“อากง” เผยหนีบ้านสันปันน้ำ เหตุสุดทน “อธิวัฒน์” อ้างมั่วตั้งหมู่บ้านไล่คนเขมรได้เป็นพัน-เป็นเส้นทางโจรกรรมรถทั้งที่ถนนไปสิ้นสุดที่หน้าผา พร้อมแฉพฤติกรรมสุดเหี้ยมสั่งคนทำร้ายตน ปั้นเรื่องใส่ความ แอบอ้างเบ่งบารมี เตือน ปชช.อย่าหลงบริจาค เพราะแรงศรัทธาทำให้ “อธิวัฒน์” กระเป๋าตุงคนเดียว
คลิกที่นี่ เพื่อฟัง “รวมพลังปกป้องแผ่นดิน” ความในใจโดย “อากง”
เมื่อวันที่ 1 พ.ค. 2554 บนเวทีปราศรัยการชุมนุมของพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย ที่บริเวณสะพานมัฆวานรังสรรค์ อากง นักสู้พันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย ได้ออกมาเล่าถึงสาเหตุที่ไม่อยู่บ้านสันปันน้ำ ทั้งที่นายอธิวัฒน์ บุญชาติ พยายามพูดว่าเป็นหมู่บ้านป้องกันชายแดนว่า ตนเคยรู้จักคนคนนั้นซึ่งจะไม่ขอเรียกชื่อเขา แต่จะเรียกว่า สิ่งสิ่งนั้น รู้จักเขาเมื่อสมัยขึ้นเวทีปราศรัยเมื่อ 193 วัน เมื่อจบการต่อสู้ทำให้เขามีโอกาสได้เข้าไปดำเนินรายการช่อง 13 ทั้งนี้ ตนได้รับเชิญให้ไปในรายการเสียงประชาชนคนเดินดิน จนคุ้นเคยกันพอสมควร ส่วนสาเหตุที่ไปบ้านสันปันน้ำเพราะเพื่อนชวน ประกอบกับนายการุณ ใสงาม แนะนำว่าหากรักชาติควรหาโอกาสไปทำงานชายแดน อย่างน้อยก็ด้วยการทำงานเชิงสัญลักษณ์ แต่เมื่อทันทีที่ไปถึงคนคนนั้นเขาบอกว่า 1.การตั้งหมู่บ้านนี้ทำให้ไล่เขมรออกไปได้นับพันคน ด้วยการชี้ส่งเดชเข้าไปในป่า ไม่มีหลักฐานยืนยันว่าเคยมีเขมรเคยอยู่แถวนั้น 2.อ้างว่าถนนเส้นนี้เป็นถนนที่คนขโมยรถใช้เป็นเส้นทางผ่าน นอกจากนี้ยังเป็นทางผานของสิ่งผิดกฎหมายจากประเทศไทยไปกัมพูชา แต่ข้อเท็จจริงถนนสายนี้ไปสิ้นสุดที่หน้าผา ทั้ง 2 ข้อที่ตนพูดมานั้นล้วนเป็นข้ออ้างที่หลอกลวง หากไม่เชื่อไปสอบถามร้อยเวรวีรพันธ์ ที่ สภ.พนมดงรักได้ ถ้าหากอยากได้เบอร์ของร้อยเวรให้มาขอที่อากงได้
ทั้งนี้ หลังจากอากงออกมาจากหมู่บ้าน มีคนสร้างข่าวว่าอากงหนีออกจากหมู่บ้านโดยขโมยของมาด้วย ทั้งที่ในสโตร์เก็บของมีแต่ปลากระป๋องกับมาม่า อากงเป็นคนกินเจ แล้วจะขโมยของไปหาพระแสงอะไร นอกจากนี้มีคนที่อยู่ที่นั่นใส่ร้ายอากง บอกพี่น้องพันธมิตรฯ ว่า ให้ระวังให้ดีอากงจะขโมยของ ที่จริงอากงไม่อยากยุ่ง แต่นานเข้ากระแสหนาหูขึ้น อันอาจทำให้เกิดความวุ่นวายในที่ชุมนุมได้ ทำให้อากงต้องไปแจ้งความที่ สน.ดุสิต จนคนใส่ร้ายถูกเชิญตัวไปทำบันทึกประจำวันขอโทษอากงว่าเขาใส่ร้าย
อากงกล่าวถึงสาเหตุที่ต้องไป สน.พนมดงรัก อีกรอบเพราะของที่อากงขนไปมีจำนวนมาก ขนมาครั้งแรกไม่หมด ซึ่งได้ฝากเพื่อนบ้านไว้ เมื่อไปถึงเขาให้สมุนของเขาเข้ามาทำร้ายร่างกายอากงด้วยการใช้ไม้ยาวประมาณ 1 เมตร ตีแต่อากงเข้าคลุกวงในแย่งไม้ได้ จากนั้นเขาเอาไม้แหลมสองอันแทงอากง แต่ก็หลบได้แล้วแย่งไม้แทงสวนกับไปที่ลำตัวหนึ่งทีเพื่อต้องการให้เขาหยุด เมื่อเขาไม่หยุดอากงเลยแทงไปอีกที ทั้งนี้พอเขาเห็นว่าฝ่ายเขาเพลี่ยงพล้ำจึงได้มาแยกออก อย่างไรก็ดี พออากงหยุด มันถีบอากงหนึ่งทีและชกอีกที นอกจากนี้เขายังได้ไปแจ้งความฐานพยามฆ่า ในที่สุดตำรวจบอกสมควรแก่เหตผล อากงจะทำขวัญเขาเท่าไรก็ว่ากันไป อากงก็บอกว่าขอทำขวัญ 50 บาท
อากงกล่าวยืนยันถึงพฤติกรรมอันชั่วร้ายของนายอธิวัฒน์ว่า เขาเคยพูดว่าผู้หญิงของเขาเอารถบัสมาขนก็ไม่หมด นอกจากนี้ยังเคยไปชวนผู้หญิงที่มีลูกมีสามีแล้วว่าไปกินข้าวต้มกันไหม ซึ่งเรื่องนี้คนที่เป็นผู้ชายจะรู้ดีว่าหมายถึงอะไร ที่สำคัญอ้างว่าเคยเป็นผู้แทน จ.บุรีรัมย์ ทั้งนี้เมื่อตนมาถาม อ.มาลีรัตน์ ก็ได้รู้ว่าเคยเป็นเพียงผู้สมัครแต่ไม่ได้รับเลือก และได้เกียรติรับเชิญจากรัฐสภาอินเดียให้ไปเป็นผู้แทนของรัฐสภาไทยไปเยี่ยมรัฐสภาอินเดีย ดังนั้นเมื่อไม่ได้เป็นผู้แทนใครจะเชิญ
อีกอย่างเขาบอกว่า การเงินของหมู่บ้านอยู่ในอำนาจเขาคนเดียว ไม่มีคณะกรรมการ นอกจากนี้ยังโม้กับคนที่เข้าไปขู่เขาว่า เดี๋ยวจะเอาคนที่อยู่ในทำเนียบฯ จัดการให้รู้แล้วรู้รอดไป หากใครอยากย้ายผู้กำกับหรือสารวัตรใหญ่ให้ไปบอกเขา เดี๋ยวเขาจัดการให้ และตอนทำรายการช่อง 13 มีผู้สูงศักดิ์ต้องมาขอซีดีจากช่อง 13 เพราะพลาดโอกาสดูรายการของเขา นอกจากนี้เขายังคิดทำร้ายผู้นำของเรา ขอบอกไว้ก่อนเลยอย่าง พล.ต.จำลอง ศรีเมือง นายสนธิ ลิ้มทองกุล อากงไม่ได้ยึดติดในตัวผู้นำ แต่ยึดถือคนที่มีคุณธรรม ขอให้รู้ว่าเวลาที่ดูรายการเอเอสทีวีที่หมู่บ้านสันปันน้ำ เขาบอกคนที่อยู่หน้าเวทีไม่ได้ขี้ตีนคนที่อยู่หมู่บ้านสันปันน้ำ ดังนั้นใครที่หลงบริจาคเงินให้เขา เงินจะเข้ากระเป๋าเขาคนเดียว ทั้งนี้ที่ตนพูดไม่ได้โกรธ เพราะอโหสิกรรมให้แล้ว แต่ที่ทนไม่ได้ เพราะเขากำลังทำร้ายขบวนการคนกู้ชาติ รักษาแผ่นดิน เทิดทูนสถาบันพระมหากษัตริย์
