“บรรณวิทย์” ร้อง ผบ.ตร.ตำรวจบุกรวบ “ไชยวัฒน์” ทำรุนแรง-แฉนักการเมืองสั่งจับกุม

“บรรณวิทย์ เก่งเรียน” เข้ายื่นหนังสือร้อง ผบ.ตร.ระบุ ตร.ชุดกุม “ไชยวัฒน์-สมบูรณ์” ปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ ใช้วิธีการรุนแรงจับกุมนายไชยวัฒน์ ไม่ให้อ่านหมายจับ และไม่ให้เกียรติ ขณะที่ผู้บาดเจ็บในเหตุการณ์ ตร.เข้าจับเผยว่าถูก ตร.ล็อกคอกระชากจนล้ม แพทย์ระบุถูกทำร้าย ขณะที่โฆษก ตร.ชี้ ตร.ไม่ได้ใช้ความรุนแรง พร้อมส่งเรื่องให้ ผบ.ตร.พิจารณา

วันนี้ (19 ม.ค.) ที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติ (ตร.) เมื่อเวลา 11.00 น. พล.ร.อ.บรรณวิทย์ เก่งเรียน ประธานสมัชชาประชาชนแห่งประเทศไทย พร้อมด้วย นางพรทิพา สุพัฒนุกุล อายุ 39 ปี ผู้ที่ได้รับบาดเจ็บจากการที่เจ้าหน้าที่ตำรวจจับกุมตัวนายไชยวัฒน์ สินสุวงศ์ และนายสมบูรณ์ ทองบุราณ เมื่อวันที่ 18 ม.ค.ที่ผ่านมา เข้ายื่นหนังสือและซีดีบันทึกการจับกุมนายไชยวัฒน์ร้องเรียนต่อ ผบ.ตร. กรณีเจ้าหน้าที่ตำรวจประพฤติมิชอบในการจับกุมตัวนายไชยวัฒน์ โดยมี พล.ต.ต.ประวุฒิ ถาวรศิริ โฆษก ตร.เป็นตัวแทนรับมอบ

พล.ร.อ.บรรณวิทย์กล่าวว่า เมื่อวานนี้เจ้าหน้าที่ตำรวจได้ไปจับกุมนายชัยวัฒน์ที่ร้านสุกี้ในห้างโลตัส ปทุมวัน โดยได้อุ้มขึ้นรถกระบะนำตัวไปที่กองปราบปรามโดยไม่ให้อ่านหมายจับให้จบก่อน และการจับกุมก็ทำให้มีคนได้รับบาดเจ็บ มีการจับกุมนายโชคพิสิฐ วรพัฒน์ธนาชัย ซึ่งอยู่ในที่เกิดเหตุโดยเข้าใจว่าเป็นนายสมบูรณ์ ทองบุราณ ภายหลังเมื่อทราบว่าไม่ใช่นายสมบูรณ์ก็มีการแจ้งข้อหาขัดขวางการจับกุมของเจ้าพนักงาน เป็นการกระทำผิดมาตรา 200 และมาตรา 157

พล.ร.อ.บรรณวิทย์กล่าวอีกว่า นายไชยวัฒน์ตั้งใจที่จะมามอบตัวต่อ ผบ.ตร.โดยได้ทูลเกล้าฯ ถวายฎีกาที่สำนักพระราชวัง หลังจากนั้นก็ได้ออกมาแถลงข่าวที่หน้าพระบรมมหาราชวังว่าจะไปพบ ผบ.ตร.เพราะถูกออกหมายจับในคดีปิดสนามบินสุวรรณภูมิ และไม่มีเจ้าพนักงานตำรวจมาจับกุมในที่ทำงานช่อง 13 สยามไท หรือที่บ้าน แต่ทุกครั้งที่ออกมาทำงานเพื่อความถูกต้องของประเทศ และมีความเห็นต่างจากรัฐบาลก็จะถูกติดตามจับกุมซึ่งถูกตำรวจตามจับกุม 2 ครั้งแล้วแต่จับไม่ได้ แต่ครั้งนี้ถูกจับด้วยความรุนแรง

พล.ร.อ.บรรณวิทย์กล่าวอีกว่า ที่นายไชยวัฒน์ต้องการมอบตัวต่อ ผบ.ตร.เพื่อให้สมเกียรติ เนื่องจากเป็นบุคคลที่มีชื่อเสียง เป็นอดีตรัฐมนตรีว่าการกระทรวงอุตสาหกรรม อดีตรองผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร อดีตหัวหน้าพรรค พลังธรรมและปัจจุบันก็ดำรงตำแหน่งเลขาธิการสมัชชาประชาชนแห่งประเทศไทย เป็นผู้ดำเนินรายการสู้เพื่อบ้านเมือง ไม่ใช่อาชญากรคดีร้ายแรง เจ้าหน้าที่ตำรวจไม่จำเป็นต้องใช้วิธีรุนแรงเช่นนี้ เป็นการปฏิบัติที่ไม่ชอบด้วยกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญามาตรา 157

“เมื่อแสดงเจตนารมณ์แล้วว่าจะมามอบตัวทำไมตำรวจต้องบุกจับกุมกลางทาง ด้วยความรุนแรงเกินกว่าเหตุ จับโยนขึ้นรถ ซึ่งนายไชยวัฒน์โกรธมาก และไม่ต้องการประกันตัวเพราะไม่ผิด ยอมติดคุก แล้วแต่ศาลจะเมตตาอย่างไร เรื่องนี้อยากถาม ผบ.ตร.ว่าเกิดอะไรขึ้นกับตำรวจ และผมก็รู้ว่าเรื่องนี้มีนักการเมืองสั่งให้จับกุมตัวชิงตัดหน้า ซึ่งหากกล้าก็ควรออกมายอมรับ เรื่องนี้จะต้องมีคนรับผิดชอบและในวันที่ 25 นี้ กลุ่มสมัชชาประชาชนจะไปร่วมชุมนุมใหญ่กับกลุ่มพันธมิตรฯ” นายบรรณวิทย์กล่าว

ด้าน นางพรทิวากล่าวว่า ตนเองอยู่ใกล้กับนายไชยวัฒน์ระหว่างที่เจ้าหน้าที่ตำรวจมาจับกุมตัว และตนเองถูกเจ้าหน้าที่ตำรวจล็อกคอ กระชากจนล้มได้รับบาดเจ็บบริเวณหน้าอก หูด้านซ้ายและบั้นท้าย ซึ่งจะบอกว่าคนที่ทำไม่ใช่ตำรวจไม่ได้เพราะมีแต่ตำรวจ ตนเองไปตรวจร่างกายที่ รพ.มิชชั่น แพทย์นระบุว่าได้รับอุบัติเหตุจากการถูกทำร้ายร่างกายและได้ไปแจ้งความไว้ ที่สน.ปทุมวัน

ด้าน พล.ต.ต.ประวุฒิกล่าวว่า จะส่งเรื่องให้ ผบ.ตร.พิจารณาสั่งการต่อไป แต่เบื้องต้นตำรวจก็ไม่ได้มีการใช้ความรุนแรงเกินกว่าเหตุกระทำไปตามกฎหมาย มีการแสดงหมายก่อนที่จะจับกุม ซึ่งจะต้องไปดูหลักฐานต่างๆ โดยละเอียดอีกครั้ง และตามขั้นตอนการจับกุมหากตำรวจพบตัวผู้ต้องหามีการแสดงหมายจับก็สามารถจับกุมตัวได้ หากผู้ต้องหาไม่พร้อมให้จับก็มีการชี้แจงเหตุผลละทำการจับกุม กรณีที่ผู้ต้องหาประสงค์มอบตัวหากเจ้าหน้าที่ตำรวจเจอผู้ต้องหาต่อหน้าแล้ว แสดงหมายจับก็ชอบที่จะทำการจับกุม