“มาร์ค” ให้การบ้านครู หลังพบเด็กไทยอ่อนภาษา-คณิต ในการปฏิรูปการศึกษาศตวรรษที่ 2 เพื่อกำจัดจุดอ่อน
วันนี้ (11 ม.ค.) ณ ห้องสีฟ้า ตึกไทยคู่ฟ้า ทำเนียบรัฐบาล นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี ได้ให้ นายปณิธาน ณ นคร พร้อมคณะครูจากโรงเรียนเมืองนครศรีธรรมราช ตำบลนาทราย อำเภอเมือง จังหวัดนครศรีธรรมราช จำนวน 30 คน เข้าเยี่ยมคารวะ เพื่ออวยพรปีใหม่และเป็นขวัญกำลังใจในการปฏิบัติหน้าที่สำหรับข้าราชการครูโรงเรียนเมืองนครศรีธรรมราช
โอกาสนี้ นายกรัฐมนตรี ได้กล่าวขอบคุณสำหรับคำอวยพรในวันปีใหม่ และขอต้อนรับคณะผู้บริหารและคณะครูจากโรงเรียนเมืองนครศรีธรรมราช สู่ทำเนียบรัฐบาล พร้อมกล่าวว่า ตั้งแต่เข้ามาบริหารราชการแผ่นดินประมาณ 2 ปีที่ผ่านมา รวมไปถึงการเข้ามาทำงานทางด้านการเมือง เมื่อ 19 ปีที่แล้ว เรื่องการศึกษาเป็นเรื่องที่ตนได้ให้ความสนใจอย่างมาก โดยเมื่อเข้ามาเป็น ส.ส.ในสมัยที่ 3 ก็ได้รับโอกาสให้ไปเป็นประธานคณะกรรมาธิการการศึกษาของสภาผู้แทนราษฎร และหลังจากนั้น ได้มีโอกาสทำงานในฐานะรัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ก็ได้ดูแลเรื่องของการศึกษาและได้พยายามผลักดันเรื่องของการปฏิรูปการศึกษามาอย่างต่อเนื่อง
นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ภายหลังได้เข้ามาบริหารราชการแผ่นดินในช่วง 2 ปี ที่ผ่านมา ว่ากระทรวงศึกษาธิการได้มีการขับเคลื่อนเรื่องของการปฏิรูปในครั้งที่ 2 ซึ่งในการปฏิรูปในทศวรรษที่ 2 ถือว่าเป็นการต่อยอดจากสิ่งที่ได้ผลักดันมาและเป็นผลสำเร็จใน 10 ปีแรก ควบคู่ไปกับการประเมินและเรียนรู้จากสิ่งที่อาจจะเป็นจุดอ่อนข้อจำกัด หรือในบางกรณีเป็นอุปสรรคต่อการพัฒนาการศึกษา สืบเนื่องมาจากการปฏิรูปในทศวรรษแรกด้วย อย่างไรก็ดี ในส่วนของแนวทางหลักของการปฏิรูปครั้งนี้ ส่วนหนึ่งแม้ว่าจะยังต้องแก้ปัญหาในเรื่องของโอกาสการศึกษา
“แต่ว่าหัวใจสำคัญจะอยู่ในเรื่องของคุณภาพ ซึ่งขณะนี้ต้องยอมรับว่าน่าเป็นห่วง เพราะจากการประเมินผลสัมฤทธิ์ของเด็กไทยในวิชาหลักๆ เมื่อเทียบกับบางประเทศ ปรากฏว่า ยังอยู่เกณฑ์ที่ไม่น่าพอใจ ไม่ว่าจะเป็นภาษา คณิตศาสตร์ หรือสาขาวิชาอื่นๆ ดังนั้น ตรงนี้จึงเป็นการบ้านสำคัญสำหรับทุกฝ่ายที่จะต้องมีการดำเนินการและติดตามอย่างใกล้ชิด เพื่อนำไปสู่การปฏิบัติ”
อย่างไรก็ตาม นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า สิ่งที่ได้ค้นพบจากการศึกษาเกี่ยวกับการปฏิรูปการศึกษาทั่วโลก คือ ประสบการณ์ทุกประเทศบ่งชัดว่าไม่มีการปฏิรูปที่ไหนประสบความสำเร็จหากเรื่องของการทำงานเกี่ยวกับการพัฒนา หรือปฏิรูปครูไม่ประสบความสำเร็จ ดังนั้น ตรงนี้คือปัจจัยที่จะเป็นปัจจัยชี้ขาด ในเรื่องของความสำเร็จของระบบของการศึกษา ทั้งนี้ ในช่วงปีแรกที่รัฐบาลได้เข้ามาบริหารราชการแผ่นดิน จึงได้เดินหน้านโยบายที่ใช้คำว่าคืนครูให้นักเรียน โดยการพยายามลดภาระของครู อาจารย์ ที่ไม่เกี่ยวข้องกับเรื่องของการเรียนการสอน คือ มีการใช้มาตรการของการกระตุ้นเศรษฐกิจมาเป็นประโยชน์ในการจ้างบุคลากรให้ไปช่วยแบ่งเบาภาระงานทางด้านธุรการ และขณะนี้กำลังนำเข้าสู่ระบบเพื่อมาขยายผลตรงนี้ไปต่อเนื่อง
นอกจากนี้ นายกรัฐมนตรี ยังได้แสดงความห่วงใยในเรื่องของภาระที่เกี่ยวข้องกับการทำผลงานและการประเมิน ที่จะได้มีการทบทวนในทุกด้าน โดยขณะนี้ทำให้เรื่องของระบบการประเมินเรื่องของจำนวนตัวชี้วัดตัวบ่งชี้ กระชับขึ้น เพื่อช่วยลดภาระของการทำงานทางด้านนี้ให้เป็นไปตามเจตนารมณ์หลักของการประเมินมากกว่า ขณะเดียวกัน เรื่องของการส่งเสริมครูให้ได้รับการยอมรับในเรื่องของการเรียนการสอนนั้นก็เป็นหนึ่งในมาตรการที่นายกรัฐมนตรีได้ประกาศไปในเรื่องของการปฏิรูปประเทศ โดยเฉพาะอย่างยิ่ง คือ จะเปิดโอกาสให้ท้องถิ่นได้เข้ามามีส่วนร่วมในการที่คัดครูที่ได้รับการยอมรับในเรื่องของการเรียนการสอน เพื่อที่จะได้รับแรงจูงเพิ่มเติมและสามารถที่จะขยายผลโดยการให้ครูเหล่านี้สามารถที่จะไปมีโอกาสในการอบรมหล่อหลอมครูรุ่นใหม่ขึ้นมาด้วยเช่นเดียวกัน ซึ่งเรื่องนี้จำเป็นจะต้องเร่งดำเนินการเพราะอีก 10 ปี ข้างหน้า จำนวนครูที่เกษียณอายุจะมีจำนวนมากจึงต้องมีการเตรียมการสำหรับเรื่องนี้
นายกรัฐมนตรี กล่าวยืนยันว่า รัฐบาลให้ความสำคัญอย่างยิ่งกับเรื่องของการศึกษาและตระหนักถึงบทบาท หรือความสำคัญของครูซึ่งในความสำเร็จของการปฏิรูปการศึกษาในรอบนี้ จึงอยากให้ทุกคนได้ช่วยกันขับเคลื่อนเพื่อประโยชน์ของความเข้มแข็งของประเทศในระยะยาวต่อไป