กลาโหมแจงชุดสำรวจไทย-เขมร-อินโดฯ ที่จะลงพื้นที่ชายแดนไทย-กัมพูชา แค่พลเรือนทำหน้าที่หน่วยล่วงหน้าสำรวจที่พักและอื่นๆ หากจะมีการจัดส่งคณะผู้สังเกตการณ์เข้าพื้นที่ในอนาคต ยันไม่มีผลผูกพันใดๆ เผยหลังสำรวจแล้วจะนำไปสู่การประชุมจีบีซี เจรจาคลี่คลายปัญหาชายแดน
พ.อ.ธนาธิป สว่างแสง โฆษกกระทรวงกลาโหม กล่าวถึงการส่งชุดสำรวจไทย-กัมพูชา และอินโดนีเซียลงพื้นที่ชายแดนไทย-กัมพูชาว่า การส่งชุดสำรวจลงพื้นที่ต้องรอฟังจากทางประเทศอินโดนีเซียว่าต้องการจะเข้ามาในช่วงเวลาใด และพื้นที่ใดบ้าง ขณะนี้ยังไม่ได้มีการกำหนดที่แน่ชัด เพียงแต่การเข้ามาในพื้นที่อยู่ประมาณ 1-2 วัน ประกอบด้วยเจ้าหน้าที่จากสถานทูตจากประเทศไทย ประเทศกัมพูชา และประเทศอินโดนีเซีย โดยทั้งหมดจะเป็นเจ้าหน้าที่ฝ่ายพลเรือน โดยจัดมาประเทศละ 3 คน และจะไม่มีการถืออาวุธเข้ามาในพื้นที่อย่างเด็ดขาด
“ภารกิจของชุดสำรวจเป็นคนละส่วนกับคณะผู้สังเกตการณ์อินโดนีเซีย โดยแนวทางการจัดส่งชุดสำรวจ เป็นผลพวงจากการประชุมรัฐมนตรีกระทรวงกลาโหมอาเซียน ที่ประเทศอินโดนีเซีย เมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมา ซึ่งนับว่าเป็นจุดเริ่มต้นในการสร้างความร่วมมือที่ดี โดยชุดสำรวจจะเข้ามาในรูปแบบของภาคพลเรือน โดยอยู่นอกกรอบของทีโออาร์ และไม่มีข้อผูกมัดใดๆ เพราะเข้ามาดูพื้นที่โดยทั่วไป เพื่อสำรวจที่พัก สถานที่ประกอบอาหาร และสิ่งอำนวยความสะดวกหากจะมีการจัดส่งคณะผู้สังเกตการณ์เข้ามาในอนาคต”
พ.อ.ธนาธิปกล่าวอีกว่า วันเวลาที่เหมาะสมในการเข้ามาสำรวจในพื้นที่นั้น จะต้องรอการหารือในรายละเอียดร่วมกันอีกครั้งหนึ่งก่อน ทั้งนี้ หลังจากชุดสำรวจเข้าพื้นที่แล้วก็จะนำไปสู่การประชุมคณะกรรมการชายแดนทั่วไปไทย-กัมพูชา (จีบีซี) ต่อไป และในเวทีการประชุมจีบีซี อาจจะมีการหารือถึงรายละเอียดการจัดส่งคณะผู้สังเกตการณ์อินโดนีเซียเข้ามาตรวจสอบพื้นที่ชายแดนอีกครั้ง อย่างไรก็ตาม การประกอบกำลังจะต้องเห็นชอบร่วมกันระหว่างกระทรวงกลาโหม และ กระทรวงการต่างประเทศ เพื่อให้เกิดความเหมาะสมเพื่อให้อยู่ในพื้นฐานของความไม่ให้เสียเปรียบ
“เราอยากให้ทุกอย่างลงตัวทั้งหมด และร่วมมือกัน เพราะว่าสิ่งที่จะนำพาไปสู่การคลี่คลายสถานการณ์ได้น่าจะมีการจัดตั้งเวทีในการหารือกันเพื่อให้เกิดประโยชน์ร่วมกันระหว่างไทย-กัมพูชา ซึ่งการเข้ามาสำรวจในพื้นที่ดังกล่าวไม่ได้เป็นการผูกมัดใดๆ ทั้งสิ้น เพราะการเข้ามาสำรวจในพื้นที่เป็นเพียงการปฏิบัติไม่ได้เป็นอย่างทางการ และไม่ได้อยู่ในกรอบของทีโออาร์ใดๆ ทั้งสิ้น”
พ.อ.ธนาธิปกล่าวว่า การประชุมระดับทวิภาคีระหว่างไทยกับอินโดนีเซียในช่วงที่ผ่านมา โดยทางอินโดนีเซีย ได้ให้ข้อคิดเห็นเกี่ยวกับสถานการณ์ในพื้นที่ 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ และเข้าใจว่าปัญหาที่เกิดขึ้นเป็นปัญหาภายในที่เกิดขึ้น โดยที่ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ได้ชี้แจงถึงแนวทางของรัฐบาล โดยยึดหลักของความสันติ ความเสมอภาค ใช้กฎหมายเข้ามาดูแล โดยเฉพาะแนวทางพระราชทานเข้าใจ เข้าถึง และพัฒนา ทั้งนี้อินโดนีเซีย ได้เสนอว่าน่าจะนำแนวทางของอาเจะห์ เข้ามาเป็นแนวทางในการแก้ไขปัญหาเพื่อให้เกิดผลกระทบให้เกิดในทิศทางที่ดี และอินโดนีเซียก็มีความพร้อมก็ไทยต้องการความช่วยเหลือ