xs
xsm
sm
md
lg

สภาสูงห่วงปัญหาไทยเขมร “คำนูณ” ชี้ทีโออาร์ผู้สังเกตการณ์อิเหนาเข้า ม.190

เผยแพร่:   โดย: MGR Online


ส.ว.ปราจีนฯ ห่วงรัฐบาลรักษาการกระทบปัญหาชายแดน วอนหามาตรการตอบโต้ที่เหมาะสม ด้าน ส.ว.ระยองเตือนประวัติศาสตร์จารึกปล่อยถูกแขมร์ย่ำยี - “ส.ว.คำนูณ” ชี้ทีโออาร์อิเหนาเข้าข่าย ม.190 “พรพันธุ์” จี้ปรับการทูตเข้มข้น “ตรึงใจ” ซัดแขมร์บีบน้ำตา จี้ วธ.จดทะเบียนศิลป์ไทยก่อนถูกเพื่อนบ้านขโมย

วันนี้ (2 พ.ค.) ที่รัฐสภา การประชุมวุฒิสภา โดยมีนายนิคม ไวยรัชพานิช รองประธานวุฒิสภา ในฐานะผู้ปฏิบัติหน้าที่แทนประธานวุฒิสภา เป็นประธานในการประชุม โดยก่อนเข้าสู่วาระการประชุมนายนิคมได้เปิดโอกาสให้ ส.ว.หารือในในเรื่องต่างๆ โดย ส.ว.หลายคนได้ขอหารือแสดงความเป็นห่วงเหตุปะทะกันระหว่างทหารไทย-กัมพูชา ตั้งแต่ นายสุรเดช จิรัฐิติเจริญ ส.ว.ปราจีนบุรี ที่กล่าวว่า หลังยุบสภาแล้วรัฐบาลจะเป็นรัฐบาลรักษาการถึง 3 เดือนจนกว่าจะมีรัฐบาลใหม่ จึงมีความเป็นห่วงปัญหาชายแดนไทย-กัมพูชา ซึ่งมีความละเอียดอ่อน สาเหตุเกิดจากความไม่ไว้เนื้อเชื่อใจกัน จนนำไปสู่การปะทะกันทำให้บาดเจ็บและเสียชีวิตจำนวนมาก จึงอยากเรียกร้องให้ใช้มาตรการป้องกันและตอบโต้ที่เหมาะสม และเท่าที่จำเป็น อย่าใช้มาตรการรุนแรงเพราะเป็นเรื่องละเอียดอ่อน

ด้าน นายสาย กังกะเวคิน ส.ว.ระยอง กล่าวว่า เรายังไม่ลืมนายวีระ สมความคิด และ น.ส.ราตรี พิพัฒนาไพบูรณ์ ที่ยังถูกจับคุกอยู่ในกัมพูชาเป็นเวลา 3 เดือนเศษแล้ว ทั้งที่กระบวนการทางศาลกัมพูชาเป็นกระบวนการที่ไร้ธรรมาภิบาล ในส่วนสถานการณ์ชายแดนไทย-กัมพูชา ตั้งแต่รัฐบาลนี้เข้ามาทำหน้าที่ดูเหมือนว่าหน่วยงานที่เกี่ยวข้องไม่ว่ากระทรวงกลาโหม กระทรวงต่างประเทศ กระทรวงยุติธรรม ยังไม่ทำหน้าที่ตามมาตรา 77 และมาตรา 81 (2) ในการรักษาอธิปไตยของชาติและคุ้มครองสิทธิเสรีภาพตลอดจนให้ความเป็นธรรมกับคนไทย หากรัฐบาลซึ่งเหลือเวลาไม่มากยังไม่รีบปรับปรุงวิธีการแก้ปัญหาชายแดนให้ดีกว่านี้ ปล่อยปละละเลยให้กัมพูชาใช้ประโยชน์จากเอ็มโอยู 2543 บุกยึดครองแผ่นดินไทยและย่ำยีสิทธิเสรีภาพของคนไทยไปเรื่อยๆ ประวัติศาสตร์ชาติไทยคงต้องจารึกในสมัยรัตนโกสินทร์ที่พวกท่านเป็นรัฐบาล ว่าปล่อยให้ประเทศไทยและคนไทยถูกรังแกดูหมิ่นและย่ำยีจากประเทศกัมพูชา ทั้งที่ด้อยกว่าประเทศไทย

ขณะที่ นายคำนูณ สิทธิสมาน ส.ว.สรรหา กล่าวว่า กรณีที่ผู้สังเกตการณ์จากอินโดนีเซียจะเข้ามาในพื้นที่ที่ได้รับผลกระทบระหว่างไทย-กัมพูชา ปรากฏว่าทางอินโดนีเซียได้ส่งทีโออาร์มาให้ทั้งไทย-กัมพูชาพิจารณา ตามข่าวทางกัมพูชาได้ตอบรับ แต่ไทยยังไม่ได้ตอบรับ และดูเหมือนว่ามีความเห็นแตกต่างกัน ล่าสุดกระทรวงการต่างประเทศแถลงว่าอาจมีการพิจารณาทีโออาร์ในการประชุมคณะรัฐมนตรีในวันที่ 3 พ.ค.นี้ โดยกำลังปรับแก้ข้อความที่อาจกระทบต่อกระบวนการทางรัฐสภา ตนเห็นว่าเรื่องนี้เป็นเรื่องละเอียดอ่อน และเห็นว่าทีโออาร์ของอินโดนีเซียที่จะส่งผู้สังเกตการณ์เข้ามาในพื้นที่ไทย-กัมพูชา ถือเป็นหนังสือสัญญาตามรัฐธรรมนูญมาตรา 190 (2) รัฐบาลโดยกระทรวงต่างประเทศจะไปตกลงกับทางอินโดนีเซียโดยไม่ผ่านทางรัฐสภาจะทำไม่ได้ ต้องผ่านกระบวนการเผยแพร่ต่อประชาชน 4 ขั้นตอน และกระบวนการอนุมัติให้ความเห็นชอบจากที่ประชุมรัฐสภาก่อนที่จะไปลงนามได้

ต่อมา พ.ต.อ.พายัพ ทองชื่น ส.ว.สระแก้ว กล่าวว่า ขอแสดงความเสียใจต่อพี่น้องทหารในเหตุการณ์ปะทะกันที่จังหวัดสุรินทร์ และศรีสะเกษ และขอชื่นชมในความกล้าหาญในการรักษาอธิปไตยของชาติ เมื่อวันที่ 30 เม.ย.ที่ผ่านมา ที่ตลาดโรงเกลือเกือบมีการจลาจล เพราะมีบุคคลไปปล่อยข่าวว่ามีเจ้าหน้าที่ไทยฆ่าแรงงานต่างชาติ โดยเฉพาะกัมพูชา 50 ศพ และนำศพไปที่วัดป่าเลไลย์ ซึ่งเป็นการสร้างชนวนให้เกิดการปะทะกันในบริเวณชายแดน จ.สระแก้ว และตราด แต่เมื่อทางกองกำลังเจ้าหน้าที่บูรพาได้ตรวจสอบข่าวก็ทำให้เหตุการณ์สงบลง ซึ่งตลาดโรงเกลือถือเป็นจุดผ่านแดนถาวรที่สำคัญมากที่มีการค้าขายจำนวนมากประมาณ 5 หมื่นกว่าล้านบาท และมีนักท่องเที่ยวเข้ามาจำนวนมาก

ในส่วน นางพรพันธุ์ บุณยรัตพันธุ์ ส.ว.สรรหา กล่าวว่า เมื่อเกิดเหตุการณ์รัฐบาลต้องดำเนินการทางการทูตกับประเทศที่เกี่ยวข้องอย่างเข้มข้นมากกว่าการประชาสัมพันธ์ให้ชาวโลกได้รับทราบข้อเท็จจริง แต่ควรดำเนินการทั้งสองด้านให้เข้มข้นเท่าๆ กัน ควรเปิดโอกาสให้มีการเจรจาระหว่างประเทศทุกระดับ เพื่อความเป็นเอกภาพประเทศไทยควรมีหน่วยงานระดับประเทศที่ทำงานอย่างต่อเนื่องไม่ว่าจะเปลี่ยนแปลงรัฐบาลชุดใด ขณะเดียวกันประเทศไทยควรปรับความสัมพันธ์กับเพื่อนบ้านที่มีเขตแดนติดต่อกันให้มีระดับความสัมพันธ์ที่เท่าเทียมกัน ไม่ว่าไทยหรือมาเลเซียซึ่งมีความสัมพันธ์ที่ดี และต่อไปก็ยกระดับความสัมพันธ์กับกัมพูชาให้ดีขึ้น บางทีอาจจะเกิดสันติภาพที่ถาวรขึ้นได้

ขณะที่ นางตรึงใจ บูรณสมภพ ส.ว.สรรหา กล่าวว่า กัมพูชาเป็นประเทศที่ชอบพูดอย่างทำอย่าง เช่น การเปิดฉากยิงเข้ามาในเขตแดนไทยก่อน แต่ไปโพนทะนากับประเทศอื่นว่าไทยยิงใส่ก่อน บีบน้ำตาเล่นละครให้ชาวโลกเห็นว่าเขาเสียใจที่สูญเสียทหาร เข้าเตรียมการยึดดินแดนไทยไม่พอ ยังเตรียมยึดวัฒนธรรมไทยไปเป็นของเขา ทั้งวรรณกรรม ดนตรี บทเพลง ศิลปะ สถาปัตยกรรม กัมพูชาขึ้นทะเบียนรำไทย ผ้ากี่ไทย หนังใหญ่ไทย ต่อยูเนสโกไปเรียบร้อยแล้ว ล่าสุดเตรียมขึ้นทะเบียนวรรณกรรมขุนช้างขุนแผน พระอภัยมณี และกำลังขโมยระนาด ขิม ว่าเป็นของกัมพูชา ที่สำคัญยังขี้ตู่เอาสถาปัตยกรรมไทย พระราชวัง เรือนไทย ซึ่งกัมพูชาสร้างทีหลังไทยแต่ลอกเลียนแบบไทย แต่ไปลงในวิกิพีเดียว่าสถาปัตยกรรมไทยดังกล่าวเป็นของเขา เขมรกล้าทำได้จริงๆ จึงขอเรียนประธานไปถึงกระทรวงวัฒนธรรม ให้จดสิทธิบัตรและรีบขึ้นทะเบียนว่าวัฒนธรรมต่างๆ เป็นไทยอย่างเร่งด่วน
กำลังโหลดความคิดเห็น