“สุรพงษ์” ลุยสอบ “เทือก” ดอดคุยผลประโยชน์ทับซ้อนทางทะเลกับเขมรช่วงมีอำนาจ จี้ “มาร์ค-สุเทพ” ออกมาชี้แจงให้ชัด ปัดมีนัยทางการเมือง เตรียมเยือนกัมพูชา 14 ก.ย. พร้อมถกช่วย “วีระ-ราตรี” ด้านโฆษก ปชป.รับ “เทพเทือก” พบ “ซก อาน” จริง แต่ไม่เกี่ยวผลประโยชน์ทางทะเล เชื่อเป็นเกมการเมืองที่เขมรจ้องดีสเครดิต ปชป.
คลิกที่นี่ เพื่อฟังรายการ "นายสุรพงษ์ โตวิจักษ์ชัยกุล" ให้สัมภาษณ์
วันนี้ (2 ก.ย.) นายสุรพงษ์ โตวิจักษ์ชัยกุล รมว.ต่างประเทศ กล่าวว่า อยู่ระหว่างเตรียมทำหนังสือถึงรัฐบาลกัมพูชา เพื่อสอบถามข้อเท็จจริงกรณีที่องค์การปิโตรเลียมกัมพูชาออกแถลงการณ์ว่า รัฐบาลไทยในยุคของนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ โดยนายสุเทพ เทือกสุบรรณ รองนายกรัฐมนตรีในสมัยนั้น ได้มีการเจรจาลับเรื่องพื้นที่ทับซ้อนทางทะเล กับนายซก อาน รองนายกฯกัมพูชา
นายสุรพงษ์กล่าวว่า ตนขอเรียกร้องให้นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ อดีตนายกรัฐมนตรี และนายสุเทพ เทือกสุบรรณ อดีตรองนายกรัฐมนตรีฝ่ายความมั่นคง ออกมาชี้แจงเรื่องดังกล่าวให้เกิดความชัดเจน
“การพูดคุยของนายสุเทพนั้นถือว่าเป็นความลับทั้งหมด จึงอยากให้นายอภิสิทธิ์ และนายสุเทพออกมาชี้แจง แต่ในส่วนของผมได้รับมอบหมายให้ประสานกับทางกัมพูชาว่าสิ่งที่พูดคุยกันนั้นเป็นประโยชน์ต่อประเทศหรือไม่ ซึ่งหลังจากวันนี้ผมจะทำหนังสือสอบถามไปทางกัมพูชา”
นายสุรพงษ์ยืนยันว่า การตรวจสอบเรื่องดังกล่าวจะดำเนินการโดยเปิดเผย เพื่อให้ทุกฝ่ายสบายใจ แต่ขอตั้งข้อสังเกตุว่าช่วงที่นายสุเทพได้รับมอบหมายให้ไปเจรจานั้น รัฐบาลพรรคประชาธิปัตย์ก็ยังไม่ได้มีมติยกเลิก MOU ปี 2544 และการที่ตนเองเข้าไปตรวจสอบเรื่องนี้ ไม่ได้เป็นการปูทางเพื่อเอื้อประโยชน์ต่อรัฐบาลชุดนี้ อีกทั้งกรณีที่ทางกัมพูชาเปิดเผยเรื่องดังกล่าวในช่วงเวลานี้ไม่น่าจะมีนัยสำคัญอะไร
รมว.ต่างประเทศกล่าวว่า ตนจะเดินทางไปเยือนประเทศกัมพูชาในวันที่ 14 ก.ย.นี้ ซึ่งได้เตรียมกำหนดการที่จะเดินทางไปเยือนกลุ่มอาเซียน เริ่มตั้งแต่ประเทศบรูไน อินโดนีเซีย กัมพูชา และลาว โดยการเดินทางไปเยือนกัมพูชาจะได้เจรจาเรื่องการช่วยเหลือนายวีระ สมความคิด และ น.ส.ราตรี พิพัฒนาไพบูรณ์ สองคนไทยที่ถูกคุมขังอยู่ในเรือนจำประเทศกัมพูชาด้วย
ด้าน นายชวนนท์ อินทรโกมาลย์สุต โฆษกพรรคประชาธิปัตย์ และในฐานะอดีตเลขานุการรัฐมนตรีต่างประเทศ กล่าวว่าการพบกันระหว่างนายสุเทพ กับนายซก อาน เป็นการพบกันอย่างไม่เป็นทางการ แต่ไม่ได้ถกลับเรื่องผลประโยชน์ทับซ้อนทางทะเลแน่นอน แต่เป็นการหารือถึงความสัมพันธ์ของ 2 ประเทศ ซึ่งกัมพูชานัดเจอที่สิงคโปร์ เพราะว่าลูกชายของนายซก อาน อยู่ที่นั่น แต่นายสุเทพตอบว่าไปไม่ได้ แต่จะเดินทางผ่านฮ่องกง จึงได้พบกันที่ฮ่องกง แต่ต่อมาเมื่อปี พ.ศ. 2553 ซึ่ง พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร ได้เดินทางเข้ากัมพูชา และไปเป็นที่ปรึกษาของสมเด็จฯ ฮุนเซน รัฐบาลจึงได้ขอมติ ครม.ยกเลิก MOU ปี 2544 ไปแล้ว และไม่มีการหารือใหม่แต่อย่างใด จากนั้นภายหลัง นายสุเทพก็ได้พบกับนายซก อาน อีกครั้งที่เมืองคุนหมิง ประเทศจีน โดยบังเอิญ จากการเชิญประชุมตัวแทนพรรคการเมืองประเทศต่างๆ ของพรรคคอมมิวนิสต์จีน แต่ก็ไม่ได้หารือเรื่องอะไรเลย
นายชวนนท์กล่าวว่า กัมพูชาคงไม่เข้าใจว่ากฎหมายไทยระบุว่าการเจรจาใดๆ ของรัฐบาลไทย จะเจรจา หรือหารือกับใครต้องขออนุญาตรัฐสภาก่อน
โฆษกพรรคประชาธิปัตย์กล่าวว่า ได้เห็นแถลงการณ์แล้วก็พอจะดูออกว่า เป็นเกมการเมืองที่พยายามจ้องเล่นงานดิสเครดิตพรรคประชาธิปัตย์ เพราะคงไม่มีองค์กรใดทั้งในไทยหรือต่างประเทศที่จะออกมาแฉ หรือทำลายคนที่ให้ประโยชน์ ซึ่งประชาชนก็น่าจะดูออกว่าใครที่ต้องการทำลายพรรคประชาธิปัตย์
ส่วนการช่วยเหลือนายวีระ สมความคิด และ น.ส.ราตรี พิพัฒนาไพบูรณ์ นั้นหากรัฐบาลชุดนี้มีความสัมพันธ์ที่ดีกับกัมพูชาจริงก็ควรทำ เพราะว่าที่สุดของกฎหมายกัมพูชาทุกอย่างอยู่ที่การตัดสินใจของสมเด็จฯ ฮุนเซน นายกรัฐมนตรี เพียงคนเดียวเท่านั้น