xs
xsm
sm
md
lg

ส.ว.สุมล ชี้พระราชดำรัส “ในหลวง” ทรงเมตตา “ยิ่งลักษณ์” มาก จี้จริงใจปกป้องสถาบันฯ

เผยแพร่:   โดย: MGR Online


ส.ว.สุมล ชี้พระบรมราโชวาท “ในหลวง” พระราชทานแก่ “ยิ่งลักษณ์” ตอนเข้าถวายสัตย์ เป็นคำสอนที่ดีที่สุดเท่าที่เคยตรัสกับนายกฯ คนอื่น พระองค์มีเมตตามาก ทรงชี้แนะยุทธศาสตร์ทำให้บ้านเมืองปรองดอง จี้ต้องจริงใจปกป้องสถาบันฯอย่าให้เป็นเพียงวาทกรรม ด้าน “บวร” ลั่นรัฐบาลต้องพิสูจน์ตัวเอง ด้วยการสลัดพวกล้มเจ้าออกไปให้ได้ ไม่เช่นนั้นจะเป็นการชี้ชัด “ทักษิณ” อยากเปลี่ยนแปลงการปกครองจริง

 คลิกที่นี่ เพื่อฟัง รายการ “คนเคาะข่าว”  

วันที่ 24 ส.ค. เมื่อเวลา 20.30 น. น.ส.สุมล สุตะวิริยะวัฒน์ ส.ว.เพชรบุรี ในฐานะกรรมาธิการวิสามัญศึกษาติดตามการบังคับใช้กฎหมายและมาตรการเกี่ยวกับการพิทักษ์สถาบันพระมหากษัตริย์ และนายบวร ยสินทร ประธานเครือข่ายราษฎรอาสาปกป้องสถาบัน ได้ร่วมพูดคุยในรายการ “คนเคาะข่าว” ออกอากาศทางสถานีโทรทัศน์ผ่านดาวเทียมช่อง ASTV

นายบวรกล่าวว่า การปราบเว็บหมิ่นที่ผ่านมาด้อยประสิทธิภาพ ตามไม่ทัน ปิดไปเท่าไหร่แต่ที่เปิดขึ้นใหม่มันมากกว่าหลายเท่า และที่เป็นข่าวจริงหรือเปล่าไม่รู้ คือข้าราชการไอซีทีกว่าครึ่งไม่ร่วมมือ

การที่ พล.ต.อ.โกวิท วัฒนะ ยืนยันในสภาว่าจะมุ่งมั่นปราบปรามพวกหมิ่นฯ ซึ่งก็เป็นอย่างนี้ทุกรัฐบาลแต่จะเชื่อได้หรือไม่ เพราะหากย้อนกลับไปจะเห็นว่าเพื่อไทยเคยมีบทบาทอย่างไร เคยมีกรณีที่กรรมการพรรคหลายคนขึ้นเวทีเสื้อแดงที่ราชบุรี และปล่อยให้นายทอม ดันดี ปราศรัยหมิ่นเบื้องสูง อย่างนี้เท่ากับว่ารู้เห็นเป็นใจหรือไม่ เพราะก็เห็นทุกคนปรบมือดีใจ ตรงนี้เพื่อไทยต้องรับผิดชอบ แค่คำพูดเชื่อไม่ได้ต้องดูในอดีตด้วย

น.ส.สุมลกล่าวว่า นโยบายรัฐบาลที่พูดถึงการปกป้องสถาบัน ย่อหน้าที่บอกว่าจะน้อมนำพระราชดำรัสทั้งปวงไว้เหนือเกล้าเหนือกระหม่อม พร้อมทั้งอัญเชิญไปปฏิบัติให้เป็นรูปธรรม เพื่อให้ประชาชนในชาติมีความตระหนักในพระมหากรุณาธิคุณ และจงรักภักดีต่อสถาบันพระมหากษัตริย์ มันก็คือวาทกรรม อย่างไรก็ตามต้องให้เวลารัฐบาลว่าจะทำอย่างที่พูดหรือไม่

อยากบอกว่าตอนที่ น.ส.ยิ่งลักษณ์ เข้าเฝ้าฯ ถวายสัตย์ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวได้พระราชทานพระบรมราโชวาทแก่นายกฯ หญิงคนนี้ อาจารย์ตนบอกเลยว่า พูดเป็นภาษาชาวบ้านคือเป็นคำสอนที่ยิ่งใหญ่ที่สุด ดีที่สุด ในการพูดกับนายกฯ ทุกคนที่ผ่านมา ท่านทรงมีเมตตามาก บอกยุทธศาสตร์ บอกให้รู้ว่ายุทธวิธีในการที่จะทำให้บ้านเมืองนี้ปรองดอง พระองค์ท่านบอกโลกนี้วุ่นวาย จะทำอย่างไรให้ชาติไทยอยู่อย่างมีความสุข

นายบวรกล่าวอีกว่า การปราบปรามเว็บหมิ่นฯ เจ้าหน้าที่รัฐบางคนรู้เห็นเป็นใจ ตนเคยได้คุยกับผู้มีอำนาจในกระทรวงไอซีที พูดว่าจะสั่งการก็ต้องดูว่าใครเป็นใคร ไว้ใจใครไม่ได้ ในนั้นก็มีแบ่งพรรคแบ่งพวก ทั้งที่ควรจะไปในทางเดียวกัน ก็มาประมวลรวมกัน รวมทั้งเทคนิค เทคโนโลยีที่ตามไม่ทัน มันก็น่าจะเป็นเหตุให้การจัดการไม่ค่อยมีประสิทธิภาพ ใครมาเป็นเจ้ากระทรวงก็จะเจอปัญหานี้

ไม่ใช่รัฐบาลเพิ่งมาก็ว่าเลย แต่ตนดูในอดีตแล้วไม่ค่อยเชื่อเท่าไหร่ว่าจะทำจริง ที่น่าสังเกตคือนโยบายอื่นพูดชัดเจนระบุเป็นตัวเลขได้ แต่นโยบายการปกป้องสถาบันฯ ไม่มีอะไรชัดเจน เช่น จะตั้งสำนักงานส่งเสริมสถาบันกษัตริย์ จะส่งเสริมการเรียนรู้อย่างไร จะมีการสอนประวัติศาสตร์อย่างไร อย่างที่บอกมีอาจารย์บิดเบือนประวัติศาสตร์ สอนในมหาวิทยาลัย ซึ่งถึงตอนนี้มหาวิทยาลัยที่ว่าก็ยังเก็บอาจารย์คนนั้นอยู่

ขอร้องอีกอย่าง อย่าเทิดทูนด้วยการจัดทำเป็นอีเวนต์ เพราะทุกคนก็รู้ว่าแค่อ้างสถาบันฯ เพื่อทำมาหากิน แค่เอาเรื่องจริงมาพูดเพราะความดีงามของพระองค์ท่านมีอยู่แล้ว ไม่จำเป็นต้องปรุงแต่งอะไรเลย ไม่เช่นนั้นพวกกลุ่มล้มเจ้า ก็จะเอาไปเป็นข้อโจมตีว่าฟุ่มเฟือย ทั้งๆ ที่พระองค์ท่านไม่รู้เห็นด้วยเลย สิ่งที่พระองค์มียิ่งใหญ่มหาศาลมาก และเมื่อรัฐบาลเห็นว่าอะไรที่เข้าใจผิดต้องชี้แจงทันที เช่น รวยที่สุด หรือกรณีทรัพย์สินส่วนพระมหากษัตริย์ ก็ต้องชี้แจงว่าทรัพย์สินส่วนพระมหากษัตริย์เป็นทรัพย์สมบัติของชาติ ดูแลโดยกระทรวงการคลัง ซึ่งตอนนี้เจ้ากระทรวงก็เป็นคนของพรรคเพื่อไทย

ตนเห็นว่ามีนักกฎหมายชื่อว่ากลุ่มนิติราษฎร์ พวกนี้ไม่รู้เป็นเดือดเป็นแค้นอะไรกับสถาบันฯนักหนา เสมือนต้องการล้มระบอบกษัตริย์ อีกพวกก็กลุ่มนักวิชาการทางประวัติศาสตร์ที่พยายามบิดเบือนประวัติศาสตร์ ว่าสถาบันฯ ไปเกี่ยวโยงกับเหตุการณ์ต่างๆ

เรื่อง 91 ศพ ที่เคยด่าประชาธิปัตย์ไว้ว่าไม่รีบจัดการ ตอนนี้เป็นรัฐบาลแล้วจงรีบทำ จะได้ไม่เป็นข้ออ้างให้นักประวัติศาสตร์นำไปโจมตีสถาบัน เอาให้ชัดว่าตายเพราะอะไร ถ้ามันโยงไปหาผู้ที่ออกคำสั่ง เอาให้มันจบ เพราะถ้าชัดมันก็จะพบว่ามันเป็นเรื่องของฝ่ายบริหาร เพื่อไม่ให้นำไปบิดเบือนในอนาคต

ส่วนที่มีการอ้างว่าต้องแก้มาตรา 112 เพื่อไม่ให้นำไปใช้เป็นเครื่องมือทางการเมือง และไม่ใช่ใครจะแจ้งความก็ได้ แต่ให้เป็นหน้าที่ของสํานักราชเลขาธิการ สํานักพระราชวัง นายบวร กล่าวว่า เรื่องนี้จะไปบอกพระองค์ท่านแบบพวกเราไม่ได้ พระองค์ท่านลงมาฟ้องไม่ได้ ท่านไม่ลงมาเป็นคู่ความกับประชาชนหรอก ต่อให้เป็นสำนักพระราชวังฟ้องก็ต้องขอพระบรมราชานุญาต ที่ต้องมีมาตรา 112 ก็เพื่อถูกกันออกไปไม่ให้เป็นคู่ความกับประชาชน ถึงให้ฟ้องท่านก็ไม่ฟ้อง ขนาดลงโทษท่านยังพระราชทานอภัยโทษให้

พวกนักเขียน 300 กว่าคนที่ลงชื่อให้แก้มาตรา 112 จริงๆ มีไม่กี่คน ตนถามก็มีหลายคนบอกว่าให้มาเซ็นก็เซ็น ไม่รู้ว่ามันจะเป็นเรื่องใหญ่

นายบวรกล่าวต่อว่า ทุกวันนี้อาจารย์ในมหาวิทยาลัยพยายามทำให้การหมิ่นเบื้องสูงดูเหมือนเป็น แฟชั่น ใครอยากเด่น อยากแน่ต้องจาบจ้วงสิ่งที่คนอื่นไม่กล้าแตะ มันเลยลุกลามในหมู่วัยรุ่น ตรงนี้รัฐบาลต้องจริงใจ ต้องพูดว่าจะทำอย่างไร อย่างกรณีหมู่บ้านเสื้อแดงมันก็เกี่ยวข้อง เห็นอยู่ชัดๆ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทยพูดได้อย่างไรว่าเป็นสิทธิตามรัฐธรรมนูญ

น.ส.สุมลกล่าวว่า น.ส.ยิ่งลักษณ์ ต้องแสดงให้เห็นว่าถ้าจะทำบ้านเมืองปรองดอง ต้องห้ามเสื้อแดงให้ได้ ทุกวันนี้ไม่มีสีอื่นมายุ่งแล้ว รู้สึกว่า น.ส.ยิ่งลักษณ์ปากก็บอกจะให้เกิดปรองดอง แต่การกระทำไม่รู้ห้ามเสื้อแดงได้หรือเปล่า

“เราไม่ได้งมงาย แต่พระองค์ท่านทำบุญคุณต่อบ้านเมืองมหาศาล อย่างตนเป็นคนเพชรบุรี ถ้าไม่มีพระองค์ท่าน ป่านนี้เมืองเพชรฯน้ำแล้ง น้ำท่วม เพราะการมีอ่างเก็บน้ำแก่งกระจาน เมืองเพชรฯไม่เคยขาดน้ำเลยสักปี ขนาดปีนี้แล้งที่สุด พระองค์ท่านเสด็จและไปเห็น และอีกเยอะแยะ อย่างสหกรณ์หุบกะพง ที่ดินเป็นทราย ชาวบ้านทำกินไม่ได้ พระองค์ท่านพระราชทานเงินส่วนพระองค์ 3 แสน ให้ไปสร้างอาชีพตอนนี้หุบกะพงเต็มไปด้วยผลิตผลทางการเกษตร” น.ส.สุมล กล่าว

นายบวรกล่าวเสริมว่า เรื่องดีๆอย่างนี้ทำไมพวกนี้นักเขียนไม่เอาไปเขียน ตนเป็นคนกรุงเทพ มีความสงบสุขมาตลอด เพิ่งไม่กี่ปีที่ผ่านมาที่มันเปลี่ยนไป เพราะที่ผ่านมาสงบได้เพราะเรามีหลักยึด มีอะไรขึ้นมาอย่างน้อยเรายึดพระองค์ นักเขียน 300 กว่าคนที่ลงชื่อเป็นแค่ส่วนน้อย นักเขียนบ้านเรามีเป็นหมื่นๆคน ใครที่หลงผิดขอให้ถอนชื่อออกไป ตนเชื่อว่ากลุ่มนี้จะไม่เคลื่อนไหวมากไปกว่านี้แล้ว กลุ่มนี้ฝ่อไปแล้ว ถ้าไม่ฝ่อประกาศตัวใหม่ ล่าชื่อใหม่ออกมาเลย แล้วเครือข่ายเราจะติดตาม

ผู้ดำเนินรายการกล่าวว่า ขบวนการเหล่านี้เกิดขึ้นจากการที่นักการเมืองทุจริต ถูกยุบพรรค ถูกยึดทรัพย์ แล้วไปลงที่สถาบันฯ น.ส.สุมลกล่าวว่า แต่ตนคิดว่าเขาคิดไกลไปกว่านั้น เขาไม่ต้องการให้มีต่างหาก เลยพุ่งเป้าไปที่สถาบันฯ เพราะรู้ว่าพระองค์ไม่สู้หรอก และปลูกฝังว่าไม่ให้มี เหิมเกริม ทะเยอทะยาน

นายบวรกล่าวแย้งว่า แต่ตนมองเป็น 2 ทาง คือ มันเป็นผลประโยชน์ร่วมกันเพื่อให้ภารกิจสำเร็จ หรือว่าแอบแฝงการอยากเปลี่ยนระบอบการปกครองอยู่จริงๆ 2 ทางนี้ รัฐบาลปัจจุบันต้องพิสูจน์ว่าเป็นแบบไหน ถ้าเป็นเพียงแค่อาศัยผลประโยชน์ ต้องสลัดคนพวกนี้ออกไปให้ได้ เพื่อพิสูจน์ความตั้งใจจริง





กำลังโหลดความคิดเห็น