สยองแน่ “โจรแดง”เป็นรมต. สายล่อฟ้าในรัฐบาล “ยิ่งลักษณ์”

ยิ่งทอดยาวออกไป การแย่งชิงตำแหน่งรัฐมนตรีในพรรคเพื่อไทยและพรรคร่วมรัฐบาลก็จะยิ่งมีผลเสียต่อภาพลักษณ์ของรัฐบาลยิ่งลักษณ์ ชินวัตรหรือ “ปูแดง1”แน่นอน เพราะผู้คนจะมองว่า รัฐบาลยิ่งลักษณ์เกิดขึ้นเพราะผลประโยชน์และการต่อรองช่วงชิงตำแหน่งรัฐมนตรี

มิได้เป็นการจัดตั้งรัฐบาลเพื่อเข้าไปทำงานให้ประชาชนอย่างแท้จริง

ทีมข่าวการเมืองASTVผู้จัดการขอชี้ว่า ถ้าไม่อยากให้เกิดปัญหานี้ วิธีแก้ก็ต้องให้การแย่งชิงตำแหน่งรัฐมนตรีในเพื่อไทยยุติลงโดยเร็วที่สุด คือต้องรีบดำเนินการกระบวนการทุกอย่างตั้งแต่เลือกประธานสภาผู้แทนราษฏร-ลงมติเลือกนายกรัฐมนตรี-ฟอร์มคณะรัฐมนตรีให้ทุกขั้นตอนทำให้เสร็จโดยเร็ว

ไม่เช่นนั้น กว่าจะตั้งครม.เสร็จ หลายกลุ่มในเพื่อไทย คงเปิดฉากฟัดกันเละจนกว่าจะมีการนำรายชื่อครม.ขึ้นทูลเกล้าฯแต่งตั้งแน่นอน

เพราะผ่านไปแค่อาทิตย์เดียวหลังเลือกตั้งสารพัดกลุ่มมีการเคลื่อนไหวทวงเก้าอี้กันอย่างหนัก ทั้งทำแบบเปิดเผยเช่น ให้ส.ส.ในภาคในจังหวัดและในกลุ่มออกมาอ้างผลงาน คุณความดีสารพัด ทั้งอาวุโส-ประสบกาณ์ รวมถึงทวงบุญคุณที่ทำไว้ให้กับพรรคเพื่อไทยจนชนะการเลือกตั้ง

กลุ่มที่เปิดตัวแรงมาเลยคือกลุ่มสายอีสานส่ง เกียรติอุดม เมนะสวัสดิ์ ว่าที่ส.ส.อุดรธานีออกมาตีตราจองเก้าอี้ให้ส.ส.อีสานว่าต้องมีอย่างน้อย 10 เก้าอี้รัฐมนตรีเป็นโบนัส โดยอ้างว่าเลือกตั้งครั้งนี้อีสานเพื่อไทยกวาดมาได้ 104 ที่นั่ง มีส่วนสำคัญที่ทำให้เพื่อไทยชนะเลือกตั้ง และโควต้าอุดรธานี ก็ต้องรัฐมนตรีหนึ่งที่นั่ง หลังเอาชนะยกจังหวัดได้มา 9 คน

ขณะเดียวกัน พวกว่าที่ส.ส.อีสานหลายกลุ่มก็เคลื่อนไหวเชียร์พรรคพวกที่อยู่ในมุ้งเดียวกัน-จังหวัดเดียวกัน เพราะหากเพื่อนหรือหัวหน้าทีมได้เก้าอี้ มันก็มีผลประโยชน์ตามมามากมาย

บางรายก็หวั่นตกขบวน แม้มั่นใจว่าตัวเองมีผลงาน มากอาวุโส นายใหญ่ ทักษิณ ชินวัตร เรียกใช้งานอะไรก็ทำได้ตามเป้า การฟอร์มครม.รอบนี้จึงมองว่านี้คือโอกาสที่ดีที่สุดแล้ว หากมัวแต่นั่งรอ อาจพลาดได้ เพราะคนแย่งกันเยอะ เลยเคลื่อนไหวกันหนัก ถึงขั้นบินไปหาทักษิณ ชินวัตรที่ดูไบ หรือไม่ก็เสนอตัวเองให้ยิ่งลักษณ์ ชินวัตรพิจารณาก็ยังมี

เลยมีข่าวว่า แกนนำหลายภาควิ่งล็อบบี้ขอตำแหน่งกันใหญ่ โดยเฉพาะพวกที่เอาชนะเลือกตั้งมาได้ยกจังหวัด พวกนี้จะเสียงดังหน่อย เพราะถือว่ามีผลงาน คุยทับได้

ที่แบไต๋มาแล้ว ก็มีสายขอนแก่นที่มีคนขอลุ้นเข้านั่งรมต.หลายคนอาทิ จักริน พัฒน์ดำรงจิตร -จตุพร เจริญเชื้อ-พงศกร อรรณพพร หรือสายอุดรธานี ซึ่งแตกเป็นหลายสายต่างก็ไม่มีใครยอมใคร ทั้งสายพล.ต.อ.ประชา พรหมนอกที่พยายามดันพล.ต.อ.ประชาให้เป็นรมว.มหาดไทย หรือสายประจวบ ไชยสาสน์ที่ก็พยายามดัน ต่อพงษ์ ลูกชายให้เป็นรมว.ต่างประเทศแม้อาวุโสยังน้อยแต่หากไม่ได้ก็ขอเป็นรมช.กระทรวงใหญ่สักหนึ่งกระทรวง

หรือกลุ่มนครราชสีมา ก็มีข่าวว่ามีการแย่งชิงโควต้ารัฐมนตรีกันในโควต้าโคราชระหว่างฝ่ายวิรัช รัตนเศรษฐ ที่ย้ายมาจากรวมชาติพัฒนาฯ และเป็นหนึ่งในตัวหลักของเพื่อไทยที่ทำให้เพื่อไทยเอาชนะที่โคราชได้มาถึง 8 เก้าอี้ โดยมีข่าวว่าต้องการเก้าอี้รมช.เกษตรและสหกรณ์

แต่กลุ่มเชิดชัยของสุจินดา เชิดชัยหรือ เจ๊เกียว ก็ไม่ยอม พยายามผลักดันอัสนี เชิดชัยลูกชายให้ได้เป็นรัฐมนตรีรอบนี้หลังไม่ได้ย้ายไปอยู่กับสุวัจน์ ลิปตพัลลภที่ชาติพัฒนาเพื่อแผ่นดินเพราะทักษิณโทรศัพท์มาขอและให้คำมั่นว่าหากไม่ย้ายถ้าเพื่อไทยได้เป็นรัฐบาลจะให้เก้าอี้รัฐมนตรีหนึ่งตำแหน่งกับ “เจ๊เกียว” ซึ่ง “เจ๊เกียว”คงไม่ยอมแน่หากกลุ่มตัวเองไม่ได้ตำแหน่ง

ขณะที่กลุ่มหนองคาย-บึงกาฬ ที่มีว่าที่ร.ต.พงษ์พันธ์ สุนทรชัย เป็นหัวหน้าทีมซึ่งแสดงผลงานเอาชนะมาได้ยกจังหวัดทั้งหนองคาย-บึงกาฬได้มา 5 ส.ส.ก็คงไม่ยอมที่จะพลาดตำแหน่งเพราะกว่าจะเอาชนะทั้งภูมิใจไทยและชาติพัฒนาเพื่อแผ่นดินมาได้ ก็หนักเอาการ ผนวกกับตัวเองก็คงคิดว่าอาวุโสพอสมควร มีแรงหนุนมากเลยเคลื่อนไหวหนักเพราะเอาตำแหน่งรมช.คมนาคมให้ได้ ถึงกับมีข่าวว่าเป็นอีกคนหนึ่งที่บินไปหาทักษิณที่ดูไบเพื่อพรีเซนต์ตัวเอง

ส่วนพวกกลุ่มอีสานใต้ของปรีชา เร่งสมบูรณ์สุข อดีตรมช.มหาดไทยและว่าที่ส.ส.เลย การเลือกตั้งครั้งนี้ ในกลุ่มก็กวาดที่นั่งมาได้เป็นกอบเป็นกำ สามารถเอาตัวเลขไปขอโควต้ารัฐมนตรีกับทักษิณได้ ก็มีข่าวว่าส.ส.ในกลุ่มหลายคน ก็เริ่มเคลื่อนไหวเช่นกันแต่ไม่ได้เคลื่อนไหวเอาเก้าอี้ให้ปรีชา แต่จะเอาให้ตัวเองบ้าง เพราะบางคนก็คงคิดว่าตัวเองก็น่าจะขึ้นมาเป็นรัฐมนตรีได้แล้ว เพราะเป็นส.ส.มาหลายสมัยยังไม่เคยเป็นรัฐมนตรีกับเขาเสียที

อย่าง พีรพันธ์ พาลุสุข ว่าที่ส.ส.ยโสธร-ไพจิตร ศรีวรขาน ว่าที่ส.ส.นครพนม แต่ทางฝ่ายปรีชา เร่งสมบูรณ์สุข ก็ไม่ยอมยังคงยืนกรานว่าโควต้ากลุ่มอันดับแรกต้องเป็นตัวเองได้เลือกก่อน จากนั้นค่อยให้คนในกลุ่มได้เป็น ซึ่งปรีชาก็มีข่าวว่าหวังไว้ว่าน่าจะกลับมาเป็นมท.2 อีกครั้งหนึ่ง

ส่วนภาคอื่นๆ ก็มีลักษณะเช่นเดียวกัน ไม่ว่าจะเป็นภาคเหนือ-ภาคกลาง-ภาคกรุงเทพมหานคร ก็วิ่งวุ่นกับการแย่งชิงเก้าอี้รัฐมนตรีกันอุตหลุด

อย่างไรก็ตาม กลุ่มก้อนในพรรคเพื่อไทย ที่น่าจะสร้างปัญหาให้กับทักษิณและยิ่งลักษณ์มากที่สุดในการตัดสินใจจัดสรรคนเป็นรัฐมนตรี ก็คือกลุ่มคนเสื้อแดง หรือพวกเผาบ้านเผาเมือง

ที่มีส.ส.รวมกันทั้งสิ้นทั้งระบบปาร์ตี้ลิสต์และระบบเขตรวมแล้วเกิน 20 คนขึ้นไป

เช่นระบบปาร์ตี้ลิสต์ก็มี จตุพร พรหมพันธุ์ ณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ พ.อ.อภิวันท์ วิริยะชัย นพ.เหวง โตจิราการ พายัพ ปั้นเกตุ เยาวนิตย์ เพียงเกษ ก่อแก้ว พิกุลทอง วิเชียร ขาวขำ หรือระบบเขตก็เช่น วรชัย เหมะ ว่าที่ส.ส. สมุทรปราการหรือจ.ส.ต.ประสิทธิ์ ไชยศรีษะ ว่าที่ สส.สุรินทร์ ไพโรจน์ อิสระเสรีพงษ์ ว่าที่ส.ส.กทม. เป็นต้น

ส.ส.กลุ่มเสื้อแดงเหล่านี้ ที่มีทั้งแดงเข้มข้นคือเป็นพวกแกนนำนปช.ตัวจริงที่เคยติดคุกมาแล้ว รวมถึงพวกแดงกลายๆ คือไม่ใช่ระดับแกนนำแต่ก็หนุนหลังเสื้อแดงเต็มตัวทั้งบนเวทีและหลังเวที ก็พยายามกดดันทักษิณและยิ่งลักษณ์ว่า

ต้องมีการให้รางวัลกับแกนนำนปช.ที่สู้ตายเพื่อทักษิณยอมติดคุกหลายเดือน ถูกดำเนินคดีร้ายแรงต่างๆ ทั้งคดีผู้ก่อการร้าย-คดีล้มสถาบัน ก็เพื่อทักษิณและพรรคเพื่อไทย แล้วจะให้รางวัลตอบแทนกับการตั้งเป็นรัฐมนตรีไม่ได้เชียวหรือ

โดยฝ่ายเสื้อแดงได้ขอโควต้ารัฐมนตรีสองตำแหน่งให้กับ ณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ และ จตุพร พรหมพันธ์ ที่ติดคุกอยู่ในตอนนี้ได้รางวัลใหญ่คือเก้าอี้รัฐมนตรีตอบแทนหลังติดคุกมาหลายเดือน

หากทักษิณ-ยิ่งลักษณ์ ไม่ให้ตามที่ขอ โดยอ้างว่าเสียงส่วนใหญ่ในพรรคไม่เห็นด้วย เชื่อว่าคงมีปัญหาแน่นอนกับความรู้สึกของแกนนำนปช.ในเพื่อไทยและเหล่ามวลชนเสื้อแดงทั่วประเทศ ซึ่งอยู่เบื้องหลังความสำเร็จของยิ่งลักษณ์และพรรคเพื่อไทยในวันนี้

ต้องยอมรับว่า หากเสื้อแดงไม่พร้อมใจกันออกมาร่วมหาเสียงให้เพื่อไทย ไม่ออกมาใช้สิทธิเลือกตั้งกันจำนวนมาก ตัวเลขคะแนนปาร์ตี้ลิสต์ของเพื่อไทยคงไม่มากถึง 15 ล้านคะแนน ทำให้ได้ส.ส.ปาร์ตี้ลิสต์ 61 คน และได้ส.ส.เขตมากถึง 204 คน

และความเชื่อของคนในพรรคเพื่อไทยที่ว่าทักษิณ เป็นคนที่ใครทำอะไรให้ ช่วยเหลืออะไร ก็จะไม่ลืม และตอบแทนให้ทุกครั้ง จนทำให้แกนนำนปช.ในเพื่อไทย ยอมเอาชีวิตและอิสรภาพสู้เพื่อทักษิณ เมื่อถึงวันนี้ ยามเมื่อมีโอกาสตอบแทนให้กับแกนนำนปช.หากทักษิณไม่ให้ตามที่ขอ ก็คงทำให้คนเสื้อแดงในพรรคเพื่อไทยรวมถึงมวลชนคนเสื้อแดงทั้งหลาย คงเสียความรู้สึกกับทักษิณอย่างมากแน่นอน

แต่ครั้นจะตั้งคนอย่าง ณัฐวุฒิ-จตุพร เป็นรัฐมนตรี หรืออาจเป็นคนอื่นๆ เช่น เหวง โตจิราการ วิเชียร ขาวขำ ที่ถูกดำเนินคดีและตกเป็นจำเลยหลายคดี แค่คิด และจินตนาการตามไปด้วย หากครม.มีแกนนำนปช.อยู่ร่วมด้วยก็สยองแล้วประเทศชาติ

ทีมข่าวการเมืองฯเชื่อว่า เรื่องการต้องจำใจเอาพวกแกนนำเสื้อแดงเป็นรัฐมนตรี ของทักษิณ-ยิ่งลักษณ์ มันน่าจะเป็นปัญหาใหญ่ของสองพี่น้อง ตระกูล ชินวัตร

หากไม่ตั้ง ก็มีปัญหา ตั้งก็สร้างปัญหา เป็นสายล่อฟ้าให้รัฐบาล ที่อาจทำให้รัฐบาลอายุสั้นเร็วขึ้น คนไม่พอใจรัฐบาลเพื่อไทยมีมากขึ้น

ยิ่งลักษณ์ จะเลือกเดินไปทางไหน

คนเสื้อแดง คงยากรู้คำตอบจาก ยิ่งลักษณ์ว่า จะเป็น “ปูแดง” อย่างที่สื่อเรียกหรือไม่