“พิชาย” ชี้โรงเรียน ปชป.ส่อแววฝ่อ ไร้จุดหมายชัดเจน ไม่มีประสิทธิภาพขยายฐานมวลชน ต่างจากของเสื้อแดงที่มีพลังช่วงชิงอำนาจมากกว่า แนะปรับหลักสูตรชู “ชวน-อภิสิทธิ์” เป็นจุดนำการเปลี่ยนแปลง เอาเศรษฐกิจพอเพียงมาเป็นปรัชญาต่อสู้กับบริโภคนิยมของ “ทักษิณ” และสอนให้กับเยาวชน ด้าน “ชัยชนะ” งงเปิดสอนให้ ส.ส.ตัวเองทำไม เหมือนกับว่าไม่มีความรู้ถึงต้องมาติวเข้มกัน ซึ่งหลักสูตรก็ไม่ต่างจากสถาบันพระปกเกล้า เชื่อสุดท้ายทั้งโรงเรียน “เสื้อแดง-ปชป. ” จะทำลายตัวเอง เพราะไม่ได้ทำเพื่อชาติ
คลิกที่นี่ เพื่อฟังรายการ "คนเคาะข่าว"
วันที่ 29 ส.ค. เมื่อเวลา 20.30 น. รศ.ดร.ชัยชนะ อิงคะวัต อาจารย์ประจำภาควิชาการปกครอง คณะรัฐศาสตร์ มหาวิทยาลัยรามคำแหง และ รศ.ดร.พิชาย รัตนดิลก ณ ภูเก็ต รองคณบดีคณะพัฒนาสังคมและสิ่งแวดล้อม สถาบันบัณฑิตพัฒนบริหารศาสตร์ (นิด้า) ร่วมพูดคุยในรายการ “คนเคาะข่าว” รศ.ดร.พิชายกล่าวว่า โรงเรียนการเมืองของประชาธิปัตย์ ต่างกันกับโรงเรียนเสื้อแดง เนื่องจากของเสื้อแดงจะดูฮึกเหิม มีเป้าหมายชัดเจนทั้งระยะสั้น กลาง ยาว ระยะสั้นคือการล้มรัฐบาลอำมาตย์ ซึ่งตอนนี้ก็ทำสำเร็จแล้ว จัดการกระบวนการอยุติธรรม ตนคิดว่าก็คือการประกันตัวเสื้อแดง และเอาผิดนายอภิสิทธิ์ นายสุเทพ ระยะกลางคือแก้รัฐธรรมนูญ ระยะยาวคือล้มอำมาตย์ วิธีการที่ใช้ก็คล้ายคลึงกับพรรคคอมมิวนิสต์ในอดีต
ส่วนประชาธิปัตย์เป้าหมายไม่ชัด เป็นการมุ่งยกระดับความสามารถของส.ส. มุ่งพัฒนาบุคลากรของตัวเอง กว่าจะอบรมรุ่นหนึ่งประมาณ 7 เดือน ได้คน 69 คน ในเชิงปริมาณมันดูจะน้อยไปหน่อย และอาจมีผลกระทบทางการเมืองค่อนข้างน้อย เห็นบอกว่ารุ่นต่อไปจะให้มีพ่อค้า ประชาชนเข้าร่วม และการอบรมจะไม่ใช้ความรุนแรงเหมือนนปช. ซึ่งถ้าอบรมแบบนี้ปล่อยให้มหาวิทยาลัยทำไป เพราะพรรคการเมืองต้องมีเป้าหมายในการทำงาน กับความคิดทางการเมืองที่ชัดเจน ซึ่งเป็นรูปธรรม เร้าใจมากกว่านี้ถ้าจะขยายฐานมวลชน ไม่ต้องเหนียมประกาศให้ชัดเลยว่าจะหยุดระบอบทักษิณ ทำอย่างไร มีแนวทางอย่างไร
เทียบกันแล้วในแง่ช่วงชิงอำนาจเพื่อไทยมีพลังมากกว่า ถ้ามาแบบนี้คงเป็นไปอย่างที่เสื้อแดงดูถูกไว้ว่าเดี๋ยวมันก็ฝ่อไปเอง
รศ.ดร.ชัยชนะกล่าวว่า ดูแล้วสงสารประเทศไทย อย่างโรงเรียนเสื้อแดงที่ใช้รูปแบบของคอมมิวนิสต์ หากเปิดแบบนี้ในอเมริกาคงถูกจับเข้าคุกหมดแล้ว เสรีภาพอะไรที่ต้องการ ประเทศไทยนี่เสรีภาพมากที่สุดในโลกแล้ว เห็นได้ว่าคอมมิวนิสต์เก่าหลายคนตอนนี้กลับมา บางคนก็เป็นอาจารย์ บ้างก็เป็นนักการเมือง ตนเกิดมาไม่เคยเห็นคอมมิวนิสต์จับมือกับนายทุนได้อย่างเมืองไทยเลย ประเทศเราสับสนที่สุด ไม่มีหลักอะไรเลย
รศ.ดร.ชัยชนะกล่าวอีกว่า แม้แต่ประชาธิปัตย์ก็น่าสงสาร วิชาที่จะเปิดสอน (การเมือง เศรษฐกิจ กฎหมายมหาชน) ตนสอนหนังสือมา นักการเมืองมาเรียนตนจะบอกเลยว่ารัฐศาสตร์สอนให้คนเป็นคนดี ถ้าเอาสำรับนี้มาสถาบันพระปกเกล้าทำแล้ว และก็ล้มเหลวด้วย เนื่องจากเอาเงินภาษีประชาชนมาเปิด แต่ดันเป็นได้แค่สถานที่เอาไว้สร้างคอนเนกชันกัน ถ้าเป็นอเมริกาเขาต้องทำเพื่อสร้างชาติ แต่ของเราสร้างตัวบุคคล สร้างธุรกิจ สร้างทางสังคม คิดไม่ถึงว่า ส.ส.ประชาธิปัตย์จะไม่มีความรู้ขนาดนี้เลยหรือ ถึงต้องมาติวเข้มกัน อาจารย์ที่มาสอนลงการเมืองก็สอบตก ที่ผ่านมา 2 ปี เอาไปทบทวนดีกว่าว่ายุทธศาสตร์ที่ควรทำเป็นอย่างไร สรุปประเทศเรากำลังเจอวิกฤต ทั้งทางด้านสังคม เศรษฐกิจ การเมือง เตรียมตัวหนีกันได้แล้ว ประเทศล้มเหลวหมดแล้ว
รศ.ดร.พิชายกล่าวว่า ประชาธิปัตย์ควรปรับหลักสูตร อาจจะด้วยการไปหาชาวบ้านอย่าไปเฉพาะเวลาหาเสียง ความจริงประชาธิปัตย์มีสมาชิกมากสุด มีคนจงรักภักดีต่อพรรคสูง ลงไปพื้นที่ให้มากขึ้น ใช้ประชาธิปไตยแบบปรึกษาหารือ
รศ.ดร.ชัยชนะ กล่าวเสริมว่า เหมาเจ๋อตุงตั้งโรงเรียนก็เพื่อสร้างชาติไม่ใช่ล้มชาติ และฮิตเอลร์ก็สร้างเพื่อให้คนรักชาติแต่วิธีการผิดที่ไปทำลายชาติอื่น ทั้งแดงและประชาธิปัตย์ สุดท้ายจะทำลายตัวเอง เพราะไม่ได้คิดในลักษณะของความเป็นชาติ แต่หวังทำเพื่อตัวเอง และควรเปิดสอนให้เด็กดีกว่า ก็จะได้ความชื่นชมจากพ่อแม่ ผู้ปกครองด้วย จะไปเอาคนในพรรคตัวเองมาเรียนทำไม
รศ.ดร.พิชายกล่าวว่า การเปลี่ยนแปลงมันต้องมีอุดมการณ์ มีคนเป็นสัญลักษณ์ในการเปลี่ยนแปลงอย่างเสื้อแดงก็คือ พ.ต.ท.ทักษิณ ประชาธิปัตย์ถ้าทำคงต้องแตกต่างจากสถาบันพระปกเกล้า ตนเสนอให้ไปลองศึกษามหาตมะคานธี ชูนายชวนก็ได้ ให้เป็นจุดนำในการเปลี่ยนแปลง เอาแนวคิดเศรษฐกิจพอเพียงมาเป็นปรัชญา ต้องสร้างด้วยความมีเหตุมีผล แต่ต้องไม่ชูนายสุเทพ ปล่อยให้อยู่เบื้องหลังหาเงินไป แล้วให้นายชวน หรือนายอภิสิทธิ์ออกหน้า เพื่อต่อสู้กับอุดมการณ์บริโภคนิยมของ พ.ต.ท.ทักษิณ แล้วก็จับกลุ่มเด็ก ชาวบ้าน นักเรียน นักศึกษา
รศ.ดร.ชัยชนะกล่าวว่า โรงเรียนการเมืองเสื้อแดง ภรรยาหมอเหวงคิดว่าจะล้มเจ้าก้อน ค่อยล้มนายทุน ทฤษฎีนี้มันล้มไปหมดแล้ว หมดยุคสมัยไปแล้ว การทำแบบนี้สร้างความเกลียดชังมากกว่า เพื่อให้คนบางคนเข้ามาง่ายๆ
รศ.ดร.พิชาย กล่าวเสริมว่า สิ่งที่สร้างด้วยความเกลียดชังสุดท้ายจะทำลายตัวเอง และทำลายประเทศ คิดว่าพ.ต.ท.ทักษิณไม่ได้เข้าใจคำว่าประชาธิปไตย เนื่องจากทุกอย่างถูกสั่งการโดยคนๆเดียว ถ้าเทียบกันประชาธิปัตย์ยังเป็นประชาธิปไตยสูงกว่ามาก
ประชาธิปไตยเกิดขึ้นไม่ได้จากความเกลียดชัง การไม่มีความอดกลั้นต่อความแตกต่าง ลักษณะการคิดที่ต้องโค่นล้มแบบนี้ก็มีแต่คอมมิวนิสต์เท่านั้น นัยยะของอำมาตย์ของเสื้อแดงสูงกว่าพล.อ.เปรม ซึ่งเกิดความขัดแย้งแน่ บราซิลที่ล้มเลิกสถาบันกษัตริย์ไป ตอนนี้เขาก็โหยหาสถาบันฯ เพราะรับไม่ได้ที่ให้นักการเมืองที่มีบาดแผลมากมายมาเป็นประมุขของประเทศ และนักการเมืองก็หาคนมีศีลธรรม จริยธรรมไม่ได้ หลายๆ ประเทศก็เลยอยากมีกษัตริย์ขึ้นมาอีก
