“ชินวรณ์” ปลงผู้ปกครองไม่พอใจลูกพลาดโรงเรียนดัง ชี้ ม.1 กว่า 2.7 แสนคน สมหวังถึง 85% ที่เหลือโยกไปโรงเรียนคู่พัฒนา เชื่อเดินมาถูกทาง วอนผู้ปกครองเลิกหวังหาช่องดันลูก ยัดเงินเข้าเรียน ไม่ห่วงฐานเสียงตก ประกาศลั่น “ไม่ได้มาเป็นรัฐมนตรีเพื่อรับฝากเด็ก”
นายชินวรณ์ บุณยเกียรติ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ กล่าวถึงกรณีที่มีผู้ปกครองโทรศัพท์เข้ามาต่อว่าเกี่ยวกับนโยบายการรับนัก เรียนผ่านทางสายด่วน 1579 ว่า นโยบายการรับนักเรียนในปี 2554 ถือเป็นโยบายที่ผ่านขั้นตอนการแสดงความคิดเห็นจากทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้อง อาทิ การแสดงความคิดเห็นจากผู้บริหารสถานศึกษา และการทำประชาพิจารณ์ จนนำมาสู่การออกกฎ 9 ข้อ เพื่อต้องการให้คุณภาพการศึกษาดีขึ้น คุณภาพของโรงเรียนใกล้เคียงกัน มีการระดมทรัพยากรที่โปร่งใส ตลอดจนผู้บริหารสถานศึกษาจะไม่ถูกกล่าวหาว่ามีการเรียกรับเงินในการฝากเด็กเข้าเรียนอีกต่อไป ทั้งนี้ จึงเป็นธรรมดาของนักเรียนที่ผิดหวังอาจจะไม่พอใจ แต่นักเรียนส่วนใหญ่ที่สอบได้ก็ส่งจดหมายและอีเมลเข้ามาให้กำลังใจ ซึ่งในปีนี้มีผู้สมัครเข้าเรียนชั้น ม.1 ประมาณ 270,000 คน และมีผู้ที่สามารถเข้าเรียนในโรงเรียนที่มีอัตราการแข่งขันสูงได้ถึงร้อยละ 85 โดยมีเพียงร้อยละ 15 เท่านั้น ที่ต้องเข้าเรียนในโรงเรียนคู่พัฒนา อย่างไรก็ตาม เชื่อว่า นโยบายการรับนักเรียนในขณะนี้ถือว่าเดินมาถูกทางแล้ว จึงไม่อยากให้ผู้ปกครองรอการเปลี่ยนแปลงแต่อยากให้ตัดสินใจให้ลูกได้เรียนตาม ความถนัดและความสามารถเพื่อลดความกดดันกับเด็กในการเสียเงินเพื่อแลกกับการเข้าเรียน
“ผมเชื่อว่า นโยบายดังกล่าวจะไม่ส่งผลกระทบต่อการเลือกตั้งอย่างแน่นอน เพราะเป็นการทำเพื่อส่วนรวม และต้องการเห็นคุณภาพการศึกษาดีขึ้น และเป็นไปตามเป้าหมายของการปฏิรูปการศึกษาในทศวรรษที่ 2 ซึ่งตอนที่ประกาศนโยบายก็มีแต่ผู้อำนวยการสถานศึกษาปรบมือให้กำลังใจ และจะต้องมาถามว่าจะให้ผมมาเป็นรัฐมนตรีเพื่อรับฝากเด็กหรือจะให้มาเป็นรัฐมนตรีเพื่อเดินหน้าการปฏิรูปการศึกษา” รมว.ศธ.กล่าว
นายชินวรณ์ กล่าวด้วยว่า สำหรับภาพรวมการรับนักเรียนในเงื่อนไขพิเศษมีประมาณร้อยละ 1.5 หรือประมาณ 3,000 คนเท่านั้น จากนักเรียนเงื่อนไขปกติประมาณ 200,000 คน ส่วนที่มีบางโรงเรียนรับนักเรียนในเงื่อนไขพิเศษเป็นจำนวนมากนั้นขณะนี้ได้รับการรายงานเข้ามาแล้วซึ่งก็เป็นไปตามหลักเกณฑ์ที่วางไว้ ซึ่ง บางโรงเรียนอาจมีการรับนักเรียนในเงื่อนไขพิเศษจำนวนมาก เพราะต้องขึ้นอยู่กับบริบทของแต่และโรงเรียน อาทิ โรงเรียนที่ตั้งอยู่ในพื้นที่ของการรถไฟแห่งประเทศไทย หรือโรงเรียนที่จำเป็นจะต้องรับเด็กพิการเข้าเรียน เป็นต้น