“ฮุน มาเนต” ติดใจพาเด็กเขมรทัวร์อีกรอบ คราวนี้เหยียบตัวปราสาทตาเมือนธม แต่งนิทานปั้นข่าวให้เกลียดไทย พล่ามปะทะหลายวันแรกเขมรไม่ได้ตอบโต้ไทยเลย ไทยยิงปืนใหญ่ใส่เขมรนับหมื่นลูก จนทหารเขมรอดกลั้นไม่อยู่ จำต้องป้องกันตัวตอบโต้ไป
วันนี้ 13 ก.ย. เว็บไซต์ฟิฟทีนมูฟ อ้างข่าวจากสำนักข่าวซีอีเอ็นว่า ฮุน มาเนต บุตรชายของฮุนเซน หลังจากนำคณะตัวแทนเยาวชนร่วม 300 คน เดินทางขึ้นชมวัดแก้วสิกขาคีรีสวาระ ปราสาทพระวิหาร และทำพิธีบวงสรวงที่เป้ยตาดี เมื่อวันที 11 กันยายนที่ผ่านมา วันนี้ได้นำคณะตัวแทนเยาวชนกลุ่มดังกล่าวเดินทางกลับมาที่พื้นที่ อ.บันเตียอัมปึล จ.อุดรมีชัย อีกครั้ง โดยครั้งนี้ได้เข้าไปยังปราสาทตาเมือนธม ซึ่งระหว่างการเข้าชมปราสาทตาเมือน ฮุน มาเนต ได้กล่าวยกย่องความกล้าหาญของทหารและตำรวจที่ประจำการปกป้องบูรณภาพดินแดน ต่อต้านการรุกรานของไทยในช่วงที่ผ่านมา นอกจากนี้ยังกล่าวอีกว่า กัมพูชายึดถือจุดยืนแก้ปัญหาด้วยสันติวิธี โดยเฉพาะเรื่องพรมแดนที่มีความแตกต่าง กัมพูชาไม่ต้องการขยายสมรภูมิสงครามและขยายความแตกต่าง กัมพูชาต้องการได้ชายแดนที่สุขสันติ ความร่วมมือ ประชาชนของสองประเทศมีความกลมเกลียว ไปมาค้าขายกัน
บุตรชายของฮุนเซนกล่าวต่อว่า กองทัพแห่งชาติกัมพูชา และกองตำรวจประจำการที่ปราสาทตาเมือน และปราสาทตาควาย มีงานที่หนักมากที่สุดในช่วงที่ต่อสู้กันที่ผ่านมา เพราะช่วงหลายวันแรกกัมพูชาไม่ได้ตอบโต้ประเทศเพื่อนบ้านเลย และประเทศนั้นก็ยิงกระสุนปืนใหญ่ร่วมหมื่นนัดเข้าใส่กัมพูชา ซึ่งในที่สุดก็ไม่อาจอดทนต่อไปได้ กัมพูชาจึงใช้สิทธิป้องกันตนเองแล้วยิงตอบโต้ศัตรูกลับไป
ด้าน พล.ต.แปน โวย ผู้บัญชาการกองพลน้อยทหารราบที่ 42 กล่าวรายงานกับ ฮุน มาเนต และคณะว่า พื้นที่ปราสาทตาเมือนและปราสาทตาควาย ตั้งอยู่ในด้านที่ 3 จ.อุดรมีชัย ปัจจุบันสถานการณ์ตามแนวชายแดนกัมพูชา-ไทย ดีขึ้นเป็นอย่างมาก หลังการเลือกตั้งทั่วไป เมื่อวันที่ 3 กรกฎาคม ที่พรรคเพื่อไทยชนะการเลือกตั้ง และ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร ได้เป็นนายกรัฐมนตรี เป็นต้นมา
พล.ต.แปน โวย กล่าวถึงด้านการทหารในพื้นที่ปราสาทตาเมือนและตาควายว่า ความสัมพันธ์ของสองฝ่ายดีมาก มีการนัดพบกันเป็นประจำเพื่อแลกเปลี่ยนข้อมูลข่าวสาร มีการพบปะตามลำดับชั้นระหว่างสองฝ่าย ซึ่งฮุนมาเนตกล่าวตอบว่า การพบหารือกันตามลำดับชั้น เป็นความพยายามอย่างหนึ่ง ที่จะทำให้สถานการณ์ชายแดนคลี่คลายลง ตรงตามคำสั่งของสมเด็จเดโชฮุนเซนที่ต้องการได้ที่สุด
