นายกรัฐมนตรีสั่งมหาดไทยประสานพ่อเมือง ชัยนาท-สิงห์บุรี-ลพบุรี เร่งซ่อมแซมประตูระบายน้ำบางโฉมศรี พร้อมกำชับ ก.ทรัพย์ใช้ ฮ.หย่อนจุลินทรีย์แก้น้ำเน่าเสีย ด้านอธิบดีกรมชลประทาน ระบุสถานการณ์แม่น้ำปิง แม่น้ำยม เริ่มมีระดับที่คงที่ และยังอยู่เกณฑ์ควบคุมได้ ขณะที่โฆษกฯ เผยนายกฯ รู้แล้วใครแฮกทวิตเตอร์-เฟซบุ๊ก โดยกระทรวงไอซีทีเตรียมเปิดแถลงข่าวพรุ่งนี้
วันนี้ (2 ต.ค.) น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี กล่าวถึงการลงพื้นที่ติดตามการซ่อมแซมประตูระบายน้ำบางโฉมศรี เชื่อว่าน่าจะมีทางออกในการแก้ปัญหาเพิ่มเติม โดยเบื้องต้นได้มอบหมายให้กระทรวงมหาดไทยประสานความร่วมมือกับผู้ว่าราชการจังหวัดชัยนาท สิงห์บุรี และลพบุรี ในการอำนวยความสะดวกเกี่ยวกับเส้นทางจราจรในการใช้ขนย้ายหินไปชะลอน้ำที่ประตูระบายน้ำบางโฉมศรี รวมถึงการอพยพประชาชนไปยังที่ปลอดภัย เนื่องจากการขนย้ายหินอาจเกิดมลภาวะ
นอกจากนี้ นายกรัฐมนตรียังประสานเพิ่มเติมไปยังกองทัพเรือเพื่อให้นำเรือมาช่วยชะลอการไหลของน้ำ รวมถึงสั่งการไปยังรัฐมนตรีว่าการกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม นำจุลินทรีย์ไปหย่อนในพื้นที่น้ำท่วมขัง และเริ่มเน่าเหม็นโดยเฉพาะที่จังหวัดลพบุรี โดยให้ดำเนินการทันทีในวันนี้ ขณะที่รัฐมนตรีว่าการกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมรับทราบคำสั่ง และเตรียมพร้อมเฮลิคอปเตอร์ของกระทรวงฯ ไว้ 3 ลำ ในการดำเนินการ
ในวันเดียวกันนี้ นายกรัฐมนตรีพร้อมด้วยนายยงยุทธ วิชัยดิษฐ รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย พล.อ.อ.สุกำพล สุวรรณทัต รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม นายพระนาย สุวรรณรัฐ รักษาการปลัดกระทรวงมหาดไทย ได้ร่วมรับฟังบรรยายสรุปสถานการณ์น้ำและติดตามาความคืบหน้าความเสียหายประตูระบายน้ำบางโฉมศรี จังหวัดสิงห์บุรี ซึ่งทางกรมชลประทานได้ดำเนินการเสริมแนวกั้นเพื่อชะลอการไหลของน้ำสู่พื้นที่จังหวัดลพบุรี จากหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง
โดย นายชลิต ดำรงศักดิ์ อธิบดีกรมชลประทาน รายงานว่า สถานการณ์น้ำเวลานี้แม่น้ำปิง แม่น้ำยม เริ่มมีระดับที่คงที่ สถานการณ์น้ำยังอยู่เกณฑ์ควบคุมได้ ส่วนข่าวลือน้ำท่วมเกาะเก็ดเป็นไปไม่ได้ ซึ่งการจัดการน้ำเราผันน้ำออกทั้งฝั่งตะวันออก และฝั่งตะวันตกเหนือเขื่อนเจ้าพระยา สำหรับจุดที่เป็นปัญหาน้ำท่วมอยู่เป็นบริเวณมากคือที่จังหวัดลพบุรี ซึ่งเกิดจากคันน้ำที่ขาดเป็นบางช่วง โดยเฉพาะจุดที่ประตูน้ำบางโฉมศรี ซึ่งเวลานี้เราได้ระบายน้ำลงสู่แม่น้ำป่าสัก และหาสิ่งมากีดขวางให้น้ำชะลอตัวลง และในวันที่ 3-4 ต.ค.นี้ระดับน้ำจะลงมาที่จังหวัดอยุธยา
ขณะที่ กระทรวงวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี รายงานว่า สถานการณ์ล่าสุดจากภาพถ่ายดาวเทียมระดับน้ำในจังหวัดลพบุรีจะเพิ่มสูงขึ้นมาก รวมถึงจังหวัดสระบุรี และจะมีน้ำทางใต้เข้ามาเสริมอีก จากพังงา ระนอง และตรัง และจากภาคอีสานตอนบนอีก ส่วนเรื่องของการระบายน้ำที่เร่งระบายให้เร็วขึ้นที่ประตูระบายน้ำประเวศ
ขณะที่ นายกฯ กล่าวว่า ในส่วนของประตูระบายน้ำบางโฉมศรี ตนอยากให้เคลียร์พื้นที่เพื่อให้รถใหญ่สามารถนำตะกร้าหินเข้าไปในพื้นที่ได้ ซึ่งไม่มีทางแก้ไขทางอื่นแล้ว ซึ่งขณะนี้ตนได้ขอความร่วมมือไปยังทัพเรือเพื่อชะลอความแรงของน้ำแล้วนอกจากนี้นายกฯได้ให้กรมชลประทานเร่งดำเนินการในเรื่องของการใช้เครื่องผลักดันน้ำเพื่อเร่งระบายน้ำลงสู่ทะเล ขณะที่กระทรวงวิทยาศาสตร์อยากให้เร่งดำเนินการนำเรือผันน้ำจากที่ดำเนินการแล้ว 6 จุด และอยากให้กระทรวงมหาดไทยดำเนินขุดลอกคูคลอง ตามคำแนะนำของ ดร.รอยล จิตรดอน ผู้อำนวยการสถาบันสารสนเทศทรัพยากรน้ำและการเกษตร (สสนก.) ที่จะให้มีการเร่งระบายน้ำผ่านแม่น้ำท่าจีน
นายกฯ กล่าวต่อท้ายว่า วันนี้เราคงต้องมาหารือในแนวทางเร่งด่วนในการแก้ไขปัญหาน้ำท่วม โดยให้กระทรวงมหาดไทยเป็นผู้เร่งรัดและช่วยดูแลพี่น้องประชาชนอย่างทั่วถึง ทั้งในเรื่องอาหารและยารักษาโรค หากพื้นที่ใดที่รถไม่สามารถเข้าถึงได้ขอให้ประสานจากทางทหารใช้เฮลิคอปเตอร์ในการลำเลียงอาหารให้แก่ประชาชน ส่วนปัญหาเรื่องขยะนั้น ตนมอบหมายให้ นายชลิต ดำรงศักดิ์ อธิบดีกรมชลประทาน เร่งจัดการแก้ไขปัญหานี้ รวมถึงของความร่วมมือจากทุกหน่วยงานในการขุดลอกคูคลอง เพราะเรื่องนี้เป็นสิ่งสำคัญในการระบายน้ำได้เร็วที่สุด ทั้งนี้ตนเป็นห่วงเรื่องน้ำท่วมขังเป็นเวลานาน หากไม่มีการขุดลอกคูคลอง ในพื้นที่ก็จะเกิดน้ำเน่าและโรคต่างๆตามมา ตนก็ขอให้ดำเนินการแก้ไขในทุกจังหวัดที่มีปัญหาเรื่องนี้ด้วย อย่างไรก็ตามคงต้องสำรวจในจังหวัดที่มีความเสี่ยงในเรื่องน้ำท่วมอีกก่อนที่พายุลูกใหม่จะเข้ามาอีก พร้อมทั้งดูในเรื่องของการระบายน้ำลงสู่ทะเล เพื่อเร่งผลักดันน้ำให้เพิ่มขึ้น โดยเราต้องร่วมมือกันในทุกหน่วยงานทั้งภาครัฐ เอกชนในการระดมผลักดันน้ำ เพื่อให้สถานการณ์กลับสู่เข้าปกติโดยเร็ว
อย่างไรก็ตาม นายกรัฐมนตรีได้แสดงความเป็นห่วงประชาชนที่ได้รับความเดือดร้อน แต่ก็ยอมรับว่า เมื่อมีการแก้ปัญหาที่จังหวัดหนึ่งก็จะกระทบกับอีกจังหวัดหนึ่ง จึงขอความร่วมมือจากทุกฝ่ายให้เห็นใจซึ่งกันและกัน และจะเร่งแก้ปัญหาในพื้นที่ที่ได้รับผลกระทบโดยเร็วที่สุด และหากทุกฝ่ายร่วมมือกันเชื่อว่า จะสามารถแก้ปัญหาได้เร็วขึ้น
ขณะที่ นางฐิติมา ฉายแสง โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยภายหลังติดตามนายกรัฐมนตรีลงตรวจพื้นที่บริเวณประตูระบายน้ำบางโฉมศรีว่า จากการลงตรวจพื้นที่พบว่ามีปัญหาน้ำเน่าเสียในพื้นที่ ต.โพธิ์ชัย อ.อินทร์บุรี จ.สิงห์บุรี หรือต.หัวไผ่ และพื้นที่น้ำเน่าเสียในจังหวัดลพบุรี นายกรัฐมนตรีจึงได้สั่งการให้รัฐมนตรีว่าการกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ใช้เฮลิตอปเตอร์หย่อนจุลินทรีย์ ลงไปยังน้ำเน่าเสีย ซึ่งรัฐมนตรีว่าการกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ได้เตรียมเฮลิคอปเตอร์ไว้แล้ว 3 ลำ และจุลินทรีย์ที่จะไปดำเนินการทันที
สำหรับกรณีที่มีบุคคลไม่หวังดีแฮกข้อมูลทวิตเตอร์นายกรัฐมนตรี โดยการว่าร้ายนั้น นางฐิติมากล่าวว่า นายกรัฐมนตรีได้ทราบข้อมูลแล้ว เชื่อว่าในวันพรุ่งนี้ทางกระทรวงเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสารแถลงข่าวชี้แจงว่า ทราบตัวบุคคลที่แฮกข้อมูลแล้ว ทั้งนี้ทราบว่านอกจากการแฮกทวิตเตอร์แล้วยังจะสร้างเฟซบุ๊กโดยใช้ชื่อเดียวกันนายกรัฐมนตรีเพื่อกลั่นแกล้ง