ASTVผู้จัดการรายวัน- จับตา!โผ ครม.เพื่อไทย หลังเปิดประชุมสภา “ปู” ยันเคาะชื่อ ประธานสภาฯ 1 ส.ค.นี้ คาด“บุญรื่น-ชลน่าน”นั่งรองปธ.สภาฯ ย้ำหารือพรรคร่วมก่อนตั้งครม. ส่วน“ไอ้เต้น”ส่อแห้ว ขณะที่กลุ่มเฮียเพ้งแซงโค้งยึด“คมนาคม” ฟาก“บิ๊กอ๊อด”นั่งกลาโหม ด้านพรรคร่วมได้แค่ 5-6 ที่ พลังชล ลุ้น!กระทรวงท่องเที่ยวฯ-อุตสาหกรรมฯ
ผู้สื่อข่าวรายงานจากรัฐสภา วานนี้ (28 ก.ค) ว่า หลังจากคณะกรรมการการเลือกตั้ง(กกต.) ได้ประกาศรับรองผลการเลือกตั้งส.ส.ได้ 496 คน จาก 500 คน ถือว่าถึงเกณฑ์ร้อยละ 95 ตามที่รัฐธรรมนูญ 50 มาตรา 93 วรรคท้ายบัญญัติ โดยจะมีการประชุมรัฐสภาเพื่อให้สมาชิกได้มาประชุมเป็นครั้งแรกภายใน 30 วัน นับแต่วันเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร ล่าสุด สำนักพระราชวังได้ออกแถลงการณ์เรื่องการเปิดประชุมรัฐสภา โดยพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ได้ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้ตราพระราชกฤษฎีกาเรียกประชุมรัฐสภา ในวันที่ 1 ส.ค. 2554 และทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้ สมเด็จพระบรมโอรสาธิราช เจ้าฟ้ามหาวชิราลงกรณ สยามมกุฎราชกุมาร เสด็จพระราชดำเนินไปทรงปฏิบัติพระราชกรณียกิจแทนพระองค์ โดยรถยนต์พระที่นั่งไปยังพระที่นั่งอนันตสมาคม พระราชวังดุสิต เวลา 17.00 น.
จากนั้น สำนักงานเลขาธิการสภาผู้แทนราษฎรจะออกหนังสือเชิญส.ส.มาประชุมสภาผู้แทนราษฎร เพื่อเลือกประธานสภาผู้แทนราษฎร คาดว่า จะมีการนัดประชุมในวันที่ 3 ส.ค. ซึ่งตามธรรมเนียปฏิบัติ ส.ส.ที่อายุมากที่สุดในที่ประชุมคือ นายชัย ชิดชอบ ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคภูมิใจไทย อายุ 83 ปี จะเป็นประธานชั่วคราวเพื่อดำเนินการประชุม โดยส.ส.จะต้องปฏิญาณตนก่อนเข้ารับหน้าที่ตามที่รัฐธรรมนูญ 50 มาตรา 123 บัญญัติ จากนั้นจะเข้าสู่วาระการโหวตเลือกประธานสภาฯและรองประธานสภาฯอีก 2 คน ด้วยการลงคะแนนลับ จากนั้นรักษาการณ์นายกรัฐมนตรีจะนำความขึ้นกราบบังคมทูล เพื่อทรงทรงมีพระบรมราชโองการโปรดเกล้าฯแต่งตั้ง จากนั้นคาดว่า ประธานสภาผู้แทนราษฎรคนใหม่ จะนัดประชุมสภาผู้แทนราษฎรในช่วงวันที่ 8 หรือ 9 ส.ค. เพื่อโหวตเลือกนายกรัฐมนตรีซึ่งจะใช้การลงคะแนนแบบเปิดเผยตามที่รัฐธรรมนูญ 50 มาตรา 172 บัญญัติ
**ร่างพ.ร.ฎ.เปิดประชุมขึ้นทูลเกล้าฯ
นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี ให้สัมภาษณ์ว่า เวลา 11.00 น.วันที่ 28 ก.ค. ตนได้นำร่างพระราชกฤษฎีกาเปิดประชุมรัฐสภา ซึ่งอาศัยอำนาจตามความในมาตรา 127, 128, 187 ของรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทยขึ้นทูลเกล้าฯ แล้ว เพราะคณะกรรมการการเลือกตั้ง(กกต.)ได้รับรองส.ส.เสร็จสิ้นเรียบร้อยเมื่อวันที่ 27 ก.ค.ที่ผ่านมา และตนได้แจ้งกกต.ไปแล้วว่า ตนได้นำเรื่องขึ้นทูลเกล้าฯแล้ว
**จับตา!โผ ครม.หลังประชุมสภา
เวลา 12.30 น. น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร ว่าที่นายกรัฐมนตรี ให้สัมภาษณ์กับสื่อมวลชนก่อนเดินทางไปช่วยผู้สมัครของพรรคหาเสียงเลือกตั้งซ่อมจ.หนองคาย ว่า จะมีการเรียกประชุมส.ส.ในวันจันทร์ที่ 1 ส.ค. เพื่อที่จะแจ้งต่อที่ประชุมให้ทราบถึงผลการคัดเลือก ประธานสภาผู้แทนราษฎร และรองประธานสภาฯและขณะนี้ผู้ที่จะเข้ามาเป็นประธานสภานั้นก็มีอยู่ในใจแล้ว ซึ่งจะมีการสรุปกันในช่วงเช้าของวันที่ 1 ส.ค. โดยจะชัดเจนก่อนที่จะเดินทางไปประชุมสภาในช่วงเย็น
ส่วนที่มีรายงานว่าพ.อ.อภิวันท์ วิริยะชัย อดีตรองประธานสภาจะไม่ได้รับเลือกให้เป็นประธานสภา เพราะมีความเป็นคนเสื้อแดง น.ส.ยิ่งลักษณ์ กล่าวว่า ไม่ได้แยกแยะอย่างนั้น จะไปดูในเรื่องของผู้ที่มีคุณสมบัติ และมีความรู้ความเข้าในในด้านของสภาและพื้นฐานในด้านกฎหมาย
ทั้งนี้คุณสมบัติในใจนั้นเป็นอย่างไร น.ส.ยิ่งลักษณ์ กล่าวว่า ต้องมีความรู้ความเข้าใจผ่านงานสภา เข้าใจในเรื่องของระบบสภาเป็นอย่างดี ที่สำคัญส.ส.ต้องให้ความเชื่อถือ
กรณีนายสมศักดิ์ เกียรติสุรนนท์ นายวิทยา บูรณศิริ แล้วพ.อ.อภิวันท์ วิริยะชัย หนึ่งในสามคนนี้มีคุณสมบัติตรงบ้างหรือไม่ น.ส.ยิ่งลักษณ์ กล่าวว่า ยังไม่ทราบ คงต้องรอฟังผลภายในวันจันทร์ที่ 1 ส.ค.ช่วงเช้าอีกครั้ง
ส่วนที่ขณะนี้ก็ยังไม่ได้สรุปว่ามีใครบ้างคงจะต้องเอารายชื่อของส.ส.ทั้งหมดมาพิจารณาร่วมกันอีกครั้ง ยังไม่ได้คัดออกมาว่ามีใครบ้างแต่จากที่ดูก็มีหลายคนที่มีคุณสมบัติตรงแล้วเป็นผู้ที่มีความรู้ความสามารถ
ทั้งนี้ในวันที่ 1 ส.ค.จะได้ชื่อประธานสภาและรองประธานสภาหรือไม่ น.ส.ยิ่งลักษณ์ กล่าวว่า ใช่ แล้วก็คาดว่าทั้ง 3 ตำแหน่งนั้นจะเป็นของพรรคเพื่อไทยทั้งหมด
เมื่อประชุมสภาแล้วจะต้องมีการพูดคุยเพื่อนัดประชุมเลือกนายกรัฐมนตรีต่อทันทีหรือไม่ น.ส.ยิ่งลักษณ์ กล่าวว่า ต้องรอผลการโปรดเกล้าฯประธานสภาออกมาก่อน เพราะในเรื่องของการเลือกนายกรัฐมนตรีนั้นต้องไปทีละขั้นตอน พอได้ตัวประธานสภาแล้วตัวประธานสภาจะเป็นผู้เรียกประชุมเลือกนายกฯ
ทั้งนี้จะมีการนัดพรรคร่วมรัฐบาลพูดเรื่องตำแหน่งรัฐมนตรี หลังกลับมาจากหาเสียงเลือกตั้งซ่อมที่จ.หนองคายหรือไม่ น.ส.ยิ่งลักษณ์ กล่าวว่า ยังไม่ได้หารือกัน แต่ลำดับทั้งหมดต้องสรุปภายในพรรคก่อนจากนั้นถึงจะหารือกับพรรคร่วม ซึ่งคาดว่าจะนัดหารือกันหลังจากมีการเลือกนายกรัฐมนตรีแล้ว
**อ้างโยน กก.บห.เคาะ ปธ.สภาฯ
นายสามารถ แก้วมีชัย ส.ส.เชียงราย พรรคเพื่อไทย ในฐานะอดีตรองประธานสภาผู้แทนราษฎร กล่าวถึงกรณีการเลือกประธานสภาฯคนใหม่ว่า ขณะนี้ทุกอย่างขึ้นอยู่กับคณะกรรมการบริหารพรรคเพื่อไทยที่จะพิจารณาเลือกบุคคลที่มีความเหมาะสม อย่างไรก็ตามส่วนตัวเห็นว่าบุคคลที่จะมาเป็นประธานสภาฯในช่วงเวลานี้ คงจะต้องดูสถานการณ์ทางการเมือง รวมถึงพันธกิจหลัก 7 ข้อ ทางที่พรรคเพื่อไทยประกาศว่าจะทำเมื่อได้เป็นรัฐบาล โดยเฉพาะการสร้างความปรองดองของคนในชาติ
ทั้งนี้หากประธานสภาฯมาจากตัวแทนกลุ่มคนเสื้อแดงอาจเกิดปัญหาหรือไม่ นายสามารถ กล่าวว่า ส่วนตัวไม่อยากไประบุถึงความเหมาะสม ว่าใครควรจะมาทำหน้าที่ดังกล่าว เพราะขณะนี้ทั้ง นายสมศักดิ์ เกียรติสุรนนท์ ส.ส.ขอนแก่น และ พ.อ.อภิวันท์ วิริยะชัย ส.ส.นนทบุรี พรรคเพื่อไทย ต่างเป็นบุคคลที่มีประสบการณ์และผ่านการทำหน้าที่มาแล้ว ดังนั้นทั้งหมดควรเป็นกรรมการบริหารพรรค ที่จะเป็นคนตัดสินและเลือกบุคคลที่มีการยอมรับจากทุกฝ่าย
**“บุญรื่น-ชลน่าน”รองปธ.สภาฯ
รายงานข่าวแจ้งว่า ขณะที่รองประธานสภาฯ คาดว่า เพื่อไทยจะได้ทั้ง 2 ตแหน่ง คือ นางบุญรื่น ศรีธเรศ ส.ส.กาฬสินธุ์ และน.พ.ชลน่าน ศรีแก้ว ส.ส.น่าน
**เสื้อแดงอ้างไม่รับตำแหน่ง รมต
นายสถาพร มณีรัตน์ สส.ลำพูน พรรคเพื่อไทย กล่าวภายหลังเดินทางไปที่เรือนจำพิเศษกรุงเทพ เพื่อเยี่ยมนายจตุพร พรหมพันธ์ ว่าที่สส.บัญชีรายชื่อ พรรคเพื่อไทย ถึงกรณีที่มีกระแสข่าวว่าพรรคเพื่อไทย ไม่ให้คนเสื้อแดงมีตำแหน่งทางการเมือง เพื่อสร้างความปรองดองนั้น ตนในฐานะแกนนำนปช.คนหนึ่ง เรื่องนี้คนเสื้อแดงต้องยอมรับสภาพ และต้องรู้บทบาทของตัวเอง เมื่อการต่อสู้ไม่ได้เอาตำแหน่ง และพรรคไม่ให้ เชื่อว่าคนเสื้อแดงในพรรคเพื่อไทย คงไม่มีใครมีปัญหาอะไร
อย่างไรก็ตาม ในการเลือกประธานสภาผู้แทนราษฎรเวลานี้ ทั้ง 3 คน ที่มีรายชื่อถือว่าเป็นบุคคลที่มีความเหมาะสม ทั้งนายสมศักดิ์ พ.อ.อภิวันท์ และนายวิทยา
นายสถาพร กล่าวว่า แม้เรื่องดังกล่าว กรรมการบริหารพรรคมอบอำนาจให้น.ส.ยิ่งลักษณ์ และนายยงยุทธ พิจารณาคัดเลือก แต่ตำแหน่งประธานสภา เป็นตำแหน่งที่ต้องทำงานร่วมกับส.ส. และฝ่ายนิติบัญญัติ จึงควรมีการเรียกประชุมสส. เพื่อแสดงความเห็น อภิปรายกันอย่างเต็มที่ว่าใครคนไหนเหมาะสมอย่างไร
ทั้งนี้ พ.อ.อภิวันท์ แม้เคยขึ้นเวทีนปช. แต่เชื่อว่าคงไม่มีปัญหาในการรับตำแหน่ง เพราะเป็นคนละบทบาท
**หนุน“ชลน่าน”รองประธาน
นายสถาพร กล่าวว่า สำหรับภาคเหนือเบื้องต้นที่คุยกัน ก็จะสนับสนุนให้น.พ.ชลน่าน ศรีแก้ว สส.น่าน ให้ดำรงตำรองประธานสภา ในโควตาภาคเหนือ เนื่องจากมีความเชี่ยวชาญในเรื่องนิติบัญญัติ และแม่นข้อบังคับการประชุม อย่างไรก็ตาม การสรรหาบุคคลในตำแหน่งทางการเมืองโควตาพรรคเพื่อไทย ผู้ใหญ่ในพรรคต้องฟังเสียงสส. และต้องคำนึงถึงความรู้สึกของประชาชน 16 ล้านเสียงจากทุกภาคส่วนรวมถึงคนเสื้อแดงด้วย
**วิชาญอ้างไม่รู้นั่ง รมว.สาธารณสุข
นายวิชาญ มีนชัยนันท์ ส.ส.กทม.พรรคเพื่อไทย กล่าวว่า ตนเองยังไม่ทราบเรื่องการจัดสรรตำแหน่งของทางพรรค ส่วนที่มีกระแสข่าวที่ว่าตนจะได้รับตำแหน่งรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุขนั้นยังให้ความชัดเจนอะไรไม่ได้ แต่เคยผ่านงานนี้มาก่อน โดยมองว่า เรื่องการจัดสรรตำแหน่งรัฐมนตรีนั้นต้องคำนึงถึงเรื่องความเหมาะสมเป็นหลัก ซึ่งทางพรรคเพื่อไทยเองก็มีหลักเกณฑ์ในการคัดเลือกอยู่แล้ว
** “ไอ้เต้น”ส่อแห้ว รมต.
สำหรับการจัดโผครม. “ยิ่งลักษณ์ 1” หลังกกต.ประกาศรับรองผลการเลือกตั้งส.ส.ได้ 496 คน จาก 500 คน ถือว่าถึงเกณฑ์ร้อยละ 95 แล้วนั้น และจะมีการเปิดสภาฯมนวันที่ 1 ส.ค และเลือกประธานสภาในวันที่ 3 ส.ค.นั้น ค่อนข้างชัดเจนแล้วว่า กระทรวงกลาโหม กระทรวงการต่างประเทศ และกระทรวงการคลัง ยังจะมีพรรคเพื่อไทยคุมแน่นอน
โดยเฉพาะกระทรวงกลาโหม มีความเป็นไปได้สูงที่พล.อ.ยุทธศักดิ์ ศศิประภา ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคเพื่อไทย จะมานั่งเก้าอี้รมว.กลาโหม
กระทรวงการต่างประเทศ เดิมที่มีข่าวว่านายกิตติรัตน์ ณ ระนอง อธิการบดีมหาวิทยาลัยชินวัตร และเป็นอดีตกรรมการผู้จัดการตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย จะมานั่งนั้น แม้นายกิตติรัตน์จะปฏิเสธว่ายังไม่มีใครทาบทามนั้น เชื่อว่ามีความเป็นไปได้แล้ว 80% ขณะที่กระทรวงการคลัง มีการวางตัวนายวิชิต สุรพงษ์ชัย กรรมการผู้จัดการใหญ่ธนาคารไทยพาณิชย์ อยู่อันดับต้นๆ
รายงานข่าวแจ้งว่า กรณีของนายณัฐวุฒิ ใสเกื้อ แกนนำนปช. และส.ส.ระบบบัญชีรายชื่อ และแกนนำเสื้อแดงอีกหลายคนยังไม่มีความชัดเจนว่าจะได้นั่งรัฐมนตรีหรือไม่ แม้ กตต.จะประกาศรับรองแล้วก็ตาม
**กลุ่มเฮียเพ้งแซงโค้ง “คมนาคม”
รายงานแจ้งว่า ส่วนกระทรวงอื่น ๆ ตามเดิมที่มีข่าวว่ากลุ่มนายพงษ์ศักดิ์ รักตพงศ์ไพศาล อดีตรองเลขาธิการพรรคไทยรักไทย ได้เข้าถึงพ.ต.ท.ทักษิณ เพื่อต่อรองกระทรวงคมนาคม แทนกลุ่มของนายสันติ พร้อมพัฒน์ และคาดว่าจะได้กระทรวงคมนาคมแน่นอนแล้ว โดยกลุ่มนายสันติ จะได้ รมว.พาณิชย์แทน โดยมีนายสันติ หรือนายวิรุฬ เตชะไพบูลย์ นั่งรมว.
ส่วนตำแหน่งโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ที่มีกระแสว่า นายนพดล ปัทมะ ช่วยเข้ามาวางตัวนั้น มีชื่อนายยุรนันท์ ภมรมนตรี ผู้สมัครส.ส.บัญชีรายชื่อ ลำดับที่ 63 พรรคเพื่อไทย ที่สอบตก เป็นแคนิเดต
**คาดพรรคร่วมได้แค่ 5-6 ที่
ขณะที่สัดส่วนของพรรคร่วมรัฐบาล รายงานว่า พรรคเพื่อไทยขอให้ส่งรายชื่อมาในวันที่ 1 ส.ค.นี้เช่นกัน ทั้งพรรคพลังชล พรรคชาติไทยพัฒนา และพรรคชาติพัฒนาเพื่อแผ่นดิน รวมประมาณ 5 - 6 ที่นั่ง ซึ่งพรรคเพื่อไทยจะจัดสรรในพรรคก่อนที่จะเกลี่ยให้พรรคร่วมรัฐบาล ซึ่งอาจจะไม่เป็นไปตามที่เคยต่อรองไว้
ส่วนตำแหน่งประธานคณะกรรมาธิการสามัญชุดต่าง ๆ จะมีการสรรหาให้กับส.ส.ที่อกหักไม่ได้เป็นรัฐมนตรีในคราวเดียวกัน
** “ประชาธิปไตยใหม่”ขอแจม
วันเดียวกันน.ส.พัชรินทร์ มั่นปาน ส.ส.ระบบบัญชีรายชื่อ พรรคประชาธิปไตยใหม่ กล่าวว่าต้องการงานด้านการศึกษาและสตรีที่ถือว่ามีความถนัด
ด้านนายวารินทร์ อัฐนาค โฆษกพรรคประชาธิปไตยใหม่ กล่าวว่า พรรคได้รับการประสานงานเป็นการภายในจาก พรรคเพื่อไทยว่า น.ส.ยิ่งลักษณ์ จะนัดหารือถึงแนวทางการทำงานของพรรคในฐานะพรรคร่วมรัฐบาล ทั้งนี้พรรคมีสิ่งที่จะเสนอต่อพรรคเพื่อไทยพิจารณาคือ การขอให้เข้าไปดูแลงานด้านการศึกษาและสตรีในกรรมาธิการ รวมถึงการร่วมเสนอนโยบายแก้ไขปัญหาปากท้องให้กับประชาชน ส่วนตำแหน่งรัฐมนตรีจะไม่ต่อรองเนื่องจากพรรคมีเพียงเสียงเดียวเท่านั้น
** พลังชล ลุ้น!ท่องเที่ยวฯ-อุตฯ
นายเชาวน์ มณีวงษ์ หัวหน้าพรรคพลังชล กล่าวว่าตนยังไม่ได้มีการพูดคุยกับพรรคเพื่อไทย เรื่องโควตารัฐมนตรีในส่วนของพรรค ส่วนที่มีกระแสข่าวว่าทางพรรคขอดูแลในส่วนของกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬานั้น หัวหน้าพรรคพลังชลกล่าวว่า นายสนธยา คุณปลื้ม ที่ปรึกษาพรรค เคยทำหน้าที่งานด้านนี้มาก่อน อีกทั้งยังมีผลงานเป็นที่ยอมรับ อย่างไรก็ตาม หากได้ดูแลในส่วนของกระทรวงอุตสาหกรรมนั้น ก็พร้อมทำหน้าที่ โควตาที่ทางพรรคจะได้นั้น หากเป็นตำแหน่งรัฐมนตรีว่าการกระทรวง อย่างน้อยก็ควร 1 ตำแหน่ง แต่หากเป็นตำแหน่งรัฐมนตรีช่วยก็ 2 ตำแหน่ง
ผู้สื่อข่าวรายงานจากรัฐสภา วานนี้ (28 ก.ค) ว่า หลังจากคณะกรรมการการเลือกตั้ง(กกต.) ได้ประกาศรับรองผลการเลือกตั้งส.ส.ได้ 496 คน จาก 500 คน ถือว่าถึงเกณฑ์ร้อยละ 95 ตามที่รัฐธรรมนูญ 50 มาตรา 93 วรรคท้ายบัญญัติ โดยจะมีการประชุมรัฐสภาเพื่อให้สมาชิกได้มาประชุมเป็นครั้งแรกภายใน 30 วัน นับแต่วันเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร ล่าสุด สำนักพระราชวังได้ออกแถลงการณ์เรื่องการเปิดประชุมรัฐสภา โดยพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ได้ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้ตราพระราชกฤษฎีกาเรียกประชุมรัฐสภา ในวันที่ 1 ส.ค. 2554 และทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้ สมเด็จพระบรมโอรสาธิราช เจ้าฟ้ามหาวชิราลงกรณ สยามมกุฎราชกุมาร เสด็จพระราชดำเนินไปทรงปฏิบัติพระราชกรณียกิจแทนพระองค์ โดยรถยนต์พระที่นั่งไปยังพระที่นั่งอนันตสมาคม พระราชวังดุสิต เวลา 17.00 น.
จากนั้น สำนักงานเลขาธิการสภาผู้แทนราษฎรจะออกหนังสือเชิญส.ส.มาประชุมสภาผู้แทนราษฎร เพื่อเลือกประธานสภาผู้แทนราษฎร คาดว่า จะมีการนัดประชุมในวันที่ 3 ส.ค. ซึ่งตามธรรมเนียปฏิบัติ ส.ส.ที่อายุมากที่สุดในที่ประชุมคือ นายชัย ชิดชอบ ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคภูมิใจไทย อายุ 83 ปี จะเป็นประธานชั่วคราวเพื่อดำเนินการประชุม โดยส.ส.จะต้องปฏิญาณตนก่อนเข้ารับหน้าที่ตามที่รัฐธรรมนูญ 50 มาตรา 123 บัญญัติ จากนั้นจะเข้าสู่วาระการโหวตเลือกประธานสภาฯและรองประธานสภาฯอีก 2 คน ด้วยการลงคะแนนลับ จากนั้นรักษาการณ์นายกรัฐมนตรีจะนำความขึ้นกราบบังคมทูล เพื่อทรงทรงมีพระบรมราชโองการโปรดเกล้าฯแต่งตั้ง จากนั้นคาดว่า ประธานสภาผู้แทนราษฎรคนใหม่ จะนัดประชุมสภาผู้แทนราษฎรในช่วงวันที่ 8 หรือ 9 ส.ค. เพื่อโหวตเลือกนายกรัฐมนตรีซึ่งจะใช้การลงคะแนนแบบเปิดเผยตามที่รัฐธรรมนูญ 50 มาตรา 172 บัญญัติ
**ร่างพ.ร.ฎ.เปิดประชุมขึ้นทูลเกล้าฯ
นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี ให้สัมภาษณ์ว่า เวลา 11.00 น.วันที่ 28 ก.ค. ตนได้นำร่างพระราชกฤษฎีกาเปิดประชุมรัฐสภา ซึ่งอาศัยอำนาจตามความในมาตรา 127, 128, 187 ของรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทยขึ้นทูลเกล้าฯ แล้ว เพราะคณะกรรมการการเลือกตั้ง(กกต.)ได้รับรองส.ส.เสร็จสิ้นเรียบร้อยเมื่อวันที่ 27 ก.ค.ที่ผ่านมา และตนได้แจ้งกกต.ไปแล้วว่า ตนได้นำเรื่องขึ้นทูลเกล้าฯแล้ว
**จับตา!โผ ครม.หลังประชุมสภา
เวลา 12.30 น. น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร ว่าที่นายกรัฐมนตรี ให้สัมภาษณ์กับสื่อมวลชนก่อนเดินทางไปช่วยผู้สมัครของพรรคหาเสียงเลือกตั้งซ่อมจ.หนองคาย ว่า จะมีการเรียกประชุมส.ส.ในวันจันทร์ที่ 1 ส.ค. เพื่อที่จะแจ้งต่อที่ประชุมให้ทราบถึงผลการคัดเลือก ประธานสภาผู้แทนราษฎร และรองประธานสภาฯและขณะนี้ผู้ที่จะเข้ามาเป็นประธานสภานั้นก็มีอยู่ในใจแล้ว ซึ่งจะมีการสรุปกันในช่วงเช้าของวันที่ 1 ส.ค. โดยจะชัดเจนก่อนที่จะเดินทางไปประชุมสภาในช่วงเย็น
ส่วนที่มีรายงานว่าพ.อ.อภิวันท์ วิริยะชัย อดีตรองประธานสภาจะไม่ได้รับเลือกให้เป็นประธานสภา เพราะมีความเป็นคนเสื้อแดง น.ส.ยิ่งลักษณ์ กล่าวว่า ไม่ได้แยกแยะอย่างนั้น จะไปดูในเรื่องของผู้ที่มีคุณสมบัติ และมีความรู้ความเข้าในในด้านของสภาและพื้นฐานในด้านกฎหมาย
ทั้งนี้คุณสมบัติในใจนั้นเป็นอย่างไร น.ส.ยิ่งลักษณ์ กล่าวว่า ต้องมีความรู้ความเข้าใจผ่านงานสภา เข้าใจในเรื่องของระบบสภาเป็นอย่างดี ที่สำคัญส.ส.ต้องให้ความเชื่อถือ
กรณีนายสมศักดิ์ เกียรติสุรนนท์ นายวิทยา บูรณศิริ แล้วพ.อ.อภิวันท์ วิริยะชัย หนึ่งในสามคนนี้มีคุณสมบัติตรงบ้างหรือไม่ น.ส.ยิ่งลักษณ์ กล่าวว่า ยังไม่ทราบ คงต้องรอฟังผลภายในวันจันทร์ที่ 1 ส.ค.ช่วงเช้าอีกครั้ง
ส่วนที่ขณะนี้ก็ยังไม่ได้สรุปว่ามีใครบ้างคงจะต้องเอารายชื่อของส.ส.ทั้งหมดมาพิจารณาร่วมกันอีกครั้ง ยังไม่ได้คัดออกมาว่ามีใครบ้างแต่จากที่ดูก็มีหลายคนที่มีคุณสมบัติตรงแล้วเป็นผู้ที่มีความรู้ความสามารถ
ทั้งนี้ในวันที่ 1 ส.ค.จะได้ชื่อประธานสภาและรองประธานสภาหรือไม่ น.ส.ยิ่งลักษณ์ กล่าวว่า ใช่ แล้วก็คาดว่าทั้ง 3 ตำแหน่งนั้นจะเป็นของพรรคเพื่อไทยทั้งหมด
เมื่อประชุมสภาแล้วจะต้องมีการพูดคุยเพื่อนัดประชุมเลือกนายกรัฐมนตรีต่อทันทีหรือไม่ น.ส.ยิ่งลักษณ์ กล่าวว่า ต้องรอผลการโปรดเกล้าฯประธานสภาออกมาก่อน เพราะในเรื่องของการเลือกนายกรัฐมนตรีนั้นต้องไปทีละขั้นตอน พอได้ตัวประธานสภาแล้วตัวประธานสภาจะเป็นผู้เรียกประชุมเลือกนายกฯ
ทั้งนี้จะมีการนัดพรรคร่วมรัฐบาลพูดเรื่องตำแหน่งรัฐมนตรี หลังกลับมาจากหาเสียงเลือกตั้งซ่อมที่จ.หนองคายหรือไม่ น.ส.ยิ่งลักษณ์ กล่าวว่า ยังไม่ได้หารือกัน แต่ลำดับทั้งหมดต้องสรุปภายในพรรคก่อนจากนั้นถึงจะหารือกับพรรคร่วม ซึ่งคาดว่าจะนัดหารือกันหลังจากมีการเลือกนายกรัฐมนตรีแล้ว
**อ้างโยน กก.บห.เคาะ ปธ.สภาฯ
นายสามารถ แก้วมีชัย ส.ส.เชียงราย พรรคเพื่อไทย ในฐานะอดีตรองประธานสภาผู้แทนราษฎร กล่าวถึงกรณีการเลือกประธานสภาฯคนใหม่ว่า ขณะนี้ทุกอย่างขึ้นอยู่กับคณะกรรมการบริหารพรรคเพื่อไทยที่จะพิจารณาเลือกบุคคลที่มีความเหมาะสม อย่างไรก็ตามส่วนตัวเห็นว่าบุคคลที่จะมาเป็นประธานสภาฯในช่วงเวลานี้ คงจะต้องดูสถานการณ์ทางการเมือง รวมถึงพันธกิจหลัก 7 ข้อ ทางที่พรรคเพื่อไทยประกาศว่าจะทำเมื่อได้เป็นรัฐบาล โดยเฉพาะการสร้างความปรองดองของคนในชาติ
ทั้งนี้หากประธานสภาฯมาจากตัวแทนกลุ่มคนเสื้อแดงอาจเกิดปัญหาหรือไม่ นายสามารถ กล่าวว่า ส่วนตัวไม่อยากไประบุถึงความเหมาะสม ว่าใครควรจะมาทำหน้าที่ดังกล่าว เพราะขณะนี้ทั้ง นายสมศักดิ์ เกียรติสุรนนท์ ส.ส.ขอนแก่น และ พ.อ.อภิวันท์ วิริยะชัย ส.ส.นนทบุรี พรรคเพื่อไทย ต่างเป็นบุคคลที่มีประสบการณ์และผ่านการทำหน้าที่มาแล้ว ดังนั้นทั้งหมดควรเป็นกรรมการบริหารพรรค ที่จะเป็นคนตัดสินและเลือกบุคคลที่มีการยอมรับจากทุกฝ่าย
**“บุญรื่น-ชลน่าน”รองปธ.สภาฯ
รายงานข่าวแจ้งว่า ขณะที่รองประธานสภาฯ คาดว่า เพื่อไทยจะได้ทั้ง 2 ตแหน่ง คือ นางบุญรื่น ศรีธเรศ ส.ส.กาฬสินธุ์ และน.พ.ชลน่าน ศรีแก้ว ส.ส.น่าน
**เสื้อแดงอ้างไม่รับตำแหน่ง รมต
นายสถาพร มณีรัตน์ สส.ลำพูน พรรคเพื่อไทย กล่าวภายหลังเดินทางไปที่เรือนจำพิเศษกรุงเทพ เพื่อเยี่ยมนายจตุพร พรหมพันธ์ ว่าที่สส.บัญชีรายชื่อ พรรคเพื่อไทย ถึงกรณีที่มีกระแสข่าวว่าพรรคเพื่อไทย ไม่ให้คนเสื้อแดงมีตำแหน่งทางการเมือง เพื่อสร้างความปรองดองนั้น ตนในฐานะแกนนำนปช.คนหนึ่ง เรื่องนี้คนเสื้อแดงต้องยอมรับสภาพ และต้องรู้บทบาทของตัวเอง เมื่อการต่อสู้ไม่ได้เอาตำแหน่ง และพรรคไม่ให้ เชื่อว่าคนเสื้อแดงในพรรคเพื่อไทย คงไม่มีใครมีปัญหาอะไร
อย่างไรก็ตาม ในการเลือกประธานสภาผู้แทนราษฎรเวลานี้ ทั้ง 3 คน ที่มีรายชื่อถือว่าเป็นบุคคลที่มีความเหมาะสม ทั้งนายสมศักดิ์ พ.อ.อภิวันท์ และนายวิทยา
นายสถาพร กล่าวว่า แม้เรื่องดังกล่าว กรรมการบริหารพรรคมอบอำนาจให้น.ส.ยิ่งลักษณ์ และนายยงยุทธ พิจารณาคัดเลือก แต่ตำแหน่งประธานสภา เป็นตำแหน่งที่ต้องทำงานร่วมกับส.ส. และฝ่ายนิติบัญญัติ จึงควรมีการเรียกประชุมสส. เพื่อแสดงความเห็น อภิปรายกันอย่างเต็มที่ว่าใครคนไหนเหมาะสมอย่างไร
ทั้งนี้ พ.อ.อภิวันท์ แม้เคยขึ้นเวทีนปช. แต่เชื่อว่าคงไม่มีปัญหาในการรับตำแหน่ง เพราะเป็นคนละบทบาท
**หนุน“ชลน่าน”รองประธาน
นายสถาพร กล่าวว่า สำหรับภาคเหนือเบื้องต้นที่คุยกัน ก็จะสนับสนุนให้น.พ.ชลน่าน ศรีแก้ว สส.น่าน ให้ดำรงตำรองประธานสภา ในโควตาภาคเหนือ เนื่องจากมีความเชี่ยวชาญในเรื่องนิติบัญญัติ และแม่นข้อบังคับการประชุม อย่างไรก็ตาม การสรรหาบุคคลในตำแหน่งทางการเมืองโควตาพรรคเพื่อไทย ผู้ใหญ่ในพรรคต้องฟังเสียงสส. และต้องคำนึงถึงความรู้สึกของประชาชน 16 ล้านเสียงจากทุกภาคส่วนรวมถึงคนเสื้อแดงด้วย
**วิชาญอ้างไม่รู้นั่ง รมว.สาธารณสุข
นายวิชาญ มีนชัยนันท์ ส.ส.กทม.พรรคเพื่อไทย กล่าวว่า ตนเองยังไม่ทราบเรื่องการจัดสรรตำแหน่งของทางพรรค ส่วนที่มีกระแสข่าวที่ว่าตนจะได้รับตำแหน่งรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุขนั้นยังให้ความชัดเจนอะไรไม่ได้ แต่เคยผ่านงานนี้มาก่อน โดยมองว่า เรื่องการจัดสรรตำแหน่งรัฐมนตรีนั้นต้องคำนึงถึงเรื่องความเหมาะสมเป็นหลัก ซึ่งทางพรรคเพื่อไทยเองก็มีหลักเกณฑ์ในการคัดเลือกอยู่แล้ว
** “ไอ้เต้น”ส่อแห้ว รมต.
สำหรับการจัดโผครม. “ยิ่งลักษณ์ 1” หลังกกต.ประกาศรับรองผลการเลือกตั้งส.ส.ได้ 496 คน จาก 500 คน ถือว่าถึงเกณฑ์ร้อยละ 95 แล้วนั้น และจะมีการเปิดสภาฯมนวันที่ 1 ส.ค และเลือกประธานสภาในวันที่ 3 ส.ค.นั้น ค่อนข้างชัดเจนแล้วว่า กระทรวงกลาโหม กระทรวงการต่างประเทศ และกระทรวงการคลัง ยังจะมีพรรคเพื่อไทยคุมแน่นอน
โดยเฉพาะกระทรวงกลาโหม มีความเป็นไปได้สูงที่พล.อ.ยุทธศักดิ์ ศศิประภา ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคเพื่อไทย จะมานั่งเก้าอี้รมว.กลาโหม
กระทรวงการต่างประเทศ เดิมที่มีข่าวว่านายกิตติรัตน์ ณ ระนอง อธิการบดีมหาวิทยาลัยชินวัตร และเป็นอดีตกรรมการผู้จัดการตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย จะมานั่งนั้น แม้นายกิตติรัตน์จะปฏิเสธว่ายังไม่มีใครทาบทามนั้น เชื่อว่ามีความเป็นไปได้แล้ว 80% ขณะที่กระทรวงการคลัง มีการวางตัวนายวิชิต สุรพงษ์ชัย กรรมการผู้จัดการใหญ่ธนาคารไทยพาณิชย์ อยู่อันดับต้นๆ
รายงานข่าวแจ้งว่า กรณีของนายณัฐวุฒิ ใสเกื้อ แกนนำนปช. และส.ส.ระบบบัญชีรายชื่อ และแกนนำเสื้อแดงอีกหลายคนยังไม่มีความชัดเจนว่าจะได้นั่งรัฐมนตรีหรือไม่ แม้ กตต.จะประกาศรับรองแล้วก็ตาม
**กลุ่มเฮียเพ้งแซงโค้ง “คมนาคม”
รายงานแจ้งว่า ส่วนกระทรวงอื่น ๆ ตามเดิมที่มีข่าวว่ากลุ่มนายพงษ์ศักดิ์ รักตพงศ์ไพศาล อดีตรองเลขาธิการพรรคไทยรักไทย ได้เข้าถึงพ.ต.ท.ทักษิณ เพื่อต่อรองกระทรวงคมนาคม แทนกลุ่มของนายสันติ พร้อมพัฒน์ และคาดว่าจะได้กระทรวงคมนาคมแน่นอนแล้ว โดยกลุ่มนายสันติ จะได้ รมว.พาณิชย์แทน โดยมีนายสันติ หรือนายวิรุฬ เตชะไพบูลย์ นั่งรมว.
ส่วนตำแหน่งโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ที่มีกระแสว่า นายนพดล ปัทมะ ช่วยเข้ามาวางตัวนั้น มีชื่อนายยุรนันท์ ภมรมนตรี ผู้สมัครส.ส.บัญชีรายชื่อ ลำดับที่ 63 พรรคเพื่อไทย ที่สอบตก เป็นแคนิเดต
**คาดพรรคร่วมได้แค่ 5-6 ที่
ขณะที่สัดส่วนของพรรคร่วมรัฐบาล รายงานว่า พรรคเพื่อไทยขอให้ส่งรายชื่อมาในวันที่ 1 ส.ค.นี้เช่นกัน ทั้งพรรคพลังชล พรรคชาติไทยพัฒนา และพรรคชาติพัฒนาเพื่อแผ่นดิน รวมประมาณ 5 - 6 ที่นั่ง ซึ่งพรรคเพื่อไทยจะจัดสรรในพรรคก่อนที่จะเกลี่ยให้พรรคร่วมรัฐบาล ซึ่งอาจจะไม่เป็นไปตามที่เคยต่อรองไว้
ส่วนตำแหน่งประธานคณะกรรมาธิการสามัญชุดต่าง ๆ จะมีการสรรหาให้กับส.ส.ที่อกหักไม่ได้เป็นรัฐมนตรีในคราวเดียวกัน
** “ประชาธิปไตยใหม่”ขอแจม
วันเดียวกันน.ส.พัชรินทร์ มั่นปาน ส.ส.ระบบบัญชีรายชื่อ พรรคประชาธิปไตยใหม่ กล่าวว่าต้องการงานด้านการศึกษาและสตรีที่ถือว่ามีความถนัด
ด้านนายวารินทร์ อัฐนาค โฆษกพรรคประชาธิปไตยใหม่ กล่าวว่า พรรคได้รับการประสานงานเป็นการภายในจาก พรรคเพื่อไทยว่า น.ส.ยิ่งลักษณ์ จะนัดหารือถึงแนวทางการทำงานของพรรคในฐานะพรรคร่วมรัฐบาล ทั้งนี้พรรคมีสิ่งที่จะเสนอต่อพรรคเพื่อไทยพิจารณาคือ การขอให้เข้าไปดูแลงานด้านการศึกษาและสตรีในกรรมาธิการ รวมถึงการร่วมเสนอนโยบายแก้ไขปัญหาปากท้องให้กับประชาชน ส่วนตำแหน่งรัฐมนตรีจะไม่ต่อรองเนื่องจากพรรคมีเพียงเสียงเดียวเท่านั้น
** พลังชล ลุ้น!ท่องเที่ยวฯ-อุตฯ
นายเชาวน์ มณีวงษ์ หัวหน้าพรรคพลังชล กล่าวว่าตนยังไม่ได้มีการพูดคุยกับพรรคเพื่อไทย เรื่องโควตารัฐมนตรีในส่วนของพรรค ส่วนที่มีกระแสข่าวว่าทางพรรคขอดูแลในส่วนของกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬานั้น หัวหน้าพรรคพลังชลกล่าวว่า นายสนธยา คุณปลื้ม ที่ปรึกษาพรรค เคยทำหน้าที่งานด้านนี้มาก่อน อีกทั้งยังมีผลงานเป็นที่ยอมรับ อย่างไรก็ตาม หากได้ดูแลในส่วนของกระทรวงอุตสาหกรรมนั้น ก็พร้อมทำหน้าที่ โควตาที่ทางพรรคจะได้นั้น หากเป็นตำแหน่งรัฐมนตรีว่าการกระทรวง อย่างน้อยก็ควร 1 ตำแหน่ง แต่หากเป็นตำแหน่งรัฐมนตรีช่วยก็ 2 ตำแหน่ง
