“กษิต” กลัวว่างงาน อ้างไปศาลโลกดีกว่า อย่างไรก็ต้องรับผลคำสั่งอยู่ดี

ครม.ถกลับแก้ปมพิพาทไทย-กัมพูชา ตั้งอธิบดีกรมสนธิสัญญา อธิบดีกรมเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ระดมสมองสู้คดี ด้าน “กษิต” อ้างอย่างไรศาลโลกก็ตัดสินชี้ชัดคำสั่งอยู่ดี ควรไปร่วมฟังด้วยดีกว่า เผยสัปดาห์หน้าถกยื่นข้อตกลงไล่เขมร ก่อนให้อินโดฯเข้าสังเกตการณ์

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อวันที่ 18 พ.ค. ในการประชุมคณะรัฐมนตรี โดยมีนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรีเป็นประธาน ที่ประชุมได้พิจารณาวาระเพื่อพิจารณาจร เป็นเรื่องลับ เกี่ยวกับปัญหาข้อพิพาทไทย-กัมพูชา มีความเห็นชอบในการแต่งตั้งอธิบดีกรมสนธิสัญญา และอธิบดีกรมเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ เข้าร่วมเป็นองค์ประกอบในคณะทำงานเพื่อเตรียมการต่อสู้คดีในศาลโลกในคดีข้อพิพาทไทย-กัมพูชา ส่วนรายละเอียดมอบหมายให้นายกษิต ภิรมย์ รัฐมนตรีว่าการต่างประเทศ ไปประชุมหารือกับผู้เกี่ยวข้องต่อไป

สำหรับ เรื่องคณะผู้สังเกตการณ์ของอินโดเนีเซีย ที่ฝ่ายไทยเห็นควรต้องจัดทำข้อตกลงร่วมกันก่อนจัดทำร่างทีโออาร์ ให้ส่งบุคคลเข้ามาสำรวจหรือตรวจสอบในพื้นที่ และผลักดันให้กัมพูชาถอนกำลังทหารออกจากพื้นที่ ก่อนเข้าสู่การร่างทีโออาร์ให้ส่งคณะผู้สังเกตการณ์อินโดนีเซียเข้ามานั้น ที่ประชุม ครม.ยังไม่ได้หารือกัน แต่จะเสนอเข้าสู่ที่ประชุมในสัปดาห์หน้าต่อไป

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า อย่างไรก็ตาม นายสุวิทย์ คุณกิตติได้สอบถามว่าถ้าเราไม่ไปเข้าร่วมการขึ้นศาลโลกจะผิดหรือไม่ จะถือว่าเราไม่ยอมรับได้หรือไม่ และถ้าไปร่วมจะเท่ากับฝ่ายไทยรับรู้ ยอมรับหรือไม่อย่างไร ซึ่งนายกษิตตอบว่า เท่าที่รู้ไม่ว่าเราจะไปร่วมหรือไม่ เขาก็ตัดสินคดีอยู่แล้วเพราะเป็นการอ้างอิงถึงคำตัดสินเดิมของศาลโลก เพียงแต่ให้ชี้ชัดว่าคำสั่งศาลโลกเดิมแปลความหมายว่าอย่างไร ดังนั้น ไม่ว่าเราจะไปหรือไม่เขาก็ตัดสินและเราก็ต้องรับผลนั้นอยู่ดี จึงคิดว่าเราควรจะไปร่วมดีกว่า