xs
xsm
sm
md
lg

คนโหวตโนมองกำลังรบเผด็จการรัฐธรรมนูญ 2 ฝ่าย

เผยแพร่:   โดย: ดร.ป. เพชรอริยะ

สนธิ ลิ้มทองกุล กล่าวสรุปว่า “นั่งบนภูดูเสือกัดกัน” การเคลื่อนไหวทางการเมืองในขณะนี้ ภาคประชาชนทั้งหลายและโดยเฉพาะกลุ่มพันธมิตรฯ จะต้องนิ่งเงียบตามข้อเสนอของ สนธิ ลิ้มทองกุล เพราะอะไรหรือ

เพราะขณะนี้ผู้คนเริ่มเห็นชัดแล้วว่าการเมืองเป็นการเมืองของฝ่ายลัทธิเผด็จการรัฐธรรมนูญ สมดังที่ สนธิ ลิ้มทองกุล กล่าวว่า “พรรคการเมืองไหนก็ตามที่เข้ามาเลวเหมือนกันหมดไม่มีข้อยกเว้น” ซึ่งเป็นความจริง เป็นผลสะท้อนมาจากระบอบเผด็จการรัฐธรรมนูญนั่นเอง (เพราะเหตุเลว ผลจึงเลว)

หากออกมาเคลื่อนไหวก็จะกลายเป็นกำลังให้พรรคประชาธิปัตย์ตีกิน หรือตีงูให้กากิน เป็นเบี้ยล่างพรรคประชาธิปัตย์ ต้องไม่ลืมว่ากลุ่มพันธมิตรฯ เป็นพลังทางการเมือง เป็นกลุ่มคนหัวก้าวหน้าทางการเมืองที่สุดของประเทศ

ปกติกลุ่มผลประโยชน์ต่างๆ เช่น กลุ่มชาวนา กลุ่มกรรมกร เป็นต้น กลุ่มผลประโยชน์ทางเศรษฐกิจ ถึงจะมีมากมายมหาศาลอย่างไร ก็มิได้หมายความว่าเป็นกลุ่มหัวก้าวหน้าทางการเมือง เว้นแต่กลุ่มเหล่านี้ ซึ่งได้รู้เองจากประสบการณ์การต่อสู้แล้วไม่ประสบผลสำเร็จหรือรู้จากผู้รู้แนะนำ พวกเขาจึงต้องพัฒนาการต่อสู้จากปัญหาที่เดือดร้อนอยู่ยกขึ้นสู่การต่อสู้ทางการเมือง การต่อสู้ทางการเมืองรู้ว่าสภาวะทางการเมืองของชาติที่ รัฐบาลใดๆ ปกครองแล้วก็เลวหมด ก็เพราะเหตุของมันคือระบอบเผด็จการรัฐธรรมนูญนั่นเอง

กลุ่มพันธมิตรฯ และชาวโหวตโนพวกเขาปฏิเสธการเมืองแบบเข้าคูหากา 4 วินาที จึงกลายเป็นกลุ่มการเมืองภาคประชาชนที่ก้าวหน้าที่สุดของชาติ ช่วงเวลานี้จึงเป็นช่วงของการศึกษา ทบทวน เพื่อเตรียมพร้อมสู้ศึกใหญ่เพื่อแก้ไขเหตุวิกฤตชาติในอนาคตอันใกล้นี้ เพราะยิ่งลักษณ์บริหารไม่เป็น

กำลังรบของ ฝ่ายรัฐบาลซึ่งเป็นพวกลัทธิเผด็จการรัฐธรรมนูญฝ่ายซ้ายยึดรัฐธรรมนูญเป็นสรณะสูงสุด เป้าโจมตีหรือยุทธศาสตร์ของพวกเขาคือแก้ไขรัฐธรรมนูญหรือยกร่างรัฐธรรมนูญใหม่ตามแนวรัฐธรรมนูญ ฉบับ 40 ซึ่งเป็นลักษณะเผด็จการรัฐธรรมนูญระบบกึ่ง-ประธานาธิบดี (Semi-Presidential System) คือเป็นรูปแบบกึ่งแยกฝ่ายนิติบัญญัติกับฝ่ายบริหารออกจากกันไม่เด็ดขาด หากเด็ดขาดก็เป็นระบบประธานาธิบดี ทั้งนี้ก็เพื่อปูทางไปสู่สาธารณรัฐของฝ่ายทักษิณนั่นเอง กำลังรบของฝ่ายนี้ประกอบด้วย

พรรคเพื่อไทย ตระกูลชินวัตร นายทุนสนับสนุนพรรค พลังมวลชนเสื้อแดง (ส่วนใหญ่ถูกหลอกดุจดังวัวเลือกเสือเป็นจ่าฝูง ซึ่งผิดธรรมชาติ) แกนนำตำรวจ ตำรวจแตงโม เพราะเพียงแค่เห็นว่าทักษิณเป็นตำรวจเก่า ทหารแตงโมส่วนใหญ่เป็นรุ่นเดียวกับทักษิณ และรุ่นน้องบางส่วน และยังหุ้นส่วน ฮุนเซน เพื่อนนายใหญ่ให้ที่หลบหนี เบื้องลึกของเขาไม่ต้องการสถาบันพระมหากษัตริย์ ดัง นายยงยุทธ วิชัยดิษฐ หัวหน้าพรรคเพื่อไทย รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีกระทรวงมหาดไทย กล่าวว่า “จะรื้อฟื้นลูกเสือชาวบ้านให้เป็นพลังแผ่นดินในการรักษาชาติ ศาสนา” ไม่กล้าพูดต่อคำว่า พระมหากษัตริย์

ส่วนพรรคประชาธิปัตย์เป็นเผด็จการรัฐธรรมนูญฝ่ายขวา อนุรักษนิยมล้าหลังสุดๆ ยึดมั่นในรัฐธรรมนูญปี 50 มีขุมกำลังรบน้อยหน่อย เพราะไม่ติดดิน บุคลิกหัวหน้าพรรคยิ่งยโสโอหัง ไม่ฟังใคร ถูกสอนถูกอบรมมาผิดจากนายชวน โดยเสนอว่าการเมืองปัจจุบันเป็นประชาธิปไตยดีแล้ว ส่วนคนที่เป็นเพราะบุคคลไม่ดี เลือกคนดี ก็จะดีเอง หากมองในแง่บุคคล มองในแง่ความสัมพันธ์ส่วนตัวแล้ว นักการเมืองทุกคนเป็นคนดีหมด แต่เพราะพวกเขาเป็นปลาดีที่อยู่ในน้ำคลำ เลยเลวตามน้ำคลำไปด้วย อยากให้คนใต้ทั้งหลายได้เข้าใจชัด เข้าใจถูกต้องเรื่องระบอบอะไรคือระบอบจริง (ยังไม่ได้รับการสถาปนา) อะไรระบอบปลอมเป็นเผด็จการ แต่หลอกว่าเป็นประชาธิปไตย คนใต้อย่าให้เขาหลอกพวกเราได้ คนใต้บอกว่า “ไม่มีตัวเลือกที่ดี จึงจำใจต้องเลือกพรรคประชาธิปัตย์ ส่วนจะให้เลือกพรรคเพื่อไทยนั้นไม่เลือกอยู่แล้ว” บางพวกก็บอกว่า “เลือกเพราะความเคยชิน” คนใต้ดีตรงที่ว่า “เงินซื้อไม่ได้”

ความต่างระหว่างระบอบเผด็จการทุกชนิด กับระบอบประชาธิปไตยจริงๆระบอบเผด็จการทุกชนิดจะใช้รัฐธรรมนูญเป็นเครื่องมือ แล้วโฆษณาชวนเชื่อว่านี่คือระบอบประชาธิปไตย แล้วก็ขัดแย้งกันเองต่อสู้กันเองเพื่อแย่งชิงอำนาจการเมืองและเศรษฐกิจ แน่นอนที่สุด 79 ปีการเมืองไทยยังลอยวนอยู่ในอ่างน้ำเน่า

ฝ่ายเชิดชู ชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์ที่ก้าวหน้าเสนอสถาปนาหลักการปกครองธรรมาธิปไตย 9 อันเป็นพระราชภารกิจอันยิ่งยวด ยิ่งใหญ่ขององค์พระมหากษัตริย์ เป็นแนวคิดใหม่คือการรู้แจ้ง สภาวะเบญจขันธ์ (ขันธ์ 5) กับกฎธรรมชาติประสานลงสู่การเมืองธรรมาธิปไตย เป็นลักษณะ 3 ประสานเป็นหนึ่งเดียวกัน จึงเป็นแนวคิดใหม่ของโลกและเป็นสิ่งที่ก้าวหน้าที่สุดของโลก การเมืองแนวทางธรรมาธิปไตยจึงไม่มีในตำรา (โปรดอ่านวิเคราะห์ วิจัย ประมวล ได้จากบทความของผู้เขียน)

หากเราจะปฏิวัติประชาธิปไตยจริงๆ แบบตะวันตก (ซึ่งกำลังจะล่มสลาย) ไทยเราก็เท่ากับเป็นรถเมล์เที่ยวสุดท้าย ตามประเทศมาเลเซียไม่ทันเขาแล้ว เขาเป็นประชาธิปไตยหลังสงครามโลกครั้งที่ 2 ร่วม 50-60 ปีแล้ว

ประเทศไทยยังล้าหลังอย่างแรงยังมัวงมโข่ง-สาละวนอยู่ในอ่างน้ำกับการร่างและแก้ไขรัฐธรรมนูญ หากพวกเขากลับใจเกิดปัญญามาเป็นการเรียกร้องหลักการ (ระบอบ) ปกครองธรรมาธิปไตย 9 “พึงรู้ว่า หลักการปกครองฯ ต้องมาก่อนรัฐธรรมนูญ” จงหยุดแนวทางคิดแก้ไขหรือร่างรัฐธรรมนูญใหม่อันชั่วร้ายนี้เสียเถิด
กำลังโหลดความคิดเห็น