“พิชาย” ชี้หากรัฐบาลปล่อยเสื้อแดงถ่อย ต่อไปจะสร้างความรุนแรงมากขึ้น หวั่นเกิดกระบวนการพิทักษ์แดงแบบในจีน ที่จะมีกองกำลังคอยจัดการคนเห็นต่าง ด้าน “ทวี” ระบุเป็นสิ่งที่น่ากลัวมาก พวกเสื้อแดงจะปกครองกันเอง กลายเป็นอรัฐนิยม พร้อมมองว่าพวกนี้ต้องการกำจัดคนชั้นกลาง ซึ่งถ้าเป็นเช่นนั้นจริงสังคมเสียสมดุล หากเกิดเหตุรุนแรงจะหนักมาก
คลิกที่นี่ เพื่อฟัง รายการ “คนเคาะข่าว”
วันที่ 25 ส.ค. เมื่อเวลา 20.30 น. ผศ.ดร.พิชาย รัตนดิลก ณ ภูเก็ต รองคณบดีคณะพัฒนาสังคมและสิ่งแวดล้อม สถาบันบัณฑิตพัฒนบริหารศาสตร์ (นิด้า) และผศ.ทวี สุรฤทธิกุล ประธานสาขารัฐศาสตร์ มหาวิทยาลัยสุโขทัยธรรมาธิราช ร่วมพูดคุยในรายการ “คนเคาะข่าว”
โดยกรณีที่เสื้อแดงก่อความรุนแรง ทั้งการทำร้ายนักศึกษาที่ไปวางหรีดประท้วงการทำงานของนายสมศักดิ์ เกียรติสุรนนท์ (ประธานสภาฯ) และกรณีส่งอีเมลข่มขู่นักข่าวช่อง 7 ที่ตั้งคำถาม น.ส.ยิ่งลักษณ์ จนกระทั่งต้องเดินหนีอยู่หลายครั้ง
ผศ.ดร.พิชายกล่าวว่า มันเชื่อมโยงกับการสร้างกระบวนการแตะต้องทักษิณไม่ได้ ในสภาก็มีคนคอยปกป้อง พ.ต.ท.ทักษิณเต็มที่ ดูพฤติกรรมพวกนี้แล้วอดสูมากกับผู้แทนปวงชนชาวไทย ที่ทำตัวประดุจสุนัขประจบเจ้านายอย่างซื่อสัตย์ ความคิดแบบนี้แทนที่จะหยุดที่พ.ต.ท.ทักษิณคนเดียว แต่มันแพร่ขยายมายังคนอื่นด้วย ทั้ง น.ส.ยิ่งลักษณ์ และประธานสภาฯ (นายสมศักดิ์ เกียรติสุรนนท์)
ขบวนการนี้เหมือนเป็นรัฐมาเฟียที่มีกองกำลังจัดตั้งที่ใช้ความรุนแรงเข้ามาดำเนินการต่อผู้ที่คิดเห็นต่างจากตัวเอง ซึ่งเป็นกระบวนการปิดกั้นสิทธิเสรีภาพของประชาชน ซึ่งกระบวนการนี้มันเป็นพฤติกรรมของเสื้อแดงอยู่แล้ว อาจจะไม่ใช่ทั้งหมด แต่ก็ไม่ได้ถูกห้ามปรามจากคนที่เป็นแกนนำ และดูเหมือนว่าอาจจะให้ท้ายอีกต่างหาก นี่คือกระบวนการจัดตั้งเพื่อสกัดกั้นคนที่มีความคิดต่าง สร้างภาวะความหวาดกลัวไม่ให้กล้าวิจารณ์ระบอบทักษิณ
ในอนาคตตนหวั่นใจว่ามันจะเกิดกระบวนการพิทักษ์แดงขึ้นมา แบบเรดการ์ดของประเทศจีนในยุคปฏิวัติวัฒนธรรมแบบเหมา ใครไม่เห็นด้วยก็จะมีกองกำลังพิทักษ์แดงออกมาดำเนินการ
ผศ.ดร.พิชายกล่าวอีกว่า ถ้าหากไม่มีการห้ามปรามจากแกนนำพรรคเพื่อไทย และปล่อยให้บานปลาย ต่อไปคนเหล่านี้ก็จะสะสมความได้ใจ ตำรวจก็ไม่กล้าทำอะไร แล้วจะใช้กฎหมู่ ในการคุกคามสิทธิเสรีภาพของประชาชน ฉะนั้น คำว่าประชาธิปไตยที่พรรคเพื่อไทยเชิดชูนักเชิดชูหนา และที่พวกแกนนำเสื้อแดงอยากจะได้ แต่สิ่งเหล่านี้ที่เป็นตัวทำลายประชาธิปไตยเสียเอง ถ้าอยากได้ประชาธิปไตยจริงๆ ต้องจัดการพวกนี้ อย่าสร้างบรรยากาศความกลัวขึ้นมา ถ้าเป็นแบบนี้มันจะไปสู่ภาวะไร้กฎระเบียบ ประชาธิปไตยไม่เกิด ถ้ามันเกิดการแค้นเคืองมากๆ อีกฝ่ายอาจตั้งกองกำลังขึ้นมาต้านมันก็หนักเข้าไปใหญ่
ผศ.ทวีกล่าวว่า ลักษณะการทำรุนแรงจะทำให้เสื้อแดงเสียมวลชนเอง อย่างที่เคยบอกไว้เขาอาจต้องการกำจัดคนชั้นกลางออกไป ให้เหลือแต่ผู้นำ และรากหญ้าเท่านั้น เพราะคนชั้นกลางไม่ใช่พวกเขา ตรงนี้สุดท้ายแล้วเมื่อเกิดความไม่สมดุล ผู้นำอาจมีอำนาจมากแต่ไม่ใช่คนจำนวนมาก ขณะที่รากหญ้าคนจำนวนมากแต่มีอำนาจน้อย อย่าลืมว่าถ้ามันเกิดเหตุรุนแรง ในลักษณะที่ไม่เชื่อถือรัฐะ มันจะล้มรุนแรงมากกว่าการที่มีคนชั้นกลางมาเป็นตัวสร้างสมดุล หากคนข้างล่างคิดว่าตัวเองมีอำนาจ แต่ที่จริงมันไม่ใช่ แล้วเมื่อไหร่เกิดตาสว่างขึ้นมามันจะเกิดความรุนแรงในสังคม และพวกผู้นำก็อยู่ไม่ได้ แต่ก็ไม่คิดอะไรเมื่อมีอำนาจสูงสุดก็จะควบคุมประชาชนให้ได้ทั้งหมด ถ้าควบคุมไม่ได้ก็ไปอยู่ต่างประเทศแบบนายใหญ่
มันจะสร้างความยากลำบากในการดำเนินการต่างๆ น่าเป็นห่วงอีกอย่างคือองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นทั้งหลายกำลังเป็นเป้าหมายของนักการเมือง ส่วนใหญ่ก็เป็นแดงไปแล้ว หรือไม่ก็กลัวแดง อีกพวกก็เป็นพวกไม่เอาไหนไหลไปเรื่อย สังคมเราก็จะมีลักษณะที่ปล่อยให้เสื้อแดงหลงระเริง รัฐบาลเอาหูไปนาเอาตาไปไร่ พวกแดงก็จะเป็นสังคมที่สนุกสนาน มันน่ากลัวมาก เพราะจะกลายเป็นอรัฐนิยม จะปกครองกันเอง และอ้างว่าตัวเองเป็นผู้จัดตั้งรัฐบาลขึ้นมา
ผศ.ดร.พิชายกล่าวว่า ถ้าคิดแบบนี้คิดผิด ไม่ว่าทฤษฎีไหนก็ตาม ประชาธิปไตยต้องมีคนชั้นกลางเป็นจำนวนมาก สังคมที่ไม่มีคนชั้นกลาง ไม่มีวันที่จะเป็นประชาธิปไตยได้ เป็นได้แต่เผด็จการเท่านั้น คือมีผู้นำและมวลชนที่เป็นไพร่ หรือตกต่ำยิ่งกว่านั้นก็เป็นได้แค่สังคมสัตว์ ที่มีหัวหน้าฝูงกับลูกฝูง คอยเดินตามเท่านั้นเอง