นายกฯ เปิดประชุมปฏิรูปการศึกษา

"มาร์ค โพเดี่ยม" เปิดประชุมปฏิรูปการศึกษา ยันปฏิรูปประเทศต้องเดินหน้าแม้ยุบสภาแล้ว ชี้ปฏิรูปการศึกษาสำคัญมาก โว 2 ปีทุ่มเทบริหารชาติ ช่วยโอกาสการศึกษาเด็ก ค้นหาครูสอนดี ทั่วประเทศ สร้างเครือข่ายสู่เพื่อนครู

วันนี้ (29 เม.ย.) ที่ศูนย์ประชุมแห่งชาติสิริกิต์ นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรีเป็นประธานเปิดการประชุม "จังหวัดและชุมชนท้องถิ่นจะปฏิรูปประเทศด้านการศึกษาได้อย่างไร" จัดโดยสำนักงานส่งเสริมสังคมแห่งการเรียนรู้และคุณภาพเยาวชน (สสค.) ร่วมกับสำนักนายกรัฐมนตรี กระทรวงมหาดไทย กระทรวงศึกษาธิการ กระทรวงพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ ยูนิเซฟ กรมส่งเสริมการปกครองส่วนท้องถิ่น สำนักงานคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ สำนักงานรับรองมาตรฐานและประเมินคุณภาพการศึกษา และสำนักงานกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ

นายกรัฐมนตรี กล่าวตอนหนึ่งว่า งานปฏิรูประเทศไทยเป็นงานที่ต้องดำเนินการอย่างต่อเนื่อง ซึ่งต้องใช้ระยะเวลายาวนานกว่าอายุของรัฐบาลในการดำเนินการ ถึงแม้ว่าในช่วงเวลาที่เหลืออีกไม่กี่วันจะมีการยุบสภาแต่งานปฏิรูปประเทศไทยจะต้องเดินหน้าต่อไป ทั้งนี้ หัวใจสำคัญของการปฏิรูปประเทศไทยคือคุณภาพของคน ดังนั้นการปฏิรูปทางด้านการศึกษาจึงมีความสำคัญและมีความจำเป็นอย่างมาก ต้องอาศัยทุกภาคส่วนเข้ามามีส่วนร่วมในการขับเคลื่อนนโยบายปฏิรูปประเทศไทย

นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ตลอดระยะเวลา 2 ปี ที่รัฐบาลได้บริหารประเทศได้ทุ่มเทและมีนโยบายหลายเรื่องที่เกี่ยวข้องกับด้านการศึกษา อาทิ การจัดตั้งสำนักงานส่งเสริมสังคมแห่งการเรียนรู้และคุณภาพเยาวชน (สสค.) ขึ้นมาเพื่อระดมความคิดในการขับเคลื่อนการศึกษา ซึ่งได้กำหนดประเด็นที่สำคัญที่เกี่ยวข้องกับการปฏิรูปทางการด้านศึกษาไว้ 2 ประเด็น คือ 1.โอกาสของเด็กที่ได้รับการดูแลเรื่องของการศึกษา ซึ่งที่ผ่านมาได้ดำเนินการแล้ว เช่น การจัดสรรงบประมาณให้องค์กร มูลนิธิในการดูแลเกี่ยวกับเรื่องความเป็นอยู่และการศึกษาของเด็กเร่รอน การขอความร่วมมือจากภาคเอกชนในการดูแลเด็กในสถานประกอบการ

นายอภิสิทธิ์ กล่าวอีกว่า 2. โครงการ "ครูสอนดี" ซึ่งเป็นหัวใจของการพัฒนาคุณภาพการศึกษา จากผลการวิจัยเรื่องของการปฏิรูปการศึกษา ชี้ว่าปัจจัยสำเร็จของการปฏิรูปการศึกษา คือ คุณภาพของครู ที่เป็นตัวชี้วัดคุณภาพการศึกษาของเด็ก โดยประชาชน เด็ก ผู้ปกครอง และองค์กรทุกภาคส่วนต้องร่วมกับท้องถิ่น ช่วยกันค้นหาครูสอนดี คือ "สอนเป็น เห็นผล คนยกย่อง" เพื่อร่วมกันคืนครูดีให้แก่เด็กไทยทุกคน ซึ่งการดำเนินโครงการในปีแรกตั้งเป้าครูสอนดีไว้ที่ 20,000 คน คือประมาณตำบลละ 2 - 3 คน ทั้งนี้รัฐบาลจะมอบรางวัลตอบแทนความทุ่มเทให้แก่ครูสอนดีคนละ 10,000 บาท ในช่วงปลายปี 2554 นี้ และภายใน 3 ปี ตั้งเป้าครูสอนดีทั่วประเทศจำนวน 60,000 คน

นายอภิสิทธิ์ กล่าวว่า รัฐบาลได้มีแผนการดำเนินงานผ่านคณะกรรมการส่งเสริมสังคมแห่งการเรียนรู้และคุณภาพเยาวชน (สสค.) ให้ขยายผลเครือข่ายครูดีทั้งในเรื่องการให้ทุน "ครูแม่แบบ" เพื่อนำไปสร้างเครือข่ายขับเคลื่อนขยายผลความเป็นครูที่ดีสู่เพื่อนครู และพี่น้องครูในพื้นที่ของแต่ละคนต่อไป เพื่อสามารถผลักดันการยกระดับคุณภาพการศึกษาขึ้นมาให้เป็นผลสำเร็จและยั่งยืนในทุกพื้นที่

นายกรัฐมนตรี กล่าวทิ้งท้ายว่า การดำเนินการคัดเลือกครูสอนดี ต้องอาศัยภาคประชาสังคม ทั้งจากพ่อแม่ ผู้ปกครอง เด็กนักเรียน ชุมชน และทุกภาคส่วนเข้ามาร่วมกันเสนอชื่อครูดีในท้องถิ่น ร่วมกันติดตามคัดเลือกให้รางวัลครูดี ชื่นชมและเผยแพร่ผลงานและแบบอย่างการสอนที่ดี ช่วยกันดูแลครูดีของท้องถิ่นให้เป็นพลังสร้างครูดีขึ้นมาหนุนต่อไปอย่างไม่สิ้นสุด เพื่อประโยชน์แก่ลูกหลานที่เป็นอนาคตของท้องถิ่นและประเทศชาติต่อไป