การประชุมคณะรัฐมนตรีวันนี้ ได้ประชุมรัฐมนตรีที่เกี่ยวข้องกับปัญหาไทย - กัมพูชา 3 ประเด็นหลัก คือ การเตรียมพร้อมชี้แจงต่อศาลโลก ตามคำสั่งศาลในคดีปราสาทพระวิหาร และการเตรียมหารือนอกรอบกับคณะกรรมการมรดกโลก หรือ ยูเนสโก รวมถึงการเตรียมเปิดประชุมคณะกรรมการชายแดนทั่วไปไทย-กัมพูชา หรือ จีบีซี
ในเวลา 10.00 น.ที่ผ่านมา นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี เรียกประชุมคณะกรรมการพิเศษเจรจามรดกโลกที่มี นายสุวิทย์ คุณกิตติ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม เป็นประธาน เพื่อหารือถึงทิศทางและประเด็นต่างๆ ก่อนเดินทางไปประชุมที่ฝรั่งเศส วันที่ 25 พฤษภาคม
ขณะเดียวกัน นายกษิต ภิรมย์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ จะเข้าสรุปแนวทางการชี้แจงข้อมูล ข้อเท็จจริง ต่อศาลยุติธรรมระหว่างประเทศ หรือ ศาลโลก ที่ทีมกฎหมาย และทีมเสริมข้อมูลในการต่อสู้คดี จะเดินทางไปตามคำสั่งศาล ที่กรุงเฮก ประเทศเนเธอร์แลนด์ วันที่ 30-31 พฤษภาคมนี้
นอกจากนั้น พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม จะเข้ารายงานสรุปผลการประชุมรัฐมนตรีกลาโหมอาเซียน และผลหารือทวิภาคีกับ พล.อ.เตีย บัญห์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหมของกัมพูชา เพื่อพิจารณากำหนดวันประชุมคณะกรรมการชายแดนทั่วไปไทย-กัมพูชา หรือ จีบีซี ภายในเดือนพฤษภาคมนี้
ก่อนหน้านี้ นายกรัฐมนตรีกล่าวย้ำถึงหลักการของไทย ต่อกรณีปัญหาชายแดนไทย-กัมพูชาว่า ถ้ากัมพูชาไม่ถอนทหารออกจากพื้นที่พิพาท หรือพื้นที่ 4.6 ตารางกิโลเมตร ซึ่งทั้งไทยและกัมพูชาต่างอ้างสิทธิ์ในอธิปไตยนั้น ไทยอาจจะไม่ให้ส่งคณะผู้สังเกตการณ์อินโดนีเซียเข้ามาในพื้นที่โดยเด็ดขาด
เช่นเดียวข้อมูลที่ประธานคณะกรรมการพิเศษเจรจามรดกโลก เปิดเผยว่า การประชุมคณะกรรมการมรดกโลก หรือ ยูเนสโก ที่จะมีขึ้นวันพุธนี้ ยูเนสโกต้องการให้ไทยและกัมพูชาพูดคุยนอกรอบก่อนการประชุม เพื่อหาทางยุติปัญหาร่วมกัน และป้องกันการทะเลาะในที่ประชุม ในส่วนของไทยได้จัดเตรียมข้อมูลต่างๆ เอาไว้แล้ว แต่ยังไม่สมบูรณ์ จึงจำเป็นต้องประชุม ครม.โดยมีรัฐมนตรีที่เกี่ยวข้องเข้าร่วมหารือ เพื่อรวบรวมข้อมูลให้ครบถ้วน เนื่องจากหากขาดความระมัดระวัง ไม่รอบคอบ อาจส่งผลกระทบต่ออำนาจอธิปไตย และเขตแดนของไทยได้
ในเวลา 10.00 น.ที่ผ่านมา นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี เรียกประชุมคณะกรรมการพิเศษเจรจามรดกโลกที่มี นายสุวิทย์ คุณกิตติ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม เป็นประธาน เพื่อหารือถึงทิศทางและประเด็นต่างๆ ก่อนเดินทางไปประชุมที่ฝรั่งเศส วันที่ 25 พฤษภาคม
ขณะเดียวกัน นายกษิต ภิรมย์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ จะเข้าสรุปแนวทางการชี้แจงข้อมูล ข้อเท็จจริง ต่อศาลยุติธรรมระหว่างประเทศ หรือ ศาลโลก ที่ทีมกฎหมาย และทีมเสริมข้อมูลในการต่อสู้คดี จะเดินทางไปตามคำสั่งศาล ที่กรุงเฮก ประเทศเนเธอร์แลนด์ วันที่ 30-31 พฤษภาคมนี้
นอกจากนั้น พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม จะเข้ารายงานสรุปผลการประชุมรัฐมนตรีกลาโหมอาเซียน และผลหารือทวิภาคีกับ พล.อ.เตีย บัญห์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหมของกัมพูชา เพื่อพิจารณากำหนดวันประชุมคณะกรรมการชายแดนทั่วไปไทย-กัมพูชา หรือ จีบีซี ภายในเดือนพฤษภาคมนี้
ก่อนหน้านี้ นายกรัฐมนตรีกล่าวย้ำถึงหลักการของไทย ต่อกรณีปัญหาชายแดนไทย-กัมพูชาว่า ถ้ากัมพูชาไม่ถอนทหารออกจากพื้นที่พิพาท หรือพื้นที่ 4.6 ตารางกิโลเมตร ซึ่งทั้งไทยและกัมพูชาต่างอ้างสิทธิ์ในอธิปไตยนั้น ไทยอาจจะไม่ให้ส่งคณะผู้สังเกตการณ์อินโดนีเซียเข้ามาในพื้นที่โดยเด็ดขาด
เช่นเดียวข้อมูลที่ประธานคณะกรรมการพิเศษเจรจามรดกโลก เปิดเผยว่า การประชุมคณะกรรมการมรดกโลก หรือ ยูเนสโก ที่จะมีขึ้นวันพุธนี้ ยูเนสโกต้องการให้ไทยและกัมพูชาพูดคุยนอกรอบก่อนการประชุม เพื่อหาทางยุติปัญหาร่วมกัน และป้องกันการทะเลาะในที่ประชุม ในส่วนของไทยได้จัดเตรียมข้อมูลต่างๆ เอาไว้แล้ว แต่ยังไม่สมบูรณ์ จึงจำเป็นต้องประชุม ครม.โดยมีรัฐมนตรีที่เกี่ยวข้องเข้าร่วมหารือ เพื่อรวบรวมข้อมูลให้ครบถ้วน เนื่องจากหากขาดความระมัดระวัง ไม่รอบคอบ อาจส่งผลกระทบต่ออำนาจอธิปไตย และเขตแดนของไทยได้