วานนี้ (25 ก.ค) น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร ว่าที่นายกรัฐมนตรี กล่าวถึงคุณสมบัติของผู้ที่จะมาเป็นรัฐมนตรีต่างประเทศ ว่า จะต้องมีความสัมพันธ์อันดีระหว่างไทยกับประเทศต่างๆ ต้องมีความเข้าใจพื้นฐานทางด้านการทูต เพราะเราต้องการจะเน้นในเรื่องของความสัมพันธ์ต่อนานาประเทศ ไม่จำเป็นว่าต้องเป็นใคร จะเป็นใครก็ได้ แต่ขอให้มีความรู้ความสามารถ ส่วนจะเป็นคนนอก หรือคนในนั้นขอให้คอยติดตามดู
** อ้างแม้วไฟเขียว “ปู” จัดเต็มที่
นายขวัญชัย ไพรพนา ประธานชมรมคนรักอุดร กล่าวเมื่อถึงท่าอากาศยานสุวรรณภูมิว่าตนได้เดินทางไปพบพ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร ที่นครดูไบ ประเทศสหรัฐอาหรับเอมิเรสต์ ซึ่งครั้งนี้เป็นครั้งที่ 4 แล้ว โดย 3 ชั่วโมงที่ได้หารือกับ พ.ต.ท.ทักษิณ เห็นได้ชัดว่าพ.ต.ท.ทักษิณไม่มีความกังวลใจในการจัดตั้งครม.ยิ่งลักษณ์ 1 โดยยืนยันว่า จะเปิดโอกาสให้น.ส.ยิ่งลักษณ์ แสดงภาวะผู้นำอย่างแท้จริงในการจัดตั้งรัฐบาล โดยเชื่อมั่นว่า น.ส.ยิ่งลักษณ์จะสามารถจัดวางคนให้ตรงกับงานได้
สำหรับความชัดเจนในเวลานี้ คือ การส่งสัญญาณให้ นายจารุพงศ์ เรืองสุวรรณ เลขาธิการพรรคเพื่อไทย ศึกษางานในส่วนของกระทรวงแรงงาน และนายปลอดประสพ สุรัสวดี รองหัวหน้าพรรค ศึกษางานในส่วนของกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม แล้วเสนอให้ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ตรวจ และจะเป็นเช่นนี้ในทุกกระทรวง เพื่อให้แน่ใจว่าบุคคลต่าง ๆ มีฝีมือ และสามารถร่วมงานในรัฐบาล ยิ่งลักษณ์ 1 ได้
** เบรกส.ส.อีสานอย่ากระสันมาก
นายขวัญชัย ยังปฏิเสธประเด็นการแบ่งโควต้า พร้อมให้ข้อคิดไปยัง ส.ส. อีสานที่ได้104 ที่นั่ง ไม่ควรเรียกร้องตำแหน่ง ชัยชนะที่ได้มาแม้จะถือว่าเป็นฝีมือ แต่ควรสงบนิ่ง ไม่ควรออกอาการมากนัก จะได้เป็นรัฐบาลไปนานๆ
ส่วนการให้ฉายา ครม.แฟมิลี่คาบิเน็ต ของนายชูวิทย์ กมลวิศิษฏ์ นายขวัญชัย กล่าวว่า การพูดแบบนี้ เป็นการคิดแทนคนอื่นหรือไม่ ในขณะที่ทุกคนอยากเห็นบ้านเมืองไปข้างหน้า ควรให้โอกาสรัฐบาลน.ส.ยิ่งลักษณ์ ได้สร้างผลงานเสียก่อน ค่อยกล่าวหาหรือตำหนิ พร้อมยกตัวอย่างนโยบายการถมทะเล ที่ถูกพรรคประชาธิปัตย์โจมตี ตั้งแต่ยังไม่เริ่มลงมือทำ
กรณีที่พรรคประชาธิปัตย์ จะทำสื่อทีวีในนามพรรค และก่อตั้งโรงเรียนประชาธิปไตยสีขาว ว่า เปรียบเทียบกับ นปช.ไม่ได้ เพราะนปช.ก้าวข้ามไปไกลแล้ว และหลังรัฐบาลแถลงผลงานต่อสภา นายขวัญชัย จะเป็นประธานประชุมประชาชน 20 จังหวัดภาคอีสาน จะร่วมกำหนดแนวทางการทำงานการเมืองภาคประชาชนควบคู่รัฐบาล
**โผครม.ใหม่ “ปลอดประสพ”ส่อวืด
รายงานข่าวจากพรรคเพื่อไทยถึงความคืบหน้าในการจัดตั้งคณะรัฐมนตรีว่า หลังจากที่มีข่าวว่ามีการจัดตั้ง “คณะกรรมการคัดเลือกบุคคลที่เหมาะสมเป็นรัฐมนตรีของพรรคเพื่อไทย”
ล่าสุด มีกระแสว่า ตำแหน่งรมว.คมนาคม ยังมีชื่อของนายสันติ พร้อมพัฒน์ ส.ส.บัญชีรายชื่อ นายทุนพรรค ขณะที่อีกกระแสอ้างว่านายพงษ์ศักดิ์ รักตพงศ์ไพศาล นายทุนคนสำคัญของพรรคที่ดูแลพื้นที่ภาคกลางและดูแลส.ส.ภาคเหนือ ได้บินไปพบพ.ต.ท.ทักษิณที่ต่างประเทศ เพื่อต่อรองตำแหน่งรมว.คมนาคม
ด้านกลุ่มนครปฐม ที่มีนายเผดิมชัย สะสมทรัพย์ เป็นแกนนำ ยังมีโควตา 1 เก้าอี้รัฐมนตรี ที่คาดจะเป็นด้านกระทรวงด้านความมั่นและและเศรษฐกิจ
สำหรับตำแหน่ง รมว.กลาโหม สเป็กยังเป็นนายทหารเก่าที่ทำให้กองทัพและพรรคเพื่อไทยสบายใจ แม้ชื่อของพล.สำเภา ชูศรี จะหลุดออกโผล่าสุดแล้ว ชื่อของพล.อ.ยุทธศักดิ์ ศศิประภา ส.ส.บัญชีรายชื่อ และพล.อ.อ.สุเมธ โพธิ์มณี ผู้สมัครส.ส.บัญชีรายชื่อ เป็นเต็ง 1 และ 2 ส่วนรมว.มหาดไทย พล.ต.อ.ประชา พรหมนอก ส.ส.บัญชีรายชื่อ ยังมีกระแสดีกว่านายยงยุทธ วิชัยดิษฐ หัวหน้าพรรค ที่อาจจจะโยกไปเป็นรองนายกรัฐมนตรี
ขณะที่ตำแหน่งรองนายกฯ 3 ตำแหน่ง กลับมีการพลิกโผเพิ่มชื่อนายเสนาะ เทียนทอง ร.ต.อ.เฉลิม อยู่บำรุง ส.ส.บัญชีรายชื่อ ด้วย นอกจากนั้นกระทรวงพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ และกระทรวงสาธารณสุข คาดจะเป็นโควต้าของภาคกทม.มีชื่อน.อ.อนุดิษฐ์ นาครทรรพ ส.ส.กทม. เป็นรมว.พัฒนาสังคม นายอุดมเดช รัตนเสถียร ส.ส.นนทบุรี เป็นรมว.สาธารณสุข
รายงานระบุว่า ตำแหน่งรมว.ไอซีที มีชื่อนายคณวัฒน์ วศินสังวร รองหัวหน้าพรรค รมว.แรงงาน นายจารุพงศ์ เรืองสุวรรณ เลขาธิการพรรค จองไว้แล้ว เช่นเดียวกับกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมที่มีชื่อนายปลอดประสพ สุรัสวดี เต็งหนึ่ง อย่างไรก็ตามกลุ่มเอ้นจีโอด้านสิ่งแวดล้อมได้แกมาต่อต้านนายปลอดประสพทำให้ตำแหน่งนี้อาจจะต้องพิจารณาใหม่โดยเป็นการส่งชื่อมาจากกลุ่มของนายยงยุทธ ติยะไพรัช ขณะที่การตั้งรัฐมนตรีกลับไปหนักในการให้โควต้ากับภาคอีสานได้ที่ได้ส.ส. 104 คนซึ่งก่อนหน้านั้นขอโควตา 10 รัฐมนตรี
มีรายงานด้วยว่า พรรคเพื่อไทยเสนอไปยังพรรครว่มรัฐบาล ให้เสนอรายชื่อครม.หลังวันที่ 15 ส.ค. นี้
** “ปู”ปัดล้มเมกกะโปรเจกส์ปชป.
น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร ว่าที่นายกรัฐมนตรี กล่าวถึงความคืบหน้าด้านนโยบาย ว่า เราทำนโยบาย พร้อมทั้งศึกษาลงไปในภาคปฏิบัติ โดยการถามรายละเอียดกับผู้ที่เกี่ยวข้องให้มากที่สุด ก่อนที่จะทำงานอย่างเป็นทางการ รวมถึงต้องศึกษาถึงแหล่งที่มาของรายได้ด้วยว่าจะทำอย่างไรให้มีรายได้ เพราะเราจะมองแต่ค่าใช้จ่ายอย่างเดียวไม่ได้ รวมถึงการกระตุ้นภาคเศรษฐกิจโดยรวม เพื่อให้เป็นรายได้กลับมา
เมื่อถามว่า จากเงินคงคลังพอจะมองออกหรือไม่ว่า รายได้และรายจ่าย ที่ตั้งไว้จะมีความสมดุลหรือไม่ น.ส.ยิ่งลักษณ์ กล่าวว่า คงต้องเข้าไปศึกษาในรายละเอียดของนโยบายเสียก่อน ต้องรอผลอย่างเป็นทางการในการที่จะดูงบประมาณที่วางไว้ เป็นอย่างไร และเราจะสามารถสานต่อได้อย่างไร
ส่วนเรื่องการเรียกข้าราชการมาสอบถามในส่วนที่เกี่ยวข้องกับด้านเศรษฐกิจนั้น คงต้องรอการรับรองจากกกต. อย่างเป็นทางการเสียก่อน เพราะเราก็ไม่อยากจะเข้าไปทำงานอย่างไปเป็นทางการ เ
เส่วนโยบายด้านใดที่น่าเป็นห่วงมากที่สุด น.ส.ยิ่งลักษณ์ กล่าวว่า โดยภาพรวมทุกนโยบายเราเชื่อมั่นว่าเราจะขับเคลื่อนไปได้ แต่ก็ต้องขอความร่วมมือจากทุกภาคส่วน รวมถึงงบประมาณบางส่วนที่จะต้องมาดูกันด้วย พร้อมทั้งการหาแหล่งรายได้อีกด้วย
เมื่อถามว่างบประมาณรายจ่ายประจำจะต้องมาทบทวนใหม่หรือไม่ น.ส.ยิ่งลักษณ์ กล่าวว่า คงต้องขอบอกว่าให้ไปดูสถานะในวันนั้นจะดีกว่า เพราะอะไรที่เป็นโครงการที่กระตุ้นเศรษฐกิจอยู่แล้ว ก็คงจะเดินหน้าต่อไป อะไรที่เป็นค่าใช้จ่ายที่ไม่จำเป็น และไม่เกี่ยวข้องกับการกระตุ้นเศรษฐกิจ อาจจะต้องมาหารือกันว่าจะปรับจูนกันได้อย่างไร แต่คงจะไม่รื้อ เพราะทุกอย่างได้มีการวางแผนและการดำเนินงานแล้ว แต่ขอให้ไปในส่วนที่จะกระตุ้นเศรษฐกิจ และเกิดประโยชน์ต่อพี่น้องประชาชนมากที่สุด
ส่วนโครงการเมกกะโปรเจกต์ที่มีการวางแผนไว้ เราจะสานต่อหรือไม่นั้น น.ส.ยิ่งลักษณ์ กล่าวว่า ยังไม่เห็นในรายละเอียด เห็นแต่ภาพรวมในข่าว ดังนั้นทุกอย่างเรายังไม่สามารถสรุปได้ จนกว่าเราจะเข้าไปศึกษาในรายละเอียดอย่างเป็นทางการ
เมื่อถามว่ากังวลหรือไม่ว่างบประมาณจะไม่พอในการทำนโยบายที่พรรคได้หาเสียงไว้ น.ส.ยิ่งลักษณ์ กล่าวว่า เราคงต้องดูวิธีการในการหารายได้ พร้อมทั้งเราต้องมีขั้นตอนในการทำงานอยู่แล้ว คงจะบอกได้หลังจากที่เราทำงาน
**มาร์คอัดพท.ติดกับดักหาเสียงเกินจริง
นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรีและรักษาการหัวหน้า ปชป. กล่าวตอบโต้นายปลอดประสพ สุรัสวดี รองหัวหน้า พท. กรณีกล่าวหาว่ารัฐบาลปัจจุบันผลาญงบฯเป็นเหตุต้องรื้อร่าง พ.ร.บ.งบประมาณรายจ่ายประจำปี 2555 ที่เตรียมไว้ทั้งหมดว่า ไม่มี เพราะงบฯที่ ปชป.ทำมาได้กอบกู้วิกฤต จากติดลบมาเป็นบวก ฐานะการคลังก็ดีกว่าถ้าเทียบกับประเทศอื่นในโลก ยิ่งกว่านั้นปีนี้รัฐบาลจัดเก็บรายได้เกินเป้าเฉียด 2 แสนล้านบาท เป็นเงินที่จะมีเพิ่มมาให้รัฐบาลใหม่
“เรื่องการรื้องบฯเป็นเรื่องนโยบาย และแผนของ ปชป.คือจะสามารถทำให้งบฯกลับไปสู่ความสมดุลภายใน 4 ปีข้างหน้า วันนี้ที่จะต้องกู้ไม่เกี่ยวกับสิ่งที่รัฐบาลชุดนี้ทำมา แต่เป็นเพราะ พท.ไปโฆษณาหาเสียงเกินจริง โดยบอกว่าจะทำสิ่งนั้นสิ่งนี้โดยไม่ต้องกู้ เพราะมาโจมตีว่ารัฐบาลชุดปัจจุบันกู้เงินมาก ซึ่งไม่จริง เลยทำให้ติดกับดักคำพูดตัวเอง” นายอภิสิทธิ์กล่าว
เมื่อถามว่า หากรัฐบาลชุดใหม่เน้นการลงทุนจะเกิดปัญหาเรื่องวินัยการเงินการคลังหรือไม่ นายอภิสิทธิ์กล่าวว่า ตนอยากให้รัฐบาลชุดใหม่ปรับความเข้าใจทางเศรษฐกิจให้ตรงกับ ธปท.ตั้งแต่ต้น เพราะตอนที่ตนเข้ามาก็ทำเช่นนั้น เนื่องจาก ธปท.จะมีอิสระในการกำหนดนโยบายการเงิน แต่จำเป็นที่รัฐบาลจะต้องไปทำความเข้าใจให้ตรงกันว่าสถานการณ์ทางเศรษฐกิจเป็นอย่างไร เป้าหมายและภาพรวมทางเศรษฐกิจ จะเอาอัตราการขยายตัวและอัตราเงินเฟ้อเท่าไร นโยบายการเงินการคลังจะได้เดินไปในเป้าหมายเดียวกัน
** อ้างแม้วไฟเขียว “ปู” จัดเต็มที่
นายขวัญชัย ไพรพนา ประธานชมรมคนรักอุดร กล่าวเมื่อถึงท่าอากาศยานสุวรรณภูมิว่าตนได้เดินทางไปพบพ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร ที่นครดูไบ ประเทศสหรัฐอาหรับเอมิเรสต์ ซึ่งครั้งนี้เป็นครั้งที่ 4 แล้ว โดย 3 ชั่วโมงที่ได้หารือกับ พ.ต.ท.ทักษิณ เห็นได้ชัดว่าพ.ต.ท.ทักษิณไม่มีความกังวลใจในการจัดตั้งครม.ยิ่งลักษณ์ 1 โดยยืนยันว่า จะเปิดโอกาสให้น.ส.ยิ่งลักษณ์ แสดงภาวะผู้นำอย่างแท้จริงในการจัดตั้งรัฐบาล โดยเชื่อมั่นว่า น.ส.ยิ่งลักษณ์จะสามารถจัดวางคนให้ตรงกับงานได้
สำหรับความชัดเจนในเวลานี้ คือ การส่งสัญญาณให้ นายจารุพงศ์ เรืองสุวรรณ เลขาธิการพรรคเพื่อไทย ศึกษางานในส่วนของกระทรวงแรงงาน และนายปลอดประสพ สุรัสวดี รองหัวหน้าพรรค ศึกษางานในส่วนของกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม แล้วเสนอให้ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ตรวจ และจะเป็นเช่นนี้ในทุกกระทรวง เพื่อให้แน่ใจว่าบุคคลต่าง ๆ มีฝีมือ และสามารถร่วมงานในรัฐบาล ยิ่งลักษณ์ 1 ได้
** เบรกส.ส.อีสานอย่ากระสันมาก
นายขวัญชัย ยังปฏิเสธประเด็นการแบ่งโควต้า พร้อมให้ข้อคิดไปยัง ส.ส. อีสานที่ได้104 ที่นั่ง ไม่ควรเรียกร้องตำแหน่ง ชัยชนะที่ได้มาแม้จะถือว่าเป็นฝีมือ แต่ควรสงบนิ่ง ไม่ควรออกอาการมากนัก จะได้เป็นรัฐบาลไปนานๆ
ส่วนการให้ฉายา ครม.แฟมิลี่คาบิเน็ต ของนายชูวิทย์ กมลวิศิษฏ์ นายขวัญชัย กล่าวว่า การพูดแบบนี้ เป็นการคิดแทนคนอื่นหรือไม่ ในขณะที่ทุกคนอยากเห็นบ้านเมืองไปข้างหน้า ควรให้โอกาสรัฐบาลน.ส.ยิ่งลักษณ์ ได้สร้างผลงานเสียก่อน ค่อยกล่าวหาหรือตำหนิ พร้อมยกตัวอย่างนโยบายการถมทะเล ที่ถูกพรรคประชาธิปัตย์โจมตี ตั้งแต่ยังไม่เริ่มลงมือทำ
กรณีที่พรรคประชาธิปัตย์ จะทำสื่อทีวีในนามพรรค และก่อตั้งโรงเรียนประชาธิปไตยสีขาว ว่า เปรียบเทียบกับ นปช.ไม่ได้ เพราะนปช.ก้าวข้ามไปไกลแล้ว และหลังรัฐบาลแถลงผลงานต่อสภา นายขวัญชัย จะเป็นประธานประชุมประชาชน 20 จังหวัดภาคอีสาน จะร่วมกำหนดแนวทางการทำงานการเมืองภาคประชาชนควบคู่รัฐบาล
**โผครม.ใหม่ “ปลอดประสพ”ส่อวืด
รายงานข่าวจากพรรคเพื่อไทยถึงความคืบหน้าในการจัดตั้งคณะรัฐมนตรีว่า หลังจากที่มีข่าวว่ามีการจัดตั้ง “คณะกรรมการคัดเลือกบุคคลที่เหมาะสมเป็นรัฐมนตรีของพรรคเพื่อไทย”
ล่าสุด มีกระแสว่า ตำแหน่งรมว.คมนาคม ยังมีชื่อของนายสันติ พร้อมพัฒน์ ส.ส.บัญชีรายชื่อ นายทุนพรรค ขณะที่อีกกระแสอ้างว่านายพงษ์ศักดิ์ รักตพงศ์ไพศาล นายทุนคนสำคัญของพรรคที่ดูแลพื้นที่ภาคกลางและดูแลส.ส.ภาคเหนือ ได้บินไปพบพ.ต.ท.ทักษิณที่ต่างประเทศ เพื่อต่อรองตำแหน่งรมว.คมนาคม
ด้านกลุ่มนครปฐม ที่มีนายเผดิมชัย สะสมทรัพย์ เป็นแกนนำ ยังมีโควตา 1 เก้าอี้รัฐมนตรี ที่คาดจะเป็นด้านกระทรวงด้านความมั่นและและเศรษฐกิจ
สำหรับตำแหน่ง รมว.กลาโหม สเป็กยังเป็นนายทหารเก่าที่ทำให้กองทัพและพรรคเพื่อไทยสบายใจ แม้ชื่อของพล.สำเภา ชูศรี จะหลุดออกโผล่าสุดแล้ว ชื่อของพล.อ.ยุทธศักดิ์ ศศิประภา ส.ส.บัญชีรายชื่อ และพล.อ.อ.สุเมธ โพธิ์มณี ผู้สมัครส.ส.บัญชีรายชื่อ เป็นเต็ง 1 และ 2 ส่วนรมว.มหาดไทย พล.ต.อ.ประชา พรหมนอก ส.ส.บัญชีรายชื่อ ยังมีกระแสดีกว่านายยงยุทธ วิชัยดิษฐ หัวหน้าพรรค ที่อาจจจะโยกไปเป็นรองนายกรัฐมนตรี
ขณะที่ตำแหน่งรองนายกฯ 3 ตำแหน่ง กลับมีการพลิกโผเพิ่มชื่อนายเสนาะ เทียนทอง ร.ต.อ.เฉลิม อยู่บำรุง ส.ส.บัญชีรายชื่อ ด้วย นอกจากนั้นกระทรวงพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ และกระทรวงสาธารณสุข คาดจะเป็นโควต้าของภาคกทม.มีชื่อน.อ.อนุดิษฐ์ นาครทรรพ ส.ส.กทม. เป็นรมว.พัฒนาสังคม นายอุดมเดช รัตนเสถียร ส.ส.นนทบุรี เป็นรมว.สาธารณสุข
รายงานระบุว่า ตำแหน่งรมว.ไอซีที มีชื่อนายคณวัฒน์ วศินสังวร รองหัวหน้าพรรค รมว.แรงงาน นายจารุพงศ์ เรืองสุวรรณ เลขาธิการพรรค จองไว้แล้ว เช่นเดียวกับกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมที่มีชื่อนายปลอดประสพ สุรัสวดี เต็งหนึ่ง อย่างไรก็ตามกลุ่มเอ้นจีโอด้านสิ่งแวดล้อมได้แกมาต่อต้านนายปลอดประสพทำให้ตำแหน่งนี้อาจจะต้องพิจารณาใหม่โดยเป็นการส่งชื่อมาจากกลุ่มของนายยงยุทธ ติยะไพรัช ขณะที่การตั้งรัฐมนตรีกลับไปหนักในการให้โควต้ากับภาคอีสานได้ที่ได้ส.ส. 104 คนซึ่งก่อนหน้านั้นขอโควตา 10 รัฐมนตรี
มีรายงานด้วยว่า พรรคเพื่อไทยเสนอไปยังพรรครว่มรัฐบาล ให้เสนอรายชื่อครม.หลังวันที่ 15 ส.ค. นี้
** “ปู”ปัดล้มเมกกะโปรเจกส์ปชป.
น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร ว่าที่นายกรัฐมนตรี กล่าวถึงความคืบหน้าด้านนโยบาย ว่า เราทำนโยบาย พร้อมทั้งศึกษาลงไปในภาคปฏิบัติ โดยการถามรายละเอียดกับผู้ที่เกี่ยวข้องให้มากที่สุด ก่อนที่จะทำงานอย่างเป็นทางการ รวมถึงต้องศึกษาถึงแหล่งที่มาของรายได้ด้วยว่าจะทำอย่างไรให้มีรายได้ เพราะเราจะมองแต่ค่าใช้จ่ายอย่างเดียวไม่ได้ รวมถึงการกระตุ้นภาคเศรษฐกิจโดยรวม เพื่อให้เป็นรายได้กลับมา
เมื่อถามว่า จากเงินคงคลังพอจะมองออกหรือไม่ว่า รายได้และรายจ่าย ที่ตั้งไว้จะมีความสมดุลหรือไม่ น.ส.ยิ่งลักษณ์ กล่าวว่า คงต้องเข้าไปศึกษาในรายละเอียดของนโยบายเสียก่อน ต้องรอผลอย่างเป็นทางการในการที่จะดูงบประมาณที่วางไว้ เป็นอย่างไร และเราจะสามารถสานต่อได้อย่างไร
ส่วนเรื่องการเรียกข้าราชการมาสอบถามในส่วนที่เกี่ยวข้องกับด้านเศรษฐกิจนั้น คงต้องรอการรับรองจากกกต. อย่างเป็นทางการเสียก่อน เพราะเราก็ไม่อยากจะเข้าไปทำงานอย่างไปเป็นทางการ เ
เส่วนโยบายด้านใดที่น่าเป็นห่วงมากที่สุด น.ส.ยิ่งลักษณ์ กล่าวว่า โดยภาพรวมทุกนโยบายเราเชื่อมั่นว่าเราจะขับเคลื่อนไปได้ แต่ก็ต้องขอความร่วมมือจากทุกภาคส่วน รวมถึงงบประมาณบางส่วนที่จะต้องมาดูกันด้วย พร้อมทั้งการหาแหล่งรายได้อีกด้วย
เมื่อถามว่างบประมาณรายจ่ายประจำจะต้องมาทบทวนใหม่หรือไม่ น.ส.ยิ่งลักษณ์ กล่าวว่า คงต้องขอบอกว่าให้ไปดูสถานะในวันนั้นจะดีกว่า เพราะอะไรที่เป็นโครงการที่กระตุ้นเศรษฐกิจอยู่แล้ว ก็คงจะเดินหน้าต่อไป อะไรที่เป็นค่าใช้จ่ายที่ไม่จำเป็น และไม่เกี่ยวข้องกับการกระตุ้นเศรษฐกิจ อาจจะต้องมาหารือกันว่าจะปรับจูนกันได้อย่างไร แต่คงจะไม่รื้อ เพราะทุกอย่างได้มีการวางแผนและการดำเนินงานแล้ว แต่ขอให้ไปในส่วนที่จะกระตุ้นเศรษฐกิจ และเกิดประโยชน์ต่อพี่น้องประชาชนมากที่สุด
ส่วนโครงการเมกกะโปรเจกต์ที่มีการวางแผนไว้ เราจะสานต่อหรือไม่นั้น น.ส.ยิ่งลักษณ์ กล่าวว่า ยังไม่เห็นในรายละเอียด เห็นแต่ภาพรวมในข่าว ดังนั้นทุกอย่างเรายังไม่สามารถสรุปได้ จนกว่าเราจะเข้าไปศึกษาในรายละเอียดอย่างเป็นทางการ
เมื่อถามว่ากังวลหรือไม่ว่างบประมาณจะไม่พอในการทำนโยบายที่พรรคได้หาเสียงไว้ น.ส.ยิ่งลักษณ์ กล่าวว่า เราคงต้องดูวิธีการในการหารายได้ พร้อมทั้งเราต้องมีขั้นตอนในการทำงานอยู่แล้ว คงจะบอกได้หลังจากที่เราทำงาน
**มาร์คอัดพท.ติดกับดักหาเสียงเกินจริง
นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรีและรักษาการหัวหน้า ปชป. กล่าวตอบโต้นายปลอดประสพ สุรัสวดี รองหัวหน้า พท. กรณีกล่าวหาว่ารัฐบาลปัจจุบันผลาญงบฯเป็นเหตุต้องรื้อร่าง พ.ร.บ.งบประมาณรายจ่ายประจำปี 2555 ที่เตรียมไว้ทั้งหมดว่า ไม่มี เพราะงบฯที่ ปชป.ทำมาได้กอบกู้วิกฤต จากติดลบมาเป็นบวก ฐานะการคลังก็ดีกว่าถ้าเทียบกับประเทศอื่นในโลก ยิ่งกว่านั้นปีนี้รัฐบาลจัดเก็บรายได้เกินเป้าเฉียด 2 แสนล้านบาท เป็นเงินที่จะมีเพิ่มมาให้รัฐบาลใหม่
“เรื่องการรื้องบฯเป็นเรื่องนโยบาย และแผนของ ปชป.คือจะสามารถทำให้งบฯกลับไปสู่ความสมดุลภายใน 4 ปีข้างหน้า วันนี้ที่จะต้องกู้ไม่เกี่ยวกับสิ่งที่รัฐบาลชุดนี้ทำมา แต่เป็นเพราะ พท.ไปโฆษณาหาเสียงเกินจริง โดยบอกว่าจะทำสิ่งนั้นสิ่งนี้โดยไม่ต้องกู้ เพราะมาโจมตีว่ารัฐบาลชุดปัจจุบันกู้เงินมาก ซึ่งไม่จริง เลยทำให้ติดกับดักคำพูดตัวเอง” นายอภิสิทธิ์กล่าว
เมื่อถามว่า หากรัฐบาลชุดใหม่เน้นการลงทุนจะเกิดปัญหาเรื่องวินัยการเงินการคลังหรือไม่ นายอภิสิทธิ์กล่าวว่า ตนอยากให้รัฐบาลชุดใหม่ปรับความเข้าใจทางเศรษฐกิจให้ตรงกับ ธปท.ตั้งแต่ต้น เพราะตอนที่ตนเข้ามาก็ทำเช่นนั้น เนื่องจาก ธปท.จะมีอิสระในการกำหนดนโยบายการเงิน แต่จำเป็นที่รัฐบาลจะต้องไปทำความเข้าใจให้ตรงกันว่าสถานการณ์ทางเศรษฐกิจเป็นอย่างไร เป้าหมายและภาพรวมทางเศรษฐกิจ จะเอาอัตราการขยายตัวและอัตราเงินเฟ้อเท่าไร นโยบายการเงินการคลังจะได้เดินไปในเป้าหมายเดียวกัน