน์ทางทะเล ลั่นสู้ถึงที่สุด

วันนี้ (2 ก.ย.) นายชวนนท์ อินทรโกมาลย์สุต โฆษกพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวถึงนายสุรพงษ์​ โตวิจักษณ์ชัยกุล รมว.ต่างประเทศ เรียกร้องให้นายอภิสิทธิ์​ เวชชาชีวะ อดีตนายกฯ และนายสุเทพ เทือกสุบรรณ อดีตรองนายกฯ ออกมาชี้แจงเรื่องการประชุมลับกับทางกัมพูชาเพื่อตกลงผลประโยชน์ว่า ในข้อเท็จจริงการพบปะกันที่ฮ่องกงนั้น นายสุเทพได้ชี้แจงแล้วว่าขณะนั้นเกิดปัญหา นายอภิสิทธิ์จึงได้มอบหมายให้นายสุเทพไปเป็นผู้ดำเนินการ และที่กัมพูชาอ้างว่าเป็นการเจรจาลับนั้นไม่เป็นความจริง เพราะเป็นเพียงการคุยกันนอกรอบ 2 ครั้ง ทั้งที่ฮ่องกง และคุนหมิง ประเทศจีน โดยไม่มีวาระอะไรพิเศษ เป็นเพียงแค่การหารือเพื่อสร้างความคุ้นเคย แต่เมื่อสมเด็จฯ ฮุนเซน นายกฯ กัมพูชา แต่งตั้ง พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกฯ เป็นที่ปรึกษาเศรษฐกิจ และรัฐบาลประชาธิปัตย์รู้ดีว่า พ.ต.ท.ทักษิณมีความรู้ดีเรื่องพื้นที่ทับซ้อนทางทะเลมากที่สุด เพราะเป็นผู้สั่งการให้นายสุรเกียรติ์ เสถียรไทย อดีต รมว.ต่างประเทศ เป็นผู้ลงนามในบันทึกความเข้าใจร่วม (เอ็มโอยู) ไทย-กัมพูชา 2544 ดังนั้นถือว่าเขาเป็นฝ่ายที่ได้เปรียบ จึงเป็นที่มาของการยกเลิกเอ็มโอยูดังกล่าว

นายชวนน์กล่าวอีกว่า ส่วนกรณีที่มีการกล่าวอ้างว่า ตนได้ร่วมเดินทางไปกับนายสุเทพ ในการไปพบกับนายซกอาน รองนายกฯ กัมพูชา ที่คุนหมิง เมื่อวันที่ 16 ก.ค.53 ด้วย แต่ครั้งนั้นเป็นการไปร่วมประชุมพรรคคอมมิวนิสต์จีน ที่จัดระหว่างวันที่ 14-18 ก.ค.53 โดยนายสุเทพ และนายซก อาน ได้รับเชิญเป็นวิทยากร จึงได้มีการประสานเพื่อพูดคุยกันไม่ได้มีการหารือลับอะไรเลย ไม่มีการพูดคุยหลังฉากอะไรทั้งสิ้น ส่วนเรื่องการตรวจสอบเรื่องนี้ถือเป็นเรื่องดี โดยตนขอท้าทาย รมว.ต่างประเทศ ที่จะมีการค้นหาในเรื่องนี้ โดยระบุว่าจะไปขอคำตอบจากกัมพูชานั้น ขอให้รีบทำ ทำให้เต็มที่ และอย่าหยุด โดยตนในฐานะที่เคยเป็นเลขาฯ รมว.ต่างประเทศก็จะทำเรื่องนี้เช่นเดียวกัน และพร้อมที่จะชี้ให้เห็นว่าเอ็มโอยูปี 2544 มีข้อผิดพลาดบกพร่องอย่างไร เหตุใดถึงต้องยกเลิก และจะได้ชี้ให้เห็นว่าทำไมในปี 2544 พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร ที่เข้ามาเป็นนายกฯ ได้เพียง 2-3 เดือน จึงรีบเร่งลงนามในเอ็มโอยูดังกล่าว

“เรื่องนี้คุณสุรพงษ์ไม่ต้องห่วง สืบสวนให้เต็มที่ว่าท่านสุเทพไปคุยอะไรกับนายซก อาน และสืบไปให้หมดว่าในการพูดคุยแต่ละครั้งมีอะไรบ้าง และผมจะทำเช่นเดียวกัน พร้อมจะเปิดเผยให้พี่น้องประชาชนทราบว่ารัฐบาลไหนที่มีผลประโยชน์ทับซ้อนทางทะเลกับกัมพูชา” นายชวนนท์ระบุ

นายชวนนท์ได้กล่าวต่ออีกว่า ตนจะนำจดหมายเชิญนายซก อาน หลังจากที่นายสุเทพเดินทางไปคุนหมิง และได้พบกับนายซก อาน โดยเมื่อเดือน ธ.ค.ปีที่แล้ว ได้มีจดหมายเชิญนายซก อานเข้าร่วมประชุม โดยจดหมายฉบับนี้จะยืนยันได้ว่าไม่มีเรื่องใดเป็นเรื่องลับ เพราะได้มีการพบปะกันอย่างไม่เป็นทางการ และได้มีการพูดคุยกันว่าควรจะมาหารือกัน ซึ่งเมื่อกลับมาถึงประเทศไทยก็ได้สั่งการให้กระทรวงการต่างประเทศ ทำจดหมายอย่างเป็นทางการเชิญมาคุยที่ประเทศไทย แต่ปรากฎว่าทางไทยมีเหตุการณ์ทางการเมือง นายซก อานจึงไม่ได้เดินทางมา

“ในจดหมายที่เชิญไปนั้น ไม่ได้มีการกล่าวถึงเรื่องผลประโยชน์ทับซ้อนทางทะเล จะพูดในเรื่องความร่วมมือในการพัฒนาร่วมกัน เพราะเห็นว่าในขณะนั้นปัญหามีมาก ทั้งเรื่องปราสาทพระวิหาร และเห็นว่านายสุเทพอยู่นอกกรอบของกระทรวงการต่างประเทศ จึงอยากให้เป็นผู้แทนไปเจรจาเพื่อสร้างบรรยากาศให้ดีขึ้นเท่านั้น” โฆษกพรรคประชาธิปัตย์กล่าว

ผู้สื่อข่าวถามว่า จำเป็นที่จะต้องให้กระทรวงการต่างประเทศทำหนังสือถึงกัมพูชาเพื่อให้ยืนยันว่าเรื่องดังกล่าวเป็นอย่างไรหรือไม่นั้น นายชวนนท์กล่าวว่า ตนกล่าวฝากไปถึงนายสุรพงษ์ให้ช่วยไปบอกกัมพูชา และออกมายืนยันเรื่องดังกล่าวให้ชัดเจน และเป็นสิ่งที่ดีทีรัฐบาลบอกว่าจะสอบเรื่องนี้

“ปัญหาของเอ็มโอยูฉบับนี้มีบันทึกตังแต่ปี 2542-43 สมัยนายชวน หลีกภัย เป็นนายกฯ ว่าเอ็มโอยูฉบับนี้มีปัญหาตรงเส้นที่กัทพูชาลาก ว่าทีมเทคนิคของไทยหลายคนไม่เห็นด้วย เพราะลากผ่านเกาะกูด จ.ตราด เข้ามาในอ่าวไทย ซึ่งทางเราก็บอกว่าคงรอไม่ได้ แต่เมื่อคุณทักษิณมาเป็นนายกฯ ได้ ​4 เดือน กลับสั่งให้นายสุรเกียรติ์เซ็นและยอมรับ ตรงนี้คงไม่เป็นไร ผมจะสู้ให้ถึงที่สุด” นายชวนนท์กล่าว
กำลังโหลดความคิดเห็น