“สุทพ” ฉุนสื่อถาม “โพล” ชี้ พท.ชนะปชป. ย้อนถามเองหรือเอาของใครมาถาม ท้าเขียนแปะข้างฝารอพิสูจน์ของจริงวันเลือกตั้งซัด “ทักษิณ” สั่งสมุนโหมกระพือปั่นกระแสเพื่อแม้วชนะเลือกตั้ง หวังผลทางจิตวิทยา เมิน “ปู่ชัย” ชิงรวมพรรคที่ได้คะแนนสูงสุด ชี้ทุกพรรคมีสิทธิร่วมกับใครก็ได้ ลั่น “แม้ว” ไม่ได้กลับบ้าน กลับมาต้องติดคุก
วันนี้ (9 พ.ค.) ที่ทำเนียบรัฐบาล นายสุเทพ เทือกสุบรรณ รองนายกรัฐมนตรีฝ่ายความมั่นคง ในฐานะเลขาธิการพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวถึงความชัดเจนในการประกาศยุบสภาซึ่งนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี ได้นัดแถลงความชัดเจน ในวันเดียวกันนี้ว่า ต้องดูว่าทุกอย่างมันเป็นไปตามที่ได้คาดการณ์ไว้หรือไม่อย่างไร การแถลงของนายกรัฐมนตรีคงมุ่งหวังที่จะชี้แจงทำความเข้าใจต่อพี่น้องประชาชนสักครั้ง ก่อนที่จะได้เข้าสู่กระบวนการเลือกตั้งอย่างแท้จริง ก็ต้องรอ 2 เรื่อง คือ เราจะประกาศ พ.ร.ฎ.ยุบสภาลงในราชกิจจานุเบกษาในวันไหน ซึ่งรัฐบาลดำเนินการไปตามกระบวนการ ซึ่งเรื่องกฎหมายประกอบรัฐธรรมนูญ เกี่ยวกับการเลือกตั้งทั้ง 3 ฉบับ จะได้รับการวินิจฉัยจากศาลรัฐธรรมนูญเสร็จ ภายในวันเดียวกันนี้หรือไม่ ถ้าเสร็จทุกอย่างก็จะง่ายขึ้น
ผู้สื่อข่าวถามว่า ทำไมรัฐบาลโดยเฉพาะนายกรัฐมนตรีใช้เรื่องการเสนอทูลเกล้าฯ มาเป็นเงื่อนไข ในเมื่อการเสนอร่าง พ.ร.ฎ.ยุบสภาจะต้องเป็นหน้าที่รัฐบาลกำหนดไปเรียบร้อยและทรงโปรดเกล้าฯลงมาเท่านั้นเอง นายสุเทพกล่าวว่า เราไม่ได้ใช้กระบวนการในการทำเรื่องทูลเกล้าฯขึ้นไปมาเป็นเงื่อนไขอะไรเลย ไม่ใช่เลย ทั้งหมดมีขั้นตอนของการปฏิบัติกันอยู่ เวลาดำเนินการก็ต้องทำให้ถูกต้องตามขั้นตอนเหล่านั้นจะได้ไม่เกิดปัญหา ในบางสมัยอย่างรัฐบาล พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ตอนที่ยุบสภา ทำแล้วก็เกิดปัญหาเกิดเรื่องวุ่นวาย เราก็เห็นกันอยู่แล้ว เพราะฉะนั้นเราต้องดูให้เรียบร้อย
ผู้สื่อข่าวถามถึงกรณีที่พรรคเพื่อไทย ตั้งศูนย์เฝ้าระวังติดตามการทำงานของทหาร ตำรวจ เพราะเกรงจะไปเอื้อประโยชน์ในการเลือกตั้งให้กับรัฐบาล นายสุเทพกล่าวว่า ไม่มี เราไม่เอาข้าราชการมาเป็นเครื่องมือในการหาเสียงเลือกตั้ง เรื่องนี้ก็ยังไม่เลิกกล่าวหา พยายามจะสร้างภาพต่อเนื่อง วันก่อนก็ออกมาเย้วๆ พักหนึ่ง ตนย้อนเอาทีแล้วว่าใครทำก็เงียบไป พอคนลืมก็เอามาใหม่ นิสัยเขาเป็นอย่างนี้ตลอด
ผู้สื่อข่าวถามว่า ตรงนี้จะไม่ทำให้การทำงานของข้าราชการต้องคอยระวังว่าจะถูกจับผิด รองนายกรัฐมนตรีกล่าวว่า ไม่ต้องระวัง ข้าราชการก็ทำงานตามหน้าที่ของตัวเอง เจ้าหน้าที่ตำรวจมีหน้าที่ดูแลรักษาความสงบเรียบร้อยในการเลือกตั้งทั้งหมด ขจัดอิทธิพลมือปืน คุกคาม ใครไปจัดเวทีปราศรัยที่ไหนต้องได้รับการคุ้มครองจากเจ้าหน้าที่ ผู้สมัคร ส.ส.ไม่ว่าอยู่พรรคไหนหากถูกคุกคามแล้วร้องขอมา เจ้าหน้าที่จะส่งกำลังเข้าไปคุ้มกันให้
ผู้สื่อข่าวถามว่า รู้สึกหวั่นๆ บ้างหรือไม่ เพราะขณะนี้สารพัดโพลจากสำนักต่างๆ ออกมาส่วนใหญ่ระบุตรงกันว่า พรรคเพื่อไทยจะชนะเหนือพรรคประชาธิปัตย์ เลขาธิการพรรคประชาธิปัตย์ ย้อนถามว่า “ท่านถามเองหรือเอาของใครมาถาม ถ้าถามเองก็จดไว้ข้างฝา เซ็นชื่อตัวเองลงวันที่เอาไว้ว่าเมื่อวันที่เท่านั้นข้าพเจ้าเคยคิดว่าเป็นอย่างนั้น แล้วจะได้เข้าใจ ผมคงไม่ไปย้อนหรือทะเลาะกับใคร เพราะความจริงมันรอที่จะได้รับการพิสูจน์ในอีกไม่กี่วันข้างหน้าอยู่แล้ว”
เมื่อถามย้ำว่า กังวลหรือไม่ว่ากระแสจะกลายเป็นความเชื่อ และความเชื่อจะกลายเป็นเรื่องจริง นายสุเทพกล่าวว่า ตนเรียนให้ทราบแล้วจะเชื่อหรือไม่ก็ตาม ว่ายุทธวิธีของ พ.ต.ท.ทักษิณคือสิ่งให้บรรดาลิ่วล้อทั้งหลายโหมกระพือข่าวว่ากระแสพรรคเพื่อไทยดีมาก คนจะเลือกพรรคเพื่อไทยกันท่วมท้นชนะเด็ดขาด ตนก็ยืนยันวันนี้และยืนยันต่อไปว่านั่นเป็นวิธีการในการโหมโฆษณาเพื่อหวังผลทางจิตวิทยา แต่พี่น้องประชาชนทั้งประเทศ จะตัดสินใจบนพื้นฐานของความเป็นจริงเขารู้ว่าถ้าเลือก พ.ต.ท.ทักษิณกลับมา บ้านเมืองจะเป็นอย่างไรจะเกิดอะไรขึ้น ประชาชนรู้ว่ามีโอกาสที่จะหาทางเลือกที่ดีที่สุดสำหรับประเทศไทย ประชาชนจะตัดสินใจเองไอ้ที่จะมาหลอกล่อมอมเมาใช้จิตวิทยาเดิมๆ คงไม่ง่าย
ผู้สื่อข่าวถามว่า รวมถึงการที่ พ.ต.ท.ทักษิณจะกลับมาประเทศไทยในปลายปีนี้ด้วยหรือไม่ รองนายกรัฐมนตรีกล่าวว่า หมายความว่าต้องออกกฎหมายพิเศษ ว่าสิ่งที่เขาทำผิดมาทั้งหมดไม่เป็นความผิดอีกต่อไปใช่มั้ย ประชาชนเขาก็เลือกได้ว่าจะเอาอย่างนั้นหรือเปล่า ต้องคารพการตัดสินใจของประชาชน
ส่วนที่นายชัย ชิดชอบ ประธานสภาผู้แทนราษฎรระบุว่าใครที่ได้เสียงข้างมาก พรรคภูมิใจไทยก็พร้อมที่จะไปสนับสนุน ถือว่าถ้าพรรคเพื่อไทยชนะเสียงข้างมาก็อยู่ด้วยกันได้ เพราะเคยอยู่พรรคพลังประชาชนร่วมกันมาก่อน นายสุเทพกล่าวว่า ใครสามารถรวบรวมเสียงได้มากก็จัดตั้งรัฐบาลได้ พรรคการเมืองต่างๆ จะไปรวมอยู่กับใครก็เป็นสิทธิของเขา
เมื่อถามว่า การที่ พ.ต.ท.ทักษิณส่งสัญญาณจะกลับมา เกรงจะเกิดความวุ่นวายตามมาอีกหรือไม่ เลขาธิการพรรคประชาธิปัตย์กล่าวว่า เขาก็ต้องพูดอย่างนี้เพื่อให้เป็นกำลังใจกับสมุนบริวารที่รับใช้เขาอยู่ จะได้มีความรู้สึกนายใหญ่จะกลับมาแล้ว “ไม่ได้กลับหรอกครับ กลับมาก็ต้องเข้าคุก กลับมาต้องคิดคุก ที่หนีไปก็เพราะว่าหนีคุก จู่ๆ ใครจะไปเขียนกฎหมายยกเว้นเฉพาะนายทักษิณ ไม่ให้ติดคุก คนอื่นทำผิดกฎหมายติดคุกหมดทั้งประเทศไทย ทักษิณคนเดียวทำอะไรผิดก็มีกฎหมายพิเศษเขียนให้ไม่ต้องติดคุกบ้าแล้วอย่างนั้น ใครจะทำได้” นายสุเทพกล่าว
ผู้สื่อข่าวถามว่า พรรคเพื่อไทยพยายามจะล็อกให้พรรคประชาธิปัตย์ลงสัตยาบันว่าหากพรรคที่ได้เสียงอันดับหนึ่งเท่านั้น ถึงจะได้สิทธิจัดตั้งรัฐบาล นายสุเทพกล่าวว่า ตนไม่เชื่อฟังพรรคเพื่อไทยอยู่แล้ว ตนไม่มีหน้าที่ต้องไปเชื่อฟังคนในพรรคเพื่อไทย ตนก็ทำตามหลักการปกติที่เขาประพฤติกัน ไม่ดีดดิ้น ส่วนที่นายวันเฉลิม อยู่บำรุง ผู้สมัคร ส.ส.กทม. เขตบางบอนออกมาแฉว่าผู้สมัครของพรรคใหญ่เอาข้าวสารในถุงยังชีพไปแจกชาวบ้าน ตนไม่ทราบ แต่เขาสามารถเอาถุงข้าวไปร้องเรียนต่อคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) ได้ แล้ว กกต.จะดำเนินการเอง
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ภายหลังจากที่ให้สัมภาษณ์เสร็จสิ้น นายสุเทพได้เดินขึ้นไปบนห้องทำงาน จากนั้นเมื่อเวลา 09.15 น. นายสุเทพจึงได้เดินขึ้นไปบนตึกไทยคู่ฟ้า ทำเนียบรัฐบาล โดยใช้เวลาหารือกับนายกรัฐมนตรีอยู่นานประมาณ 45 นาที