ศธ.จัดยิ่งใหญ่ วันครูปี’54 เฉลิมพระเกียรติในหลวง “พระผู้ทรงเป็นครูแห่งแผ่นดิน” 14-16 ม.ค.นี้ ขณะที่สวนดุสิตโพล ชี้ ครู 36.15% ต้องพัฒนาตัวเองตลอดเวลา 40.27% อยากเห็นโรงเรียนทุกแห่งมีมาตรฐานเท่าเทียมกัน พบ 62.68% ยอมรับภาระผลงานวิชาการเพียบ เศรษฐกิจแย่ ทำปฏิบัติการสอนไม่เต็มที่
วานนี้ (10 ม.ค.) ณ หอประชุมคุรุสภา กระทรวงศึกษาธิการ (ศธ.) นายชินวรณ์ บุณยเกียรติ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ (รมว.ศธ.) กล่าวในการแถลงข่าวการจัดงานเฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว “พระผู้ทรงเป็นครูแห่งแผ่นดิน” เนื่องในวันครู พ.ศ.2554 ว่า ศธ.และ คุรุสภา ได้จัดงานวันครูในปีนี้ขึ้นเพื่อเฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เนื่องในวโรกาสมหามงคลเฉลิมพระชนมพรรษา 84 พรรษา และจัดเฉลิมฉลองการถวายพระราชสมัญญา “พระทรงผู้ทรงเป็นครูแห่งแผ่นดิน” ระหว่างวันที่ 14-16 ม.ค.นี้ เวลา 10.00-20.00 น.ณ บริเวณหอประชุมคุรุสภา โดยในวันที่ 16 ม.ค.นั้น นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี จะมาเป็นประธานในพิธีน้อมเกล้า ถวายพระราชสมัญญา “พระผู้ทรงเป็นครูแห่งแผ่นดิน” พิธีบูชาบูรพาจารย์และพิธีคารวะและมอบรางวัลครูดีเด่น ทั้งนี้ ภายในงานยังมีกิจกรรม นิทรรศการเฉลิมพระเกียรติ นิทรรศการผลงานครู การออกร้านแสดงผลงานผลิตภัณฑ์จากโรงเรียนต่างๆ เป็นต้น ส่วนการจัดกิจกรรมในส่วนภูมิภาค จะมีทั้งกิจกรรมในส่วนพิธีการและกิจกรรมส่งเสริม พัฒนาและยกย่องวิชาชีพด้วย
“อยากเชิญชวนผู้ประกอบวิชาชีพทางการศึกษาและประชาชนร่วมทำความดีเพื่อเฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ตลอดปี 2554 โดยจะขอความร่วมมือให้สถานศึกษาและหน่วยงานทางการศึกษาจัดทำป้ายประชาสัมพันธ์ ร่วมตั้งปณิธาน ว่า “ครูทุกคนทำความดีถวายในหลวง” และเชิญชวนให้เขียนไปรษณียบัตรบรรยายสั้นๆ ว่า เนื่องในวันครูปีนี้จะทำความดีอะไรเพื่อถวายพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ส่งมายังสำนักงานเลขาธิการคุรุสภา ภายในวันที่ 16 ม.ค.นี้ด้วย” รมว.ศธ.กล่าว
เมื่อถามถึงกรณีข้อเรียกร้องของครูที่ให้เลื่อนวันออกสลากกินแบ่งรัฐบาล งวดประจำวันที่ 16 มกราคม ซึ่งตรงกับวันครูของทุกปีนั้น นายชินวรณ์ กล่าวว่า เรื่องนี้เป็นข้อเรียกร้องของครูมานาน แต่ขณะนี้ยังไม่ได้มีการเปลี่ยนแปลงอะไร อย่างไรก็ตาม การสร้างค่านิยมที่ถูกต้องควรสร้างที่วิธีการทำงานให้มีมาตรฐานที่สูงขึ้น ซึ่งปีนี้เป็นปีทองของครูซึ่งได้มีการแก้ไขหลักเกณฑ์การประเมินวิทยฐานะของครู และบุคลากรทางการศึกษาจากการทำผลงานวิชาการ มาใช้หลักเกณฑ์และวิธีการให้ครูและบุคลากรทางการศึกษาผู้มีผลงานเป็นที่ประจักษ์ โดยตนให้เวลาสำนักงานคณะกรรมการข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษา (ก.ค.ศ.) จัดทำรายละเอียดให้เสร็จภายใน 1 เดือน และจะประกาศโดยเร็ว ซึ่งจะเป็นขวัญกำลังใจและยกระดับวิชาชีพครูให้สูงขึ้น
ด้านรศ.ดร.สุขุม เฉลยทรัพย์ ประธานอนุกรรมการประชาสัมพันธ์จัดงานวันครู กล่าวว่า สวนดุสิตโพลได้สำรวจความคิดเห็นครูทั่วประเทศ จำนวน 1,192 คน ระหว่างวันที่ 20-25 ธ.ค.ที่ผ่านมา สรุปผลได้ว่า 1.ความคิดเห็นของครู ที่มีต่อการพัฒนาครูให้มีคุณภาพ พบว่า 36.15% เห็นว่า ครูควรมีการพัฒนาตนเอง ขวนขวายใฝ่หาความรู้ใหม่ๆ เพิ่มเติมอยู่เสมอ 22.84% เห็นว่า ผู้ที่จะมาเป็นครูต้องมีใจรักในวิชาชีพ/เสียสละ ทุ่มเท 2.ความเห็นของครูที่มีต่อการพัฒนาเด็กไทยให้มีคุณภาพ 39.36% เห็นว่า ตัวเด็กเองจะต้องมีความตั้งใจ ใส่ใจและกระตือรือร้น ที่จะศึกษาหาความรู้ 20.75% เห็นว่า ครอบครัวมีส่วนสำคัญในการส่งเสริมพัฒนาการและการเรียนรู้ของเด็ก 3.การปฏิรูปการศึกษารอบ 2 ที่อยากเห็นหรืออยากให้เป็นอย่างไรนั้น 40.27% เห็นว่า ทุกโรงเรียนมีมาตรฐานการเรียนการสอนที่มีคุณภาพเท่าเทียมกันทุกพื้นที่ทั่วประเทศ 4.ครูในปัจจุบันทำงานได้เต็มที่หรือไม่ 62.68% เห็นว่า ปัจจุบันครูทำงานไม่เต็มที่ เนื่องจากมีภาระงานอื่นนอกเหนือจากการสอนเพิ่มมากขึ้น ได้แก่ งานเอกสาร การทำผลงานวิชาการ สภาพเศรษฐกิจและสังคมที่แย่ลงส่งผลต่อการดำเนินการชีวิตของครู และ 5.ในฐานะครูอยากอวยพรอะไรให้กับนักเรียนและการศึกษาไทยในปีใหม่นี้ ร้อยละ 44.08% ครูขอให้นักเรียนทุกคนตั้งใจเรียนเพื่อเป็นอนาคตที่ดีของชาติต่อไป
วานนี้ (10 ม.ค.) ณ หอประชุมคุรุสภา กระทรวงศึกษาธิการ (ศธ.) นายชินวรณ์ บุณยเกียรติ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ (รมว.ศธ.) กล่าวในการแถลงข่าวการจัดงานเฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว “พระผู้ทรงเป็นครูแห่งแผ่นดิน” เนื่องในวันครู พ.ศ.2554 ว่า ศธ.และ คุรุสภา ได้จัดงานวันครูในปีนี้ขึ้นเพื่อเฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เนื่องในวโรกาสมหามงคลเฉลิมพระชนมพรรษา 84 พรรษา และจัดเฉลิมฉลองการถวายพระราชสมัญญา “พระทรงผู้ทรงเป็นครูแห่งแผ่นดิน” ระหว่างวันที่ 14-16 ม.ค.นี้ เวลา 10.00-20.00 น.ณ บริเวณหอประชุมคุรุสภา โดยในวันที่ 16 ม.ค.นั้น นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี จะมาเป็นประธานในพิธีน้อมเกล้า ถวายพระราชสมัญญา “พระผู้ทรงเป็นครูแห่งแผ่นดิน” พิธีบูชาบูรพาจารย์และพิธีคารวะและมอบรางวัลครูดีเด่น ทั้งนี้ ภายในงานยังมีกิจกรรม นิทรรศการเฉลิมพระเกียรติ นิทรรศการผลงานครู การออกร้านแสดงผลงานผลิตภัณฑ์จากโรงเรียนต่างๆ เป็นต้น ส่วนการจัดกิจกรรมในส่วนภูมิภาค จะมีทั้งกิจกรรมในส่วนพิธีการและกิจกรรมส่งเสริม พัฒนาและยกย่องวิชาชีพด้วย
“อยากเชิญชวนผู้ประกอบวิชาชีพทางการศึกษาและประชาชนร่วมทำความดีเพื่อเฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ตลอดปี 2554 โดยจะขอความร่วมมือให้สถานศึกษาและหน่วยงานทางการศึกษาจัดทำป้ายประชาสัมพันธ์ ร่วมตั้งปณิธาน ว่า “ครูทุกคนทำความดีถวายในหลวง” และเชิญชวนให้เขียนไปรษณียบัตรบรรยายสั้นๆ ว่า เนื่องในวันครูปีนี้จะทำความดีอะไรเพื่อถวายพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ส่งมายังสำนักงานเลขาธิการคุรุสภา ภายในวันที่ 16 ม.ค.นี้ด้วย” รมว.ศธ.กล่าว
เมื่อถามถึงกรณีข้อเรียกร้องของครูที่ให้เลื่อนวันออกสลากกินแบ่งรัฐบาล งวดประจำวันที่ 16 มกราคม ซึ่งตรงกับวันครูของทุกปีนั้น นายชินวรณ์ กล่าวว่า เรื่องนี้เป็นข้อเรียกร้องของครูมานาน แต่ขณะนี้ยังไม่ได้มีการเปลี่ยนแปลงอะไร อย่างไรก็ตาม การสร้างค่านิยมที่ถูกต้องควรสร้างที่วิธีการทำงานให้มีมาตรฐานที่สูงขึ้น ซึ่งปีนี้เป็นปีทองของครูซึ่งได้มีการแก้ไขหลักเกณฑ์การประเมินวิทยฐานะของครู และบุคลากรทางการศึกษาจากการทำผลงานวิชาการ มาใช้หลักเกณฑ์และวิธีการให้ครูและบุคลากรทางการศึกษาผู้มีผลงานเป็นที่ประจักษ์ โดยตนให้เวลาสำนักงานคณะกรรมการข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษา (ก.ค.ศ.) จัดทำรายละเอียดให้เสร็จภายใน 1 เดือน และจะประกาศโดยเร็ว ซึ่งจะเป็นขวัญกำลังใจและยกระดับวิชาชีพครูให้สูงขึ้น
ด้านรศ.ดร.สุขุม เฉลยทรัพย์ ประธานอนุกรรมการประชาสัมพันธ์จัดงานวันครู กล่าวว่า สวนดุสิตโพลได้สำรวจความคิดเห็นครูทั่วประเทศ จำนวน 1,192 คน ระหว่างวันที่ 20-25 ธ.ค.ที่ผ่านมา สรุปผลได้ว่า 1.ความคิดเห็นของครู ที่มีต่อการพัฒนาครูให้มีคุณภาพ พบว่า 36.15% เห็นว่า ครูควรมีการพัฒนาตนเอง ขวนขวายใฝ่หาความรู้ใหม่ๆ เพิ่มเติมอยู่เสมอ 22.84% เห็นว่า ผู้ที่จะมาเป็นครูต้องมีใจรักในวิชาชีพ/เสียสละ ทุ่มเท 2.ความเห็นของครูที่มีต่อการพัฒนาเด็กไทยให้มีคุณภาพ 39.36% เห็นว่า ตัวเด็กเองจะต้องมีความตั้งใจ ใส่ใจและกระตือรือร้น ที่จะศึกษาหาความรู้ 20.75% เห็นว่า ครอบครัวมีส่วนสำคัญในการส่งเสริมพัฒนาการและการเรียนรู้ของเด็ก 3.การปฏิรูปการศึกษารอบ 2 ที่อยากเห็นหรืออยากให้เป็นอย่างไรนั้น 40.27% เห็นว่า ทุกโรงเรียนมีมาตรฐานการเรียนการสอนที่มีคุณภาพเท่าเทียมกันทุกพื้นที่ทั่วประเทศ 4.ครูในปัจจุบันทำงานได้เต็มที่หรือไม่ 62.68% เห็นว่า ปัจจุบันครูทำงานไม่เต็มที่ เนื่องจากมีภาระงานอื่นนอกเหนือจากการสอนเพิ่มมากขึ้น ได้แก่ งานเอกสาร การทำผลงานวิชาการ สภาพเศรษฐกิจและสังคมที่แย่ลงส่งผลต่อการดำเนินการชีวิตของครู และ 5.ในฐานะครูอยากอวยพรอะไรให้กับนักเรียนและการศึกษาไทยในปีใหม่นี้ ร้อยละ 44.08% ครูขอให้นักเรียนทุกคนตั้งใจเรียนเพื่อเป็นอนาคตที่ดีของชาติต่อไป
