“มาร์ค” ดักคอรัฐบาลอย่าชำเรารัฐธรรมนูญเพื่อปูทางนิรโทษกรรม “ทักษิณ” บอกรับได้แก๊งแดงเสวยสุขนั่งที่ปรึกษาเลขาฯ เสนาบดี ห่วงแต่ม็อบไพร่ใช้พวกกดดันองค์กรอิสระทำให้เกิดความไม่มั่นใจในการวินิจฉัยคดี
นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ ว่าที่หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวถึงรัฐบาลพรรคเพื่อไทย เตรียมแก้รัฐธรรมนูญ มาตรา 291 เพื่อตั้ง ส.ส.ร.ขึ้นมารื้อรัฐธรรมนูญปี 2550 ว่า ในเมื่อรัฐบาลระบุเป็นนโยบายและยืนยันชัดเจนก็คงเป็นขั้นตอนการทำงานของเขา โดยพรรคประชาธิปัตย์ก็จะติดตามและศึกษาเรื่องนี้ว่าแนวโน้มเป็นอย่างไร การปรับปรุงแก้ไขเพิ่มเติม รวมไปถึงการยกร่างรัฐธรรมนูญให้มีความเหมาะสมนั้นไม่ได้เป็นปัญหาถ้าไปในลักษณะที่จะทำให้การเมืองดีขึ้น แต่สิ่งที่ห่วงใย คือ อย่ามีการปกปิดเพื่อนำไปสู่วิธีการนิรโทษกรรม หรือทำลายองค์กรตรวจสอบ และกระทบต่อสถาบันหลักประเทศชาติ ทั้งนี้ คงต้องดูที่สาระและวิธีการต่าง แต่ในการประชุมรัฐสภารองนายกฯ ก็พยายามยืนยันแล้วว่าไม่มีเรื่องนิรโทษกรรม จึงต้องดูว่าข้อเท็จจริงจากนี้จะเป็นอย่างไร
ส่วนการแก้ไขรัฐธรรมนูญจะนำไปสู่ขั้นตอนการนิรโทษกรรมหรือไม่นั้น นายอภิสิทธิ์กล่าวว่า เวลานี้คงไปพูดล่วงหน้าลำบาก เพราะต้องดูในแง่เนื้อหาสาระที่จะมีการแก้ไข แต่อยากให้รัฐบาลยืนยันให้ประชาชนเข้าใจว่าจะไม่มีเรื่องนิรโทษกรรมโดยเด็ดขาด
ผู้สื่อข่าวถามว่า พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร ให้สัมภาษณ์ว่าพร้อมจะกลับมาเป็นผู้นำประเทศหากประชาชนต้องการ นายอภิสิทธิ์กล่าวว่า ถ้าเช่นนั้นคงไม่ใช่การแก้รัฐธรรมนูญ แต่เป็นการนิรโทษกรรม และกระบวนการที่นำไปสู่ตรงนั้นมีปัญหามากมาย ส่วนการเคลื่อนไหวของ พ.ต.ท.ทักษิณจะเป็นการสอดรับกับความเคลื่อนไหวของรัฐบาลในเรื่องแก้รัฐธรรมนูญหรือไม่นั้น คงต้องดูไปว่าแนวคิดที่จะแก้ไขมาตรา 291 จะมีขอบเขตอย่างไรเพราะทราบว่าจะมีการหารือในกลุ่มของพรรคร่วมรัฐบาลก่อน ดังนั้น ต้องให้ความมั่นใจกับประชาชนได้ว่าจะไม่นำมาสู่ความขัดแย้ง โดยเฉพาะเรื่องนิรโทษกรรม เพราะการสำรวจความคิดเห็นก็ค่อนข้างสะท้อนว่าประชาชนกังวลในเรื่องนี้ อีกทั้งเรื่องดังกล่าวก็ไม่ใช่เรื่องเร่งด่วน เพราะในขณะนี้มีเรื่องของปากท้อง น้ำท่วม ภัยพิบัติ ซึ่งเป็นสิ่งที่รัฐบาลต้องเอาใจใส่
ส่วนการแต่งตั้งคนเสื้อแดงในมีตำแหน่งทางการเมืองนั้น นายอภิสิทธิ์กล่าวว่า ถือเป็นสิทธิ และอยู่ที่ผลการทำงาน ส่วนคนที่ได้รับการแต่งตั้งนั้นก็มีหน้าที่พิสูจน์ตัวเอง ทั้งนี้ที่น่าเป็นห่วงมากกว่าคือในช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมาคือการเคลื่อนไหวของคนเสื้อแดงบางส่วนที่นำไปสู่ปัญหาเรื่องการคุกคามต่างๆ ทั้งนักการเมือง สื่อมวลชน ขณะที่รัฐบาลยังไม่มีท่าทีชัดเจนว่าจะทำอย่างไร
ผู้สื่อข่าวถามว่า ร.ต.อ.เฉลิม อยู่บำรุง รองนายกรัฐมนตรี ระบุว่าได้ทำความเข้าใจกับนายขวัญชัย ไพรพนา แกนนำคนเสื้อแดง จ.อุดรธานีแล้ว เพียงพอหรือไม่ นายอภิสิทธิ์กล่าวว่า คงต้องดูผลมากกว่าว่าได้ส่งผลอย่างไร เราไม่อยากให้เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นทั้งสัปดาห์ที่แล้วเกิดเป็นเหตุปกติ ทั้งนี้ หากคนเสื้อแดงจะไปชุมนุมหน้ารัฐสภาทุกสัปดาห์ก็ไม่ได้ทำให้ฝ่ายค้านหวั่นไหว แต่ตนไม่อยากให้เกิดเงื่อนไขความขัดแย้ง วุ่นวาย และก็ต้องถามว่าเราต้องการให้การเมืองเป็นแบบนี้ไปเพื่ออะไร ทั้งที่แต่ละฝ่ายสามารถทำหน้าที่ตัวเองได้
อย่างไรก็ตาม ตนยังไม่ห่วงเรื่องนี้เท่ากับการที่มีคนไปชุมนุมกดดันองค์กรที่ไม่เกี่ยวข้องกับการเมือง ไม่เกี่ยวข้องกับเรื่องเสียงข้างมากหรือเสียงข้างน้อย ไม่เกี่ยวพรรคการเมือง แต่มีหน้าที่ตัดสิน วินิจฉัยไปตามข้อเท็จจริงและกฎหมาย ทั้งศาล องค์กรอิสระ ดังนั้น การเอามวลชนไปกดดัน จะส่งผลกระทบได้ หรือมิเช่นนั้นอาจทำให้เกิดความไม่มั่นใจในองค์กรเหล่านี้ว่า จะมีการวินิจฉัยอยู่ภายใต้ภาวะการกดดันหรือไม่ ส่วนกรณีการพูดคุยระหว่างนายสาทิตย์ วงศ์หนองเตย ส.ส.ตรัง พรรคประชาธิปัตย์กับ ร.ต.อ.เฉลิม ที่สืบเนื่องมาจากการอภิปรายในสภานั้น คงต้องดูผลกันเป็นระยะว่าจะมีความคืบหน้าเช่นใด