xs
xsm
sm
md
lg

ผลงานรัฐบาลห่วย-ความชอบธรรมช่วย “แม้ว” ก็ตีบตัน!!

เผยแพร่:   โดย: MGR Online


ผ่าประเด็นร้อน

การเคลื่อนไหวของกลุ่มที่เรียกว่า “คณะนิติราษฎร์” เมื่อสัปดาห์ก่อนต่อเนื่องมาถึงสัปดาห์นี้ได้เรียกความสนใจจากสังคมรอบข้างได้พอสมควร แต่ออกมาในลักษณะของการ “รู้ทัน” ทำนองตำหนิติเตียนเสียมากกว่า

เสียงวิจารณ์ที่ส่วนใหญ่ออกมาในทางลบดังกล่าวมองออกว่า นี่คือ “ขบวนการล่าสุด” ที่มาในรูปแบบทางวิชาการกฎหมายเพื่อช่วยเหลือ ลบล้างความผิดให้กับ ทักษิณ ชินวัตร ซึ่งคราวนี้จะถึงขั้นปรับเปลี่ยนโครงสร้างทางกฎหมาย นั่นก็คือ การยกร่างรัฐธรรมนูญฉบับใหม่ ซึ่งจะมีการ “รับลูก” มาดำเนินการในสภา โดยการยื่นญัตติขอแก้ไขรัฐธรรมนูญฉบับปี 2550 นำไปสู่การยกร่างรัฐธรรมนูญฉบับใหม่ คาดว่าจะเกิดขึ้นหลังวันที่ 5 ธันวาคมเป็นต้นไป

“คณะนิติราษฎร์” ดังกล่าวส่วนใหญ่เป็นพวก “อาจารย์เด็กๆ” สอนวิชากฎมายในมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ และที่ผ่านมามักให้ความเห็นสอดคล้องกับประโยชน์ของ ทักษิณ ชินวัตร และเป็นเนื้อเดียวกับการเคลื่อนไหวของ คนเสื้อแดง รวมไปถึงวิพากษ์วิจารณ์สถาบันพระมหากษัตริย์ โดยมีเนื้อหาสำคัญก็คือต้องการให้ยกเลิกประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 112 กันเลยทีเดียว

หากพิจารณาให้ดีจะพบว่าพวก “อาจารย์เด็กๆ” เหล่านี้ พยายามหยิบยกขึ้นมาเคลื่อนไหวก็คือ อาศัยวันครบรอบการรัฐประหาร 19 กันยายน 2549 ครบ 5 ปี เพื่อปลุกกระแสประชาธิปไตย ขณะเดียวกันก็ได้ทำลายความชอบธรรมของรัฐธรรมนูญฉบับปัจจุบันคือฉบับปี 2550 อ้างว่ามาจาก “มดลูก” เผด็จการ นั่นคือผลที่เกิดขึ้นจากรัฐธรรมนูญฉบับนี้ ไม่ว่าจะเป็นคำตัดสินของศาล รวมถึงองค์กรต่างๆ และคำตัดสินที่เกิดขึ้นหลังจากนี้เสมือนหนึ่งว่า “เสียเปล่า” หรือไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อน

อย่างไรก็ดี ในข้อความที่เรียกว่าแถลงการณ์ของกลุ่ม “นิติราษฎร์” ที่มี 4 ประเด็นที่มีเนื้อหาหลักคือให้ลบล้างผลที่เกิดขึ้นหลังการรัฐประหารเมื่อ 19 กันยายน 2549 ชาวบ้านส่วนใหญ่รู้ดีว่านี่คือ อีกความพยายามหนึ่งในการช่วยเหลือให้ ทักษิณ ชินวัตร รอดพ้นจากความผิดในคดีต่างๆ แม้ว่าเมื่อวันอาทิตย์ที่ 25 กันยายนที่ผ่านมา “พวกเด็กๆ” กลุ่มนี้จะพยายามแก้ตัวว่าไม่ได้ “รับใช้” ทักษิณ และอ้างว่าสาเหตุที่ยังต้องต่อต้านการรัฐประหารดังกล่าวก่อนเพราะเป็นต้นตอทำให้สังคมไทยแตกแยกแบบฝังรากลึก และผลกระทบทางกฎหมายยังดำรงอยู่ สารพัด

สรุปก็คือ อ้างว่าไม่ได้ช่วยทักษิณให้พ้นผิด หรือได้ประโยชน์แม้แต่น้อย!!

การเคลื่อนไหวของพวก “เด็กๆ” ดังกล่าว ถือว่าเป็นการ “นำร่อง” ก่อนที่จะมีการแก้ไขรัฐธรรมนูญฉบับปัจจุบันที่มีเนื้อหาเข้มงวดกับการทุจริตคอรัปชั่นของ นักการเมือง ที่สำคัญมีผลกระทบต่อ ทักษิณ ชินวัตร นั่นเอง ซึ่งเป้าหมายหากพิจารณากันอย่างไม่อ้อมค้อมก็คือต้องการให้ลบล้างความผิดให้กับคนๆเดียว โดยใช้วิถีทางรัฐธรรมนูญซึ่งเป็นกฎหมายสูงสุดมาบังคับ

ก่อนหน้านี้ เครือข่ายของระบอบทักษิณเคยดำเนินการมาหลายรูปแบบ ทั้งแบบชาวบ้าน นักการเมืองฝ่ายบริหารได้พยายามเคลื่อนไหว เช่น ล่าชื่อถวายฎีกาขอพระราชทานอภัยโทษ การออกพระราชกฤษฎีกาพระราชทานอภัยโทษในวันมหามงคล ถึงขั้นมีการเตรียมการเปลี่ยนอธิบดี เปลี่ยนผู้คุม ปรับปรุงเรือนจำเอาไว้รองรับ เพื่อให้เข้าเงื่อนไข รวมไปถึงการเคลื่อนไหวล่าสุดก็คือให้พวกอาจารย์เด็กๆในมหาวิทยาลัยดังกล่าวมาเสนอแนวคิดให้ยกร่างรัฐธรรมนูญขึ้นมาใหม่

นั่นอาจเป็นวิธีคิดวิธีการที่มาในหลากหลายรูปแบบ เพราะหากยังมีเงิน มีอำนาจ และยังมีคนหลงเชื่อ ก็คงจะไม่หยุดนิ่ง แต่สิ่งที่ต้องพิจารณาควบคู่กันไปก็คือการเคลื่อนไหวในเรื่องใดก็ตาม หากคนในสังคมรู้ทันว่ามัน “ไม่ยุติธรรม” และทำเพื่อคนเพียงคนเดียว มิหนำซ้ำคนคนนั้นยังมีประวัติด่างพร้อย มีแต่ปัญหาทุจริต โกงภาษีเอาเปรียบคนอื่นมันก็สำเร็จยาก

นอกจากนี้ยังปัจจัยแวดล้อมที่สร้างบรรยากาศเป็นแรงส่งอันสำคัญก็คือ ต้องพิจารณาดูว่าผลงานของรัฐบาล ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร ที่เป็น “โคลนนิ่ง” ของทักษิณ ชินวัตร ว่าได้โชว์ผลงานเข้าตาแค่ไหน เพราะผ่านมาเพียงแค่เดือนเศษแนวโน้มเริ่มเข้ารกเข้าพงทำลายความเชื่อมั่นลงเรื่อยๆ ล่าสุดแม้แต่ผลสำรวจที่เพิ่งออกมาก็สรุปรวมๆได้ว่าชาวบ้านเริ่มศรัทธาน้อยลง สาเหตุก็มาจากความผิดหวังในการบริหารงาน ที่สำคัญก็คือพวกเขาเริ่มรู้ว่าสิ่งที่รัฐบาลกำลัง “เร่งมือ” ก็คือช่วยเหลือ ทักษิณ ชินวัตร เท่านั้น ขณะที่ปัญหาของชาวบ้านเป็นเรื่องรองลงไป

เมื่อบรรยากาศเริ่มไม่เป็นใจ ผลสำรวจความรู้สึกของชาวบ้านเริ่มออกมาเป็นลบมากขึ้นเรื่อยๆแบบนี้รับรองว่ามันย่อมส่งผลกระทบต่อ การช่วยเหลือ ทักษิณ ให้พ้นผิดแน่นอน ไม่เชื่อก็ลองย้อนกลับไปพิจารณาเปรียบเทียบเมื่อครั้งคดี “ซุกหุ้นภาคแรก” เมื่อหลายปีก่อนที่เขาถูกพิจารณาชี้ขาดในศาลรัฐธรรมนูญ ซึ่งชาวบ้านส่วนใหญ่ยังไม่รู้ทัน ยังคิดว่าเป็น “เทวดา” ทำให้ได้รับเทเสียงไว้วางใจท่วมท้น แม้แต่ตุลาการศาลรัฐธรรมนูญบางคนในยุคนั้นถึงกับใช้ตรรกะส่วนตัวอยู่เหนือกฎหมายไม่กล้าฝืน “กระแส” จนต้องยอมปล่อยผีออกไป แต่มาวันนี้เมื่อบรรยากาศพลิกเป็นตรงกันข้าม ผลงานรัฐบาลออกมาในแบบ “ห่วยแตก” แรงสนับสนุนเริ่มลดลง มันก็ส่งผลให้ความชอบธรรมในการช่วยเหลือคนเพียงคนเดียวน่าจะตีบตันลงเรื่อยๆ!!
กำลังโหลดความคิดเห็น