xs
xsm
sm
md
lg

“เผาไทย”โม้โพลหนุนชนะปชป. หยันไร้ทางตั้งรบ.พรรคเดียว

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

ASTVผู้จัดการรายวัน - “เผาไทย” โม้แหลกโพลหนุนชนะแน่! ยันตั้งรบ.พรรคเดียวไม่ผสมพันธุ์ปชป. ท้า มารค์-เทือก ลงสัตยาบัน หากพรรคใดได้คะแนนอันดับหนึ่ง ต้องได้ตั้งรัฐบาล ด้านเด็กปชป. สวนกลับหยัน “เผาไทย”ไร้ทางตั้งรบ.พรรคเดียว “เฒ่าชัย”ชี้อันดับ2ก็มีสิทธิ์จัดรบ.ได้ ปูดมีบิ๊กเซอร์ไพร์ส แต่คนมีอำนาจสั่งปิดปาก ส่วน“แม้ว”กลบข่าวยัน “ชิดชัย-จิ๋ว”อยู่เผาไทย

เมื่อเวลา 10.00 น. วานนี้(8 พ.ค.)ที่พรรคเพื่อไทย นายพร้อมพงศ์ นพฤทธิ์ โฆษกพรรคเพื่อไทย แถลงว่า จากการทำโพลสำรวจของสำนักต่างๆ นั้นปรากฏว่า พรรคเพื่อไทยจะชนะการเลือกตั้งแทบทุกโพล โดยเฉพาะในภาคอีสานนั้นพรรคเพื่อไทยได้รับความนิยมถึงร้อยละ 63 ขณะที่พรรคประชาธิปัตย์ได้รับความนิยมเพียงร้อยละ 21 ห่างกันถึง 3 เท่า สำหรับกรณีที่นายสุเทพ เทือกสุบรรณ รองนายกรัฐมนตรี และเลขาธิการพรรคประชาธิปัตย์ ระบุว่าไม่สนใจโพลดังกล่าว รวมทั้งยังระบุอีกว่า พรรคประชาธิปัตย์จะได้ส.ส.เกิน 200 เสียงและได้จัดตั้งรัฐบาลอย่างแน่นอนนั้น สะท้อนว่าพรรคประชาธิปัตย์จะไม่ยึดวัฒนธรรมการเมืองที่พรรคได้เสียงอันดับหนึ่งต้องได้จัดตั้งรัฐบาลก่อน ถือเป็นการไม่เคารพการตัดสินใจของประชาชน ดังนั้นขอเรียกร้องให้ทุกพรรคการเมืองร่วมกันลงสัตยาบันเพื่อให้พรรคที่ได้รับการเลือกตั้งเป็นอันดับหนึ่งได้จัดตั้งรัฐบาล ส่วนกรณีที่รัฐบาลโหมทุ่มงบโฆษณาตัวเองอย่างต่อเนื่องแต่คะแนนนิยมกลับตกต่ำลงนั้น สะท้อนให้เห็นว่าประชาชนขาดความเชื่อมั่นในรัฐบาล ซึ่งคนในพรรคประชาธิปัตย์เองก็น่าจะรู้ตัวดี เพราะขณะนี้ถึงขั้นตบตีกันเพื่อจะแย่งกันลงส.ส. เขตเลือกตั้งเพื่อหนีตายกันแล้ว

ทั้งนี้ ขอเรียกร้องให้นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี สั่งการให้เก็บป้ายโฆษณา และป้ายหาเสียงต่างๆ ของรัฐบาลโดยเร็ว เพราะนายอภิสิทธิ์กำชับครม.มา 2 อาทิตย์แล้วว่า ไม่ควรตั้งป้ายโฆษณาและป้ายหาเสียงเกินวันที่ 6 พ.ค. แต่จนถึงขณะนี้ก็ยังไม่มีการดำเนินการเอาป้ายดังกล่าวออก รัฐบาลไม่ควรเอาเปรียบฝ่ายตรงข้าม อย่าทำเป็นปากว่าตาขยิบ

พท.ตั้งรบ.พรรคเดียวไม่ผสมพันธุ์ปชป.

นายปลอดประสพ สุรัสวดี รองหัวหน้าพรรคเพื่อไทย เปิดเผยผู้สื่อข่าวระหว่างเดินทางลงพื้นที่จ.สตูล ว่า เรื่องการยุบสภานั้นนายกฯทำถูกแล้ว ถ้าจะติงสักนิดก็คือว่าช้าไปหน่อยควรจะทำมานานแล้วทำให้ผู้คนไม่สรรเสริญนายกฯเท่าไหร่เพราะว่าถ้าไม่ยุบ

“เมื่อยุบตอนนี้ความร้าวฉานมันก็ลึกมากไปแล้วทำให้การแก้ไขปัญหากับเขมรนั้นยุ่งยากกว่าเดิมด้วยซ้ำไป อย่างไรก็ตามยุบก็ดีกว่านี่คือประเด็นหนึ่ง ข้อสองเราพรรคเพื่อไทยเราก็พร้อมแบบ 99.99% สำหรับทางใต้เราก็มีคนพร้อมแล้วคิดว่าวันพุธหรือพฤหัสบดีอาจจะประกาศตัว อาจจะมีการเปลี่ยนแปลงนิดหน่วยสำหรับพวกที่ยังไม่ขยันลงพื้นที่มาคราวนี้ก็ถือโอกาสดูด้วยเพราะว่าศูนย์บางแห่งมีแต่ศูนย์แล้วก็เป็นศูนย์ไม่มีคนเลย”

ต่อข้อถามที่ว่ามีความเป็นไปได้ในการจัดตั้งรัฐบาลระหว่างพรรคเพื่อไทยกับพรรคประชาธิปัตย์ รองหัวหน้าพรรคเพื่อไทย กล่าวว่า คิดว่าไม่ เพราะมันหลอกประชาชน เรายืนตรงข้ามกัน มีนโยบายที่แตกต่างกันชัดเจน โดยเฉพาะอย่างยิ่งเราพรรคเพื่อไทยฝ่ายประชาธิปไตยเราเห็นว่าบ้านเมืองมันต้องมีความเสมอภาคมีความเท่าเทียมและมีประชาธิปไตย

ในขณะที่พรรคประชาธิปัตย์นั้นต้องเรียกว่าฝ่ายอำนาจนิยม ไม่ยอมเปลี่ยนแปลงหวงอำนาจ ไม่คดโกงเองก็ร่วมกับคนอื่นคดโกงซึ่งเรารับไม่ได้ ส่วนการตั้งเป้าของพรรคในการเลือกตั้งที่จะถึงนี้คิดว่าน่าจะได้สัก 270 คนได้จากปาร์ตี้ลิสต์ 70 คน ได้จากเขต 200 คน เราก็คงจะตั้งรัฐบาลพรรคเดียวแต่จะเชิญพรรคอื่นๆมาแค่นิดๆหน่อยๆพอให้มันปลอดภัยเท่านั้นเอง

หยัน พท.ไร้ทางตั้งรบ.พรรคเดียว

นายเทพไท เสนพงศ์ โฆษกประจำตัวหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวว่า การที่พรรคประชาธิปัตย์ มีจุดเด่นเหนือพรรคเพื่อไทยเรื่องความซื่อสัตย์สุจริตนั้นถือว่าเป็นหัวใจของการบริหารประเทศและเป็นความสำคัญของนักการเมืองทุกคนไม่ว่าจะเก่งมีความรู้ความสามารถแค่ไหน แต่ถ้าขาดความซื่อสัตย์สุจริตก็ไม่สามารถที่จะประสบความสำเร็จ หรือเป็นที่ยอมรับของประชาชนได้ และเหตุการณ์ปฏิวัติรัฐประการทุกครั้งที่เกิดขึ้น ล้วนมีข้ออ้างมาจากจากความล้มเหลวของรัฐบาลในเรื่องการทุจริต คอรัปชั่นทั้งสิ้น ทั้งนี้ ปชป. เคารพในผลสำรวจแต่ก็จะต้องดูกลุ่มตัวอย่างที่ไปสำรวจว่าเป็นคนกลุ่มใด ลักษณะคำถามมีเนื้อหาเช่นใด ผลที่ออกมาไม่ใช่ข้อสรุป เพียงแต่เป็นความเห็นของคนกลุ่มหนึ่งในสังคมเท่านั้น

ส่วนการเคลื่อนไหวพรรคเพื่อไทย ที่พยายามสร้างกระแสว่าตัวเองจะชนะเลือกตั้งเป็นพรรคอันดับ 1 นั้น ว่า ตามข้อเท็จจริงจะเห็นได้ว่าพรรคเพื่อไทยไม่มีโอกาสที่จะชนะเลือกตั้งเป็นพรรคอันดับหนึ่งอย่างแน่นอน ด้วยเหตุผลหลายประการ อาทิ ไม่มีแคนดิเดตนายกรัฐมนตรีที่ชัดเจน นโยบายเพ้อฝันที่จับต้องไม่ได้ ฐานเสียงในภาคอีสานถูกพรรคการเมืองอื่นๆ เข้าไปเป็นส่วนแบ่งพื้นที่หลายจังหวัด เป็นต้น ดังนั้นในภาพรวมทั้งประเทศพรรคเพื่อไทยไม่สามารถเอาชนะปชป. ได้โดยเฉพาะอย่างยิ่งพื้นในภาคอีสาน ที่ปชป. ได้รับคะแนนนิยมสูงขึ้นกว่าการเลือกตั้งปี 50 อาทิ ผลโพลของมหาวิทยาลัยขอนแก่น เมื่อวันที่ 5 พ.ค. ที่ผ่านมาซึ่งระบุว่าปชป. ได้คะแนน 20.7 เปอร์เซ็นต์กว่าการเลือกตั้งปี 50 ที่พรรคได้คะแนนนิยมในภาคพื้นที่แค่ 5 เปอร์เซ็นต์ อีกทั้งยังมีพลังเงียบหรือเสียงที่ยังไม่ตัดสินใจอีก 33.3 เปอร์เซ็นต์ ทั้งนี้พรรคมั่นใจว่าสามารถที่จะดึงเสียงของคนเหล่านี้มาสนับสนุนได้

“ แม้ผลโพลจะให้พรรคเพื่อไทยมาเป็นที่หนึ่ง แต่ผลการเลือกตั้งที่จะเป็นอย่างไรก็ได้ อย่างไรก็ตามขอเรียกร้องให้พรรคเพื่อไทยหยุดประโคมข่าวเพื่อสร้างกระแสรอให้ผลการเลือกตั้งที่แท้จริงออกมาจะดีกว่า จุดชี้ขาดและเป็นปัจจัยสำคัญในการตัดสินใจของประชาชนว่าจะเลือกพรรคการเมืองใด จะอยู่ที่โค้งสุดท้ายโดยเฉพาะอย่างยิ่งก่อนลงคะแนน 7 วัน ฉะนั้นความนิยมของประชาชนต่อพรรคการเมืองมีการเปลี่ยนแปลงตลอดเวลา ไม่ควรยึดติดกับผลสำรวจในขณะนี้” นายเทพไท กล่าว

ปชป.เป็นฝ่ายค้านถ้า“พท.”ตั้งรัฐบาลได้

น.พ.บุรณัชย์ สมุทรรักษ์ โฆษกพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวถึงกรณี นายณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ แกนนำคนเสื้อแดง ออกมาระบุว่าพรรคเพื่อไทยจะขับเคลื่อนบันได 3 ขั้นไปสู่ชัยชนะเลือกตั้ง คือพ.ต.ท.ทักษิณประกาศนโยบาย พรรคเพื่อไทยและเสื้อแดงรวมกัน และร่วมเคลื่อนไหวสนับสนุนการเลือกตั้ง ซึ่งพรรคประชาธิปัตย์ ประเมินแล้วเชื่อว่าเป็นการเดินหน้าเพื่อขอนิรโทษกรรมให้ พ.ต.ท.ทักษิณ และพรรคเพื่อไทยได้แปรรูปเป็นเสื้อแดงไปแล้ว และการชุมนุมใหญ่ของคนเสื้อแดง19 พ.ค. ถือเป็นการแสดงให้เห็นว่า การเลือกตั้งจะไม่สามารถแก้ปัญหาประเทศชาติได้ แต่จะยิ่งตอกย้ำเรื่องความแตกแยกให้มากขึ้น

นอกจากนี้ การที่พรรคเพื่อไทยเรียกร้องให้พรรคประชาธิปัตย์ ลงนามในสัตยาบันว่าจะให้พรรคที่ได้เสียงข้างมากจัดตั้งรัฐบาลก่อนนั้น น.พ.บุรณัชย์ กล่าวว่า ต้องถามกลับไปที่พรรคเพื่อไทย ถึงกรณีที่เคยส่งพล.ต.อ.ประชา พรหมนอก อดีตส.ส. สัดส่วน พรรคเพื่อแผ่นดิน ชิงตำแหน่งนายกรัฐมนตรี กับนายอภิสิทธิ์ ซึ่งไม่ได้เสนอตัวแทนจากพรรคเพื่อไทย ที่มีเสียงลำดับหนึ่งในขณะนั้นแต่เป็นการอาศัยช่องจังหวะทางการเมืองเพื่อชิงความได้เปรียบเท่านั้น อีกทั้งรัฐธรรมนูญ 2550 กำหนดให้ ส.ส. มีเอกสิทธิ์ ในการเลือกนายกรัฐมนตรีได้ ดังนั้นการตั้งรัฐบาล ก็ต้องเป็นไปตามเจตนารมย์ของรัฐธรรมนูญ หากพรรคเพื่อไทยสามารถรวมเสียงตั้งรัฐบาลได้ พรรคประชาธิปัตย์ก็ยอมรับ.

น.พ.บุรณัชย์ กล่าวถึงการเลือกตั้งที่จะมีขึ้นว่า จะทำให้ประชาชนเห็นความชัดเจนขึ้น ส่วนการสไกป์ของ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร เป็นความพยายามผูกโยงการเมือง และพรรคการเมืองรองรับการแก้ปัญหาด้วยคนๆเดียว ซึ่งเชื่อว่าประชาชนจะเห็นความชัดเจนว่าจะมีผลกระทบอย่างไร

ส่วนกรณีที่พรรคเพื่อไทย จะตั้งทีมเงาประกบหน่วยงานราชการในช่วงการเลือกตั้งนั้น ขอยืนยันว่า รัฐบาลไม่มีพฤติกรรมใช้อำนาจรัฐคุกคามคนที่มีความเห็นต่าง ไม่ใช้กฎหมู่นอกกฎหมาย หรือขจัดศัตรูทางการเมือง ทั้งนี้เห็นว่าการดำเนินการดังกล่าวของเพื่อไทยหวังใช้มวลชนคุกคามข่มขู่ เหมือนที่กลุ่มคนเสื้อแดงเคยทำ จึงขอให้สังคมจับตาดู

"ชัย"ชี้อันดับ2มีสิทธิ์จัดรบ.ได้

ที่รัฐสภา นายชัย ชิดชอบ ประธานสภาผู้แทนราษฎร กล่าวถึงพรรคอันดับสองตั้งรัฐบาล ว่า ทุกพรรคการเมืองตั้งใจที่จะจัดตั้งรัฐบาล ถ้าได้รับการเลือกตั้ง แต่อยู่ที่ความสามารถ ประสบการณ์ ทุนหาเสียง และบารมีของผู้สมัครจะมีแค่ไหนเพียงใด อยู่ที่ประชาชนเป็นผู้ตัดสินใจ อย่างประเทศออสเตรเลีย ผู้หญิงที่ได้คะแนนเสียงน้อยได้เป็นนายกฯ เพราะสามารถรวมเสียงข้างน้อยเข้ามาได้มาก ส่วนเสียงข้างมากไม่ได้ เพราะฉะนั้นพรรคได้เสียงอันดับไหนก็จัดตั้งรัฐบาลได้ ถ้าสามารถหาสมาชิกได้ สมัยม.ร.ว.คึกฤทธิ์ ปราโมช ได้เป็นนายกฯแค่ 18 เสียง ที่ดึงกลุ่มต่างๆเกินกึ่งหนึ่งก็จัดตั้งรัฐบาลได้ แต่อยู่ได้ไม่นานเท่านั้นเอง

“หากพรรคเพื่อไทยได้เสียงข้างมากเขาก็มีสิทธิ์ในการจัดตั้งรัฐบาล ส่วนพรรคภูมิใจไทยก็เป็นฝ่ายค้าน ส่วนจะจับมือกับพรรคเพื่อไทยหรือไม่ ผมไม่ทราบ เพราะพรรคภูมิใจไทยและพรรคเพื่อไทยก็แยกมาจากพรรคพลังประชาชน มันก็พวกกันทั้งนั้น ตีหัวกันไม่แตก ไปด้วยกันได้” นายชัย กล่าว

ปูดมีบิ๊กเซอร์ไพร์ส แต่คนมีอำนาจสั่งปิดปาก

นายชัย ให้สัมภาษณ์ย้ำว่า ขณะนี้รอโปรดเกล้าฯพระราชกฤษฎีกายุบสภาก่อน ซึ่งคาดว่าจะเป็นวันที่ 9 พ.ค.มากกว่า เมื่อถามว่าเป็นไปตามกรอบเวลาที่นายกฯจะแถลงในวันที่ 9 พ.ค.นี้หรือไม่ นายชัย กล่าวว่า นายกฯพูดไว้แล้ว คำพูดคือนายกฯก็ต้องปฏิบัติตามคำพูด เรื่องต่าง ๆตนพูดไม่ได้ เขาห้ามไม่ให้พูด จึงพูดไม่ได้ เมื่อวานตั้งใจจะพูด แต่พูดไม่ได้ วันนี้ก็พูดไม่ไม่ได้ และที่บอกว่าจะมีบิ๊กเซอร์ไพร์สนั้นตอนนี้พูดไม่ได้ เพราะเขาไม่ได้ให้พูด เมื่อถามว่าใครไม่ให้พูด นายชัย กล่าวว่า คนที่มีอำนาจห้ามตนไม่ให้พูด เมื่อถามว่ามีการโปรดเกล้าฯลงมาแล้วแต่รอเพียงเวลาเท่านั้น นายชัย กล่าวว่า ตอนนี้ไม่ทราบว่าโปรดเกล้าฯลงมาแล้วหรือยัง เพราะมิบังอาจก้าวล่วงในพระราชอำนาจ

เมื่อถามว่าต้องรอศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยกฎหมายเลือกตั้งก่อนใช่หรือไม่ นายชัย กล่าวว่า เข้าใจว่าศาลรัฐธรรมนูญรู้เรื่องนี้ดี ซึ่งสภาส่งเอกสารให้หมดทุกอย่าง ไม่ว่าจะเป็นขั้นตอนการร่างกฎหมาย คำพูดของสมาชิกทั้งสองคณะกรรมาธิการพิจารณาร่างกฎหมายเลือกตั้งให้ทั้งหมด เพราะฉะนั้นศาลรัฐธรรมนูญแทบไม่ต้องทำอะไรเลย เพราะสภาส่งไป 10 ชุดสามารถแจกให้กรรมการตุลาการศาลรัฐธรรมนูญพิจารณาได้ทันที

เมื่อถามว่าหลายฝ่ายกังวลว่า กกต.อาจจะถูกแทรกแซง นายชัย กล่าวว่า ไม่มี เพราะว่าตอนนี้ชาวบ้านรู้ดีว่าอะไรเป็นอะไร ใครจะนำโยบายหาเสียงอย่างไร ตนฟังชาวบ้านหลายจังหวัดเขารู้ดีว่าจะเลือกใคร ซื้อเสียงไม่มีประโยชน์ตอนนี้ ใครซื้อเสียงก็กินฟรี

แม้วกลบข่าวยัน”ชิดชัย-จิ๋ว”อยู่เผาไทย

เมื่อเวลา 13.30 น. ที่วัดสะพาน เขตคลองเตย พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี กล่าวผ่านระบบสไกป์มายังที่เสวนาว่า พล.ต.อ.ชิดชัย วรรณสถิตย์ พล.อ.ชวลิต ยงใจยุทธ อดีตรองนายกฯ ซึ่งเคยเป็นมือทำงาน ก็ยังอยู่ไม่ไปไหน ยังคอยให้คำปรึกษาเหมือนเดิม ส่วนปัญหาเรื่องเพื่อนบ้านก็ต้องมาพูดคุยกัน เชื่อว่าถ้าคุยกันได้ก็จบ สมัยตนเป็นรัฐบาลมีความสัมพันธ์ที่ดีกับประเทศเพื่อนบ้าน ถ้ายังอยู่วันนี้ไม่มีสงคราม พูดภาษาคนด้วยกันก็จบ หากไปพูดภาษาคนบ้าก็ไม่มีทางจบ คนไทยไม่ยอมพูดกัน ไม่ว่าเสื้อเหลือง เสื้อแดง ถ้ามาพูดกันก็จบ แต่ไม่พูด ไปไล่ปราบแล้วเป็นอย่างไร ยิ่งปราบยิ่งเยอะ
กำลังโหลดความคิดเห็น