“สนธิ” รับไม่ได้ “สมศักดิ์” ให้สัมภาษณ์จะร่วมกับพันธมิตรฯ เฉพาะเรื่องที่เป็นประโยชน์ต่อสังคม แนะควรลาออกไปเงียบๆ แต่อย่าทำลายกระบวนการ พธม. พร้อมถามหรือรับงานพรรคไหนมาเพื่อทำลายความสามัคคีของ พธม. ความลับนี้จะไม่มีวันปิดได้ตลอด วันหนึ่งต้องเปิดว่าไปพบใครมาบ้าง ลั่นต้องสั่งสอน ก.ม.ม.ด้วยการแพร่กระจาย “โหวตโน” และสมาชิกพรรคอย่าลาออก สู้เพื่อยึดพรรคคืน ไล่กรรมการบริหารและหัวหน้าพรรคออก
คลิกที่นี่ เพื่อฟัง “รวมพลัง ปกป้องแผ่นดิน” ปราศรัยโดย “นายสนธิ ลิ้มทองกุล”
วันนี้ (29 เม.ย.) เมื่อเวลาประมาณ 22.00 น. นายสนธิ ลิ้มทองกุล แกนนำพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย ขึ้นปราศรัยบนเวที “รวมพลังปกป้องแผ่นดิน” ถึงหนังสือการลาออกของนายสมศักดิ์ โกศัยสุข และนายสาวิทย์ แก้วหวาน ว่า พล.ต.จำลองก็พูดไปแล้ว นายพิภพ อ.สมเกียรติ ก็พูดไปแล้ว ทำไมต้องฆ่าศพ ทุกอย่างคนที่ถูกพูดก็เป็นศพไปเรียบร้อยแล้ว ทำไมต้องไปเหยียบย่ำศพ เรามาเล่าเรื่องราวที่พวกเรามารวมจิตสมานใจ มาต่อสู้เพื่อชาติบ้านเมืองกัน เพื่อเป็นกำลังใจและให้เข้าใจ
นายสนธิกล่าวอีกว่า อ.สมเกียรติบอกว่า พล.ต.จำลอง อายุ 74-75 แล้ว ไม่มีที่ไป เพราะฉะนั้นแล้ว พล.ต.จำลองต้องสู้ตาย จนกว่าจะตาย ส่วนตนอายุ 63 ตามปีไทย 64 ปีจีน ตนควรจะทำอย่างไรดี ไม่ต้องขู่ตน จริงๆ แล้วมันไม่มีทางเลือก เรียกว่ามันเดินไกลเกินกว่าที่จะหันหลังกลับแล้ว ถึงแม้จะอ่อนกว่า พล.ต.จำลอง 12 ปี แต่จำได้หรือไม่ ที่เวทีสนามหลวง ตนก้มลงกราบพี่น้องว่าในอดีตอาจจะเป็นคนเลวในบางเรื่อง ขออภัยพี่น้อง แต่นับจากวันนั้นตนจะเริ่มมาทำงานเพื่อชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์ และส่วนรวม
นั่นคือสิ่งที่เกิดขึ้นเมื่อต้นปี 2549 จนกระทั่งมาถึงวันนี้ 6 ปีแล้ว ตนยึดหลักข้อเดียวที่พ่อแม่ครูอาจารย์ให้มา คือการเอาธรรมนำหน้า การเอาธรรมนำหน้านั้น เริ่มแรกด้วยการรู้จักพอ ตัดกิเลสส่วนตัวออกแล้วก็พูดความจริง อะไรที่ผมผิดพลาดผมยอมรับ ผมจะขอโทษพ่อแม่พี่น้องต่อหน้าพ่อแม่พี่น้อง ถ้าพ่อแม่พี่น้องให้อภัยก็ขอบคุณ ถ้าไม่ให้อภัยก็ขอบคุณ แต่ว่าเราเอาใจตีแผ่ซึ่งกันและกัน เมื่อเราเอาใจตีแผ่ซึ่งกันและกันแล้ว ธรรมที่เรานำหน้านั้น คือความจริงที่เราต้องให้ซึ่งกันและกัน
นายสธิกล่าวว่า ตนเคยพูดกับพ่อแม่พี่น้องว่าไม่ประสงค์จะรับตำแหน่งทางการเมือง ถ้ารับตำแหน่งทางการเมืองให้ถอดรองเท้าตบปากและถุยน้ำลายใส่ ที่จำเป็นต้องพูดเรื่องนี้เพราะว่า คำว่า ตำแหน่งทางการเมือง พี่น้องจะหมายถึงการเข้ามาเป็นหัวหน้าพรรคการเมือง หรือจะหมายถึงการเข้าไปเป็นรัฐมนตรี ส.ส. ตนเข้ามาเป็นหัวหน้าพรรคการเมืองใหม่ตามฉันทานุมัติของพี่น้องที่เลือกตน แต่ในขณะเดียวกัน หัวหน้าพรรคการเมืองยังไม่ใช่คำจำกัดความของ ตำแหน่งทางการเมือง และตนประกาศชัดเจน มีอะไรบ้างที่เคยพูดกับพี่น้องแล้วไม่ได้ทำ
ตนประกาศชัดเจนว่าจะรับตำแหน่งหัวหน้าพรรคการเมืองเพื่อไม่ให้พรรคแตก เพราะวันนั้นนายสมศักดิ์ โกศัยสุข ก็อยากเป็นหัวหน้าพรรค แต่เนื่องจากว่าทานเสียงพี่น้อง 70-80% ที่ต้องการเลือกตนไม่ได้ ก็เลยยอมถอนตัว ตนบอกแล้วว่าจะเป็นแค่ชั่วคราวให้พรรคก่อรูปก่อร่าง เมื่อก่อรูปก่อร่างแล้วก็ลาออก ตอนที่ลาออกนั้น ตนไม่เคยยึดติด ไม่เคยคิดว่าต้องหมายเลข 1 ปาร์ตี้ลิสต์ ไม่เคยติดใจ เพราะว่าตำแหน่ง ส.ส.นั้นมันยังเทียบไม่ได้กับขี้หมาที่ตนเหยียบเลย มันไม่มีความหมาย และจะบอกพี่น้องให้ชัดเจน เคยพูดไปแล้ว จำเป็นต้องพูดเรื่องนี้เพื่อทวนความจำคุณสมศักดิ์ โกศัยสุข
“คุณสมศักดิ์ โกศัยสุข มาขอแกนนำพันธมิตรฯ ว่าขอเป็นหัวหน้าพรรค เราก็ตัดสินใจส่งคุณสมศักดิ์ไปเป็นตัวแทนพันธมิตรฯ เพื่อไปเป็นหัวหน้าพรรค และก่อนส่งไปผมมีหน้าที่ต้องพูดกับผู้สมัครหลายคนให้ถอนตัวเพื่อไม่ให้มีความขัดแย้ง คุณสมศักดิ์ถึงได้รับเลือกโดยไม่มีใครแข่ง แล้วผมนั่งคุยกับคุณสมศักดิ์ตัว-ตัว ผมบอกว่า พี่อยากเป็นหัวหน้าพรรคเหรอ - ใช่น้อง พี่อยากเป็น ผมก็ถามว่า แล้วพี่จะเป็นนานมั้ย - พี่เป็นชั่วคราวเอง - ถ้างั้นพี่รับปากผมได้มั้ยว่า ก่อนถึงวันเลือกตั้งพี่น่าจะลาออก ควรจะลาออก - พี่รับปาก” นายสนธิกล่าวชี้แจง
นายสนธิกล่าวต่อว่า ตนไม่เคยพูดเรื่องนี้ แต่จำเป็นต้องพูด เพราะว่าการที่ส่งจดหมายมาแบบนี้ โดยนายสาวิทย์ แก้วหวาน เขียนมา สาวิทย์ แก้วหวาน จะคิดเขียนจดหมายแบบนี้มาไม่ได้ถ้าไม่ใช่คุณสมศักดิ์ โกศัยสุข อยู่เบื้องหลังสาวิทย์ แก้วหวาน
พวกเราสู้กันมาทุกเรื่อง มีเรื่องไหนบ้างที่พวกเราลุกขึ้นสู้แล้วไม่มีประโยชน์ต่อสังคม แล้วทำไมคุณสมศักดิ์ไปให้สัมภาษณ์ว่ายังอยู่กับพันธมิตรฯ แต่ว่าจะเข้าร่วมชุมนุมก็ต่อเมื่อเรื่องนั้นมีประโยชน์ต่อประเทศชาติ จริงๆ แล้วดังที่แถลงการณ์พันธมิตรฯ ออกมาชัดเจน ถ้าอยากจะลาออกก็ลาออกไปเลยเงียบๆ ไม่มีใครเขาว่าอะไร แต่จงใจทำเรื่องนี้ขึ้นมาเพื่อทำลายกระบวนการพันธมิตรประชาชนเพื่อ ประชาธิปไตย หรือว่ารับงานพรรคการเมืองไหนเพื่อทำลายความสามัคคีของพันธมิตรประชาชนเพื่อ ประชาธิปไตย ความลับอันนี้จะไม่มีวันปิดได้ตลอดเวลา วันหนึ่งต้องเปิดมาว่าไปพบกับใครมาบ้าง
นายสนธิกล่าวว่า หวังว่าการร่อนตะแกรงครั้งนี้จะเป็นการร่อนตะแกรงครั้งสุดท้าย เหมือนอย่างอาจารย์สมเกียรติ และทุกคนพูด ขอให้เหลือแต่ทองคำแท้เท่านั้น ตนรับไม่ได้ กับคำพูดที่บอกว่า จะเข้าร่วมชุมนุมต่อเมื่อการชุมนุมครั้งนั้นจะมีประโยชน์ต่อสังคม แสดงว่าที่เราชุมนุมมาตลอดนั้น มีประโยชน์ต่อสังคมมาตลอด จนกระทั่งเขาไปเป็นหัวหน้าพรรคการเมืองใหม่ พอเราโหวตโน เขาก็เลยบอกว่าไม่มีประโยชน์ต่อสังคม อาจารย์สมเกียรติบอกว่า อย่าลาออก เราต้องปฏิวัติพรรคการเมืองใหม่ ยึดพรรคการเมืองใหม่คืนมา และไล่หัวหน้าพรรคออกไป
เขาบอกว่า 10% ของจำนวนสมาชิกแค่ 1,000 กว่าคน หรือ 2,000 คน เชื่อว่าสมาชิกพรรคการเมืองใหม่ ที่ฟังพูดอยู่ทุกวันนี้ เราล่าชื่อได้ 2,000 คนแน่นอน ด้านหนึ่งต้องเดินหน้า เพื่อไล่กรรมการบริหารและหัวหน้าพรรคชุดนี้ ให้หลุดพ้นจากพรรคการเมืองใหม่ อีกด้านหนึ่ง ไม่ต้องสนใจมติเขา อาทิตย์หน้าอย่าไปใส่ใจ เดินหน้าโหวตโนลูกเดียว และก็โหวตโนทุกพรรค ไม่เว้นแม้กระทั่งพรรคการเมืองใหม่ พันธมิตรฯ ที่ดูโทรทัศน์อยู่ทั่วประเทศไทย พันธมิตรฯ ที่ยังคิดว่าเป็นพันธมิตรฯ อยู่ คนที่เห็นด้วยกับโหวตโน อย่าเลือกพรรคการเมืองใดๆ ทั้งสิ้น รวมทั้งพรรคการเมืองใหม่ด้วย เขาอยากเป็นปาร์ตี้ลิสต์นัก ก็ให้เขาลงไปเป็นปาร์ตี้ลิสต์ โดยไม่มีใครโหวตให้เขา
วิธีเดียวที่จะแสดงให้เห็นว่าพรรคการเมืองใหม่ คือ พรรคของพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย ถ้าใครมาทรยศต่อจิตวิญญาณของพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย เราต้องโหวตโน ไม่ให้เขาได้เลยแม้แต่คนเดียว พลังที่แท้จริงอยู่ที่นี่ อยู่ที่หน้าจอทีวี ไม่ใช่พลังที่เอาคนของสหภาพการรถไฟ แล้วไปนั่งทำตัวเป็นการ์ดอยู่ที่พรรคการเมืองใหม่
วันนี้พี่น้องคนใต้ที่เป็นสมาชิกพรรคการเมืองใหม่ และพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย อย่าไปโหวตให้ใครเลย โดยเฉพาะอย่างยิ่งพรรคการเมืองใหม่ก็ต้องไม่โหวตให้ ตนขอประกาศเป็นสัจจวาจา พร้อมกับแกนนำพันธมิตรฯ อีก 3 คนว่า เราจะเดินหน้าโหวตโนลูกเดียวพี่น้อง ไม่เว้นแม้แต่พรรคการเมืองใหม่
นายสนธิยังกล่าวอีกว่า คิดได้อย่างไร ระหว่างอยากเป็น ส.ส. กับมาใช้ชีวิตร่วมกับพ่อแม่พี่น้องพันธมิตรฯ คิดได้อย่างไร วันนี้จะมีคนหลายคน แม้กระทั่งคนที่ อ.สมเกียรติ พูดถึงนายประเสริฐ เลิศยโส ที่คอยด่า พล.ต.จำลอง และตนในพรรคการเมืองใหม่ และอีกหลายคน มาห้อยมาโหนเหมือนกันไม่มีผิดเลย คนพวกนี้ต้องสั่งสอนหรือเปล่า
“ไม่มีวิธีใดที่จะสั่งสอนเขาได้ดีกว่าการเผยแพร่กระจายโหวตโน พี่น้องที่ดูทีวีอยู่ทั่วประเทศไทยเป็นล้านๆ คน ถ้าเห็นด้วยกับแนวทางของพันธมิตรฯ หรือถ้าไม่เป็นพันธมิตรฯ แต่คิดว่าการโหวตโนนั้นคือการประท้วงนักการเมือง เพื่อนำไปสู่การปฏิรูปการเมืองแล้ว กรุณาแจ้งญาติพี่น้อง เพื่อนฝูงทุกคน เจอคนก็พูดสั้นๆ เลือกมันไปทำไมไอ้พวกนักการเมืองชั่วๆ เขาถาม จะให้ทำอย่างไร จะไม่ให้ไปลงคะแนนเสียง ไม่ต้องไป แล้วไปกาไม่เลือกพรรคใด เขาถามว่า จะมีประโยชน์อะไร มีสิ เพราะว่าถ้าคะแนนเสียงไม่เลือกพรรคใดนั้นสูง ก็เท่ากับว่าพรรคโหวตโนชนะทุกพรรค” นายสนธิกล่าว
นายสนธิกล่าวอีกว่า นายพิภพสารภาพกับตนว่า เมื่อกี๊ตอนขึ้นเวทีน้ำตาแทบไหลเพราะว่าเสียใจ ในใจตนบอกว่าไปเสียน้ำตากับเรื่องเชี้ยๆ นี้ได้อย่างไร ในใจยังบอกทำไมพี่พิภพไม่นึกถึงเมียอาลีบาบา ซึ่งขอให้เปิดถ้ำ
วันนี้คนที่ไปพรรคการเมืองใหม่แล้วถูกกีดกัน ถูกริบโทรศัพท์ ถูกผลักดันออกมา ไม่ต้องเสียใจ ทางหนึ่งเราเดินหน้าโหวตโนแน่นอน อีกทางหนึ่งอย่าลาออก สมาชิกพรรคการเมืองใหม่ที่เข้าใจและต้องการโหวตโน อย่าลาออก ไม่มีอะไรในการกำชัยชนะ ดีกว่าการสู้กับเขาในพรรคและยึดพรรคคืนมาให้เรา ถ้าเขาต้องการพรรคแรงงาน ให้เขาไปตั้งพรรคแรงงานของเขาเอง ตนเข้าใจมานานแล้ว แต่เป็นตัวอย่างของคำโบราณพูดว่า เสียคนตอนแก่
คำต่อคำ “นายสนธิ ลิ้มทองกุล” ปราศรัย
พี่น้องครับ รูปนี้เป็นรูปที่พันธมิตรฯ ปักบนผ้า เป็นรูปที่ผมบวชและไปจำวัดอยู่วัดป่าบ้านตาด เอาไปตั้งไว้ในพรรคการเมืองใหม่ คุณกอบ จากสมุย เห็นรูปผมในห้อง หลังจากถูกกีดกัน คุณกอบก็บอกว่า เอารูปเตี่ยกูมา ก็เลยเอากลับมา ผมคิดว่าเพื่อชาติ เพื่อบ้าเพื่อเมือง เรามาประมูลเอาเงินก้อนนี้ไปซื้อของให้กับทหาร เอาเป็นว่าสิ้นสุดการประมูลวันพรุ่งนี้ วันเสาร์ ตอน 4 ทุ่ม เดี๋ยวจะเอาเบอร์ที่ประมูลให้นะครับ
พี่น้องที่อยู่ทางบ้านโทร.มาได้ที่ 08-6991-1021 ทุกบาททุกสตางค์จะเข้าสู่กองทุนที่จะซื้ออาหารและสนับสนุนทหารที่เสี่ยงตายอยู่ที่ชายแดน คุณกอบ ในฐานะที่เป็นคนดึงรูปมา ประมูลแล้ว 10,000 บาท ส่วนที่เหลือจะประมูลเท่าไร ทุกบาททุกสตางค์จะใส่เข้าไปเพื่อที่จะช่วยทหารหาญนะครับ ขอบพระคุณมากครับ
พี่น้องครับ พี่ลองก็พูดไปแล้ว พี่พิภพก็พูดไปแล้ว อ.สมเกียรติ ก็พูดไปแล้ว ทำไมต้องฆ่าศพล่ะครับ ใช่มั้ยพี่น้อง ทำไมต้องฆ่าศพ ทุกอย่างคนที่ถูกพูดตอนนี้ก็เป็นศพไปเรียบร้อยแล้ว ทำไมต้องไปเหยียบย่ำศพ เรามาเล่าเรื่องราวที่พวกเรามารวมจิตสมานใจ มาต่อสู้เพื่อชาติบ้านเมืองกัน เพื่อเป็นกำลังใจและให้เข้าใจ
อ.สมเกียรติบอกว่า พี่ลองอายุ 74-75 แล้ว ไม่มีที่ไป เพราะฉะนั้นแล้วพี่ลองต้องสู้ตายจนกว่าจะตาย ส่วนไอ้ผมมัน 63 ตามปีไทย 64 ปีจีน ผมควรจะทำยังไงดีพี่น้อง พี่น้องครับ ไม่ต้องขู่ผม จริงๆ แล้วมันไม่มีทางเลือก เขาเรียกว่ามันเดินไกลเกินกว่าที่จะหันหลังกลับแล้ว ถึงแม้จะอ่อนกว่าพี่ลอง 12 ปี แต่พี่น้องจำได้มั้ย ถ้าพี่น้องติดตามการต่อสู้ของผมบนเวที ที่สนามหลวง ผมก้มลงกราบพี่น้องว่า ในอดีตผมอาจจะเป็นคนเลวในบางเรื่อง ผมขออภัยพี่น้อง แต่นับจากวันที่ผมกราบพี่น้องแล้ว ผมจะเริ่มมาทำงานเพื่อชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์ และส่วนรวม นั่นคือสิ่งที่เกิดขึ้นเมื่อต้นปี 2549 จนกระทั่งมาถึงวันนี้ 6 ปีแล้ว ผมยึดหลักข้อเดียวที่พ่อแม่ครูอาจารย์ให้มา คือการเอาธรรมนำหน้า การเอาธรรมนำหน้านั้น เริ่มแรกด้วยการรู้จักพอ ตัดกิเลสส่วนตัวออกแล้วก็พูดความจริง อะไรที่ผมผิดพลาดผมยอมรับ ผมจะขอโทษพ่อแม่พี่น้องต่อหน้าพ่อแม่พี่น้อง ถ้าพ่อแม่พี่น้องให้อภัยก็ขอบคุณ ถ้าไม่ให้อภัยก็ขอบคุณ แต่ว่าเราเอาใจตีแผ่ซึ่งกันและกัน เมื่อเราเอาใจตีแผ่ซึ่งกันและกันแล้ว ธรรมที่เรานำหน้านั้น คือความจริงที่เราต้องให้ซึ่งกันและกัน
เมื่อผมขึ้นเวที ผมเคยพูดกับพ่อแม่พี่น้องว่า ผมไม่ประสงค์จะรับตำแหน่งทางการเมือง ถ้าผมรับตำแหน่งทางการเมืองให้ถอดรองเท้าตบปากผมและถุยน้ำลายใส่ผม ผมพูดวันนั้นเนื่องด้วยมีข้อกล่าวหาว่า ที่ผมออกมาเคลื่อนไหวเพื่อโค่นล้มคุณทักษิณนั้น เพื่อหวังตำแหน่งทางการเมือง จริงๆ แล้วเรื่องนั้นมันจบไปแล้ว เพราะว่าผมไม่ต้องการตำแหน่งทางการเมืองใดๆ ทั้งสิ้น 19 กันยายน ที่เขาปฏิวัติ พี่น้องครับผมได้ตำแหน่งทางการเมืองไหม ไม่ได้ ที่ผมจำเป็นต้องพูดเรื่องนี้เพราะว่า คำว่า ตำแหน่งทางการเมือง พี่น้องจะหมายถึงการเข้ามาเป็นหัวหน้าพรรคการเมือง หรือจะหมายถึงการเข้าไปเป็นรัฐมนตรี ส.ส. ผมเข้ามาเป็นหัวหน้าพรรคการเมือง ผมเข้ามาตามฉันทานุมัติของพี่น้องที่เลือกผม แต่ในขณะเดียวกัน หัวหน้าพรรคการเมืองยังไม่ใช่คำจำกัดความของ ตำแหน่งทางการเมือง และผมประกาศชัดเจน มีอะไรบ้างที่ผมเคยพูดกับพี่น้องแล้วผมไม่ได้ทำ ผมประกาศชัดเจนว่า ผมจะรับตำแหน่งหัวหน้าพรรคการเมืองเพื่อไม่ให้พรรคแตก เพราะวันนั้นคุณสมศักดิ์ โกศัยสุข ก็อยากเป็นหัวหน้าพรรค แต่เนื่องจากว่าทานเสียงพี่น้อง 70-80% ที่ต้องการเลือกผมไม่ได้ ก็เลยยอมถอนตัว ผมบอกแล้วว่าผมจะเป็นแค่ชั่วคราวให้พรรคก่อรูปก่อร่าง เมื่อก่อรูปก่อร่างแล้วผมก็ลาออก ตอนที่ลาออกนั้น พี่น้องผมไม่เคยยึดติด ผมไม่เคยคิดว่าผมต้องหมายเลข 1 ปาร์ตี้ลิสต์ ไม่เคยติดใจ เพราะว่า ตำแหน่ง ส.ส.นั้นมันยังเทียบไม่ได้กับขี้หมาที่ผมเหยียบเลย มันไม่มีความหมาย และผมจะบอกพี่น้องให้ชัดเจน ผมเคยพูดไปแล้ว ผมจำเป็นต้องพูดเรื่องนี้เพื่อทวนความจำคุณสมศักดิ์ โกศัยสุข
คุณสมศักดิ์ โกศัยสุข มาขอแกนนำพันธมิตรฯ ว่าขอเป็นหัวหน้าพรรค เราก็ตัดสินใจส่งคุณสมศักดิ์ไปเป็นตัวแทนพันธมิตรฯ เพื่อไปเป็นหัวหน้าพรรค และก่อนส่งไปผมมีหน้าที่ต้องพูดกับผู้สมัครหลายคนให้ถอนตัว เพื่อไม่ให้มีความขัดแย้ง คุณสมศักดิ์ถึงได้รับเลือกโดยไม่มีใครแข่ง แล้วผมนั่งคุยกับคุณสมศักดิ์ตัว-ตัว ผมบอกว่า พี่อยากเป็นหัวหน้าพรรคเหรอ - ใช่น้อง พี่อยากเป็น ผมก็ถามว่า แล้วพี่จะเป็นนานมั้ย - พี่เป็นชั่วคราวเอง - ถ้างั้นพี่รับปากผมได้มั้ยว่า ก่อนถึงวันเลือกตั้งพี่น่าจะลาออก ควรจะลาออก - พี่รับปาก
ผมไม่เคยพูดเรื่องนี้ แต่ผมจำเป็นต้องพูด เพราะว่าการที่ส่งจดหมายมาแบบนี้ โดยนายสาวิทย์ แก้วหวาน เขียนมา สาวิทย์ แก้วหวาน จะคิดเขียนจดหมายแบบนี้มาไม่ได้ถ้าไม่ใช่คุณสมศักดิ์ โกศัยสุข อยู่เบื้องหลังสาวิทย์ แก้วหวาน
พี่น้องครับ พวกเราสู้กันมาทุกเรื่อง มีเรื่องไหนบ้างที่พวกเราลุกขึ้นสู้แล้วไม่มีประโยชน์ต่อสังคม บอกผมหน่อยสิ แล้วทำไมคุณสมศักดิ์ไปให้สัมภาษณ์ว่ายังอยู่กับพันธมิตรฯ แต่ว่าจะเข้าร่วมชุมนุมก็ต่อเมื่อเรื่องนั้นมีประโยชน์ต่อประเทศชาติ นี่ไงพี่น้อง
จริงๆ แล้วดังที่แถลงการณ์พันธมิตรฯ ออกมาชัดเจน ถ้าอยากจะลาออก ก็ลาออกไปเลยเงียบๆ ไม่มีใครเขาว่าอะไร แต่จงใจทำเรื่องนี้ขึ้นมาเพื่อทำลายกระบวนการพันธมิตรประชาชนเพื่อ ประชาธิปไตย หรือว่ารับงานพรรคการเมืองไหนเพื่อทำลายความสามัคคีของพันธมิตรประชาชนเพื่อ ประชาธิปไตย ความลับอันนี้จะไม่มีวันปิดได้ตลอดเวลา วันหนึ่งต้องเปิดมาว่าไปพบกับใครมาบ้าง
พี่น้องครับ หวังว่าการร่อนตะแกรงครั้งนี้จะเป็นการร่อนตะแกรงครั้งสุดท้าย เหมือนอย่างอาจารย์สมเกียรติ และทุกคนพูด ขอให้เหลือแต่ทองคำแท้เท่านั้น ผมรับไม่ได้ กับคำพูดที่บอกว่า จะเข้าร่วมชุมนุมต่อเมื่อการชุมนุมครั้งนั้นจะมีประโยชน์ต่อสังคม แสดงว่า ที่เราชุมนุมมาตลอดนั้น มีประโยชน์ต่อสังคมมาตลอด จนกระทั่งเขาไปเป็นหัวหน้าพรรคการเมืองใหม่ พอเราโหวตโน เขาก็เลยบอกว่า ไม่มีประโยชน์ต่อสังคม อาจารย์สมเกียรติบอกว่า อย่าลาออก เราต้องปฏิวัติพรรคการเมืองใหม่ ยึดพรรคการเมืองใหม่คืนมา และไล่หัวหน้าพรรคออกไป
พี่น้องครับ เขาบอกว่า 10% ของจำนวนสมาชิกแค่ 1,000 กว่าคน หรือ 2,000 คน ผมเชื่อว่า สมาชิกพรรคการเมืองใหม่ ที่ฟังผมพูดอยู่ทุกวันนี้ เราล่าชื่อได้ 2,000 คนแน่นอน ด้านหนึ่งต้องเดินหน้า เพื่อไล่กรรมการบริหารและหัวหน้าพรรคชุดนี้ ให้หลุดพ้นจากพรรคการเมืองใหม่ อีกด้านหนึ่ง ไม่ต้องสนใจมติเขา อาทิตย์หน้าอย่าไปใส่ใจ เดินหน้าโหวตโนลูกเดียว และก็โหวตโนทุกพรรค ไม่เว้นแม้กระทั่งพรรคการเมืองใหม่ พันธมิตรฯ ที่ดูโทรทัศน์อยู่ทั่วประเทศไทย พันธมิตรฯที่ยังคิดว่า เป็นพันธมิตรฯ อยู่ คนที่เห็นด้วยกับโหวตโน อย่าเลือกพรรคการเมืองใดๆ ทั้งสิ้น รวมทั้งพรรคการเมืองใหม่ด้วย เขาอยากเป็นปาร์ตี้ลิสต์นัก ก็ให้เขาลงไปเป็นปาร์ตี้ลิสต์ โดยไม่มีใครโหวตให้เขา วิธีเดียวที่จะแสดงให้เห็นว่า พรรคการเมืองใหม่ คือพรรคของพันธมิตรประชาชน เพื่อประชาธิปไตย ถ้าใครมาทรยศต่อจิตวิญญาณของพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย เราต้องโหวตโนไม่ให้เขาได้เลยแม้แต่คนเดียว พลังที่แท้จริงอยู่ที่นี่ อยู่ที่หน้าจอทีวี ไม่ใช่พลังที่เอาคนของสหภาพการรถไฟ แล้วไปนั่งทำตัวเป็นการ์ดอยู่ที่พรรคการเมืองใหม่ วันนี้ พี่น้องคนใต้ที่เป็นสมาชิกพรรคการเมืองใหม่ และพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย อย่าไปโหวตให้ใครเลย โดยเฉพาะอย่างยิ่งพรรคการเมืองใหม่ก็ต้องไม่โหวตให้ ผมขอประกาศเป็นสัจจวาจา พร้อมกับแกนนำพันธมิตรฯ อีก 3 คนว่า เราจะเดินหน้าโหวตโนลูกเดียวพี่น้อง ไม่เว้นแม้แต่พรรคการเมืองใหม่ โหวตโน
พี่น้องครับ คิดได้อย่างไร ระหว่างอยากเป็น ส.ส. กับมาใช้ชีวิตร่วมกับพ่อแม่พี่น้องพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย คิดได้อย่างไร วันนี้จะมีคนหลายคน แม้กระทั่งคนที่ อ.สมเกียรติ พูดถึง นายประเสริฐ เลิศยโส ที่คอยด่าพี่จำลอง ศรีเมือง และสนธิ ลิ้มทองกุล ในพรรคการเมืองใหม่ และอีกหลายคน มาห้อยมาโหนเหมือนกันไม่มีผิดเลยใช่ไหมพี่น้อง คนพวกนี้ต้องสั่งสอนหรือเปล่า พี่น้องครับ ไม่มีวิธีใดที่จะสั่งสอนเขาได้ดีกว่าการเผยแพร่ กระจายโหวตโน ใช่/ไม่ใช่พี่น้อง พี่น้องที่ดูทีวีอยู่ทั่วประเทศไทยเป็นล้านๆ คน พี่น้องครับ ถ้าพี่น้องเห็นด้วยกับแนวทางของพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย หรือถ้าพี่น้องไม่เป็นพันธมิตรฯ ถ้าพี่น้องคิดว่าการโหวตโนนั้นคือการประท้วงนักการเมือง เพื่อนำไปสู่การปฏิรูปการเมืองแล้ว กรุณาแจ้งญาติพี่น้อง เพื่อนฝูงทุกคน เจอคนก็พูดสั้นๆ เลือกมันไปทำไมไอ้พวกนักการเมืองชั่วๆ เขาถาม จะให้ทำอย่างไร จะไม่ให้ไปลงคะแนนเสียง ไม่ต้องไป แล้วไปกาไม่เลือกพรรคใด เขาถามว่า จะมีประโยชน์อะไร มีซิ เพราะว่าถ้าคะแนนเสียงไม่เลือกพรรคใดนั้นสูง ก็เท่ากับว่าพรรคโหวตโนชนะทุกพรรค
อย่างที่พี่พิภพพูด เมื่อกี้พี่พิภพสารภาพกับผม ลงไปจากเวที บอกคุณสนธิเมื่อกี้ผมน้ำตาแทบไหลเพราะว่าผมเสียใจ ผมไม่ได้พูดกับพี่พิภพ แต่ในใจผมบอกว่า พี่ไปเสียน้ำตากับเรื่องเชี้ยๆ นี้ได้อย่างไร ในใจของผมยังนึกในใจ บอกพี่พิภพ ทำไมพี่พิภพไม่นึกถึงเมียอาลีบาบา ซึ่งขอให้เปิดถ้ำ
พี่น้องครับ วันนี้ผมจะบอกให้ คนที่ไปพรรคการเมืองใหม่แล้วถูกกีดกัน ถูกริบโทรศัพท์ ถูกผลักดันออกมา ไม่ต้องเสียใจ ทางหนึ่งเราเดินหน้าโหวตโน แน่นอน อีกทางหนึ่งอย่าลาออก สมาชิกพรรคการเมืองใหม่ที่เข้าใจและต้องการโหวตโน อย่าลาออก ไม่มีอะไรในการกำชัยชนะ ดีกว่าการสู้กับเขาในพรรคและยึดพรรคคืนมาให้เรา ถ้าเขาต้องการพรรคแรงงาน ให้เขาไปตั้งพรรคแรงงานของเขาเอง ผมเข้าใจมานานแล้ว แต่เป็นตัวอย่างของคำโบราณพูดว่า เสียคนตอนแก่
พี่น้องครับเรายังไม่ได้ทักทายพี่น้องมาหลายวันแล้ว ใครมีป้ายโผล่ป้ายขึ้นมา พันธมิตรฯ นนทบุรีอย่าลืม นนทบุรีต้องโหวตโน พันธมิตรสุขุมวิท 101/1 ตลาดมหาสิน โหวตโน พันธมิตรแม่สอด โหวตโน พันธมิตรบางคอแหลม โหวตโน พันธมิตรน่าน กาญจนบุรี โหวตโน พันธมิตรเชียงใหม่ ต้องโหวตโน พันธมิตรภูเขียว โหวตโน พันธมิตรตรัง โหวตโน พันธมิตรเลย โหวตโน บางพลี โหวตโน พังงา โหวตโน ชิคาโก โหวตโน เชียงดาว โหวตโน สุราษฎร์ โหวตโน สมุทรปราการ โหวตโน สุพรรณ โหวตโน บางเสร่ สัตหีบ โหวตโน พันธมิตรราชอาณาจักรไทย โหวตโน มีด้วยหรือ ราชอาณาจักรไทย เอ้า โหวตโน ไม่เป็นไร พันธมิตรโคราช โหวตโน พันธมิตรคลองแสน โหวตโน แก่งคอย โหวตโน ปทุมฯ โหวตโน พันธมิตร ASTV ชลบุรี โหวตโน สมุย โหวตโน ลำปาง โหวตโน ห้วยยอด โหวตโน ลาดพร้าว โหวตโน ปราจีน โหวตโน กบินทร์ โหวตโน ปราจีน โหวตโน บ้านสร้าง โหวตโน ทุ่งสง โหวตโน พันธมิตรกรุงเทพฯ โหวตโน