โฆษก ปชป.โว “มาร์ค” ดึงความน่าเชื่อถือจากเวทีอาเซียน เชื่อเขมรหมดหวังดึงปัญหาไทย-กัมพูชา เข้ายูเอ็น ไม่หวั่นเพื่อแม้วตั้งทีมประกบหน่วยงานรัฐช่วงเลือกตั้ง ยันรัฐบาลไม่ใช้อำนาจนอกกฎหมายขจัดศัตรูทางการเมือง ระบุ การตั้งรัฐบาลเป็นเอกสิทธิ์ ส.ส. เผย คลัง เตรียมจ่ายยารักษาโรคไขข้อเสื่อมให้ ขรก.สูงอายุตั้งแต่สัปดาห์หน้า พร้อมเดินหน้าซื้อบ้านหลังแรกปลอดดอกเบี้ยจันทร์นี้
วันนี้ (8 พ.ค.) น.พ.บุรณัชย์ สมุทรรักษ์ โฆษกพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวถึงการประชุมสุดยอดผู้นำอาเซียน ที่ประเทศอินโดนีเซีย เป็นการสื่อสารให้สังคมโลกรับทราบปัญหาข้อพิพาทไทย-กัมพูชา หลังสมเด็จ ฮุนเซน นายกรัฐมนตรีกัมพูชา กล่าวโจมตีไทยก่อน โดยไม่ได้มีการบรรจุวาระไว้ล่วงหน้า ซึ่งเชื่อว่า จะสามารถลดความน่าเชื่อถือของกัมพูชาลงได้ อีกทั้งมีผลให้ประชาคมอาเซียนสามารถกดดันกัมพูชา ให้เข้าสู่ทวิภาคี ตามเอ็มโอยู 2543 ที่ก่อนหน้านี้ กัมพูชาปฏิเสธแนวทางดังกล่าวมาโดยตลอด
ทั้งนี้ เชื่อว่า จะทำให้กัมพูชาดึงเรื่องสู่องค์การสหประชาชาติ (ยูเอน) ไม่สำเร็จ และนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี สามารถแสดงบทบาทให้ประชาคมโลกยอมรับ ทำให้ไทยได้รับรับความเชื่อมั่นเพิ่มขึ้น ทั้งนี้ หลังนายกรัฐมนตรีเดินทางกลับถึงประเทศไทย จะแถลงผลการประชุม และแถลงภาพรวมสถานการณ์ต่างๆ และขอความร่วมมือทุกฝ่ายให้ประเทศเดินหน้า กำหนดทิศทางด้วยการเลือกตั้ง เพื่อกำหนดทิศทางประเทศไทย ซึ่งในส่วนของพรรคประชาธิปัตย์ เตรียมพร้อมสำหรับการเลือกตั้ง และนโยบายเสร็จสมบูรณ์แล้ว และจะแถลงให้ทราบต่อไป
นพ.บุรณัชย์ กล่าวถึงการเลือกตั้งที่จะมีขึ้น ว่า จะทำให้ประชาชนเห็นความชัดเจนขึ้น ส่วนการสไกป์ของ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร เป็นความพยายามผูกโยงการเมืองและพรรคการเมือง รองรับการแก้ปัญหาด้วยคนๆ เดียว ซึ่งเชื่อว่า ประชาชนจะเห็นความชัดเจนว่าจะมีผลกระทบอย่างไร ส่วนกรณีที่พรรคเพื่อไทยจะตั้งทีมงานประกบหน่วยงานราชการในช่วงการเลือกตั้งนั้น ขอยืนยันว่า รัฐบาลไม่มีพฤติกรรมใช้อำนาจรัฐคุกคามคนที่มีความเห็นต่าง ไม่ใช้กฎหมู่นอกกฎหมาย หรือขจัดศัตรูทางการเมือง ทั้งนี้ เห็นว่า การดำเนินการดังกล่าวของเพื่อไทย หวังใช้มวลชนคุกคามข่มขู่ เหมือนที่กลุ่มคนเสื้อแดงเคยทำ จึงขอให้สังคมจับตาดู
นพ.บุรณัชย์ กล่าวถึงกรณีที่ นายณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ แกนนำคนเสื้อแดง ออกมาระบุว่า พรรคเพื่อไทยจะขับเคลื่อนบันได 3 ขั้น ไปสู่ชัยชนะเลือกตั้ง คือ พ.ต.ท.ทักษิณ ประกาศนโยบาย พรรคเพื่อไทย และเสื้อแดงรวมกัน และร่วมเคลื่อนไหวสนับสนุนการเลือกตั้ง ซึ่งพรรคประชาธิปัตย์ ประเมินแล้ว เชื่อว่า เป็นการเดินหน้าเพื่อขอนิรโทษกรรมให้ พ.ต.ท.ทักษิณ และพรรคเพื่อไทยแปรรูปเป็นเสื้อแดงไปแล้ว และการชุมนุมใหญ่ของคนเสื้อแดง 19 พ.ค. ถือเป็นการแสดงให้เห็นว่าการเลือกตั้งจะไม่สามารถแก้ปัญหาประเทศชาติได้ และจะตอกย้ำเรื่องความแตกแยกให้มากขึ้น
ส่วนกรณีที่พรรคเพื่อไทยเรียกร้องให้พรรคประชาธิปัตย์ ลงนามในสัตยาบัน ว่า จะให้พรรคที่ได้เสียงข้างมากให้จัดตั้งรัฐบาล นพ.บุรณัชย์ กล่าวว่า ต้องถามกลับไปที่พรรคเพื่อไทย ถึงกรณีที่เคยส่ง พล.ต.อ.ประชา พรหมนอก อดีต ส.ส.สัดส่วน พรรคเพื่อแผ่นดิน ชิงตำแหน่งนายกรัฐมนตรี กับ นายอภิสิทธิ์ ซึ่งไม่ได้เสนอตัวแทนจากพรรคเพื่อไทย ที่มีเสียงลำดับหนึ่งในขณะนั้น แต่เป็นการอาศัยช่องจังหวะทางการเมืองเพื่อชิงความได้เปรียบเท่านั้น อีกทั้งรัฐธรรมนูญ 2550 กำหนดให้ ส.ส. มีเอกสิทธิ์ในการเลือกนายกรัฐมนตรีได้ ดังนั้น การตั้งรัฐบาล ก็ต้องเป็นไปตามเจตนารมณ์ของรัฐธรรมนูญ แต่หากพรรคเพื่อไทยสามารถรวมเสียงตั้งรัฐบาลได้ พรรคประชาธิปัตย์ก็ยอมรับ
นายอรรถวิชช์ สุวรรณภักดี รองโฆษกพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวว่า ได้รับแจ้งจากกระทรวงการคลัง ว่า สัปดาห์หน้า กรมบัญชีกลาง จะแก้ไขระเบียบให้ข้าราชการให้สามารถเบิกจ่ายยา กลูโคซามีนซัลเฟต (Glucosamine sulfate) ที่จะใช้รักษาโรคไขข้อเสื่อม ให้กับข้าราชการสูงอายุได้แล้วตั้งแต่สัปดาห์หน้า เป็นต้นไป หลังจากที่เคยมีปัญหาถูกตัดออกจากสิทธิการรักษาและมีการข้าราชการออกมาร้องเรียน
นายอรรถวิชช์ ยังกล่าวว่า วันจันทร์ที่ 9 พ.ค.นี้ จะเริ่มโครงการบ้านหลังแรก ปลอดดอกเบี้ย 2 ปีโดยประชาชนที่สนใจสามารถเริ่มขอกู้เงินซื้อบ้านให้เสร็จก่อน 30 ธ.ค.ปีนี้ และขอให้ดำเนินการกู้ให้เสร็จก่อน 30 เม.ย 2555 ซึ่งธนาคารออมสิน เตรียมเงิน 2.5 หมื่นล้านบาท ไว้รองรับ โดยเชื่อว่าไม่เกิน 1 เดือนสินเชื่อดังกล่าวคงหมด อย่างไรก็ตาม การดำเนินการดังกล่าวเห็นความแตกต่างชัดเจนจากเพื่อไทย ที่ระบุว่า พ.ต.ท.ทักษิณ คิด เพื่อไทยทำ แต่วันนี้พรรคประชาธิปัตย์ คิด และทำแล้ว และยืนยันว่า แม้จะอยู่ในช่วงรัฐบาลรักษาการ แต่ก็จะมีนโยบายที่เป็นประโยชน์ต่อประชาชนต่อไป