การประชุมรัฐสภาเพื่อแถลงนโยบายของรัฐบาล เริ่มโดย น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี เป็นผู้แถลงนโยบาย ระบุปัจจุบันประเทศไทยอยู่ระหว่างช่วงเปลี่ยนผ่าน 3 ด้าน คือ ด้านเศรษฐกิจ การเมือง และโครงสร้างประชากร โดยด้านเศรษฐกิจถือว่ายังมีความเสี่ยงจากภาวะเศรษฐกิจโลก โดยเฉพาะอัตราว่างงานของอเมริกาที่ยังสูง และหลายประเทศในยุโรปเสี่ยงที่จะเกิดวิกฤตเศรษฐกิจ เช่น กรีซ สเปน และอิตาลี ซึ่งจะส่งผลกระทบโดยตรงต่อโครงสร้างเศรษฐกิจของไทยที่ยังต้องพึ่งพาการส่งออก ทั้งนี้รัฐบาลเสนอนโยบายโดยจุดมุ่งหมาย 3 ประการ คือ นำประเทศไทยไปสู่โครงสร้างเศรษฐกิจที่สมดุล นำประเทศไปสู่สังคมที่มีความปรองดองสมานฉันท์ และการนำประเทศไปสู่การเป็นประชาคมอาเซียนในปี พ.ศ.2558 อย่างสมบูรณ์
ทั้งนี้สำหรับนโยบายของรัฐได้แบ่งเป็น 8 ด้าน เช่น นโยบายเร่งด่วนที่จะดำเนินการในปีแรก นโยบายด้านความมั่นคง นโยบายเศรษฐกิจ สังคม คุณภาพชีวิต และนโยบายด้านการต่างประเทศ เป็นต้น สำหรับนโยบายเร่งด่วนที่รัฐจะดำเนินการในปีแรกมี 16 เรื่อง เช่น การสร้างความปรองดองให้การเยียวยาและฟื้นฟูกับทุกฝ่าย ทั้งประชาชน เจ้าหน้าที่รัฐ และภาคเอกชน ขณะเดียวกันสนับสนุนให้คณะกรรมการอิสระตรวจสอบและค้นหาความจริงเพื่อความปรองดองแห่งชาติ หรือ คอป. ได้มีการดำเนินการต่ออย่างอิสระ และจะผลักดันให้มีการปฏิรูปการเมืองให้ประชาชนมีส่วนร่วมด้วยการตั้งสภาร่างรัฐธรรมนูญ เพื่อยกร่างรัฐธรรมนูญฉบับใหม่ และให้ประชาชนให้ความเห็นชอบตามกระบวนการการลงประชามติ
นอกจากนี้ ยังมีการกำหนดให้แก้ไขปัญหายาเสพติดเป็นวาระแห่งชาติ ส่งเสริมให้มีการบริหารจัดการน้ำอย่างบูรณาการ นำสันติสุขกลับสู่ชายแดนภาคใต้ และเป็นที่สังเกตว่า นโยบายของรัฐยังไม่ระบุหลายโครงการที่พรรคเพื่อไทยหาเสียงไว้ เช่น การปรับลดภาษีเงินได้นิติบุคคล การจัดหาเครื่องคอมพิวเตอร์แท็บเล็ต โดยจะนำร่องชั้นประถมศึกษาปีที่ 1 ในปีการศึกษา 2554
ทั้งนี้ คาดว่า หลังจากที่นายกรัฐมนตรีนำเสนอนโยบายเสร็จสิ้นจะเป็นการอภิปรายของผู้นำฝ่ายค้าน จากนั้นจะสลับการระหว่างฝ่ายค้านและรัฐบาล โดยตามกำหนดรัฐบาลและฝ่ายค้านจะได้เวลาฝ่ายละ 11 ชั่วโมง ขณะที่สมาชิกวุฒิสภาจะได้ 7 ชั่วโมง แต่สำหรับนายกรัฐมนตรี ผู้นำฝ่ายค้าน และหัวหน้าพรรคการเมืองจะอภิปรายได้โดยไม่กำหนดเวลา ซึ่งตามกรอบเวลาการอภิปรายนโยบายในวันแรกนี้จะแล้วเสร็จถึงเวลาประมาณ 24.00 น.
ทั้งนี้สำหรับนโยบายของรัฐได้แบ่งเป็น 8 ด้าน เช่น นโยบายเร่งด่วนที่จะดำเนินการในปีแรก นโยบายด้านความมั่นคง นโยบายเศรษฐกิจ สังคม คุณภาพชีวิต และนโยบายด้านการต่างประเทศ เป็นต้น สำหรับนโยบายเร่งด่วนที่รัฐจะดำเนินการในปีแรกมี 16 เรื่อง เช่น การสร้างความปรองดองให้การเยียวยาและฟื้นฟูกับทุกฝ่าย ทั้งประชาชน เจ้าหน้าที่รัฐ และภาคเอกชน ขณะเดียวกันสนับสนุนให้คณะกรรมการอิสระตรวจสอบและค้นหาความจริงเพื่อความปรองดองแห่งชาติ หรือ คอป. ได้มีการดำเนินการต่ออย่างอิสระ และจะผลักดันให้มีการปฏิรูปการเมืองให้ประชาชนมีส่วนร่วมด้วยการตั้งสภาร่างรัฐธรรมนูญ เพื่อยกร่างรัฐธรรมนูญฉบับใหม่ และให้ประชาชนให้ความเห็นชอบตามกระบวนการการลงประชามติ
นอกจากนี้ ยังมีการกำหนดให้แก้ไขปัญหายาเสพติดเป็นวาระแห่งชาติ ส่งเสริมให้มีการบริหารจัดการน้ำอย่างบูรณาการ นำสันติสุขกลับสู่ชายแดนภาคใต้ และเป็นที่สังเกตว่า นโยบายของรัฐยังไม่ระบุหลายโครงการที่พรรคเพื่อไทยหาเสียงไว้ เช่น การปรับลดภาษีเงินได้นิติบุคคล การจัดหาเครื่องคอมพิวเตอร์แท็บเล็ต โดยจะนำร่องชั้นประถมศึกษาปีที่ 1 ในปีการศึกษา 2554
ทั้งนี้ คาดว่า หลังจากที่นายกรัฐมนตรีนำเสนอนโยบายเสร็จสิ้นจะเป็นการอภิปรายของผู้นำฝ่ายค้าน จากนั้นจะสลับการระหว่างฝ่ายค้านและรัฐบาล โดยตามกำหนดรัฐบาลและฝ่ายค้านจะได้เวลาฝ่ายละ 11 ชั่วโมง ขณะที่สมาชิกวุฒิสภาจะได้ 7 ชั่วโมง แต่สำหรับนายกรัฐมนตรี ผู้นำฝ่ายค้าน และหัวหน้าพรรคการเมืองจะอภิปรายได้โดยไม่กำหนดเวลา ซึ่งตามกรอบเวลาการอภิปรายนโยบายในวันแรกนี้จะแล้วเสร็จถึงเวลาประมาณ 24.00 น.