“ยิ่งลักษณ์” แถลงนโยบายสัปดาห์หน้า ปัดตั้งองครักษ์พิทักษ์ปู

นายกฯ พร้อมแถลงนโยบายรัฐบาลต่อสภาสัปดาห์หน้า ไม่วิตก ปชป.ถือโอกาสลองภูมิฯ ปัดตั้งองครักษ์พิทักษ์ปู ยันไม่ทิ้งนโยบายค่าแรงขั้นต่ำ 300 บ. เผยยังไม่ได้รับรายงาน 169 ศพ ชี้รอ จนท.พิสูจน์หลักฐานหาที่มาที่ไปก่อน โยน สตช.แจง


วันนี้ (19 ส.ค.) ที่ทำเนียบรัฐบาล น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ให้สัมภาษณ์กรณีที่เลขาธิการสภาพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติเข้าพบว่า เป็นการรายงานเกี่ยวกับผลของตัวเลขในแต่ละไตรมาส เพื่อจะได้ทราบสถานการณ์ในปัจจุบันของประเทศเป็นอย่างไร และในอนาคตต้องทำอย่างไรบ้าง ผู้สื่อข่าวถามว่า เป็นห่วงตัวเลขเศรษฐกิจในอนาคตหรือไม่ น.ส.ยิ่งลักษณ์กล่าวว่า ก็เป็นห่วงตลอด ซึ่งมีหลายอย่างที่เป็นผลกระทบต่อตัวเลขเศรษฐกิจในประเทศ โดยเฉพาะปัญหาน้ำท่วมในขณะนี้ที่จะมีผลบ้าง คงต้องมาดูว่าจะทำอย่างไร

เมื่อถามว่า สัปดาห์หน้าจะมีการแถลงนโยบาย มีความมั่นใจมากน้อยแค่ไหน นายกฯ กล่าวว่า มั่นใจ เพราะรัฐบาลมีความพร้อมที่จะชี้แจง เมื่อถามว่าช่วงนี้รัฐบาลอยู่ในช่วงเปลี่ยนผ่าน ทั้งเศรษฐกิจ การเมือง ซึ่งล้วนแต่เป็นปัญหาหนัก มีการเตรียมความพร้อมอย่างไร นายกฯ กล่าวว่า ก็ทำเต็มที่ และทุกนโยบายก็มีเหตุผล และรายละเอียดประกอบ เมื่อถามว่า ในการแถลงนโยบายมีกระแสข่าวว่า ทางพรรคจะมีการตั้งองครักษ์พิทักษ์นายกฯ น.ส.ยิ่งลักษณ์กล่าวว่า ไม่มีหรอก เป็นเพียงแค่การชี้แจงตามข้อเท็จจริงเมื่อถามว่า เป็นห่วงว่าพรรคประชาธิปัตย์จะใช้เวลาช่วงนี้ในการลองภูมินายกฯหรือไม่ น.ส.ยิ่งลักษณ์กล่าวว่า ตนก็พร้อมที่จะชี้แจง และจะพยายามชี้แจงให้ดีที่สุด

ผู้สื่อข่าวถามถึงการเยียวยาที่ระบุว่าเป็นนโยบายเร่งด่วนนั้น มีรายละเอียดเป็นอย่างไร นายกฯ กล่าวว่า เรื่องนี้จะต้องไปหารือ ในคณะกรรมการ สำหรับตนอยากให้เกิดความยุติธรรมทุกคน โดยหลักการเยียวยานั้น จะเยียวยาทั้งภาคประชาชน เจ้าหน้าที่รัฐ และผู้ประกอบการที่เดือดร้อน ถือเป็นหลักการกว้างๆ แต่รายละเอียดต้องมาหารือกันอีกครั้ง เมื่อถามว่า จะเอาตามหลักการของคณะกรรมการอิสระตรวจสอบและค้นหาความจริง เพื่อการปรองดองแห่งชาติ (คอป.) หรือจะทำใหม่ นายกฯ กล่าวว่า เราคุยกันในส่วนของหลักการไม่ได้คิดว่าจะต้องมาตั้งเองทั้งหมด อยากให้ดูในภาพรวมว่ารัฐบาลต้องการให้มีการเยียวยา ซึ่งหลักการอาจจะมาจาก คอป.ก็ได้ ตนไม่ติดขัด

เมื่อถามว่า ในเรื่องของการตรวจสอบข้อเท็จจริงโดยเฉพาะในเรื่องของสื่อต่างชาติที่มีการสอบถามมาตลอด เพราะว่ายังไม่มีความชัดเจน รวมถึงกรณีอื่นๆ นายกฯ กล่าวว่า เป็นหน้าที่ของคอป.ที่จะเข้ามาพิสูจน์และเมื่อพิสุจน์แล้วเป็นอย่างไร รัฐบาลก็จะมายึดหลักว่าทำอย่างไรที่จะให้เกิดความสามัคคีปรองดองในชาติ อย่างไรก็ตามการเยียวยาจะเป็นการเยียวยาเฉพาะคดีที่เกี่ยวกับการเมือง ไม่เกี่ยวกับคดีที่เกิดในภาคใต้ อย่างกรณีของกรือเซะ หรือตากใบ ทั้งนี้เชื่อว่า การเยียวยาที่ได้รับการดูแลอย่างเสมอภาคก็จะทำให้เกิดบรรยากาศการปรองดองได้

เมื่อถามว่า จนถึงขณะนี้ได้มีการพูดคุยกับนายคณิต ณ นคร ประธาน คอป.บ้างหรือไม่ น.ส.ยิ่งลักษณ์กล่าวว่า ยัง เพราะตนอยากให้คณะทำงานของนายคณิตมีอิสระในการทำงานอย่างเต็มที่ ซึ่งการทำงานของ คอป.ถ้าทุกฝ่ายให้การยอมรับและเมื่อส่งมาที่รัฐบาล รัฐบาลก็ยอมรับได้

เมื่อถามว่า ทางนายจตุพร พรหมพันธ์ ระบุว่าได้พูดคุยกับนายกฯ แล้วว่าจะมีการตั้งคณะกรรมการขึ้นมา และได้พูดคุยถึงการชดเชย นายกฯ กล่าวว่า ก็เป็นการทำงานในกรอบกว้างๆ ซึ่งคงต้องมาทำให้สัมพันธ์กัน ตอนนี้เรายังไม่ได้ลงไปหารือว่าใครจะเป็นผู้ริเริ่ม แต่การทำงานในส่วนของภาครัฐ เราอยากเห็นการเยียวยาเกิดขึ้น

เมื่อถามถึง นโยบายการเพิ่มค่าแรง 300 บาท ที่นายกิตติรัตน์ ณ ระนอง รองนายกรัฐมนตรี และรมว.พาณิชย์ ออกมาพูดในลักษณะเหมือนกับจะล้มเลิก ในส่วนของนายกฯยังยืนยันว่าจะมีนโยบายนี้เหมือนเดิมหรือไม่ นายกฯ กล่าวว่า เรายังยืนยันว่านโยบายนี้ เราจะผลักดัน แต่เพื่อให้เกิดความพร้อมเราจะต้องมีการพูดคุยกันในส่วนของไตรภาคีทั้ง 3 ภาค ตนยืนยันว่ายังมีอยู่แน่นอน แต่จะต้องมีการหารือกันทางปฎิบัติ

เมื่อถามว่า ในหลักการจะมีการทยอยขึ้น หรือขึ้นทีเดียว นายกฯ กล่าวว่า มีหลายวิธี ซึ่งต้องไปคุยกันว่าจะเลือกวิธีไหนที่มีความพร้อมและมีผลกระทบน้อยที่สุด และผู้ที่ได้รับผลกระทบนั้นมีโอกาสในการเตรียมตัวและทำงาน อย่างไรก็ตาม สุดทายแล้วลักษณะกลไกของการทำงานก็ต้องทำ 2 อย่างควบคู่กันไป ทั้งค่าแรงที่ต้องปรับขึ้น และต้องมุ่งในเรื่องของการพัฒนาฝีมือแรงงาน ดังนั้น บางครั้งก็ต้องเห็นใจผู้ประกอบการด้วย ที่เขาอาจจะต้องการแรงงานที่มีคุณภาพ ฝีมือดีขึ้น รัฐบาลจึงต้องช่วยในการพัฒนาฝีมือแรงงานให้ดีขึ้นเรื่อย

ผู้สื่อข่าวถามว่า ก่อนหนานี้เอกชนไม่เห็นด้วยกับการขึ้นค่าแรงเป็น 300 บาท ล่าสุดทำความเข้าใจและเขาให้ความร่วมมือกับรัฐบาลดีขึ้นหรือไม่ นายกฯ กล่าวว่า ผู้ประกอบการมีความเข้าใจมากขึ้น ซึ่งต้องใช้เวลาในการให้ภาคเอกชนเตรียมตัว ซึ่งรัฐบาลโดยรองนายกฯและรมว.คลังก็พร้อมไปพูดคุยกับทุกภาคส่วน

นายกรัฐมนตรีให้สัมภาษณ์กรณีการพบศพ 169 ศพที่ จังหวัดระยองว่า ทาง พล.ต.อ.เพรียวพันธ์ ดามาพงศ์ รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ยังไม่ได้รายงานให้ทราบ อยากให้รอเจ้าหน้าที่ทำการพิสูจน์หลักฐานก่อนว่าที่มาที่ไปเป็นอย่างไร และทางสำนักงานตำรวจแห่งชาติคงจะมีการแถลงออกมา