xs
xsm
sm
md
lg

กกต.ยื้อ ชี้ขาด“ตู่” รอวันจันทร์

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

ASTVผู้จัดการรายวัน - โปรดเกล้าฯ เปิดสภาจันทร์นี้ “ยิ่งลักษณ์” อยากโหวตเลือก ปธ.สภาวันที่ 2 ส.ค. “ปู่ชัย” เตือนเลือกให้ดี เหตุฝ่ายค้านของเค้าแรง “เสื้อแดง” กดดันต่อชู “โรมานอฟ” แทน "ขุนค้อน" "ครม.ปู 1" คลอดกลางเดือน ส.ค. “วิชิต สุรพงษ์ชัย” รับร่วม ครม.แล้ว ส่วน“กกต” แจ้งเลื่อนพิจารณารับรอง “ไอ้ตู่” วันจันทร์ ส่อปล่อย! หลังเสียงแตก

(พระปรมาภิไธย) ภูมิพลอดุลยเดช ป.ร. ให้ไว้ ณ วันที่ 29 กรกฎาคม พ.ศ. 2554 เป็นปีที่ 66 ในรัชกาลปัจจุบัน พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช มีพระบรมราชโองการโปรดเกล้าฯ ให้ประกาศว่าโดยที่มีการเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร เป็นการเลือกตั้งทั่วไปเมื่อวันที่ 3 ก.ค.2554 แล้ว และตามความในมาตรา 127 ของรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย กำหนดให้มีการเรียกประชุมรัฐสภาเพื่อให้สมาชิกได้มาประชุมเป็นครั้งแรกภายในสามสิบวันนับแต่วันเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร อาศัยอำนาจในมาตรา 127 มาตรา 129 และมาตรา 183 ของรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย จึงทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้ตราพระราชกฤษฎีกาเรียกประชุมสภาในวันที่ 1 สิงหาคม พ.ศ.2554 ผู้รับสนองพระบรมราชโองการนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี

**"ปู" หาเสียงซ่อมช่วยลูกพรรค

ที่จ.อุดรธานี ช่วงเช้า น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร ว่าที่นายกรัฐมนตรี ซึ่งลงพื้นที่ปราศรัยหาเสียงช่วย นายสมคิด บาลไทสง ผู้สมัคร เลือกตั้งซ้อมส.ส.หนองคายเขต 2 ได้แวะพบปะทักทายไหว้ขอบคุณประชาชนในเขตเทศบาลนครอุดรธานีที่เลือกพรรคเพื่อไทย โดยมีนายขวัญชัย ไพรพนา ประธานชมรมคนรักอุดร พล.ต.อ.ประชา พรหมนอก ส.ส.พรรคเพื่อไทย แบบบัญชีรายชื่อ พร้อม ส.ส.อุดรธานี พรรคเพื่อไทย ทั้ง 9 เขต และ ส.ส.จากจังหวัดใกล้เคียง ได้ร่วมเดินขอบคุณประชาชนด้วย โดยส่วนใหญ่สวมเสื้อแดงต้อนรับ ก่อนที่เดินทางกลับกรุงเทพ ฯ

**อยากโหวตเลือก ปธ.สภา 2 ส.ค.

น.ส.ยิ่งลักษณ์ ให้สัมภาษณ์ว่า หากเป็นไปได้อยากให้มีการลงมติเลือกประธานสภาผู้แทนราษฎรในวันที่ 2 ส.ค.ภายหลังมีรัฐพิธีเปิดประชุมรัฐสภา เพื่อให้รัฐบาลสามารถทำงานบริหารประเทศและแก้ปัญหาให้ประชาชนได้เร็วทีสุด อย่างไรก็ตาม จะต้องมีการประสานกับสำนักงานเลขาธิการสภาผู้แทนราษฎร

ขณะนี้ มีบุคคลที่จะเป็นประธานสภาฯ มีอยู่ในใจแล้ว และยืนยันว่า ส.ส.แต่ละภาค ไม่มีการต่อรองในเรื่องนี้ และจะสามารถตกลงกันได้ เพราะจะขึ้นอยู่กับการพิจารณาของคณะกรรมการบริหารพรรค จะมีการพิจารณาร่วมกัน ในวันที่ 1 สิงหาคมนี้ และเชื่อว่า จะไม่เกิดปัญญาในเรื่องนี้ เพราะแม้จะไม่ได้รับเลือก แต่ก็มีตำแหน่งหรือหน้าที่อื่นที่จะต้องรับผิดชอบ

รายงานข่าวแจ้งว่า ในวันที่ 1 ส.ค.พรรคเพื่อไทย จะมีการประชุมส.ส.ในเวลา 09.30 น.เพื่อทำความเข้าใจกับส.ส.ทั้ง 263 คนในการซักซ้อมความเข้าใจในการประชุมสภาฯ จากนั้นเวลา 12.45 น. ส.ส.ของพรรคทุกคนจะสวมชุดเต็มยศแบบปกติขาว เดินทางด้วยรถบัสไปที่รัฐสภาฯ พร้อมกัน

**เลขาสภาฯ รับลูกเลือก ปธ.หลังรัฐพิธี

นายพิทูร พุ่มหิรัญ เลขาธิการสภาผู้แทนราษฏร กล่าวถึงความเป็นไปได้ที่จะเรียกประชุมสภานัดแรกหลังจากงานรัฐพิธี วันที่ 1 สิงหาคมนี้ ว่า มีความเป็นไปได้ เพราะในอดีตเคยมีการประชุมสภาทันทีหลังมีกรัฐพิธีเสร็จสิ้นมาแล้ว ทั้งนี้สำนักงานเลขาธิการฯได้เตรียมทำหนังสือเชิญประชุมไว้แล้วหากมีพระราชกฤษฏีกา โปรดเกล้าฯ เปิดสมัยประชุมลงมา

*“ชัย-จิ้น” รายงานตัว-ตัวเหี้ยโผล่ผสมพันธุ์

ส่วนการรายงานตัวของ ส.ส.ต่อสภาฯ ภายหลังจากที่ กกต. รับรองว่า เป็นไปอย่างคึกคักตั้งแต่ช่วงเช้า โดยมีส.ส.มาแสดงตนเป็นหมู่คณะ จนถึงเวลา 10.30 น. นายชวรัตน์ ชาญวีรกูล ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคภูมิใจไทย และนายชัย ชิดชอบ ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคภูมิใจไทย ได้นำคณะส.ส.พรรคภูมิใจไทย รวม 13 มาแสดงตน ทั้งนี้ก่อนการแสดงตน นายชัย ได้เข้าทักทายกับกลุ่มสื่อมวลชน พร้อมกับหัวเราะและตอบว่า “เราเป็นผู้แพ้” นอกจานั้นนายสนธยา คุณปลื้ม แกนนำพรรคพลังงชน 1 ใน บ้านเลขที่ 111 ได้นำ ส.ส. 5 คนของพรรค รวมถึงนางสุกุมล คุณปลื้ม ภรรยา ส.ส.ชลบุรี เข้าแสดงตนด้วย

ทั้งนี้ ยอดรวม ส.ส.ที่มารายงานตัวในขณะนี้จำนวน 476 คน จาก ที่ กกต.ให้การรับรองแล้ว 496 คน ยังขาดอีก 20 คนที่ไม่มาแสดงตน เช่น ส.ส.แกนนำเสื้อแดง

มีรายงานว่าขณะนั้น ที่บริเวณถนนหน้ากองรักษาความสงบเรียบร้อยรัฐสภา ได้มีตัว ตะกวดสองตัวได้มาผสมพันธุ์บนถนนใกล้กับอ่างปลาคาร์พ ด้านหน้าอาคารรัฐสภา ซึ่งเป็นที่รับแสดงตนของ ส.ส. ทำให้เจ้าหน้าที่รัฐสภาที่พบเห็นวิพากวิจารณ์กันว่าเป็นสิ่งที่ผิดปกติ เพราะก่อนหน้านี้ตัวเงินตัวทองคู่ดังกล่าวไม่เคยออกมาผสมพันธุ์ให้ได้เห็น มีเพียงแค่เดินเล่น ผ่านไป-มาเท่านั้น

**ชัยเตือนเลือก ปธ.ให้ดี-ฝ่ายค้านแรง

นายชัย ชิดชอบ อดีตประธานสภาผู้แทนราษฎร กล่าวถึงบุคคลที่เหมาะสมกับตำแหน่งประธานสภาผู้แทนราษฎรคนใหม่ว่า ตำแหน่งประธานสภาฯและรองประธานสภาฯต้องเป็นคนจากพรรคเพื่อไทย ส่วนรายชื่อแคนดิเดต 3 คนที่ปรากฎในหน้าหนังสือพิมพ์ เห็นว่าทั้ง 3 คนเป็นผู้มีความรู้ความสามารถ

ผู้สื่อข่าวถามว่า มองรัฐบาลใหม่ที่เข้ามาจะทำให้เกิดความวุ่นวายในการประชุมสภาฯหรือไม่ นายชัยกล่าวว่า สมัยที่พรรคประชาธิปัตย์ไม่ได้เป็นรัฐบาลทำบทบาทหน้าที่ฝ่ายค้านได้แรงมาก ไม่มีใครทำหน้าที่ฝ่ายค้านได้แรงมากเท่าพรรคประชาธิปัตย์ ดังนั้นผู้ทำหน้าที่ประธานในที่ประชุมต้องระวังตัว แม่นข้อกฎหมาย ทำอย่างไรที่จะทำให้ส.ส.อยู่ในห้องประชุมสภาฯ ไม่ให้ห้องประชุมโหรงเหรงเหมือนกับสมัยที่ผ่านมา

**แดงกดดันชู “โรมานอฟ” ปธ.สภา

วันเดียวกันน.ส.ยิ่งลักษณ์ รับหนังสือที่ทางกลุ่มคนเสื้อแดงกว่า 30 คนเดินทางมายื่นเพื่อสนับสนุนให้ พ.อ.อภิวันท์ วิริยะชัย ส.ส.แบบบัญชีรายชื่อ ดำรงตำแหน่งประธานสภาผู้แทนราษฎร พร้อมยืนยันว่า ทุกอย่างจะมีการพิจารณาให้มีความเหมาะสมมากที่สุด ซึ่งจะเลือกพ.อ.อภิวันท์หรือไม่ก็อยู่ที่เหตุผล ไม่ควรด่วนสรุปว่า เสื้อแดงจะออกมาเคลื่อนไหวหาก พ.อ.อภิวันท์ไม่ได้รับเลือก โดยเชื่อว่าทุกคนมีเหตุผลเพียงพอ และไม่ได้รู้สึกกดดันกับการยื่นหนังสือของกลุ่มคนเสื้อแดงครั้งนี้ พร้อมยินดีรับฟังทุกความคิดเห็น โดยยืนยันจะให้ความยุติธรรมกับทุกฝ่าย

ภายหลังรับหนังสือ น.ส.ยิ่งลักษณ์ กล่าวเห็นด้วยกับกรณีที่นายชัย ชิดชอบ อดีตประธานสภาผู้แทนราษฎร ระบุว่า ตำแหน่งประธานสภาจะต้องเชี่ยวชาญงานสภา โดยกล่าวว่า เรื่องนี้ศึกษากันได้ ไม่ควรพูดว่าสภาล่มในเวลานี้ เพราะเชื่อว่า บุคคลที่ได้รับการพิจารณาจำมีความสามารถควบคุมสภาได้ อย่างไรก็ตาม ตนไม่รู้สึกกังวล ที่พรรคประชาธิปัตย์มาเป็นฝ่ายค้านและมีความเชี่ยวชาญด้านกฎหมาย เนื่องจากพรรคเพื่อไทยก็มีหน้าที่ชี้แจงต่อไป

**สุดงง! ตท.10ร่วมถก “จำนำราคาข้าว”

อีกด้านสมาชิกกลุ่มกรกฎ และกลุ่มเพื่อนเตรียมทหารรุ่น 10 นำโดย พล.อ.พัลลภ ปิ่นมณี ได้หารือนโยบายรับจำนำราคาข้าวตามนโยบายของพรรคที่ได้นำเสนอกับประชาชน ให้เกิดความรัดกุม ป้องกันการรั่วไหล และให้โครงการเดินหน้าต่อไปได้
ทั้งนี้ยังห่รือถึงรายละเอียดเกี่ยวกับกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ด้วย

ทั้งนี้ถือว่าเป็นเรื่องน่าแปลกใจที่กลุ่ม ตท.10 เข้ามาร่วมหารือเรื่อง “รับจำนำข้าว”ทั้งที่ส่วนใหญ่จะเชี่ยวชาญด้านความมั่นคง

**“ปู”คาด ครม.ใหม่คลอดกลาง ส.ค.

อีกด้านสำหรับควารมเคลื่อนไหวแคนิเดตปรธานสภาฯ และการตั้ง คณะรัฐมนตรี “ยิ่งลักษณ์ 1”

น.ส.ยิ่งลักษณ์ กล่าวว่า จะมีความชัดเจนช่วงกลางเดือนสิงหาคมนี้ ภายหลังเสร็จสิ้นการลงมติเลือกประธานสภาผู้แทนราษฎร และนายกรัฐมนตรีแล้ว จะประชุมกับพรรคร่วมรัฐบาล ขณะเดียวกัน ยอมรับว่าบุคคลจะเป็นรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ ยังไม่ชัดเจนว่าเป็นใคร เพราะมีการเสนอรายชื่อให้พิจารณาอย่างต่อเนื่อง และยังไม่ชี้ชัดว่าจะเป็นข้าราชการกระทรวงการต่างประเทศหรือไม่

ทั้งนี้ คณะรัฐมนตรีทั้งหมดที่ยังไม่มีความชัดเจน ไม่ได้เกิดการติดขัดอะไร แต่ต้องพิจารณาตามขั้นตอนอย่างรอบคอบ เพื่อป้องกันความผิดพลาด และเพื่อให้งานมีประสิทธิภาพ อย่างไรก็ตาม จนถึงขณะนี้ยังไม่สามารถตอบได้ว่าจะมีรัฐมนตรีที่เป็นบุคคลภายนอกกี่คน

**ปัดตอบ "วิชิต" ควบทีมเศรษฐกิจ

น.ส.ยิ่งลักษณ์ ยังกล่าวปฏิเสธที่จะเปิดเผยผู้ที่จะเข้ามารับหน้าที่หัวหน้าทีมเศรษฐกิจในคณะรัฐมนตรีชุดใหม่ แม้ว่าจะรายงานข่าวว่านายวิชิต สุรพงษ์ชัย ประธานคณะกรรมการ ธนาคารไทยพาณิชย์ จะตอบรับเข้าร่วมคณะรัฐมนตรีแล้ว

“ยังไม่ได้สรุปคณะรัฐมนตรี ท่านก็เป็นบุคคลหนึ่งที่มีความรู้ความสามารถ”น.ส.ยิ่งลักษณ์กล่าวและปฏิเสธทีจะตอบคำถามว่า นายวิชิตจะเข้ามารับตำแหน่งรองนายกรัฐมนตรี ควบตำแหน่งรมว.คลังหรือไม่

**ลือ “วิชิต” รับร่วมงานแล้ว

รายงานข่าวแจ้งว่า มีกระแสข่าวนายวิชิต สุรพงษ์ชัย ประธานกรรมการบริหาร ธนาคารไทยพาณิชย์ ได้ตอบรับที่จะเข้าร่วมคณะรัฐมนตรีภายใต้การนำของพรรคเพื่อไทยโดยมีโอกาสสูงที่จะได้รับเลือกให้เป็นรองนายกรัฐมนตรีดูแลเศรษฐกิจทั้งหมด ควบเก้าอี้ รมว.คลัง เนื่องจากมีความเชี่ยวชาญด้านนี้โดยเฉพาะ

สำหรับนายโอฬาร ไชยประวัติ อดีตรองนายกรัฐมนตรี แกนนำทีมเศรษฐกิจพรรค คาดว่าจะได้เพียงรองนายกรัฐมนตรีดูแลภาพรวมเศรษฐกิจ และนายสุชาติ ธาดาธำรงเวช อดีต รมว.คลัง มีโอกาสที่จะได้รับมอบหมายให้ดูแลงานด้านสังคม ในฐานะที่เป็นนักวิชาการ

ส่วนนายกิตติรัตน์ ณ ระนอง อดีตกรรมการและผู้จัดการ ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย(ตลท.) เบื้องต้นยังมีชื่อรมว.ต่างประเทศ แต่อาจถูกโยกมารับงานกระทรวงพาณิชย์

**'ก่อแก้ว' เมินแกนนำวืดเก้าอี้ รมต.

นายก่อแก้ว พิกุลทอง ส.ส.ระบบบัญชีรายชื่อ พรรคเพื่อไทย ในฐานะแกนนำกลุ่มแนวร่วมประชาธิปไตยต่อต้านเผด็จการแห่งชาติ (นปช.) กล่าวว่า รู้สึกเฉย ๆ เพราะเป้าหมายในการต่อสู้ของแกนนำนปช.ที่ผ่านมา ไม่ได้ทำเพื่อต้องการเป็นรัฐมนตรี แต่ต้องการทำให้บ้านเมืองเป็นประชาธิปไตย หากน.ส.ยิ่งลักษณ์ มองว่า ใครที่มีความสามารถ หรือเหมาะสมให้เข้ามาดำรงตำแหน่งรัฐมนตรี พวกผมก็ไม่มีปัญหา

**คาด 15-17 ส.ค.คลอดโผ ครม.

ก่อนหน้านั้น พรรคเพื่อไทย คาดว่าจะมีการประชุมสภาผู้แทนราษฎรเพื่อเลือกประธานสภาฯ และรองประธานสภาฯ ได้ในวันที่ 2 หรือ 3 ส.ค. และเมื่อได้รับโปรดเกล้าฯ แล้ว คาดว่าภายในวันที่ 9 - 10 ส.ค.จะมีการเปิดประชุมสภาฯ เพื่อเลือกนายกรัฐมนตรี จากนั้นเมื่อได้รับโปรดเกล้าฯ แต่งตั้งนายกรัฐมนตรีแล้ว คาดว่าภายในวันที่ 15 - 17 ส.ค. อาจจะได้รายชื่อคณะรัฐมนตรี และเมื่อได้รับโปรดเกล้าฯ แต่งตั้งคณะรัฐมนตรีแล้ว คาดว่าภายในวันที่ 16 - 18 ส.ค. คณะรัฐมนตรีชุดใหม่จะเข้าถวายสัตย์ปฏิญาณตน จากนั้นจึงจะมีการประชุมคณะรัฐมนตรีเป็นนัดแรกซึ่งไม่น่าจะเกินวันที่ 19 ส.ค. เพื่อพิจารณาแนวทางการจัดทำนโยบายรัฐบาล จากนั้นคาดว่าคณะรัฐมนตรีจะแถลงนโยบายต่อรัฐสภาไม่เกินช่วงวันที่ 25-29 ส.ค.

**"ปลอด" กระสันนั่งทรัพย์-รอล้มนิวเคลียร์

นายปลอดประสพ สุรัสวดี ส.ส.แบบบัญชีรายชื่อ และรองหัวหน้าพรรคเพื่อไทย ปฏิเสธให้ความเห็นกรณีมีชื่อที่จะเป็นรมว.ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมระหว่างรับข้อเสนอจากเครือข่ายที่ดิน เพียงแต่ยิ้มรับ พร้อมกล่าวว่า ไม่ค่อยมีใครต้องการทำกระทรวงนี้ เพราะต้องแก้ปัญหาเรื่องพื้นที่ปราสาทเขาพระวิหาร

ทั้งนี้ ที่ดินเป็นปัญหาสำคัญ ประชาชนต้องมีที่อยู่อาศัยและที่ทำกินซึ่งปัจจุบันไม่เพียงพอ การไม่มีที่ดินจะไม่สามารถสร้างความมั่นคงให้กับชุมชนและครอบครัว ดังนั้นพรรคตั้งใจแน่วแน่ที่จะเดินเคียงคู่กับประชาชน ปัญหาเรื่องที่ดินทั้งหลายพรรคเพื่อไทยก็จะดำเนินการแก้ไขตามนโยบาย “ปฏิวัติสีฟ้า” ที่เคยปฏิบัติสำเร็จมาแล้ว

โดยเฉพาะชายฝั่งทะเลทางใต้ ที่สำคัญคือพรรคจะยุติการดำเนินโครงการโรงไฟฟ้านิวเคลียร์ทั้งหมดทุกโครงการ เพราะเห็นว่ามีหนทางในการจัดหาไฟฟ้าที่ปลอดภัยกว่านี้

**ผบ.สส.ไม่เลือกนายคุมกลาโหม

พล.อ.ทรงกิตติ จักกาบาตร์ ผู้บัญชาการทหารสูงสุด ให้สัมภาษณ์ ถึงคุณสมบัติรมว.กลาโหมคนใหม่ว่า ไม่ได้คิดเรื่องนี้ รมว.กลาโหม มีหน้าที่บริหารงานเชิงนโยบาย ไม่ได้เข้ามาเกี่ยวข้องในรายละเอียดของกองทัพ ส่วนหากเป็นอดีตนายทหารจะมีความเข้าใจงานของกองทัพมากขึ้นหรือไม่นั้น เห็นว่า งานของกองทัพไม่ยาก และส่วนตัวก็ไม่เลือกนาย ทั้งนี้ตนไม่ได้รู้สึกเป็นห่วงน้องๆ ในกองทัพ เพราะแต่ละคนมีประสบการณ์ ผ่านการบริหารองค์กรในระดับต่างๆ มาแล้ว สิ่งสำคัญคือ ถ้าเราร่วมกันทำงาน ยึดถือประโยชน์ส่วนรวมของประเทศเป็นหลัก ไม่คำนึงถึงถึงแต่ประโยชน์ส่วนตน ประเทศก็จะเจริญก้าวหน้า ประชาชนก็มีความสุข ส่วนความเห็นเกี่ยวกับนายกรัฐมนตรีหญิงนั้น ตนปฏิเสธที่จะให้ความเห็น เพราะตนไม่เคยวิพากษ์วิจารณ์ผู้บังคับบัญชา

**กกต.เลื่อนพิจารณารับรองตู่จันทร์หน้า

นายภุชงค์ นุตราวงศ์ รองเลขาธิการคณะกรรมการการเลือกตั้ง ด้านกิจการการมีส่วนร่วม เปิดเผยว่า กกต.ได้ขอเลื่อนการพิจารณาประกาศรับรองนายจตุพร พรหมพันธ์ ว่าที่สส.ระบบบัญชีรายชื่อ พรรคเพื่อไทย ออกไปเป็นวันที่ 1 ส.ค. เนื่องจากต้องพิจารณาข้อมูลเพิ่มเติม ภายหลังนายจารุพงศ์ เรืองสุวรรณ เลขาธิการพรรคเพื่อไทย ได้ยื่นเอกสารการเป็นสมาชิกภาพของนายจตุพร ในพรรคเพื่อไทย ซึ่งในส่วนนี้มีข้อมูลเป็นจำนวนมาก ทั้งนี้ กกต.จะขอให้ทางพรรคเพื่อไทยส่งผู้แทนมายืนยันเรื่องสมาชิกภาพในวันจันทร์อีกครั้ง อย่างไรก็ตาม การทำงานของกกต. ยังอยู่ภายใต้กรอบ 30 วัน นับตั้งแต่วันเลือกตั้ง

**ส่อปล่อยเสียงแตก4 ใน 5 เสียงไม่รับรอง

รายงานข่าวแจ้งว่าในการประชุมกกต.นัดพิเศษ เพื่อพิจารณากรณีนี้ คณะอนุกรรมการไต่สวนได้รายงานผลการสอบปากคำเพิ่มเติมของนายจารุพงศ์ที่ยืนยันว่านายจตุพร ยังคงเป็นสมาชิกพรรคเพื่อไทยอยู่ต่อเนื่องจนถึงวันเลือกตั้ง กกต.จึงควรประกาศรับรองนายจตุพรเป็นส.ส. และหากเห็นว่ามีปัญหาคุณสมบัติก็ค่อยสอยภายหลัง แต่กกต.2 ใน3 ของเสียงข้างมากที่เคยมติว่ายังไม่ประกาศรับรอง ก็มองว่าควรให้เวลากกต.ศึกษาในรายละเอียดถ้อยคำของนายจารุพงศ์ และข้อกฎหมายประกอบก่อน จึงขอเวลาที่จะนำไปพิจารณาก่อนที่จะกลับมาลงมติไปพร้อมกับการพิจารณารับรองผลการเลือกตั้งใหม่และการนับคะแนนใหม่

“จริง ๆแล้วขณะนี้ก็คือการยกคำร้อง เพราะเสียงของกกต.ที่ลงมติไปก่อนหน้าในกรณีนี้ เป็น 2 ต่อ 1 ต่อ1 ต่อ1 คือ 2 เสียงให้ประกาศรับรอง แต่นอกนั้นยังไม่เป็นที่ยุติมีทั้งให้ไม่ประกาศรับรองและให้ดำเนินการเพิ่มเติมอื่นๆ จึงไม่ถือเป็นเสียงข้างมากที่จะไม่ประกาศรับรองผล อีกทั้งถ้าไม่ประกาศรับรองก็เหมือนกับการให้ใบแดงที่ต้องใช้เสียงกกต. 4 ใน 5 เสียง ซึ่งไม่ว่าเสียงของนายประพันธ์ นัยโกวิท และนางสดศรี สัตยธรรม ที่ให้ไปดำเนินการอื่น ๆ นั้นจะลงมติไปในทิศทางใด ก็ไม่มีทางที่เสียงไม่ประกาศรับรองจะได้ 4 ใน 5 เสียงอยู่แล้ว โดยเฉพาะนางสดศรี ก็ยืนยันอยู่ตลอดว่า เห็นควรให้มีการส่งศาลรัฐธรรมนูญพิจารณา ซึ่งก็ไม่มีความหมายว่า ต้องประกาศหรือไม่ประกาศรับรอง” แหล่งข่าวระบุ

**"เพื่อไทย"แจงข้อมูลกกต.3ประเด็น

นายพร้อมพงศ์ นพฤทธิ์ โฆษกพรรคเพื่อไทย แถลงกรณีกกต. มีหนังสือถึงหัวหน้าพรรคเพื่อไทยเพื่อขอให้ไปชี้แจงถึงกรณีคุณสมบัติการเป็นสมาชิกพรรคของนายจตุพรว่า นายยงยุทธ วิชัยดิษฐ หัวหน้าพรรคเพื่อไทย ได้ลงนามมอบหมายให้นายจารุพงศ์ เรืองสุวรรณ เลขาธิการพรรคเพื่อไทย เดินทางไปชี้แจงต่อกกต.ในวันที่29 ก.ค.)เมื่อเวลา 09.00 น. โดยใช้เวลาในการชี้แจงประมาณ 1 ชั่วโมงครึ่งใน 3 ประเด็นหลักคือ 1.พรรคยืนยันว่านายจตุพรมีคุณสมบัติถูกต้องในการเป็นผู้สมัครส.ส.ของพรรคเพื่อไทย 2.กกต.ได้รับรองความเป็นผู้สมัครส.ส.ของนายจตุพรไปแล้วเมื่อวันที่ 2 มิ.ย.ที่ผ่านมา และ3.เรื่องคุณสมบัติของนายจตุพรนั้นต้องให้ประธานสภาผู้แทนราษฎรทำเรื่องถึงศาลรัฐธรรมนูญเพื่อขอให้วินิจฉัยชี้ขาดในเรื่องของคุณสมบัติ ทั้งนี้ อยากให้กกต.พิจารณาด้วยความเป็นธรรมด้วย

สำหรับกรณีที่มีกระแสข่าวว่าทีมกฎหมายของพรรคประชาธิปัตย์อาจจะยื่นร้องกกต.กรณีที่แจกใบเหลือง และใบแดงน้อยนั้น ทีมกฎหมายของพรรคเพื่อไทยมองว่าเป็นเรื่องที่สามารถกระทำได้ แต่อาจจะไม่ถูกต้อง เพราะที่ผ่านมาพรรคก็ติดตามการทำงานของกกต.มาโดยตลอด และเห็นว่าอยู่ในกรอบของข้อกฎหมาย ดังนั้นการร้องกกต.ดังกล่าวจะเป็นการยื่นร้องประเภทซาดิสม์หรือไม่ เพราะไม่ว่าจะมีอะไรๆ ก็ร้อง ทั้งนี้ พรรคขอให้กำลังใจกกต.และไม่ได้กดดันกกต.แต่อย่างใด ขอให้กกต.ทำหน้าที่อย่างตรงไปตรงมาตามข้อเท็จจริงและข้อกฎหมาย

ที่สำนักงานคณะกรรมการการเลือกตั้ง นายวิญญัติ ชาติมนตรี และนายคารม พลทะกลาง 2 ทนายความของนายจตุพร พรหมพันธุ์ ว่าที่ส.ส.ระบบบัญชีรายชื่อ พรรคเพื่อไทย ที่กกต.ยังไม่ประกาศผลการเลือกตั้ง ได้เดินทางเดินทางมาชี้แจงเพิ่มเติมเกี่ยวกับคุณสมบัติของนายจตุพร ต่อคณะอนุกรรมการไต่สวน เป็นเวลากว่า 1 ชั่วโมง

**เลขา กกต.ยันไม่ได้แถลงข่าวคลาดเคลื่อน

นายสุทธิพล ทวีชัยการ เลขาธิการกกต. กล่าวถึงกรณีที่มีกระแสข่าวว่ามีกกต.บางคนตำหนิการแถลงข่าวที่มีความคลาดเคลื่อนมติการพิจารณารับรองนายจตุพร า ยืนยันว่าไม่ได้แถลงข่าวคลาดเคลื่อน เพราะก่อนที่จะแถลงข่าวได้ให้สำนักประชุมรวบรวมมติของกกต. และตนก็ได้ตรวจสอบข้อมูลก่อน ซึ่งในช่วงที่ตนแถลงข่าวและจากเอกสารที่แจกต่อสื่อมวลชนไม่ได้มีการระบุมติกกต.เสียงข้างมาก ว่า เป็นมติเสียงข้างมาก 3ต่อ 2 แต่อย่างใด ดังนั้นข่าวที่ออกไปจึงมีความคลาดเคลื่อน เพราะคำพูดที่ตนได้แถลงข่าวเป็นการระบุว่ามติเสียงข้างมากที่ยังไม่ประกาศรับรองในวันที่ 27 ก.ค. เท่านั้น โดยเหตุผลที่กกต.เห็นตรงกันคือปัญหาการขาดจากการเป็นสมาชิกพรรคเพื่อไทย ของนายจตุพร ส่วนเหตุผลที่มีกกต.บางคนเห็นควรให้ส่งศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยนั้นไม่ได้เป็นเสียงข้างมาก ซึ่งตนได้นำเหตุผลของกกต.แต่ละคนที่มีความตรงกันมารวมและสรุป โดยแจ้งกับสื่อมวลชนว่ายังไม่ได้มีการขานมติและจะต้องนำกลับไปให้ที่ประชุมกกต.ได้ทราบอีกครั้ง ว่าที่ประชุมกกต.มีมติอย่างไร

นายสุทธิพล กล่าวว่า ในการประชุมเมื่อวันที่ 28 ก.ค.ที่ผ่านมาได้มีการมอบหมายให้คณะอนุกรรมการไต่สวนไปดำเนินการสอบสวนเพิ่มเติมกรณีความเป็นสมาชิกพรรคการเมืองของนายจตุพรกับหัวหน้าพรรคเพื่อไทย โดยในช่วงบ่ายวันนี้ที่ประขุมกกต.จะพิจารณาในเรื่องดังกล่าวอีกครั้ง ดังนั้นจึงฝากไปยังสื่อมวลชนว่า หากได้ข้อมูลอะไรมาควรตรวจสอบให้ชัดเจน หากข้อมูลไม่ตรงกันก็จะเกิดปัญหาขึ้นได้ ทั้งนี้ ยืนยันว่า ตนทำหน้าที่ถ่ายทอดมติของที่ประชุมกกต.ด้วยความชัดเจนและรอบคอบมากที่สุด โดยปกติแล้วจะไม่ได้ระบุว่ากกต.คนใดมีมติอย่างไร เพียงจะแถลงว่าเป็นมติเสียงข้างมากเท่านั้น ยกเว้นกรณีที่กกต.ให้ใบเหลืองใบแดงเท่านั้นที่จะต้องแถลงความชัดเจนว่าสาเหตุใดต้องเป็นใบแดง และต้องระบุว่าที่ประชุมให้ใบเหลืองเท่าไหร่ หรือใบแดงเท่าไหร่ เพื่อให้ความชัดเจนกับประชาชน

“ยืนยันว่าไม่มีกกต.คนใดตำหนิในการทำงานของผม แต่กลับขอบคุณที่ช่วยปฏิบัติงานร่วมกันมา เพราะเข้าใจว่าผู้ปฏิบัติงานทุกคนทำงานเหนื่อยกันมามาก” เลขาธิการกกต.กล่าว

ผู้สื่อข่าวถามว่า หากไม่ประกาศรับรองนายจตุพร จะมีการเลื่อนลำดับบัญชีรายชื่อขึ้นมาหรือไม่ นายสุทธิพลกล่าวว่า เรื่องดังกล่าวต้องรอที่ประชุมกกต. แต่หากไม่ประกาศรับรองก็จะคล้ายกับพรรคประชาธิปไตยใหม่ ที่มีการเลื่อนบัญชีรายชื่อขึ้นมา แต่หากกกต.รับรองนายจตุพร ก็สามารถส่งตัวแทนมารับหนังสือรับรองได้ อย่างไรก็ตาม กกต.จะพิจารณาด้วยความรอบคอบ เพราะเรื่องนี้เป็นเรื่องที่สังคมจับตามองอยู่.
กำลังโหลดความคิดเห็น